Chapter 4

1081 Words
พ่อมด...นอกจากจะมีความสามารถด้านมนตราคาถาแล้ว ลางสังหรณ์ก็ยังดีอีกด้วย จะเรียกว่านิมิตก็ได้ แต่มันจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อจิตของเขาผูกติดหรือหวงแหนสิ่งใดสิ่งหนึ่งเท่านั้น การที่จู่ๆ เขาก็มีลางสังหรณ์กับโมราขึ้นมา อย่าบอกนะว่า...เป็นเพราะเขาหวงเธอเข้าให้แล้ว? บ้าชะมัด ให้ตายเถอะ! อังเดรสบถในใจ ไม่นานก็ต้องสลัดความรู้สึกนั้นทิ้งเมื่อเห็นร่างบางปรากฏกาย เธอยิ้มกว้างให้เขา รอยยิ้มยังคงฉายแววเป็นมิตรเหมือนเดิม ขณะที่เขาเองก็มีสีหน้านิ่งเรียบ ไม่สะทกสะท้านกับสิ่งใดเหมือนเดิมเช่นกัน ทว่าในใจกลับสับสนอลหม่านไปหมด “นึกว่าจะไม่ได้เจอคุณหมอในงานอีกแล้ว ไหนว่าจะกลับแล้วไม่ใช่เหรอคะ ทำไมถึงได้เปลี่ยนใจ” “ผมคิดว่าถ้าคุณอยากจะขอบคุณ มาบอกกันต่อหน้าน่าจะซาบซึ้งกว่า” เขาอ้างไปเรื่อย สีหน้าตึงจนไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ มิหนำซ้ำยังดูดุดันเสียด้วย แต่ในสายตาของโมรา เธอกลับรู้สึกว่าท่าทางของเขาดูน่ารักเหลือเกิน ไม่น่ากลัวเลยสักนิด “งั้น...ขอบคุณนะคะที่สังเกตเห็น จริงๆ แล้วฉันก็ไม่ใช่ว่าไม่ชอบคุณวาเลนหรอก เพียงแต่อึดอัดนิดหน่อยที่เขารุกฉันมากเกินไปน่ะค่ะ คนอื่นๆ ไม่เป็นขนาดเขา” เธอว่าขำๆ มือยกขึ้นลูบต้นคอแก้เขิน ท่าทางนี้ทำให้อังเดรเผลอ ขบกรามไปเล็กน้อย “คุณพูดเหมือนถูกผู้ชายจีบบ่อยๆ” โมราเลิกคิ้วสูงเล็กน้อย พลันก็หัวเราะ “ถ้าบอกว่าใช่ คุณหมอจะมองว่าฉันเป็นคนหลงตัวเองหรือเปล่าคะ” อังเดรไม่ตอบ แต่ขบกรามแน่นกว่าเดิมแล้ว เพราะเสน่ห์แรงแบบนี้ไงล่ะ ผู้ชายถึงได้มาติดพันเยอะ หรือจริงๆ เธอจะไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นแม่มดพราวเสน่ห์กันแน่นะ? อังเดรไม่สบอารมณ์อีกระลอกแล้ว คราวนี้เป็นเพราะเธอนั่นล่ะ สายตาก็พินิจคนตรงหน้า คิดวิเคราะห์ว่าหญิงสาวมีอะไรดีกัน ผู้ชายทั้งมนุษย์ทั้งอมนุษย์ถึงได้หลงใหลเธอกันนัก ก็แค่หน้าตาสะสวย ยิ้มง่าย ร่าเริงแจ่มใส อัธยาศัยดี หุ่นอวบอัด หน้าอกหน้าใจไม่ใหญ่นัก แต่ก็ดูเต็มไม้เต็มมือ เอวคอด สะโพกผาย เย้ายวนใจเป็นที่สุด... ก็แค่นี้เอง! อังเดรปวดขมับขึ้นมาหนึบๆ แล้ว ความจริงโมราไม่ได้มีตรงไหนไม่ดีเลย เธอเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมทั้งรูปทั้งกิริยามารยาทด้วยซ้ำ เป็นผู้หญิงสมัยใหม่ที่เรียกได้ว่าเป็นผู้หญิงในอุดมคติของผู้ชายเลยก็ว่าได้ พลันก็ต้องปวดหัวขึ้นมากกว่าเดิมเมื่อจู่ๆ สายตาก็เหลือบไปเห็นแขกไม่ได้รับเชิญโผล่เข้ามา “มาอยู่ที่นี่เอง ผมก็ตามหาคุณตั้งนาน” ยังจะตามมาอีก! วาเลนไทน์ยิ้มร่า เดินเข้ามาแทรกกลางวงเสียอย่างนั้น มิหนำซ้ำยังกระแซะเข้าไปใกล้หญิงสาว “คุยโทรศัพท์กับบอสเสร็จแล้ว คราวนี้พร้อมที่จะไปคุยกับผมต่อหรือยังครับ” แล้วก็ถามอย่างมีเลศนัย รอยยิ้มของโมราที่คลี่กว้างเมื่อครู่กลายเป็นรอยยิ้มเจื่อนทันตาเห็น “คือ...” “เธอกำลังคุยธุระกับฉันอยู่” อังเดรโพล่งอ้างเหตุผลให้ก่อนที่หญิงสาวจะคิดออก นัยน์ตากลมของหญิงสาวเหลือบไปมอง ขณะที่วาเลนไทน์เหล่มามองเพื่อนของตน “ธุระอะไรกันที่สำคัญกว่าธุระของฉัน” “ธุระอะไรก็ได้ที่นายไม่เกี่ยวด้วย” อังเดรจ้องหน้าอย่างท้าทาย วาเลนไทน์ก็ยิ่งสนุกกับท่าทีนี้ ไม่ได้สนใจผู้หญิงคนนี้อย่างนั้นหรือ? เท่าที่เขาเห็น เหมือนจะสนใจมากเลยนี่นา “เอ่อ...คือคุณวาเลนคะ ไว้ฉันคุยกับคุณหมอเสร็จแล้วค่อยตามไป ดีไหมคะ ใช้เวลาไม่นานค่ะ คุณไปรอข้างในก่อนเถอะนะ” โมราซึ่งไม่รู้อะไรด้วยรีบออกปากปรามเพราะกลัวว่าอังเดรจะหัวเสียไปมากกว่านี้ ไม่รู้หรอกว่าหัวเสียเพราะอะไร แต่เห็นแววตาเอาเรื่องของ พ่อมดหนุ่มแล้ว หญิงสาวก็ร้อนๆ หนาวๆ ขึ้นมา หากทว่าวาเลนไทน์ไม่ยี่หระ ส่งสายตาเจ้าชู้มาให้เธออีก “ถ้าคุณว่าอย่างนั้น ผมก็ไม่มีปัญหา เอาเป็นว่า...ผมจะรอคุณกลับมาคุยนะครับ...” แล้วก็เหล่มองอังเดร “เรื่องของเรา” เท่านั้นอังเดรก็เหมือนจะหมดความอดทน มือใหญ่เอื้อมไปคว้า ท่อนแขนของหญิงสาวให้ขยับเข้ามาใกล้ทันที ก่อนจะแทรกตัวเองเข้าไปอยู่ตรงกลางระหว่างวาเลนไทน์และโมรา “ฉันขอเตือนนายวาเลน...อย่ายุ่งกับเธอ” นั่นไง เขาถึงจุดเดือดแล้ว วาเลนไทน์สบโอกาสก็ยั่วยุเป็นการใหญ่ “ทำไมฉันจะยุ่งไม่ได้ ฉันเป็นนายทุน เป็นสปอนเซอร์ แล้วนายล่ะ เป็นใครกัน อังเดร” คนถูกถามกัดฟันกรอด สติเหมือนจะขาดไปเล็กน้อยแล้วด้วย “อย่ายุ่งกับเธอ” เขาว่าเสียงต่ำ วาเลนไทน์ก็ยังคงถาม “เอ้า แล้วเป็นอะไรกับเธอล่ะ บอกมาสิ” ต้องให้บอกจริงๆ ใช่ไหม! บอกว่าคุณหมอกับคนไข้คงไม่ได้เสียด้วย คนอย่างวาเลนไทน์ไม่เลิกตามตอแยง่ายๆ แน่ ถ้าอย่างนั้น... “เธอเป็นผู้หญิงของฉัน” “!?” โมราเหลอหลาไปทันตา ปากเผยอขึ้นคล้ายจะพูดอะไรบางอย่าง “เดี๋ยวค่ะ ฉัน...อ๊ะ” แต่ไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อ ร่างของเธอก็ถูกรวบเข้าไปในอ้อมแขนแกร่งเสียแล้ว มิหนำซ้ำเจ้าของใบหน้าคร้ามคมยังโน้มหน้าลงมาช่วงชิงจุมพิตไปจากเธออีก ดวงตาของโมราเบิกกว้าง แทบตามไม่ทันว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หากแต่อังเดรไม่ปล่อยให้หญิงสาวได้คำตอบ เพราะทันทีที่ถอนจุมพิตออก เขาก็ว่าเร็วๆ กับแวมไพร์หนุ่มตรงหน้า “เธอเป็นของฉัน อย่ามายุ่มย่ามกับเธออีก” พลันก็ลากร่างบางออกไปจากงานเลี้ยงทันที ปล่อยให้วาเลนไทน์มองตามเพื่อนตัวเองที่หึงหวงหญิงสาวจนเลือดขึ้นหน้า ก่อนจะส่งเสียงหัวเราะเบาๆ ออกมา “หึๆ ไหนบอกว่าเป็นแค่คนไข้ไงล่ะ” ถือว่าภารกิจยั่วให้พ่อมดปากแข็งคนนั้นยอมสารภาพออกมาสำเร็จตามความคาดหมายแล้วล่ะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD