“คือว่าหนู...หนูต้องย้ายมาอยู่ที่นี่จริงๆ เหรอคะ?”
“จริงสิ หนูต้องย้ายมาอยู่นี่ระหว่างที่ท้องหลานของพ่อ จะอยู่จนกว่าจะคลอด แล้วหนูเคยท้องมากี่คนแล้วฮึ” ยังคงรอคำตอบ
“คือว่าหนูยังไม่เคยค่ะ หนูเพิ่งจะทำงานนี้ครั้งแรก พอดีหนูจำเป็นต้องใช้เงิน” เธอบอกท่านขณะเดินลงบันไดลงไป
“หืม...แบบนี้นี่เอง หนูยังไม่เคยแต่งงานด้วยใช่ไหมนิดา”
“ค่ะ หนูยังไม่เคยมีแฟน ไม่เคยแต่งงานมาก่อนด้วย”
คนแก่ได้ยินอย่างนั้นแล้วก็ได้แต่ซ่อนยิ้มไว้แล้วเดินตรงไปยังสวนข้างๆ บ้านเพื่อจะพาเด็กสาวเดินดูสวนดอกไม้ที่ถูกดูแลเป็นอย่างดี
“ว่าแต่หนูจำเป็นต้องใช้เงินทำไมนิดา แล้วเยอะมากเลยเหรอถึงต้องทำแบบนี้ และเมื่อกี้ไอ้ต่อลูกพ่อมันก็พูดถึงเรื่องเงินค่ารักษา...” หยุดเดินแล้วหันมาถามคนที่เดินตามมา
“คือแม่หนูเส้นเลือดในสมองแตกค่ะ แล้วเราก็ไม่มีเงิน หนูเลยไม่รู้จะหาเงินด้วยวิธีไหนเลยเลือกวิธีนี้” เธอบอกท่านเสียงเศร้า
“หนูเป็นคนดีนะเท่าที่คุย เป็นเด็กดีด้วย พ่อชอบ แต่ว่าปกติอุ้มบุญเขาจะให้คนที่เคยมีประสบการณ์มาอุ้มบุญไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมลูกชายพ่อถึงเลือกหนู”
“เขาบอกแค่ว่าชอบความกตัญญูของหนูค่ะ” เธอบอกท่าน
หึ!
“เหรอ” ภวัตตอบรับแค่นั้น เพราะรู้ดีว่าลูกชายชอบอะไร คนอย่างภพธรลูกชายเขานั่นเหรอจะชอบคนกตัญญู มันน่ะปากล่อลวงชัดๆ และก็ได้ของดีเสียด้วยสิ เท่าที่คุยมานี่เด็กคนนี้เป็นคนดีทีเดียว ชักไม่อยากให้แค่อุ้มบุญแล้วสิ อยากได้มาเป็นสะใภ้จริงๆ ซะแล้ว แต่ก็ต้องรอดูต่อไป เพราะลูกชายของเขาทำตัวแปลกวันนี้ พามาที่บ้าน ทั้งๆ ที่ไม่เห็นต้องพามาอยู่บ้านเลย เช่าคอนโดหรือเช่าบ้านให้มานิดาอยู่ก็ได้
“เดี๋ยวพ่อพาเดินเข้าไปดูในสวนนะ” แล้วภวัตก็เดินนำหญิงสาวเข้าไปในสวนที่อยากจะอวด คือจริงๆ แล้วตัวเขาก็เพิ่งจะมาครั้งแรกในรอบหลายๆ สิบปีเลยก็ว่าได้
“ค่ะ”
“หนูนิดาอยู่บ้านนี้ก็คิดเสียว่าเป็นบ้านตัวเองนะ หนูต้องอยู่อีกนาน” เขาบอกเป็นนัย
“ขอบคุณนะคะที่ใจดีกับหนู”
“ไม่ใจดีได้ยังไง หนูจะมาเป็นแม่ของหลานพ่อนะ แล้วนี่เก็บกระเป๋ามารึยังนิดา”
“ยังเลยค่ะ หนูถูกฉุดลากพามานี่ก่อน”
“ลูกชายพ่อเป็นคนแบบนี้แหละ ไอ้ต่อมันใจร้อน แต่มันเป็นหมอที่ดีนะ มือดีระดับหนึ่งของโรงพยาบาลเราเลยนะ และที่สำคัญมันทำลูกเก่งด้วย เพราะต่างชาติก็ต่างมาให้มันทำลูกให้ ใครที่ติดลูกยากๆ มีลูกเลยนะถ้ามาหาหมอต่อ” เขาเน้นย้ำทุกคำในประโยค และคำชื่นชมลูกชายก็มีความหมายอีกความหนึ่งแอบแฝงอยู่ด้วย
“หนูไม่รู้หรอกค่ะ แต่เท่าที่หนูเห็น เขาไม่น่าเป็นหมอที่ดี เขาหื่น”
หึหึ
“ปกติของมันแหละ มันหื่นกับบางคนเท่านั้นแหละ หนูอย่ากลัวมันเลย มันแค่หยอกน่ะเมื่อกี้”
“แค่หยอก? แต่หนูว่าถ้าคุณพ่อมาช้า หนูอาจจะ...” เธอหยุดพูดแล้วก็มองไปยังดอกไม้ในสวนเมื่อไม่กล้าพูดออกมา
“อย่าไปถือสามันเลย ว่าแต่แม่หนูรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลไหน ทำไมไม่ย้ายมาที่โรงพยาบาลของไอ้ต่อล่ะ มันเป็นผู้บริหารและเป็นเจ้าของน่ะนั่น คือมันรวยมากเลยนะหนูนิดา หนูควรเรียกเงินจากมันเยอะๆ”
‘นี่ท่านเป็นพ่อประเภทไหนเนี่ย ถึงได้พูดให้คนอื่นเรียกเอาเงินลูกชายตัวเองเยอะๆ แถมยังอวดความรวยลูกชายอีก แล้วก็พูดได้หน้ายิ้มเหมือนกับว่าเป็นเรื่องปกติ’ มานิดาพึมพำในใจและมองใบหน้าที่ยิ้มของท่าน
“คือว่า...หนูขอแค่ค่ารักษาแม่ก็พอค่ะ”
“อือ...ได้ไงหนูนิดา เรียกเงินมันเยอะๆ เถอะเชื่อพ่อ ไอ้ต่อมันเปย์หนักด้วยนะถ้าเรื่องผู้หญิง มันน่ะเที่ยวหญิงปีๆ นึงหมดไปเยอะมาก แถมเลี้ยงอีหนูเยอะสุดๆ แต่ดีหน่อยที่มันไม่กินพยาบาลหรือหมอในใต้ปกครอง มันกินข้างนอก อันนี้พ่อชื่นชมมัน” นี่แหละดีเอ็นเอของเขาที่ถ่ายทอดไปยังลุกชายแบบไม่ต้องสงสัยเลยว่าภพธรได้ใครมาและเขาก็แสนจะภูมิใจในตัวลูกชายคนนี้
“ไม่ดีกว่าค่ะ หนูขอแค่นี้พอ อีกอย่างหนูไม่อยากเป็นอีหนูของหมอต่อด้วย” เธอบอกท่าน
“มักน้อยแท้เด็กน้อย แต่แปลก...หนูไม่สนใจลูกชายพ่อเลยเหรอ มันออกจะหล่อลากไส้ขนาดนั้น แต่ก็น้อยกว่าพ่อนิดนึงแหละ ลูกจะมาหล่อกว่าพ่อได้ยังไงเนาะหนูนิดา” ท้ายประโยคไม่วายชมตัวเอง และก็อยากจะหัวเราะดังๆ ยังมีอีกเหรอผู้หญิงที่ไม่สนใจเงินทองของลูกชายเขาและหน้าหล่อๆ ของภพธร
“หนูจะเอาเฉพาะที่หนูคิดว่าเงินนั้นมันสมควรเป็นของหนู ไม่เลยค่ะ หนูไม่สนใจลูกชายคุณพ่อเลย” เธอบอกท่าน แต่ก็หลบสายตาที่จ้องมองมา
“อือ...เดี๋ยวพ่อพาไปดูสระว่ายน้ำดีกว่านะ” พยักหน้ารับรู้ สายตาเสือแก่อย่างภวัตมีเหรอจะมองไม่ออกว่ามานิดาเองก็สนใจลูกชายเขาเหมือนกันแหละ
“ค่ะ”
แล้วทั้งสองก็เดินตามกันออกไปจากสวนดอกไม้ตรงไปยังสระว่ายน้ำที่อยู่ติดกับตัวบ้านอีกมุม