“หมอต่อ เรียกผมหมอต่อ เพราะเราต้องอยู่ด้วยกันอีกนานมานิดา”
“ค่ะหมอต่อ มานิดาขอตัวกลับก่อนนะคะ”
“อือ...จะไปไหนล่ะ ผ่านงานแล้วนะ คุณยังไม่พร้อมเหรอ ผมต้องการจะมีลูกให้เร็วที่สุดนะ”
“แต่แม่ของมานิดายังไม่ได้ผ่าตัดเลยนะคะ”
“หมอจัดการให้ แม่มานิดาชื่ออะไร”
“เนียน กิ่งหยกค่ะ”
“โอเค นั่งรอผมโทรสั่งหมอผ่าตัดก่อน ว่าแต่แม่คุณเป็นอะไรมา”
“เส้นเลือดในสมองแตกค่ะ”
“อือ” เขาพยักหน้ารับแล้วกดต่อสายหาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญให้เตรียมการผ่าตัดให้นางเนียน กิ่งหยก แม่ของมานิดาทันที และเรื่องค่ารักษาทุกอย่างให้มาเก็บได้ที่เขา ทุกอย่างสำหรับนางเนียน กิ่งหยก เขาจะเป็นคนจ่ายให้เอง พร้อมกับกำชับให้ทุกคนดูแลแม่ของมานิดาเป็นอย่างดี
“เรียบร้อย ไปกันเถอะมานิดา” เมื่อสั่งการผ่าตัดแม่ของมานิดาแล้ว เขาก็ลุกขึ้นเดินมาคว้าข้อมือเล็กของคนที่นั่งอยู่แล้วฉุดดึงให้ลุกขึ้น
“หมอปล่อยค่ะ”
“ปล่อยได้ยังไง ถ้าปล่อยจะท้องได้ยังไง ไปกันเถอะ กลับบ้านกัน ฉันต้องทำให้มานิดาท้องให้เร็วที่สุด”
“เดี๋ยวค่ะ ไปบ้านทำไม ทำไมไม่ทำที่โรงพยาบาลคะ มานิดารู้มาว่าการที่จะ...” ยังพูดไม่ทันจบความ เสียงทุ้มก็ดังแทรกขึ้นมาก่อน
“อือ...ที่บ้านเครื่องมือฉันครบกว่า และเครื่องมือของฉันก็ดีกว่าที่โรงพยาบาลเยอะมานิดา
“เดี๋ยวค่ะ ไปบ้านทำไม ทำไมไม่ทำที่โรงพยาบาลคะ มานิดารู้มาว่าการที่จะ...” ยังพูดไม่ทันจบความ เสียงทุ้มก็ดังแทรกขึ้นมาก่อน
“อือ...ที่บ้านเครื่องมือฉันครบกว่า และเครื่องมือของฉันก็ดีกว่าที่โรงพยาบาลเยอะมานิดา ไปกัน” พูดจบก็ฉุดดึงคนตัวเล็กลากเดินตามตัวเองออกไปอย่างใจร้อน ส่วนคนที่ถูกฉุดลากเดินตามไปนั้นก็ได้แต่มองซ้ายมองขวาด้วยความมึนงง และก็ยิ่งอายเมื่อทุกคนมองมาทางเธอและชายหนุ่มตลอดทางที่เดินไปยังลิฟต์
“หมอต่อปล่อยมือมานิดาก่อนค่ะ”
“ให้ฉันจับแบบนี้แหละดีแล้ว” เขาบอกเธอเมื่อเดินมาถึงหน้าลิฟต์โดยสารเฉพาะผู้บริหารอย่างเขาเท่านั้น ที่โดยสารลิฟต์ตัวนี้ได้ มือใหญ่จึงยกขึ้นกดลิฟต์
“แต่ว่ามันไม่เหมาะสมค่ะ หมอต่อเป็นเจ้านาย มานิดาเป็นลูกจ้าง อีกอย่างหมอไม่ควรทำแบบนี้กับฉันค่ะ” เธอบิดข้อมือตัวเองออกจากอุ้งมือใหญ่
“ก็ได้ๆ แต่ตอนนี้เราต้องกลับบ้านก่อน เครื่องมือทำลูกของฉันมันกำลังร้อน” แล้วก็ก้าวเท้าเดินเข้าไปในลิฟต์แล้วพยักหน้าให้คนตัวเล็กเดินตามเข้าไปพร้อมกับกดปิดประตูลิฟต์แล้วเลือกชั้นจอดรถของตัวเอง
เมื่อเข้ามาในลิฟต์แล้ว มานิดาก็ขมวดคิ้วขบคิดตามคำพูดของหมอด้วยความงุนงง เมื่อคำพูดของเขาก่อนหน้านี้ทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ และสังหรณ์ใจหวิวๆ ในอก แต่ก็สลัดความคิดนั้นทิ้งไปเมื่อคิดว่าตอนนี้แม่ของตัวเองได้รับการผ่าตัดแล้ว ขอแค่แม่ของเธอรอดปลอดภัย เธอยอมทำได้ทุกอย่าง บ้านของเธอไม่ได้ร่ำรวยอะไร เธออยู่กับแม่สองคน แม่ของเธอทำกับข้าวขายที่ตลาดส่งเธอเรียน และโชคดีที่ว่ามีบ้านเป็นของตัวเอง แต่ก็หลังไม่ใหญ่ เป็นบ้านหลังเล็กๆ น่าอยู่เหมาะสำหรับเธอและแม่ พ่อของมานิดาจากไปตั้งแต่เธออายุได้ 15 ปีแล้ว หญิงสาวจึงอยู่กับแม่เพียงสองคน แม่คือทุกอย่างสำหรับเธอ และเธอก็คือทุกอย่างสำหรับแม่เช่นกัน
กว่าจะมาถึงบ้าน ภพธรแทบอยากแวะข้างทางตลอดการเดินทาง เขาอยากแวะคอนโด แต่ก็อยากพามานิดามาดูบ้านของตัวเองด้วย เพราะหล่อนต้องย้ายเข้ามาอยู่จนกว่าจะท้องและคลอด จะพาไปห้องพักสำหรับแพทย์ก็ไม่ได้ เพราะเวลานี้คงเป็นเวลาพักผ่อนของหมอหลายคน เขาจึงไม่อยากไปทำเสียงดังรบกวนคนอื่น แม้จะเป็นห้องเก็บเสียง แต่ว่าเสียงของเขาเวลามีอารมณ์มันไม่ได้เบา
พอมาถึงบ้านก็ดับเครื่องยนต์แล้วลงไปเปิดประตูรถให้คนที่นั่งอึนมาตลอดทางลงมาจากรถ แล้วกระชากฉุดสาวเจ้าลงมาอย่างใจร้อน แต่ยังไม่ทันได้เดินไป รถของพ่อของเขาก็แล่นเข้ามาจอดเทียบข้างๆ จนเขาต้องมองไปยังรถของพ่อ แล้วก็เห็นท่านเดินลงมาจากรถ
“จะรีบไปไหนของมึงไอ้ต่อ”
“พ่อ...ไหนว่าจะพาสาวๆ ไปภูเก็ตไงครับ” เขาถามพ่อของเขาพร้อมกับปล่อยมือเล็กของมานิดาที่ตัวเองจับอยู่
“ก็ว่าจะไปนั่นแหละ แต่พอดีน้องๆ หนูๆ ติดสอบวันนี้ เลยไม่ได้ไป ว่าแต่มึงพาใครมาด้วยไอ้ลูกชาย เด็กใหม่เหรอวะ” ชายที่ไม่ยอมแก่ตามวัยเดินมาเดินวนรอบสำรวจสาวน้อยหน้าสวยหวานอย่างละเอียดพร้อมมองสลับกับหน้าลูกชายที่มองมาด้วยสายตาบอกว่าคนนี้พ่อห้ามยุ่ง...ของผม
“ปกติไม่เคยเห็นพาอีหนูที่ไหนมาบ้าน คนนี้พิเศษเหรอวะไอ้ต่อ”
“พ่อ...พูดแบบนี้เด็กก็เสียหายพอดี นี่คนจะมาอุ้มท้องหลานของพ่อนะ”
“อ้อ...คนที่จะมาอุ้มบุญหลานพ่อเหรอ แล้วมึงพามาทำไมที่บ้าน ทำไมไม่อยู่ที่โรงพยาบาล” ถามลูกชายทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าลูกชายคิดอะไร
“ก็ที่โรงพยาบาลเครื่องมือไม่ครบเท่าอยู่บ้าน”