บทที่ 5 พี่คนนั้นกับชาบูวันศุกร์

1535 Words
บทที่ 5 ‘ผมไอ้ต้าที่น่ารัก’ รีบเข้าคราสเรียน Biology 1 ตั้งแต่เช้า การเรียนมหาวิทยาลัยต่างจากการเรียนในระดับมัธยมอย่างมาก เพราะชั่วโมงเรียนวิชาเดียวกินเวลาไป 4 ชั่วโมง แถมมีเพื่อนหลายคณะเรียนด้วย ผมคงต้องขยันเป็นสองเท่าเพราะการตัดเกรดของอาจารย์นั้นอิงกลุ่ม เมื่อนั่งลงเพื่อนร่วมคราสได้ส่งแผนการเรียนรู้ที่อาจารย์เยาว-ลักษณ์แจกให้ ลืมบอกอีกอย่างที่โรงเรียนต่างจากมหาวิทยาลัยคืออาจารย์ไม่พูดพร่ำทำเพลง ไม่ให้ผมได้หายใจ เพราะชั่วโมงแรกก็อัดเนื้อหา Biologyโดยไม่พัก ผมฟังบรรยายเนื้อหาจนตาเหลือก ชีทที่อาจารย์ให้มาถูกเขียนด้วยปากกาสีน้ำเงินแทรกตามตัวอักษรสีดำจนเต็มหน้า ทุกคนดูเคร่งเครียด และดูเหมือนผมจะได้ยินเสียงเพื่อนบางคณะโอดโอยที่มีพวกเรามาเรียนด้วย พวกเขาคงคิดว่าพวกเราเก่งมั๊ง แต่จริงๆ แล้วพวกผมไม่ได้เก่งกว่าพวกเขาหรอก พวกเราแค่กลัวเกรดไม่ถึง 3.00 เพราะคณะแพทย์ฯ ถ้าเกรดต่ำว่านี้คือโดนรีไทม์หรือที่เรียกง่ายๆโดนไล่ออก! “ต้าเราไปกินข้าวข้างนอกกันไหม” เอิร์ทถาม “ว่าแต่เดินไปได้ไหม เราไม่มีรถ” “เราเอารถมา” “ไปสิ” หลังจากเรียนเสร็จผมนั่งรถไปกับเอิร์ทเพื่อหาข้าวกิน พอเจอร้านตามสั่งร้านหนึ่งเอิร์ทได้จอดรถแล้วเดินนำ “ต้า...นั่น พี่คนนั้น ในห้องสมุด” “สวัสดีครับพี่ทักษ์” ผมยกมือไหว้ลุงรหัสดตัวเอง “อือ หวัดดี” “มาทานข้าวคนเดียวเหรอครับ” หน้าเค้าดูบอกบุญไม่รับ แต่ผมยังยืนยันว่าพี่เค้าหล่อ หล่อจนผู้ชายด้วยกันอย่างผมอิจฉาเลยล่ะ “แล้วเห็นใครนั่งด้วยไหมล่ะ” “...” ไม่มีความเป็นมิตรในแววตาเลยสักนิด พี่ทักษ์ยังคงนั่นทานข้าวกระเพราหมูกรอบไข่ดาวคนเดียว ผมว่าข้าวดูน่าอร่อย แต่พี่เค้ากินเหมือนคนรับรสชาติไม่ได้ยังไงยังงั้น “นั่งด้วยกันไหม” เหลือบมองเด็กปีหนึ่งที่พยายามสารสัมพันธ์กับตนเป็นอย่างมาก “ปรายบอกแล้วใช่ไหม ว่าชาบูวันศุกร์” “ครับ นี่เอิร์ทเพื่อนผมครับ เอิร์ทนี่ลุงรหัสเราเองพี่ทักษ์” “สวัสดีครับพี่ทักษ์” เอิร์ทอมยิ้ม เขาเริ่มหูแดงเมื่อเห็นหน้ารุ่นพี่ใกล้ขนาดนี้ พี่ทักษ์ทำเพียงพยักหน้ารับแล้วกินข้าวต่อ เขาเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดแต่ใช้สายตาเก่งมาก เพราะสายตาเขาดูเย็นชาแต่แสดงออกว่าไม่พอใจได้ยอดเยี่ยมมากจริงๆ “อร่อยไหมครับ” “ก็...ดีนะ” “เรียนหมอยากไหมครับพี่” เอิร์ทถามอย่างอยากรู้อยากเห็น “เดี๋ยวก็รู้มั๊ง” ‘เป็นคำตอบที่ไม่มีไมตรีที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา’ โลกของพี่เขาดูดาร์คมากกว่าที่ผมคิดเอาไว้เสียอีก “คือเอิร์ทอยากรู้ว่าในมุมมองพี่ การเรียนหมอยากไหม” ช่วยอธิบายอีกแรงเพราะไม่อยากให้เกิดเดทแอร์นาน “ไม่รู้สิ พี่ไม่เคยตั้งใจเรียน ก็เลยไม่รู้ว่าเรียนยากไหม” ถ้าให้บอกเรื่องเกมคงง่ายกว่า “เที่ยงแล้วผมขอเข้าเกมแป๊บ” ผมขอใครไม่รู้ ทุกคนมองผมเหมือนเด็กติดเกม พี่ทักษ์ก็ด้วยคนหน้าหล่อมองผมแปลกๆ เมื่อกลายเป็นจุดสนใจผมจึงฉีกยิ้มจนแทบถึงหู “เกมอะไรเหรอ” “เกมนี้” ผมหันหน้าจอไปให้เอิร์ทดู และเอิร์ทก็พูดชื่อเกมออกมา “ภาพสวยมากเลยนะ” “ต้าเล่นเกมด้วยเหรอ” “ตอนแรกไม่คิดว่าจะติด แต่โดนตีตายบ่อยก็เลยอยากเอาคืนบ้าง” ผมบ่นไปเรื่อย “นี่ไง! นี่ไงตายอีกแล้ว เมื่อไหร่หัวหน้ากิลด์จะเข้ามานะ” “เล่นเหมือนกันเหรอ” อยู่ๆพี่ทักษ์ก็ถามขึ้น ผมกับเอิร์ทมองตากันจากนั้นผมก็ยืนโทรศัพท์ให้พี่เขาดู คนตัวโตยืดคอมาอย่างสนใจ เหมือนผมกะเทาะเปลือกโลกได้เลย “ครับ” เขามองตัวละครอย่างพิจารณา “ตัวละครของผมน่ารักไหมครับ” “ทำไมอยู่กิลด์นี้ล่ะ มีกิลด์ที่ดีกว่านี้ตั้งเยอะ” “หัวหน้ากิลด์นี้ดีมากครับ ตอนแรกผมยังไม่เก่งเท่านี้ แต่เขายังรับผมเข้ากิลด์ ผมจึงอยู่กิลด์นี้จนพลังสามสิบล้าน” พูดไปภูมิใจไป “หัวหน้ากิลด์ผมโคตรเท่เลย” “...” น้อยนักที่ทักษกรจะสนใจอะไร และเรื่องนี้น่าสนใจพอสมควร “เล่าต่อสิ” “แล้วพี่อยู่กิลด์ไหนครับ” “ทำไมต้องบอก” “...” แรงส์!!!!! ผมต้องการที่แรงกว่านี้ แรงส์!!แรงกว่างเน๊!! เป็นครั้งแรกที่ทุกคนเห็นใบหน้าเย็นชายิ้ม ขนาดป้าเจ้าของร้านอาหารตามสั่งยังมอง สาวๆ ที่ทานข้าวอยู่ตรงนั้นจะเหลือเหรอ “ผมอยากเล่นด้วยคนได้ไหมครับ” เอิร์ทชะเง้อเข้ามาใกล้แล้วเริ่มโหลดแอพบ้าง “ผมเล่นเกมไม่เก่งเท่าไหร่ แต่อยากลองเล่นมานานแล้ว” “เล่นสิ ใครห้าม” ทักษ์เอ่ยเสียงเข้ม กำลังฟังคนชมเพลินๆ มาตัดบทซะเสียอารมณ์ “พี่มีเรียนบ่ายไหมครับ” “มี ทำไมเหรอ” “ไม่ทำไมครับ ถามเฉยๆ” เอิร์ทเกาหัวประหม่า “ไปนะ อย่าลืมนัดชาบูล่ะ” ทักษ์เปลี่ยนมุมมองต่อรุ่นน้องใหม่ ไม่นึกว่า หลานรหัสตัวเองคือ Taro ยัยจิ๋วจอมจุ้นที่เที่ยวโดนใครต่อใครเขาตีไปทั่ว “ครับ ผมจะอดข้าวรอเลยครับ” “เกินไป...” “ว่าแต่พี่จะไม่บอกผมจริงๆ เหรอว่าพี่คือใครในเกม ผมจะไปขอเป็นเพื่อน” ถ้าให้เอาชั่วๆเลยขอเป็นเพื่อนเอาไว้ เวลาเข้าตี้เพื่อฟาร์มจะๆEXP เยอะๆ “ทำไมต้องบอก” อมยิ้ม “ลองเดาดูสิ” “คนเป็นพัน จะให้ผมเดายังไงถูก” หวงอะไรขนาดนั้น ผมยังบอกเลย อยากโชว์ด้วยซ้ำว่ายัยจิ๋วของผมน่ารักน่าอุ้มแค่ไหน “บอกอาชีพก็ได้ครับ ผมไปหาเอง” “แอสซาซิน” “เหมือนหัวหน้ากิลด์ผมเลย หัวหน้ากิลด์ผมก็เล่นตัวนี้” ตื่นเต้นทั้งสีหน้าและแววตา “หัวหน้ากิลด์ผมเป็นคนใจดีมากด้วยนะครับ พี่ย้ายมาอยู่กิลด์ผมไหม” “...” “แต่ถ้าพี่อยู่กิลด์ดีกว่า พี่คงไม่มาหรอกจริงไหม” ท้ายประโยคมีเสียงเศร้าๆ ปะปนมาด้วย “ไปนะ ไว้เจอกัน” “ครับ/ครับ” เพียงแค่เห็นครั้งแรกก็รู้ได้ว่าเพื่อนหลานรหัสนั้นสนใจตนเป็นอย่างมาก ชายหนุ่มจึงไว้ตัวไม่อยากให้ความหวังใคร ส่วนอีกคนก็เอาแต่อวดเกมโดยหารู้ไม่ว่าหัวหน้ากิลด์ที่ภูมิใจนำเสนอนั้น คือลุงรหัสของตัวเอง ที่สำคัญกว่านั้นคือต้ามีเพศวิถีแบบไหนกัน ถ้าเปิดตัวว่าเขาคือ S เด็กนั่นจะว่ายังไง คิดดูอีกทีรอดูก่อนดีกว่าอีกฝ่ายจะพูดถึงตนในฐานะหัวหน้ากิลด์แบบไหนอีก ‘สนุกล่ะคราวนี้’ หลังจากคนหน้านิ่งจากไปพวกผมก็ได้ข้าวซะที ร้านนี้คนเยอะกว่าจะได้กินก็ปาเข้าไปเที่ยงครึ่ง ผมสั่งข้าวผัด ส่วนเอิร์ทสั่งข้าวไข่เจียว พวกเราตั้งหน้าตั้งตากินอย่างอร่อย “เกมนี้มันเล่นยังไง” เอิร์ทยังไม่ล่ะความพยายาม “นี่เหรอ ไม่เห็นเหมือนกันเลย” “อันนั้นมันมินิเกม ต้องรอโหลดอีกชั่วโมงหนึ่ง” “ฮ๊ะ! นานขนาดนั้นเลย” “ใช่แล้ว... นานมากแต่ภาพโคตรสวย มาอยู่กิลด์เราได้นะ หัวหน้าเราใจดี” ผมอาจจะเป็นปลื้มหัวหน้ามากจนโฆษณาไปทั่วอย่างที่พักรบมันว่าก็ได้ “...” พยักหน้าหงึกๆ เพราะต่อให้ยากแค่ไหนก็อยากเป็นส่วนหนึ่งในนั้น “มันสนุกมากเลยนะ แต่ก็ซับซ้อนมากด้วย ภาพ สี เสียงอย่างนี้เลย” ยกนิ้วให้ “...” เพราะไม่เคยเล่นมาก่อนจึงรุ้สึกอึดอัดเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าเกมนั้นต้องดาวน์โหลดตั้งหนึ่งชั่วโมง แต่เพื่อความรักเค้าจะสู้ก็แล้วกัน หลังจากนั้นผมก็สวมวิญญาณเกมเมอร์อธิบายส่วนต่างๆ ให้เอิร์ทฟัง เพื่อนผมคนนี้เป็นคนเข้าใจอะไรง่าย พวกเราทานข้าวไปคุยเรื่องสัพเพเหระ ไม่มีเรื่องเรียนวันนี้เลยสักนิด เด็กเรียนก็อย่างนี้ล่ะนะ “กลับหอเลยไหม” “ยัง! ว่าจะไปนั่งในหอสมุดก่อน อยากไปยืมหนังสือสักเล่มกลับไปกอดให้สบายใจ” ผมบอกตามความจริง “ไปด้วยสิ” “ไปสิ” ผมตอบรับเมื่อมีเพื่อนอยากไปด้วย > “ฮัลโหลครับ ครับ ได้ครับ” ผมมองเอิร์ทรับโทรศัพท์ ถ้าให้เดาเพื่อนคงไปหอสมุดกับผมได้แล้ว ไม่เป็นไรหรอกผมฉายเดี่ยวเก่งอยู่แล้ว และถ้าเผื่อเจอเพื่อนคนอื่นๆ อยู่ในนั้นผมก็จะขอนั่งกับเขา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD