“ก็ที่โรงพยาบาลเครื่องมือไม่ครบเท่าอยู่บ้าน”
“เดี๋ยวนะไอ้ต่อ ที่บ้านมีเครื่องมือแพทย์ด้วยเหรอวะ”
กลอกตาถามลูกชาย ก่อนจะหันมาส่งยิ้มเอ็นดูให้เด็กสาว ภวัตไม่ได้มีจิตพิศวาสคนที่ลูกพามา ยอมรับว่าเด็กนี่หน้าตาสวยและหุ่นสวย แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอยากได้หรือตื่นเต้นเหมือนสาวๆ ในเลาจน์ที่ไปประจำ แต่กลับรู้สึกถูกชะตาเอ็นดูหนูน้อยคนนี้มากกว่า
“สวัสดีหนู ฉันเป็นพ่อของหมอต่อนะ”
“สวัสดีค่ะ หนูชื่อมานิดาค่ะ” มานิดายกมือไหว้คนที่เอ่ยทักตัวเองพร้อมกับก้มหน้ามองมือตัวเองที่ประสานกันอยู่หน้าท้อง
“พ่อจะไปไหนก็ไปเถอะ เดี๋ยวผมต้องพามานิดาไปทำลูก จะเอาไหมหลานน่ะ” ภพธรเดินมาคว้าข้อมือเล็กมากุมไว้
“มึงจะรีบไปไหน หลานน่ะ พ่อก็อยากได้ แต่มึงดูรีบแปลกๆ นะไอ้ต่อ”
“โธ่...พ่อ จะชวนคุยอีกนานไหม เครื่องมือลูกจะระเบิดแล้วนะ แค่ขับรถมาเนี่ยก็นานมากแล้ว รถก็ติด”
“แล้วทำไมไม่พาไปห้องพักหมอที่โรงพยาบาลหรือคอนโดมึงวะไอ้ลูกเวร”
“ก็...เถอะน่า...ไปแล้ว พูดกับพ่อแล้วเสียเวลา” พูดจบภพธรก็ฉุดดึงคนที่ยืนงงๆ ข้างๆ เข้าไปในบ้านทันที มานิดายังคงไม่เข้าใจว่าสองพ่อลูกพูดคุยอะไรกัน แม้จะพยายามบิดข้อมือออกจากมือใหญ่ แต่ก็ไม่เป็นผล เขากำมือเธอแน่นเหลือเกิน
“เหมือนจะไม่ได้แค่หลาน แต่จะมีลูกสะใภ้วะงานนี้ ไอ้ต่อมึงรีบแปลกๆ แถมพามาบ้าน อุวะ! เตรียมรับขวัญลูกสะใภ้และหลานทีเดียวเลยกู” แล้วคนที่แก่แต่อายุก็เดินยิ้มเข้าไปในบ้านตามลูกชายที่เห็นแต่หลังไวๆ ขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน
พอขึ้นมายังชั้นสอง ภพธรก็พาคนตัวเล็กที่ฉุดกระชากบังคับขึ้นมาให้ตามตัวเองเข้าไปในห้องนอนส่วนตัวทันที พอเข้ามาในห้องเขาก็ไม่รอช้าที่จะรุกเร้าหญิงสาว จนเธอต้องรีบถอยหนีไปในห้องเมื่ออยู่ๆ คนที่พาขึ้นมาก็ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาออกพร้อมกับพับแขนเสื้อขึ้น เธอมองออกว่าตอนนี้มันจะเกิดอะไรขึ้น
“มะ...หมอต่อจะทำอะไรคะ ไหนบอกว่าเครื่องมือแพทย์ที่นี่มี”
“ก็นี่ไง เครื่องมือแพทย์ของฉัน” เขาพูดแล้วชี้มาที่เป้ากางเกงของตัวเอง
“ฮะ! ว่าไงนะคะ หมอต่อบ้าไปรึเปล่า มานิดาจะมาอุ้มบุญ ต้องทำ...”
“ไม่บ้าหรอก ตอนแรกก็คิดว่าจะใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์ แต่คิดไปคิดมาทำวิธีธรรมชาติดีกว่าติดลูกไวดีว่าไหม” เขาพูดพร้อมกับเดินต้อนหญิงสาว
“มะ...ไม่นะคะ หมอต่อ...มานิดาไม่ได้ต้องการแบบนี้ มานิดามาอุ้มท้องลูกของหมอก็จริง แต่ไม่ได้จะยอมให้หมอทำแบบนี้ด้วย”
“ชูว์...พูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนะ ตอนเซ็นสัญญาไม่อ่านให้ดีเอง” เขายกมือปิดปากเล็กแล้วก็ผลักเธอล้มลงบนเตียงเมื่อตอนนี้เธอถอยไปชนขอบเตียง
ว้าย!
เมื่อล้มลงไปบนเตียง มานิดาก็รีบพลิกตัวหนีคนที่โถมตัวลงมาหาทันที
“หมอต่อ...หมอต่อจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ” เธอพลิกตัวหลบคนตัวโตได้ทัน
“ทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ ฉันว่ามันเหมาะสุดแล้ว ตอนนี้ เวลานี้ ชักช้าแล้วเราจะมีลูกกันได้ยังไงมานิดา”
เขานอนตะแคงมองคนที่พลิกตัวหนีตัวเองไปแล้วก็ยิ้มขำเอ็นดู นี่เธอกลัวเขาจริงๆ เหรอ เขาออกจะหล่อ เครื่องเคราดีทุกอย่าง เครื่องมือการแพทย์ส่วนตัวก็ออกจะโตและยาว แถมอึดอีกต่างหาก อยากให้ลอง อยากให้แม่สาวน้อยข้างๆ ลองจริงๆ มือใหญ่ยกขึ้นหมายจะจับแก้มนวล แต่แล้วก็ต้องสบถออกมาเมื่อเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น
อุวะ!
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
มานิดารีบลุกขึ้นทันทีเมื่อเสียงระฆังช่วยชีวิตมา
“จะไปไหนมานิดา”
“เปิดประตูห้องค่ะ”
“ไม่ต้อง หมอต่อเปิดเอง ใครวะ กล้ามารบกวนตอนที่เครื่องมือแพทย์จะทำงาน” เขาพึมพำกับตัวเองแล้วลุกขึ้นสาวเท้ายาวๆ ไปยังประตูห้อง พอเปิดออกมาจะต่อว่าสักหน่อยก็เห็นหน้าพ่อบังเกิดเกล้ายิ้มแฉ่งอยู่หน้าห้อง
“พ่อ”
“เออ! พ่อเอง พาแม่ของหลานพ่อเข้ามาบ้านแทนที่จะหาน้ำหาท่ามาต้อนรับแขกให้ดีๆ แล้วนี่ทำอะไรเนี่ยไอ้ต่อ ใส่เสื้อให้เรียบร้อย หนูมานิดาไปข้างล่างกันเถอะ ฉันจะพาไปเดินชมสวนข้างบ้าน และเดินดูรอบๆ บ้าน เพราะว่าหนูต้องย้ายมาอยู่ที่บ้านนี้ ไอ้ตอนแรกนึกว่าไอ้ต่อลูกชายฉันจะพาเดินดูบ้าน แต่พอเห็นหายมานานเลยมาตาม และนี่น้ำจ้ะ ฉันให้เด็กเอามาให้” พูดพร้อมกับเดินแทรกตัวเข้าไปในห้องลูกชาย แล้วก็มีเด็กรับใช้หนึ่งคนถือถาดน้ำดื่มตามไป ส่วนภพธรถึงกับกุมขมับ นี่พ่อของเขาแกล้งเขา เขารู้ ทำไมต้องมาแกล้งตอนนี้ด้วย
“พ่อครับ พ่อไม่ควรมาตอนนี้”
“อือ...ตอนนี้แหละดีที่สุด ดื่มน้ำก่อนนะหนูมานิดา ว่าแต่ชื่อเล่นมีไหมจ๊ะ ฉันจะได้เรียกง่ายหน่อย” พยักหน้าให้เด็กรับใช้ส่งน้ำให้คนที่นั่งหน้าแดงบนเตียง
“พ่อ...พูดแบบนี้เด็กก็เสียหายพอดี นี่คนจะมาอุ้มท้องหลานของพ่อนะ”
“อ้อ...คนที่จะมาอุ้มบุญหลานพ่อเหรอ แล้วมึงพามาทำไมที่บ้าน ทำไมไม่อยู่ที่โรงพยาบาล” ถามลูกชายทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าลูกชายคิดอะไร
“ก็ที่โรงพยาบาลเครื่องมือไม่ครบเท่าอยู่บ้าน”
“เดี๋ยวนะไอ้ต่อ ที่บ้านมีเครื่องมือแพทย์ด้วยเหรอวะ”
กลอกตาถามลูกชาย ก่อนจะหันมาส่งยิ้มเอ็นดูให้เด็กสาว ภวัตไม่ได้มีจิตพิศวาสคนที่ลูกพามา ยอมรับว่าเด็กนี่หน้าตาสวยและหุ่นสวย แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอยากได้หรือตื่นเต้นเหมือนสาวๆ ในเลาจน์ที่ไปประจำ แต่กลับรู้สึกถูกชะตาเอ็นดูหนูน้อยคนนี้มากกว่า
“สวัสดีหนู ฉันเป็นพ่อของหมอต่อนะ”
“สวัสดีค่ะ หนูชื่อมานิดาค่ะ” มานิดายกมือไหว้คนที่เอ่ยทักตัวเองพร้อมกับก้มหน้ามองมือตัวเองที่ประสานกันอยู่หน้าท้อง
“พ่อจะไปไหนก็ไปเถอะ เดี๋ยวผมต้องพามานิดาไปทำลูก จะเอาไหมหลานน่ะ” ภพธรเดินมาคว้าข้อมือเล็กมากุมไว้
“มึงจะรีบไปไหน หลานน่ะ พ่อก็อยากได้ แต่มึงดูรีบแปลกๆ นะไอ้ต่อ”
“โธ่...พ่อ จะชวนคุยอีกนานไหม เครื่องมือลูกจะระเบิดแล้วนะ แค่ขับรถมาเนี่ยก็นานมากแล้ว รถก็ติด”
“แล้วทำไมไม่พาไปห้องพักหมอที่โรงพยาบาลหรือคอนโดมึงวะไอ้ลูกเวร”
“ก็...เถอะน่า...ไปแล้ว พูดกับพ่อแล้วเสียเวลา” พูดจบภพธรก็ฉุดดึงคนที่ยืนงงๆ ข้างๆ เข้าไปในบ้านทันที มานิดายังคงไม่เข้าใจว่าสองพ่อลูกพูดคุยอะไรกัน แม้จะพยายามบิดข้อมือออกจากมือใหญ่ แต่ก็ไม่เป็นผล เขากำมือเธอแน่นเหลือเกิน
“เหมือนจะไม่ได้แค่หลาน แต่จะมีลูกสะใภ้วะงานนี้ ไอ้ต่อมึงรีบแปลกๆ แถมพามาบ้าน อุวะ! เตรียมรับขวัญลูกสะใภ้และหลานทีเดียวเลยกู” แล้วคนที่แก่แต่อายุก็เดินยิ้มเข้าไปในบ้านตามลูกชายที่เห็นแต่หลังไวๆ ขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน