14 - ว่าที่ลูกสะใภ้ NC18++

2445 Words
- 14 - ว่าที่ลูกสะใภ้ NC18++ MELBEE'S PART ; ฉันหยุดยืนอยู่หน้าห้องอาหารส่วนตัวที่ได้จองเอาไว้เป็นชื่อของเตด้วยความประหม่า มือสองข้างกอบกุมประสานอยู่ตรงหน้าด้วยความเย็นเฉียบจนไม่กล้าขยับเขยื้อนไปไหน นั่นก็คงเป็นเพราะเมื่อครู่ที่ฉันได้ถามกับพนักงานไปก็ได้รับคำตอบว่ามีคนมารออยู่ที่ห้องอาหารแล้ว และใช่...คนคนนั้นก็คือพ่อของเตยังไงล่ะ! บอกตามตรงว่าตอนนี้ฉันไม่เป็นตัวของตัวเองสุด ๆ ไม่รู้ว่าพ่อของเตจะชอบฉันรึเปล่า ไม่รู้ว่าฉันจะเผลอทำอะไรผิดพลาดไหม ตอนนี้ฉันไม่รู้อะไรเลย แต่รู้เพียงว่าฉันตื่นเต้นเอามาก ๆ! ฉันสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และตัดสินใจเคาะประตูก่อนจะเปิดประตูห้องอาหารออกช้า ๆ สิ่งแรกที่พบเห็นนั่นก็คือชายวัยกลางคนที่กำลังนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ท่าทีเรียบนิ่งและสุขุม แถมยังมีความคล้ายกับเตที่มองออกได้เลยว่าเป็นพ่อลูกกัน "สวัสดีค่ะคุณพ่อ หนูเมลบีนะคะ...แฟนของเตค่ะ" ฉันเดินเข้าไปและยกมือไหว้คนตรงหน้าอย่างนอบน้อม ส่วนท่าทางก็คงแสดงออกว่าตอนนี้ฉันกำลังเกร็งและประหม่าเป็นที่สุด "สวัสดี ๆ ได้เจอกันสักทีนะหนูเมลบี" จากใบหน้าเรียบนิ่งแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มบาง ๆ ที่ทำให้ฉันใจชื้นฉันมาเป็นกอง หากดูจากภายนอกแล้วพ่อของเตค่อนข้างดุและเด็ดขาด แต่พอยิ้มแล้วก็เป็นผู้ใหญ่ที่ใจดีคนหนึ่งจนทำให้ฉันเองก็เบาใจลงไปได้มาก "หนูเองไม่มีโอกาสได้ไปเจอคุณพ่อเลยค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ" "ไม่เป็นไรหรอก พ่อเองก็ยุ่ง ๆ เรื่องงานด้วยเลยไม่มีเวลาเท่าไหร่ แล้วนี่เป็นไงบ้างล่ะ พ่อได้ดูละครของหนูเมลด้วยนะ เก่งมากเลย ตัวจริงก็สวยกว่าในจออีก ถึงว่าสิไอ้เตทั้งรักทั้งหลง" ฉันยิ้มเขินพลางหัวเราะออกมาเบา ๆ เมื่อได้ยินแบบนั้น จากเดิมที่ฉันประหม่าและทำตัวไม่ถูกที่จะต้องเจอกับพ่อของเตเป็นครั้งแรก แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าฉันเองก็รู้สึกเบาใจกล้าที่จะพูดคุยกับพ่อของเตมากขึ้น "เมลไม่คิดว่าคุณพ่อจะดูละครที่เมลเล่นด้วย เขินเลยค่ะ" "แม่บ้านที่บ้านก็ดูนะหนูเมล เฝ้าหน้าจอทุกวันศุกร์เลย คนขับรถก็เหมือนกันพ่อเองก็ไม่คิดว่าจะติดละครกับเขาด้วย" "แม่บ้านเหรอคะ..." "เอ่อ...ไม่มีอะไรหรอกหนูเมล ว่าแต่เมื่อไหน่ไอ้เตจะมาล่ะ ไอ้ลูกคนนี้ปล่อยให้พ่อกับแฟนรอได้ยังไงกัน" "น่าจะรถติดน่ะค่ะ เวลานี้รถติดประจำเลย" ฉันก้มลงมากนาฬิกาก็พอรู้ว่าช่วงเวลาแบบนี้เตคงอยู่บนรถท่ามกลางการจราจรติดขัดเป็นแน่ "อะแฮ่ม! ผมอยู่นี่พ่อ" เสียงกระแอมจากทางประตูทำให้ฉันหันไปมองก็พบว่าเป็นเตที่กำลังหยุดยืนอยู่ ร่างสูงเดินเข้ามาหาก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ข้างกายฉัน "เมลนึกว่ารถติดซะอีก" "เตออกมาก่อนเวลาน่ะ รถเลยไม่ติดมาก" "ใช้ไม่ได้เลยนะแกเนี่ย ปล่อยให้คนอื่นรอได้ยังไง" เสียงตำหนิที่ไม่จริงจังนักของผู้เป็นพ่อทำเอาฉันยกยิ้มบาง ๆ พออยู่ด้วยกันแบบนี้ก็ทำให้ฉันเห็นได้ชัดเจนขึ้นว่าเตนี่ถอดแบบพ่อของตัวเองมาจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนสูง รูปหน้า หรือแม้กระทั่งดวงตาที่มองดูแล้วคล้ายกันสุด ๆ "โธ่พ่อ ผมก็ไม่ได้มาช้าขนาดนั้นไหมล่ะ แค่ไม่กี่นาทีเอง" "แล้วเวลาไปเจอลูกค้าแกไปช้าแบบนี้รึเปล่าฮะ ไม่ใช่ว่าทำให้บริษัทของฉันเสียชื่อนะโว้ย!" "เฮ้ย...พ่อ!" เตตะโกนแทรกและมองพ่อตัวเองเป็นเชิงห้ามด้วยสายตาดุ ซึ่งจังหวะนั้นฉันเองก็หันหน้ามองแฟนหนุ่มด้วยความแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามคำใดออกมา "เอ่อ...เรามากินข้าวกันดีกว่า พ่อสั่งไว้รอแล้วล่ะ มาถึงจะได้กินกันเลย ดีไหมหนูเมล หนูหิวรึยัง" "ดีค่ะพ่อ เมลเองก็หิวแล้วเหมือนกัน ถ่ายงานตั้งแต่บ่ายยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย" ฉันเอ่ยบอกพลางลูบเบา ๆ ที่หน้าท้องแบนราบ ตั้งแต่ถ่ายงานเมื่อบ่ายฉันก็ไม่ได้กินอะไรเลยแม้กระทั่งน้ำเปล่า พอได้กลิ่นอาหารหอมฉุยตรงหน้าก็ทำให้หิวขึ้นมาในทันที "อะไรกัน นี่สนิทกันแล้วเหรอ พ่อคุยอะไรกับแฟนผมบ้างเนี่ย" "ก็แน่สิวะ พ่อก็ต้องทำความรู้จักกับว่าที่ลูกสะใภ้เอาไว้สิ แต่แกก็ตาถึงนะไอ้เต เลือกได้ดีเลยทีเดียว" "แน่นอนดิพ่อ นี่ใคร...นี่เตนะคร้าบ" ฉันมองสองพ่อลูกพูดคุยสนทนากันอย่างสนุกสนาน พานทำให้นึกถึงภาพบรรยากาศในวันวานที่ฉันและพ่อแม่ได้มีเวลานั่งทานอาหารร่วมกันเมื่อหลายปีก่อน ฉันสนิทกับแม่มาก แม้ว่าพ่อและแม้จะทำงานหนักจนแทบไม่มีเวลาอยู่ด้วยกัน แต่อย่างน้อย ๆ หนึ่งเดือนเราก็จะต้องได้เจอหน้ากันแล้วได้นั่งทานอาหารด้วยกัน มันเป็นมื้ออาหารเล็ก ๆ แต่กลับทำให้ฉันมีความสุขมากกว่าการได้กินอาหารสุดหรูซะอีก แต่สิ่งเหล่านั้นจางหายไปกลายเป็นความบาดหมาง เพราะตั้งแต่ที่มีปัญหาเรื่องของเตฉันก็ไม่เคยได้สัมผัสกับสิ่งเหล่านั้นอีกเลย "เมลผอมไปแล้วนะลูก กินเยอะ ๆ เลยลูก จะได้มีแรงทำงาน" "แม่ต่างหากที่ต้องกินเยอะ ๆ แม่ซูบลงไปเยอะมากเลยนะคะ พ่อเองก็เหมือนกัน นี่ทำงานหนักจนไม่ได้กินข้าวเลยใช่ไหมเนี่ย" "ก็มันยุ่งน่ะลูก ทำนู่นทำนี่แป๊บ ๆ ก็หมดวันแล้ว" "ทำงานได้แต่ก็ต้องกินข้าวด้วยนะคะแม่ เมลเป็นห่วง เมลมีแค่พ่อกับแม่นะคะ เมลไม่อยากให้พ่อกับแม่ป่วยเลย" "โอเค ๆ ต่อไปนี้พ่อกับแม่จะกินข้าวให้ตรงเวลา จะดูแลตัวเองให้ดี เมลจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงเป็นกังวล" "สัญญานะคะ ห้ามผิดคำพูดด้วยนะ ไม่งั้นเมลงอนจริง ๆ ด้วย" ฉันยังจำบทสนทนาบนโต๊ะอาหารเหล่านั้นได้ดี มันยังคงอยู่ในหัวใจของฉันเสมอแม้ว่าจะผ่านไปนานหลายปีแล้วก็ตาม "เมล...เมลครับ" "คะ...คะ!? เตเรียกเมลเหรอ" ฉันสะดุ้งเฮือกเมื่อแรงสะกิดของคนข้างกายทำให้ฉันหลุดจากห้วงภวังค์ความคิด "เมลเป็นอะไรรึเปล่า ทำไมเงียบไปล่ะ" "ปะ...เปล่าเต ไม่มีอะไร" "คือพ่อเตถามน่ะว่าเมลชอบเครื่องประดับไหม" ฉันมองคนฝั่งตรงข้ามที่เคลื่อนกล่องกำมะหยี่สีแดงสดมาหยุดอยู่ตรงหน้า พอลองเปิดออกก็เห็นเป็นสร้อยเพชรหลายกะรัตระยิบระยับที่อยู่ด้านใน ฉันอึ้งไปชั่วขณะ พอดึงสติตัวเองกลับมาได้ก็ต้องเอ่ยถามขึ้นในทันที "ทะ...ทำไม เอ่อ...คือเมล..." ตอนนี้ฉันพูดไม่ได้ศัพท์แล้ว เหมือนกับถูกของแข็งตีเข้ากลางศีรษะจนมึนตึงไปหมด "สร้อยนี้เป็นของแม่เตเขาน่ะ ก่อนตายเขาบอกว่าอยากให้มอบสร้อยเส้นนี้ให้กับคนที่เตรัก พ่อก็เลยเอามาให้หนูเมล" "ตะ...แต่ แต่ว่า..." ฉันหันมองคนข้างกายแต่ก็ได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้ารับบาง ๆ ฉันมองว่ามันมากเกินไปกับของล้ำค่าแบบนี้ ฉันเองก็ไม่คิดเลยว่าพ่อของเตจะนำมาให้ฉันตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอหน้ากัน "รับไว้เถอะ เก็บเอาไว้ แม่เตน่ะเขารักสร้อยเส้นนี้มาก พ่อเองก็เอ็นดูหนู หนูน่ารักแล้วพ่อก็เชื่อว่าหนูนี่แหละคือคนที่ใช่ของลูกชายพ่อ" "ขอบคุณนะคะคุณพ่อ ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ" ฉันยกมือไหว้ขณะที่หยาดน้ำตาก็เอ่อล้นรอบดวงตาทั้งสองข้าง ไม่คิดเลยว่าพ่อของเตจะรักและเอ็นดูฉันมากขนาดนี้ ฉันจับประสานมือของเตเอาไว้แน่น ซึ่งเตเองก็ลูบเบา ๆ ที่หลังมือของฉันก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะโน้มลงมา และเอ่ยคำคำหนึ่งที่ทำให้ฉันต้องถลึงตาและหันไปฟาดฝ่ามือที่แขนล่ำแรง ๆ อย่างไม่อายใคร "เมล...เมลครับ" "หืม...ว่าไงเต" "ไหน ๆ เมลก็ได้สร้อยแล้ว งั้นถ้าเรากลับห้องไป เตขอของขวัญจากเมลชุดใหญ่เลยนะ!" ไอ้แฟนคนนี้นี่...หื่นไม่เลือกเวลาจริง ๆ นี่แหละคุณเตโชจอมหื่น กำลังซึ้งอยู่แล้วเชียว! พลั่ก! "อ๊ะ...เต ใจเย็นก่อนอื้อ!!!" ทันทีที่ประตูห้องเปิดออกร่างของฉันก็ถูกดันให้ชิดติดกับกำแพง ตามด้วยร่างของเตที่ทาบทับและริมฝีปากของเขาที่กำลังดูดดึงอย่างหนักหน่วง "เตไม่ได้กอดเมลมานานแล้ว" "เวอร์น่าเต เมื่อวันก่อนเพิ่งจะทำไป หลายรอบด้วย!" ฉันเบี่ยงหน้าออกและมองคนตรงหน้าด้วยสายตาดุ คนอย่างเขาน่ะเหรอที่จะปล่อยให้ตัวเองไม่มาวอแวกับฉันน่ะ บอกเลยว่ายาก! "ก็ใช่ไง นั่นมันนานมาแล้ว" "สองวันเองนะเต...อ๊ะ!" ฉันถูกจับให้หันหน้าเข้าหากำแพงด้วยวงแขนแกร่งก่อนที่มือของเขาจะสัมผัสที่บั้นท้ายตามด้วยกระโปรงตัวสั้นที่ถูกเลิกขึ้น "เต...ไปทำในห้อง" "เตอยากทำตรงนี้" เสียงทุ้มนุ่มหูเอ่ยแนบชิดที่ฟังแล้วรับรู้ได้ถึงความต้องการอย่างเหลือล้น มือหนาเคลื่อนขึ้นมาบีบเคล้นที่อกอวบขณะที่กำลังจัดการกับเสื้อผ้าของฉันออกทีละชิ้นอย่างชำนาญ "ฮื้อ...แต่ตรงนี้ไม่มีถุง" ฉันเอ่ยบอกเสียงแผ่วเมื่อถูกมือหนาสัมผัสเข้ากับจุดอ่อนไหวจนขาสั่น "อยู่นี่ไง เตพกไว้ตลอด" ฉันหันมองก็พบว่าเตกำลังชูถุงยางขึ้นก่อนที่เขาจะใช้ปากฉีกซองออกด้วยเวลาอันรวดเร็ว และเพียงเสี้ยววินาทีเขาก็จัดการสวมใส่เครื่องป้องกันได้สำเร็จ ให้ตาย...คนคนนี้ชัดจะร้ายกาจเกินไปแล้ว! "เต...อ๊ะ!" เมื่อกำลังจะร้องห้ามแต่กลับกลายเป็นเสียงครางหวิว เมื่อนิ้วร้ายสัมผัสเข้ามาก่อนจะสอดแทรกเข้ามาในร่างกายจนฉันสั่นระริก นิ้วเรียวยาวไล้เบา ๆ หลังจากนั้นก็ส่งเข้ามาและขยับเข้าออกช้า ๆ จนเรียกน้ำหวานและเสียงครางเร้าได้เป็นอย่าดี "อ๊ะ...เต อึกอ่า..." ฉันกัดปากแน่นเพื่อกลัดกั้นเสียงครางในลำคอ บอกได้ไม่อายปากเลยว่าฉันไวต่อสัมผัสของเขาเสมอ และน่าแปลกที่เตเองก็รู้จักร่างกายของฉันได้ดีกว่าตัวฉันเองซะอีก! "ดีไหมเมล...แบบนี้ดีไหมครับ" น้ำเสียงนุ่มหูที่ฟังแล้วทวีคูณความต้องการของฉันได้มากขึ้นเท่าตัว ฉันแอ่นสะโพกรับกับนิ้วของเขาที่สอดเข้ามา กดใบหน้าให้แนบชิดกับกำแพงและส่งเสียงครางหวิวเพื่อระบายความเสียวซ่านที่อยู่ภายใน "อื้อ! ดี...ดีมากเลยเตอ่า...อ๊ะ!" สองนิ้วร้ายถอดถอนออกก่อนที่ฉันจะรู้สึกถึงความใหญ่โตที่กดจ่อกับปากทางรัก ฉันแยกขาออกกว้างและไม่นานความคับแน่นก็สอดแทรกเข้ามาจนฉันถึงกับเบ้ใบหน้าด้วยความเจ็บ "อึก!" "อ่า..." ฉันเอี้ยวตัวไปมองคนด้านหลังที่กำลังสอบสะโพกเข้าหาช้า ๆ แต่ทว่าคนตัวโตกลับโน้มใบหน้าลงมาและกดริมฝีปากทาบทับอย่างดูดดึงพร้อมทั้งยังรั้งตัวของฉันเข้าหาจนแนบชิดที่แผ่นอกแกร่ง ปึก! ปึก! "อือ..." ฉันร้องในลำคอเมื่อริมฝีปากยังคงเคล้ากันไม่ห่าง มือทั้งสองข้างเกาะยึดหลักที่กำแพงตรงหน้าเอาไว้ ขณะที่ร่างกายก็ขยับเคลื่อนไปตามแรงที่ถูกส่งจากคนตัวโต ปึก! ปึก! "อ๊ะ เต...อ่า!" เสียงร้องเบา ๆ ด้วยความตกใจทำให้คนตัวสูงแค่นหัวเราะ มือหนาจับขาของฉันหนึ่งข้างให้ยกขึ้นและพาดกับตู้เก็บรองเท้าที่อยู่ข้าง ๆ จังหวะนั้นฉันจำต้องเบ้ใบหน้าออกเพราะลำกายสอดแทรกเข้ามาลึกจนทนไม่ไหวกับความหวิวหวาม "อ่า...ลึกใช่ไหมเมล" ปึก! ปึก! "อึก...มะ...มันลึกเต มันลึกมาก อ๊า...!" ตอนนี้คำพูดของฉันแทบจะจับหาความหมายไม่ได้เพราะฉันทำได้เพียงร้องรับกับสัมผัสหนักหน่วงของเขาที่ส่งมา แก่นกายขยับเข้าออกจนลึกสุดลำ สลับไปกับจังหวะเนิบช้าแต่ทว่าหนักหน่วง จนฉันกรีดร้องให้กับสัมผัสหวามที่ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ "ฮื้อ...อ๊ะ มะ...เมลเสียว อ๊ะเต...เมลอ่า..." "วันนี้ไปเจอพ่อเตเป็นยังไงบ้าง เมลโอเคไหม" ใบหน้าหล่อเหลาเคล้าอยู่ที่ซอกคอของฉันขณะที่เอวหนาก็ยังคงสอบเข้าหาไม่หยุดหย่อน ฉันพยักหน้าหน้าตอบรับกับคำถามเพราะไม่สามารถเอ่ยคำใดออกไปได้ "ว่าไงครับ เมลโอเคไหมหืม" "อื้อ...โอเคค่ะ พ่อเตน่ารักมาก ดีกับเมลมาก ๆ เลย อ๊า!" ปึก! ปึก! "อ่า...เตเล่าให้พ่อฟังประจำว่าแฟนของเตน่ารักมาก แล้วเตก็บอกพ่ออยู่ตลอดว่าเมลนี่แหละคือภรรยาของเตและจะเป็นลูกสะใภ้ที่พ่อเตต้องการ" "เตก็..." ฉันมองหน้าแฟนหนุ่มด้วยความเขินอาย เพราะนี่เป็นครั้งแรกได้ที่เตพูดเรื่องนี้กับฉัน "เตจะรอเมลพร้อมนะ เตรอได้ แต่เตขอจองไว้ก่อน ห้ามไปเป็นเจ้าสาวของใครเด็ดขาดเลยรู้ไหม" ฉันส่งยิ้มกว้างพลางส่ายหน้าน้อย ๆ กับคำพูดนั้น "เมลจะเป็นเจ้าสาวของเตคนเดียว" ฉันจะเป็นเจ้าสาวของใครได้ถ้าไม่ใช่เขาคนนี้ ไว้ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ฉันเองก็พร้อมที่จะเป็นเจ้าสาวแล้วก็เป็นภรรยาของเขาแต่เพียงผู้เดียว... MELBEE'S PART ; END
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD