2 - สถานะแฟน

2475 Words
- 2 - สถานะแฟน "เฮ้ย ๆ จะรีบไปไหนวะไอ้เต ไม่เห็นหัวเพื่อนรึไงวะ" เสียงเรียกรั้งของวิทและแรงดึงของนิคทำให้เตโชจำต้องหยุดชะงักฝีเท้าและกลอกสายตาไปมาอย่างนึกรำคาญกับความสอดรู้ของเพื่อน ทั้งที่สองคนนี้ก็รู้ดีว่าหลังเลิกงานแบบนี้เขาจะไปที่ไหน "ปล่อยกู เดี๋ยวไปช้า" เตโชเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงนิ่ง พลางก้มหน้าลงมองนาฬิกาที่ตอนนี้บ่งบอกว่าห้าโมงกว่าแล้ว "เดี๋ยวเมลรอนานเหรอครับคุณเต" "ฮั่นแน่! คบกันรึยังวะ เมลเสน่ห์แรงนะโว้ย ถ้ามึงยังชักช้าระวังพระเอกหล่อ ๆ จะคาบตัดหน้า!" ที่ต้องรีบร้อนออกจากที่ทำงานแบบนี้ก็เป็นเพราะเขามีนัดกับเมลบี แล้วเขาก็ไม่อยากให้เธอต้องรอนาน เนื่องจากการจราจรในเมืองหลวงเวลานี้นั้นต้องใช้เวลานานพอสมควร หากต้องมาตอบคำถามของเพื่อนทั้งสองคนก็คงกินเวลาเพิ่มไปอีก หลังจากค่ำคืนนั้นทั้งเตโชและเมลบีก็ตัดสินใจที่จะเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่มากกว่าคำว่า 'เพื่อน' เตโชเป็นฝ่ายขอช่องทางติดต่อจากเมลบีก่อน ทำให้ในวันนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้สองคนพูดคุยกันเรื่อยมาจนกระทั่งผ่านไปหนึ่งเดือน ทั้งสองคนยังคงไม่พูดถึงสถานะ อีกทั้งเพื่อนอย่างนิคที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันกับเมลบีเองก็รับรู้และยังออกปากเชียร์อย่างเต็มอก เพราะเตโชเองถึงแม้ว่าจะเจ้าเสน่ห์และอดีตเคยเจ้าชู้ แต่ปัจจุบันนับว่าเป็นคนที่โปรไฟล์ดีเลยทีเดียว ส่วนเมลบีเองก็เป็นคนเก่ง เธอขยันทำงานและมีความเด็ดเดี่ยว หากทั้งสองคนคบหากับเขาก็เห็นว่าเหมาะสมที่สุด "พระเอกหน้าไหนก็สู้กูไม่ได้หรอก ถอยไปได้แล้ว กูรีบ!" "ถ้ามึงเล่น ๆ กับเมลกูเอามึงตายนะไอ้เต เมลเขาเป็นเด็กดี ถ้ามึงคิดจะ..." "กูไม่ได้เหี้ยขนาดนั้นครับเพื่อนนิค" "มึงไม่ได้เหี้ยแต่มึงเจ้าชู้ไงไอ้เต" เป็นวิทที่แทรกขึ้นและตบที่ไหล่ของเตโชเบา ๆ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเตโชเสน่ห์แรงแค่ไหน แค่พนักงานในบริษัทก็ต่อคิวสมัครเป็นแฟนจนเกือบหมด "เจ้าชู้ที่มึงหมายถึงคืออะไร กูไม่เคยคบซ้อน คุยก็คุยทีละคน จริงอยู่ที่กูเคยมีแฟนมาหลายคน แต่กูก็ไม่ใช่คนที่จะคุยจะคบคนอื่นไปทั่วไหมล่ะ" "เออว่ะ..." พอได้ยินคำอธิบายขยายความก็ทำให้สองหนุ่มถึงกับออกปากอย่างพ้องกัน "กูไปละ เดี๋ยวเมลรอนาน" เตโชยกยิ้มที่มุมปากก่อนจะหมุนตัวและเดินออกไป แต่ไม่นานเสียงตะโกนก็ตามไล่หลังมาติด ๆ "เฮ้ยไอ้เต แล้วสรุปจริงจังไหมวะ" เตโชหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะหันกลับไปเล็กน้อยเพื่อตอบในสิ่งที่เพื่อนอย่างนิคกำลังสงสัย "ถ้าคนนี้ใช่...กูก็หวังแต่งเลยแหละ!" รถยนต์เอสยูวีขับมาจอดเทียบหน้าตึกสูงใหญ่ใจกลางเมือง คนที่ยืนรอก็รีบวิ่งเข้ามาหาก่อนจะเปิดประตูและขึ้นนั่งที่เบาะฝั่งข้างคนขับอย่างที่ทำประจำ "รอนานไหม" "ไม่เท่าไหร่นะ" หญิงสาวไหวไหล่เล็กน้อย จัดการดึงเข็มขาดนิรภัยมาคาดตัวและหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาเพื่อบันทึกงานที่ได้รับมอบหมายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ส่วนคนขับที่ได้รับคำตอบแบบนั้นก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไร เตโชออกรถไปตามท้องถนนโดยมีเสียงเพลงที่เปิดคลอเบา ๆ ให้เป็นเพื่อนร่วมทางมาตั้งแต่บริษัท แต่ตอนนี้มีคนข้างกายอยู่ด้วยแล้วกลับรู้สึกว่าเป็นเวลาที่พิเศษกว่าช่วงอื่น "ขอจับมือหน่อยสิ" ไม่ว่าเปล่าเขายังยื่นมือไปตรงหน้าของเมลบี หวังจะได้จับประสานกับมือของเธอในระหว่างการขับรถ "ได้สิคะคุณเต" เมลบีหัวเราะร่าและวางมือลงกอบกุมประสานกับมือหนาอย่างเต็มใจ "เราจะคบกันได้ยัง" ไม่รอให้เกิดช่องว่างของบทสนทนาเสียงเข้มของเตโชก็เอ่ยขึ้น พร้อมกับใบหน้าหล่อเหลาที่หันมองอย่างเอาคำตอบกับคนข้างกาย เขาเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับสถานะระหว่างตัวเขาและเมลบี หลังจากที่ตกลงที่จะพูดคุยกันมากกว่าเพื่อน อีกทั้งตอนนี้ก็ผ่านไปได้หนึ่งเดือนแล้ว เขาคิดว่ามันคงถึงเวลาที่เขาและเธอจะต้องคบหากันในฐานะแฟนสักที "..." หญิงสาวชะงักกลางคันรีบหันมองคนข้างกายด้วยแววตาเบิกกว้าง เธอตกใจกับคำพูดของเขา ไม่รู้ว่าสิ่งที่ได้ยินคือความฝันหรือเธอหูแว่วไปเท่านั้น "เราคุยกันมาเดือนกว่าแล้วนะเมล ไว้ใจเตยัง" เตโชกอบกุมมือบางมาประสานอย่างแนบแน่น ขณะที่สายตาก็หันกลับไปจดจ้องกับหนทางตรงหน้าต่อ ถึงเวลาที่เขาจะต้องพูดเรื่องนี้สักที และเขาเองก็มั่นใจว่าเธอเองก็คิดเช่นเดียวกับเขา "ไว้ใจสิ ถ้าไม่ไว้ใจเมลจะกล้าขึ้นรถมากับเตรึไง" เมลบีหัวเราะพลางส่ายหน้าเบา ๆ หากเธอไม่ไว้ใจเธอก็คงไม่กล้าขึ้นมานั่งบนรถเขาแบบนี้หรอก หลังจากค่ำคืนนั้นที่เตโชขับรถมาส่งเมลบีที่บ้าน เธอก็ให้ช่องทางการติดต่อกับเขา และทั้งสองคนก็คุยกันเรื่อยมาจนกระทั่งเตโชตัดสินใจที่จะอาสาไปส่งเธอที่บ้านเมื่อเลิกงาน บางครั้งก็ชวนไปกินข้าว หรือบางทีก็ชวนไปดูหนัง กิจกรรมก็เหมือนคู่รักทั่ว ๆ ไปที่มักจะต้องหาเวลาหลังเลิกงานเพื่อมาเจอกัน แต่เพียงแค่สองคนยังไม่เอ่ยถึงสถานะเท่านั้น "งั้นแปลว่าเราสองคนเป็นแฟนกันแล้วนะ" "แหนะ ไม่รอให้เมลตอบก่อนเหรอ" หญิงสาวขมวดคิ้วมองหน้าเตโชที่ตอนนี้กำลังยิ้มนำมาแต่ไกล "แล้วเมลตกลงไหม" "ขนาดนี้ก็ต้องตกลงแล้วไหม" คำตอบของหญิงสาวทำให้เตโชยิ้มกว้างออกมา เขาดึงมือเธอเข้ามาแนบกับใบหน้าพลางจูบบาง ๆ ที่หลังมือของเธอเพื่อตอกย้ำถึงสถานะที่เพิ่งเริ่มต้นเมื่อไม่กี่วินาทีที่ผ่านมา "วันนี้เราฉลองกันดีกว่า วันแรกที่คบกันเราไปกินอาหารหรู ๆ เลยดีไหม" "วันนี้คงไม่ได้อะเต เมลต้องท่องบท พรุ่งนี้มีถ่ายละครน่ะ วันอื่นได้ไหมอ่า" เมลบีทำหน้าเสียดาย เธออยากไปทานข้าวกับเขา แต่เนื่องด้วยภาระหน้าที่ของตัวเองทำให้คืนนี้ไม่สามารถไปได้ "ไม่เป็นไรเมล ไว้วันอื่นก็ได้ เอาที่เมลสะดวกเลย" เตโชยิ้มบาง ๆ และมือมาวางที่เรือนผมนุ่มของแฟนสาว เตโชเข้าใจดีว่าเธอจริงจังและเต็มที่กับงานมากแค่ไหน ตอนนี้เมลบีอยู่ในฐานะนักแสดงหน้าใหม่ เธอเริ่มต้นเข้าวงการจากการถ่ายโฆษณาตามคำเชิญชวน จนกระทั่งมีคนให้เธอไปแคสละคร ถึงแม้จะไม่ใช่บทเด่นแต่เธอก็ยินดีและพร้อมรับทุกบทบาท งานหลักของเมลบีจะเป็นการถ่ายโฆษณา เล่นเอ็มวี และการรับรีวิวสินค้าลงโซเชียล แต่พอมีงานละครเข้ามาก็ทำให้เธอเลือกที่จะหันมาทุ่มเทกับการแสดงให้มากขึ้น ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ลำบากในเรื่องการเงินเหมือนเมื่อก่อน แต่เธอก็ยังอยากรับงานให้เยอะมากขึ้นเพื่อความมั่นคงของตัวเองและครอบครัว "นั่นรถใครน่ะเมล" พอขับรถมาได้สักพักก็ถึงบ้านของหญิงสาวที่เตโชมักจะมาส่งเธออยู่บ่อย ๆ จนกระทั่งขับเข้ามาในซอยของหมู่บ้านก็พบว่าเป็นรถยนต์ที่จอดขวางอยู่หน้าประตูบ้านของเธอ แถมประตูรั้วก็ถูกเปิดออกกว้างราวกับมีใครอยู่ในบ้าน "พ่อเหรอ...น่าจะพ่อกับแม่เมลแน่เลย กลับมาทำไมไม่บอกนะ...เตรอก่อนนะอย่าเพิ่งกลับ เมลขอเข้าไปดูด้านในก่อน" เมลบีมองรถยนต์ที่จอดนิ่งสนิทด้วยความแปลกใจ พลันเมื่อตัวรถจอดเทียบทำให้เปิดประตูและเดินเข้าไปด้านในตัวบ้าน ส่วนเตโชเองก็ลงจากรถและยืนรอเธออยู่ด้านนอก เพราะไม่อยากล้ำก้าวเข้าไปในบ้านของเธอเนื่องจากเกรงใจ "อ้าวเมล กลับมาแล้วเหรอลูก" เสียงเอ่ยของชายวัยกลางคนทำให้เมลบีรีบวิ่งเข้าไปสวมกอดอย่างแนบแน่น ขณะที่คนเป็นแม่ก็เดินออกจากครัวเข้ามาหาลูกสาวที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาเกือบสองเดือนเต็ม "พ่อกับแม่จะกลับมาทำไมไม่บอกเมลก่อนล่ะคะ เมลจะได้ไม่รับงานตอนบ่าย" หากรู้ว่าพ่อกับแม่จะมาหาที่บ้านเธอก็คงเตรียมตัวออกไปซื้อของที่ตลาดเพื่อจัดทำอาหารมื้อใหญ่ไว้ต้อนรับอย่างแน่นอน พ่อกับแม่ของเธอยังคงรับจ้างส่งของไปตามจังหวัดต่าง ๆ เหมือนเช่นเคย ถึงแม้ว่าจะเริ่มปลดหนี้ไปได้เยอะแล้วแต่ก็ยังรับงานอยู่เสมอ ส่วนเมลบีเองก็นำเงินที่ได้จากการทำงานส่งให้พ่อกับแม่ได้ปลดหนี้ทุกเดือนเพื่อแบ่งเบาภาระ และเธอเชื่อว่าอีกไม่นานเธอและครอบครัวจะได้กลับมาอยู่ด้วยก็เหมือนเดิม โดยที่ไม่ต้องโหมทำงานหนักอย่างเช่นตอนนี้ "แล้วนี่กลับมายังไงล่ะ แม่ได้ยินเสียงรถ ใครมาส่งเหรอ" "คือ...แฟนเมลมาส่งน่ะค่ะ เดี๋ยวเมลพามาแนะนำให้รู้จักนะคะ" เมลบีอึกอักในคำตอบเล็กน้อยเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอพาแฟนหนุ่มมาพบเจอกับพ่อและแม่ แต่เธอก็อยากถือโอกาสให้เตโชทำความรู้จักกับพวกท่านไว้ แม้ว่าจะไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยก็ตาม เมลบีเดินกลับออกไปด้านนอกบ้านก็เห็นว่าเตโชกำลังยืนพิงตัวรถรออยู่อย่างที่บอกไว้จริง ๆ หญิงสาวยิ้มร่าเดินเข้าไปกอดของเขาเอาไว้ เธออยากให้แฟนหนุ่มได้ร่วมโต๊ะทานข้าวเย็นกับพ่อและแม่ของเธอด้วย "พ่อกับแม่เมลอยู่ในบ้าน เมลอยากแนะนำแฟนของเมลให้ท่านรู้จักน่ะ เตโอเคไหม" "ได้สิ เตเองก็อยากเจอพวกท่านเหมือนกัน" ที่จริงเขารอจังหวะนี้มานานแล้วเพียงแค่ยังไม่มีโอกาส แล้วก็โชคดีที่วันนี้พ่อและแม่ของเธอมาหาที่บ้านในวันที่เขาและเธออยู่ในฐานะคนรัก ทั้งสองคนเดินเข้าไปในบ้านซึ่งมีพ่อและแม่ของเมลบีนั่งอยู่บนโซฟาตัวยาวกลางบ้านด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง หญิงสาวนั่งลงข้างกายของคนเป็นแม่เพื่อตั้งใจแนะนำแฟนให้รู้จัก แต่ทว่า... "ทำไมเมลมีแฟนแล้วไม่บอกแม่" คำพูดแรกที่หญิงวัยกลางคนทำให้เตโชรีบเก็บมือประสานให้อยู่ตรงหน้า สีหน้าและน้ำเสียงของแม่เธอบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าไม่ได้พึงพอใจกับการมีอยู่ของเขาเลยสักนิด "คือเมล..." เธอไม่รู้จะเอ่ยอธิบายยังไงเพราะเพิ่งตัดสินใจคบกันเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา หญิงสาวมองหน้าแฟนหนุ่มด้วยสายตาสั่นเทาและกังวลใจ ปกติแล้วพ่อและแม่ของเธอไม่เคยหักห้ามในเรื่องความรักเลยสักครั้ง แต่ทำไมอยู่ ๆ ถึงได้มีท่าทีแบบนี้ได้ "เมลลืมสัญญาของเสี่ยชัยไปแล้วเหรอ" มือหนาของชายวัยกลางคนรีบคว้าจับภรรยาเอาไว้ในทันทีเป็นเชิงห้ามเมื่อพูดถึงเจ้าหนี้ผู้มีบุญคุณ "เมลไม่เคยลืมสัญญาของเสี่ยชัยค่ะ แต่มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการที่เมลมีแฟนเลยนี่คะ" "ทำไมจะไม่เกี่ยว..." "เอาล่ะ ๆ พอเถอะคุณ อย่าเสียมารยาทสิ" เมื่อเห็นว่าเริ่มท่าไม่ดีก็ทำให้ผู้เป็นพ่อแทรกขึ้นและตบเบา ๆ ที่หลังมือของภรรยา หากปล่อยให้พูดมากกว่านี้คงจะเสียแผนและทำให้ลูกสาวเตลิดเป็นแน่ "นี่เตโชค่ะ แฟนของเมล" เมลบีผ่อนลมหายใจออกมาหนัก ๆ ก่อนจะหันไปแนะนำแฟนหนุ่มให้กับพ่อและแม่ได้รู้จัก แต่ลึก ๆ เธอเองก็ยังสงสัยว่าทำไมแม่ของเธอถึงได้ไม่พอใจแบบนี้ "สวัสดีครับ ผมเตโชนะครับ" "ทำงานอะไรล่ะ แล้วเป็นลูกเต้าเหล่าใคร" "แม่คะ..." หญิงสาวแทรกห้ามเมื่อเห็นว่าแม่ของตัวเองเสียมารยาทอีกครั้ง "ผมเป็นสถาปนิกอยู่ที่บริษัทเอโอซีครับ พ่อผมก็เป็น..." "เหอะ! ก็แค่พนักงานธรรมดา ๆ คนหนึ่ง" น้ำเสียงเย้ยหยันทำให้เมลบีกำมือแน่น หญิงสาวจับประสานมือของเตโชเอาไว้บาง ๆ เพราะไม่อยากให้แฟนหนุ่มต้องรู้สึกไม่ดีกับสิ่งที่เกิดขึ้น "วันนี้แม่เป็นอะไรคะ พนักงานธรรมดาแล้วยังไง เมลเองก็เป็นคนธรรมดา" "เมลเป็นดารา สวยก็สวย หน้าตาก็ดี อนาคตก็ยังอีกไกล ทำไมถึงเลือกคนธรรมดาแบบนี้ล่ะลูก!" "แม่คะ!" "เมล..." เตโชจับมือของเมลบีเอาไว้เมื่อเธอเริ่มตะคอกเสียงดัง เขาไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ก็ไม่อยากให้เธอต้องมีปัญหากับครอบครัว "เอ่อ...พ่อว่าลูกพาเขากลับไปก่อนเถอะนะ แม่คงตกใจน่ะ ไม่มีอะไรหรอก" "ครับ ไว้ผมจะแวะมาหาใหม่นะครับ" เตโชออกปากรับและยกมือทั้งสองคนอย่างนอบน้อม ในเมื่อวันนี้แม่ของเธอยังไม่พร้อมเจอเขาก็ไม่เป็นไร แต่ครั้งหน้าเขาเองก็มั่นใจว่าจะทำให้แม่ของเธอยอมรับในตัวเขาให้ได้ "ไปส่งเขาแล้วก็รีบกลับเข้ามาล่ะ แม่มีเรื่องจะคุยด้วย" "วันนี้เมลจะไม่นอนบ้านค่ะ เมลจะนอนที่บ้านของแฟนเมล" หญิงสาวเอ่ยออกไปเสียงดังก่อนจะจับจูงมือของเตโชให้ออกไปยังด้านนอกตัวบ้าน โดยมีเสียงตะโกนและร้องเรียกดังไล่หลังตามมาไม่หยุด "เมล...เตว่า..." "ไปกันเถอะเต พาเมลออกไปจากที่นี่ที"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD