ถ้าดื้อจะเจ็บกว่านี้

1495 Words
พรึ่บ “โอ้ย! ฮือ” ฉันร้องไห้ออกมาเบาๆ ข้อเท้าข้างซ้ายของฉันมันบวมมาก แม้ฉันจะทิ้งน้ำหนักไปที่เท้าอีกข้าง แต่มันก็ไม่ไหว ทั้งที่อยากจะหนีออกไปแท้ๆ ทำไมขาต้องมาเป็นแบบนี้ด้วยก็ไม่รู้ “ไปนั่งทำอะไรตรงนั้น?” น้ำเสียงเย็นชามาพร้อมกับร่างสูงกำยำของเฮียสิงค์ ฉันเบือนหน้าหนีไปทันทีที่เขาก้าวผ่านประตูเข้ามา ไม่ใช่ว่าฉันโกรธเขาจนไม่อยากจะเห็นหน้า แต่เป็นเพราะว่าเฮียสิงค์เดินเข้ามาในสภาพกึ่งเปลือยต่างหาก บอกตรงๆเลยว่าฉัน …. ฉันรู้สึก ฉันรู้สึกว่าร่างกายตัวเองวูบวาบแปลกๆ กระแสไฟบางเบาวิ่งผ่านร่าง ตอนที่เห็นรอยสักบนแผ่นอกขวาเต็มสองตา เขาสักจริงๆด้วย เป็นรอยสักที่สวยและมีเสน่ห์ แต่ที่มันดูมีเสน่ห์ได้ขนาดนี้ คงเป็นเพราะอยู่บนตัวเขา โดยมีเบ้าหน้าฟ้าประทานเป็นองค์ประกอบแน่ๆ “เป็นอะไร เจ็บขา?” “ก็ ก็เห็นอยู่ไม่ใช่หรือไง” “สมน้ำหน้า ใครบอกให้ดื้อกับเฮีย” มือที่เคยดึงฉันด้วยเรี่ยวแรงมหาศาล เอื้อมมาจะจับข้อเท้าฉันที่นั่งแหมะอยู่บนพื้น ด้วยความกลัวที่มีอยู่ตั้งแต่แรก ทำให้ฉันชักเท้าหนีมือที่ยื่นมา แต่ฉันเจ็บอยู่ หนีไปไหนก็ไม่รอด สุดท้ายเขาก็จับข้อเท้าฉันได้อยู่ดี ซึ่งตอนนี้ฉันก็ไม่รู้ ว่าจะหนีให้ตัวเองเจ็บเพิ่มทำไม ให้เขาจับตั้งแต่ทีแรกก็จบ “ฮือ มันเจ็บนะ” “อยู่นิ่งๆ ถ้าดื้อจะเจ็บกว่านี้” ฉันเบือนหน้าหนีอยู่ตลอด ไม่ได้มองว่าเฮียสิงค์ทำอะไรกับเท้าของฉัน มันทั้งไม่อยากมองเขาเพราะเขาเปลือย ทั้งไม่อยากมองเพราะไม่อยากเห็นหน้าเขา เขาเอาแต่ว่าฉัน ไม่ใจดีเหมือนเมื่อก่อนเลย เหมือนเขาจะทำตัวร้ายกาจกับฉันมากขึ้น หลังจากที่ฉันเผยความรู้สึกออกไปให้เขารู้ “ซีดส์~ โอ้ย อย่าจับแรงสิ” เสียงซี๊ดปากของฉันมันแปลกหรือยังไง ทำไมเขาถึงได้มองด้วยสายตาแปลกๆ ฉันที่ไม่อยากมองหน้าและร่างกายของเขา จำต้องหันกลับมามองบ่อยๆ เพราะกลัวเขาจะหักขาข้างที่เจ็บของฉันทิ้ง “หึ! เจ็บแบบนี้ คงไม่มีปัญญาไปเอากับใครได้แล้วสินะ” คำพูดกับแววตาดูถูก ทำให้ฉันฉุนมาก มือฉันทำงานทันที หวังตบใบหน้าคนพูด แต่เหมือนเขาจะเห็นทุกการกระทำของฉัน เขาหยุดมือข้างนั้นได้ ซ้ำยังออกแรงบีบจนฉันนิ่วหน้า “คนอย่างมี่ ถ้าจะเอา ถึงขาเจ็บอยู่มี่ก็เอาได้” ความโกรธทำให้ฉันเลือกใช้คำพูดในการเอาชนะ ก็เอาเซ่! ขาเจ็บแค่นี้ คิดว่าคนอย่างอีมี่จะไม่มีปัญญางั้นเหรอ ก็คิดถูกแล้วล่ะ แต่ขอปากแจ๋วหน่อยเถอะ คนมันโกรธมากอะ “งั้นเหรอ เ****นมากหรือไง กูสงเคราะห์ให้ได้นะ ถ้าคันมากขนาดนั้น” ฉันไม่รู้ว่าเฮียมันเป็นบ้าอะไร ถึงได้หยาบคายกับฉันได้ขนาดนี้ ฉันมองเฮียด้วยสายตาผิดหวัง ฉันหลงรักผู้ชายคนนี้ไปได้ยังไง ทำไมเขาไม่เป็นอย่างนี้กับฉันตั้งแต่แรก ทำไมเพิ่งมาเป็นเอาตอนนี้ “คนอย่างเฮีย มี่ไม่อยากได้หรอก ขนาดแก้ผ้าต่อหน้าขนาดนี้มี่ยังไม่มีอารมณ์เลย” พูดจบฉันก็หันหลัง ใช้แรงที่มีลากร่างออกห่างอย่างนึกรังเกียจ แต่ขยับไปได้ไม่ไกล ก็ถูกอุ้มขึ้นจากพื้นไปโยนลงบนเตียง ความนุ่มของเตียงไม่ได้ช่วยอะไรเลย ตอนนี้ฉันทั้งเจ็บขา ทั้งจุกท้อง ทั้งยังถูกทับจนขยับไปไหนไม่ได้อีก “ปากเก่ง” ฉันเหนื่อยที่จะต่อล้อต่อเถียงกับเฮียแล้ว เลยเลือกที่จะหลับตาแล้วเงียบ ฉันเจ็บและจุกมากๆ หวังให้ความเงียบทำให้เขาใจเย็นแล้วถอยออกไปเอง หมับ! “อื้อ” ฉันลืมตามองอย่างตกใจ ใบหน้าฉันถูกคว้าไปจับไว้ ก่อนที่ฉันจะโดนจูบแบบไม่ได้ตั้งตัว ลิ้นที่กำลังลากผ่านริมฝีปากทำให้สมองฉันอื้อ ฉันไม่รู้ว่าควรอ้าปากอย่างที่เขาต้องการให้ทำ หรือเม้มมันไว้ ปิดกั้นลิ้นของเขา ฉันทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง เพราะนี่มันเป็นจูบแรกของฉัน “อืม อ้าสิ!” เสียงสั่งดุๆ ทำให้ฉันกลัวจนเผลอทำตาม สายตาที่มองนิ่งสบเข้ากับฉัน มันทำให้ฉันแทบไม่เป็นตัวของตัวเอง ฉันได้แต่มองลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้น เหมือนต้องการจะค้นหาอะไรบางอย่าง ในขณะที่ลิ้นกับปาก ฉันปล่อยให้มันถูกชักนำโดยคนที่คร่อมทับอยู่ “อือ หะ หายใจไม่ออก” ไม่รู้เขาจูบนานจนฉันหายใจไม่ทัน หรือฉันหลุดเข้าไปในภวังค์จนลืมหายใจ ในช่วงที่รู้สึกว่าลมหายใจจะถูกช่วงชิงไปจนหมด ฉันรีบผลักใบหน้าเขาออก บอกด้วยเสียงกระตุกกระตัก จนเขาทำสีหน้าไม่พอใจใส่ “หายใจทางจมูกดิวะ หัวช้าชิบหาย” เฮียสิงค์ดูหงุดหงิดมาก เขาพ่นคำหยาบใส่ฉันอีกแล้ว ฉันลองหายใจทางจมูกอย่างที่เขาว่า ซึ่งฉันก็ไม่เห็นว่ามันจะต่างกับเมื่อกี้ตรงไหน “อือ ไม่เห็นดีขึ้นเลย” ฉันพูดออกไป น้ำเสียงเบามากจนฉันเองก็แทบไม่ได้ยิน ลิ้นฉันมันคงชาแหละ เพราะเขาทั้งดูดทั้งดึง ไหนจะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปอีก ที่ยังพูดได้ฉอดๆอยู่นี่ ก็ถือว่าดีมากแล้วนะ “เอาใหม่” ฉันไม่รู้ว่าเขาบอกฉัน หรือบอกตัวเองกันแน่ หลังจากที่พูดอย่างนั้น เขาก็ทำกับฉันแบบเดิม ลิ้นลากผ่านริมฝีปากด้านนอกก่อน เหมือนหยอกเย้าอยู่ในที ฉันที่ผ่านประสบการณ์มาแล้วครั้งนึง รู้ว่าหลังจากนี้เขาต้องสั่งให้อ้าปากขึ้นแน่ๆ ฉันที่ไม่ชอบการถูกออกคำสั่ง เลยชิงอ้าปากขึ้นเอง “อืม” เหมือนฉันจะเห็นแววตาพอใจในดวงตาคู่นั้น ลิ้นที่แทรกผ่านเข้ามาด้านในทำฉันหัวหมุน แต่มันไม่ได้แย่เหมือนตอนแรก ครั้งนี้ฉันควบคุมลมหายใจได้ดี และนั่นมันก็ทำให้ฉันรู้สึกดี ดีมากจนเริ่มรู้สึกแปลกบริเวณกลางกาย ร่างกายในส่วนนั้นขับอะไรบางอย่างออกมา จนฉันรู้สึกได้ถึง ความเปียกแฉะ และการบีบรัดตัวภายในจุดซ่อนเร้น ฉันส่งเสียงครางน่าอายออกไปผ่านลำคอ เสียงของฉันดังอยู่เพียงไม่นาน ฉันก็เริ่มได้ยินเสียงครางทุ้ม ก่อนที่ฉันจะรู้สึกแปลกมากขึ้น เมื่อมีมือข้างหนึ่งลูบไล้ตรงเป้ากางเกงในของฉัน “อ๊ะ ไม่ ไม่นะ” ฉันผละออกไปอย่างรู้สึกกลัว ฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมาทำอะไรแบบนี้กับเขา ฉันไม่ได้คิด และไม่เคยเตรียมใจเลย “อืม ไหนบอกว่ารักไง แค่นี้ไม่ได้เหรอ” “ไม่ ไม่นะ มี่ไม่เคยคิดอยากทำอะไรแบบนี้กับเฮีย” ฉันไม่เคยคิดจริงๆ แม้ฉันจะดูแก่แดดแก่ลม แต่เรื่องแบบนี้ไม่เคยอยู่ในหัวฉันสักครั้ง แม้จะเคยดูหนังอย่างว่าผ่านตามาบ้าง แต่ฉันไม่เคยคิดหรือจินตนาการถึงอะไรแบบนี้เลย ฉันกลัว ฉันกลัวจริงๆ กลัวบางสิ่งที่มีขนาดใหญ่โตของพวกผู้ชาย “เพราะแบบนี้ไง ฉันถึงบอกว่าเธอไม่ได้รักฉัน” หา! เขาเคยพูดแบบนี้กับฉันตอนไหน ฉันกำลังจะถาม แต่กลับตกใจจนพูดไม่ออก เฮียสิงค์กำลังเปลื้องผ้า เขากำลังถอดกางเกงขาสั้น ที่สวมอยู่บนตัวเพียงชิ้นเดียวออกไป “กรี๊ด!” ฉันยกมือปิดตาอย่างรวดเร็ว เพื่อให้สายตาหลีกหนีจากอะไรบางอย่างที่ทั้งใหญ่และยาว แต่ทั้งๆที่อยากหนี แต่ภาพที้เห็นเพียงไม่นานกลับติดตา ตอนนี้ฉันคิดว่าตัวเองสามารถวัดขนาดมันได้อย่างแม่นยำ ขนาดมันใหญ่กว่าข้อมือฉัน และยาวมากจนแทบจะเท่ากระบอกไฟฉายที่สมัยก่อนคนชอบพกพา เป็นขนาดที่ถ้าใส่เข้ามา ตรงนั้นมันต้องฉีกแน่ๆ “……” ฉันค่อยๆกางนิ้วมือออก เพื่อดูว่าเฮียสิงค์กำลังทำอะไรอยู่ เมื่อเห็นสิ่งที่เขากำลังทำ ฉันรีบเอามือออกจากหน้า แล้วเลื่อนมันลงไปปิดจุดซ่อนเร้นตัวเองทันที เผลอแค่แป็บเดียว เขาสามารถถอดชุดด้านล่างของฉันออกไป โดยที่ฉันไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD