สายตาของผมเหลือบไปเห็นซอยแคบๆ ที่มีแต่ต้นไม้ที่ขึ้นรกร้างก็พาร่างบางไปแอบอยู่ในนั้น ผมยืนหันหลังพิงกับต้นไม้โดยมีร่างของบัวยืนอยู่ด้านหน้าพร้อมกับชะโงกออกไปมองพวกอริผมที่หยุดอยู่ตรงนั้น ในมือพวกมันมีอุปกรณ์ครบเลยด้วย ถ้าผ่านตรงนี้ไปได้ผ่านไปไม่กี่ซอยก็จะถึงบ้านของผม แต่ถ้าพวกมันยังอยู่ตรงนี้มีหวังผมได้จบอยู่ตรงนี้แน่ ผมหอบหายใจเหนื่อยและหันไปมองร่างบางที่หน้าซีดไปหมด บัวเงยหน้าสบตากับผมจนรับรู้ถึงลมหายใจที่รดกันไปมา ฝ่ามืออุ่นของเธอวางอยู่ที่แผงอกของผมที่เต้นรัวเพราะวิ่งมาไกล ส่วนฝ่ามือของผมก็โอบเอวบางไว้ จนกระทั่งเราทั้งคู่ผละออกจากกันเมื่อรู้สึกตัว
“โทษทีที่ต้องมาให้เจออะไรแบบนี้ เดี๋ยวฉันจะล่อมันไปอีกทาง เธอก็ออกจากตรงนี้ได้แล้ว”
“เดี๋ยวสิ ถ้านายออกไปต้องโดนยำแน่ มาด้วยกันก็ต้องออกไปพร้อมกันสิ”
“แต่เธอไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะงั้น...”
“เฮ้ย แม่งกูได้ยินเสียงคุยกันออกมาจากตรงนั้นวะ มึงไปดูดิ!” ผมหันกลับไปมองพวกมันที่ส่งคนให้เดินเข้ามาในซอยแคบๆ ซวยล่ะสิ ทางที่ผมแอบไม่สามารถหนีได้แล้วด้วย
หมับ
ร่างบางสวมกอดเอวผมแน่น พร้อมกับใบหน้าที่ซบลงกับอกของผม บัวดูตื่นตัวมากเพราะตัวเธอสั่นจนผมเม้มปากตัวเอง ฝ่ามือของผมรวบเอวบางให้แนบชิดกับร่างกายของผม ใบหน้าของผมเลื่อนเข้าไปใกล้กับใบหน้าของเธอบริเวณข้างใบหู
“ไม่ต้องกลัว ฉันไม่ปล่อยให้มันมาทำอะไรแน่ๆ” ใบหน้าของบัวเงยหน้าขึ้นเลยทำให้ใบหน้าของเราสองคนชนกัน ริมฝีปากเฉียดกันจนรับรู้ถึงความร้อนระอุในกาย ผมสบตากับบัวอย่างนิ่งๆ ก็พบว่าเธอหน้าแดงมาก สงสัยจะกลัว ผมเลยกระชับเอวเธอให้ใกล้กับตัวเองมากยิ่งขึ้น
“บอกแล้วไงว่าไม่ต้องกลัว หน้าแดงหมดเลยนะ”
“อะ เออ ปะ เปล่ากลัว...”
“แล้วหน้าแดงทำไมถ้าไม่ได้กลัว?” ผมมองเธอด้วยสีหน้าสงสัย บ้าหรือเปล่า? หรือเพราะมันร้อนวะ แต่ช่างเหอะ ยังไงก็จะให้คนที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยมาโดนลูกหลงไม่ได้หรอก ผมหันไปมองพวกมันที่กำลังเดินมาถึงเราสองคนที่แอบอยู่หลังต้นไม้
“เฮ้ย ไม่ต้องแล้ว มีคนเห็นไอ้ปืนอยู่ทางนู้น ไป!” เสียงลมหายใจของผมพ่นออกมาอย่างโล่งใจ ก่อนจะผละตัวออกจากร่างบางและเดินออกไปดูพวกมันที่วิ่งไปอีกทางแล้ว
“เวรจริง กว่าจะไปได้นะพวกมึง” ผมหันกลับไปมองบัวที่เดินออกมาด้วยท่าทางที่โซเซจนผมขมวดคิ้ว ใบหน้าของเธอยังคงแดงกร่ำจนผมเอียงคอมองเธอ
“ทำไมหน้ายังแดงอยู่ เลิกกลัวได้แล้ว มันไปหมดแล้ว”
“ระ รู้แล้วล่ะนา”
“งั้นแยกกันตรงนี้แล้วกัน โทษด้วยที่พาเธอมาเจอเรื่องซวยๆ เดินไปทางนั้นก็จะออกไปที่ย่านการค้าแล้ว” นิ้วมือผมชี้ไปที่ทางแยกที่ไม่ได้เปลี่ยวเท่าไหร่ เพราะเดินไปไม่ถึงหนึ่งนาทีก็จะทะลุไปที่ย่านการค้าแล้ว ส่วนผมก็หันหลังกลับไปอีกทางที่สามารถทะลุไปถึงปากซอยทางเข้าบ้านเหมือนกัน
ตุ้บ!
เสียงอะไรบางอย่างล้มลงทำให้ผมหันหลังกลับไปดูก็พบว่าร่างของบัวล้มฟุบกับพื้นดินที่ร้อนระอุ ผมวิ่งไปช้อนร่างบางมาดูก็พบว่าใบหน้าของเธอแดงไปหมด ตัวของเธอก็เย็นด้วย
“ลมแดดเหรอวะ? ฉิบหาย วันซวยของกูจริงๆ สินะ!” ผมโมโหตัวเองที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ แต่ถึงแบบนั้นก็ช้อนร่างบางที่ตัวเบาหวิวมาไว้ในอ้อมแขน และพาเธอเดินกลับไปที่บ้าน โดยที่ไม่ได้หนักอะไรเลย ตัวเบาแบบนี้กินอะไรบ้างหรือเปล่าวะเนี่ย!
เมื่อมาถึงบ้านผมก็วางร่างบางลงที่โซฟาก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป และออกมาพร้อมกับกะละมังผ้าเช็ดตัวผืนเล็กสีฟ้า ผมนั่งลงข้างเธอและปัดปอยผมที่ผละใบหน้าสวย ผมจับจ้องใบหน้าของเธออย่างนิ่งเฉย เธอเป็นคนที่สวยมากๆ เลยนะ หุ่นดี แต่ก็นั่นแหละไม่ได้ทำให้ผมหวั่นไหวหรอก ผมเช็ดใบหน้าให้เธออย่างแผ่วเบา ไปตามลำคอขาว และแขนทั้งสองข้าง เธอเป็นคนที่แต่งตัวแบบไหนก็ดูดีไปหมดเลยสินะ เคยเห็นผู้หญิงแต่งตัวโป๊ๆ แต่งตัวน่ารักๆ แปลกๆ มาก็เยอะ แต่สำหรับบัวแล้ว ต่อให้เธอเอาผ้าม่านมาคลุมแค่ตัวเธอก็ยังดูดีในสายตาของผมนะ พูดง่ายๆ เธอเป็นคนแรกล่ะมั้งที่ดึงดูดสายตาผมเรื่องการแต่งตัว นอกนั้นก็ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่
Rrr
เสียงมือถือของบัวดังขึ้นในกระเป๋า ผมตัดสินใจที่จะไม่ยุ่งกับของๆ เธอ แต่ทว่าปลายสายก็ยังคงโทรมาติดกันจนผมที่เดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เดินไปทำกับข้าวกิน กระทั่งมานั่งเล่นเกมอยู่ข้างเธอก็ต้องถือวิสาสะหยิบมือถือเธอออกมาดู
‘KIN UNCLE’
“อาคิน?” ผมมองปลายสายและลังเลที่จะกดรับ แต่ทว่าอาของบัวโทรมา... มันก็ดีนะ เพราะจะได้ให้เขามารับเธอ มาอยู่ที่บ้านกับเขาแบบนี้มันไม่ดีเท่าไหร่หรอก ที่สำคัญเขาเองก็ไม่ชอบให้ใครมายุ่งในบ้านด้วยถ้าไม่สนิทกัน
“สวัสดีครับ”
(“บัวอยู่ไหน? แล้วใครพูด”) น้ำเสียงเข้มดังขึ้น ทำให้ปืนพอจะรู้เลยว่าอาคนนี้น่าจะเป็นคนที่ดุแค่ไหน
“คือบัวอยู่ที่บ้านผม เธอเป็นลมผมก็เลยช่วยเธอไว้”
(“อยู่ที่ไหน! บอกที่อยู่มา ฉันจะไปรับบัว”) ผมขมวดคิ้วและบอกปลายสายไปซึ่งเขาก็ดูรีบร้อนจนผมงงเหมือนกัน แต่ก็ช่างเถอะ รีบๆ ให้ยัยนี่ไปน่ะดีแล้ว เดี๋ยวพวกเพื่อนผมมาก็จะมาเห็นหาว่าเป็นเมียใหม่ผมอีก และผมเป็นพวกที่ไม่ชอบอธิบายด้วยสิ
“อื้อ...” ร่างบางขยับตัวไปมา จนผมผละสายตาจากจอเกมและหันไปมองเธอที่ลืมตาขึ้น บัวลุกขึ้นนั่งและกุมศีรษะของตัวเอง ก่อนจะมองสบตากับผม
“ฉันเป็นอะไรเหรอ?”
“เธอเป็นลม ฉันเลยพามาที่บ้านของฉัน... แต่เดี๋ยวจะมีคนมารับเธอแล้วล่ะ”
“ใคร?”
“ก็มีคนโทรมาหาเธอ ชื่อคิน ฉันเลยบอกที่อยู่ไปแล้ว”
“อะ อะไรนะ!” บัวเบิกตากว้างและนอนคว่ำหน้าลงกับโซฟาอีกครั้งจนผมมึนงงกับท่าทางของเธอ ใบหน้าสวยหันมามองผมด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“อะไรของเธอ มองฉันแบบนี้ทำไม?”
“ปืนอะ ไม่น่าไปบอกเลย...” สีหน้าของเธอดูแย่มากจนผมเองก็ไม่ได้สนใจอะไร ผมเดินเข้าครัวไปเทน้ำเย็นมาให้เธอเพื่อรอให้อาของเธอมารับ บัวนั่งขัดสมาธิและรับน้ำจากมือผมไปดื่มจนหมดแก้ว เธอก็มองค้อนผมอีกครั้ง
“คนใจร้าย ทำไมต้องบอกอาคินด้วยว่าฉันอยู่ที่นี่!”
“อ้าว แล้วฉันจะไปรู้เหรอ เขาดูห่วงเธอนี่นา ที่สำคัญฉันไม่ชอบให้ใครมาอยู่ที่บ้านฉันนานๆ ด้วย”
“แต่นายก็พาฉันไปเจอเรื่องร้ายๆ นะ”
“ตอนนี้ก็โอเคแล้วปะวะ! รีบๆ ไสหัวเธอออกไปเหอะนา” ผมออกปากไล่เธอเพราะไม่ชอบที่เธอเป็นเพื่อนกับไอ้ไพเรท ร่างบางลงมานั่งข้างล่างกับผมก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างแรง
“เฮ้อออ... ว่าแต่นายอยู่คนเดียวเหรอ?”
“อืม”
“จริงสิ แผลนาย” จู่ๆ บัวก็ประคองแก้มทั้งสองข้างของผมให้หันไปมองเธอ สายตาคมมองลงมาที่ริมฝีปากของผม ซึ่งแน่นอนว่ามันบวมเพราะโดนชก เธอเม้มปากตัวเองก่อนจะใช้นิ้วโป้งลูบไล้ไปมาที่บาดแผลของผม
“เจ็บไหมอะ?”
“เจ็บ และก็นะปล่อยมือด้วย” ผมปัดมือเธอออกไป และหันไปจับจ้องเกมในจอทีวีขนาดใหญ่ต่อ เรานั่งกันอยู่แบบนั้นโดยไม่พูดอะไรกันเลยกระทั่งเสียงรถดังขึ้นบัวขยับเข้ามาใกล้ผมและเขย่าแขนผมด้วยสีหน้าที่เว้าวอน
“อาคินมาแล้วแน่เลย นายออกไปบอกเขาได้ไหมว่าฉันกลับไปแล้ว นะๆ ปืน”
“เฮ้ย! อย่ามาตลกนา ออกไปเลยไป เดี๋ยวเพื่อนฉันจะมาแล้ว!”
“ปืน ฉันขอร้องล่ะนะ”
“ไม่!” บัวถูกผมกระชากข้อมือให้เดินออกมาจากบ้าน ก่อนจะมองรถหรูที่แสนจะแพงกับร่างสูงใหญ่ของชายวัยประมาณสามสิบต้นๆ เขาดูดีและแต่งตัวด้วยชุดสูทสีน้ำเงิน ใบหน้าหล่อเหลา ดวงตาคมหรี่มองมือของผมที่จับมือบัวอยู่ ใบหน้าของเขาดูไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ก่อนจะถือวิสาสะเดินมาเปิดประตูบ้านผมทั้งๆ ที่ผมยังไม่ได้เปิดออกไป
หมับ
“ปล่อยมือบัวด้วย”
“...” น้ำเสียงเข้มทำให้ผมปล่อยฝ่ามือบางที่ไม่ยอมปล่อยมือผม บัวดูสั่นๆ ยังไงไม่รู้ แต่ทว่าผมก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะคิดว่าเธออาจจะกลัวอาตัวเองดุมากกว่า ผมพยายามปล่อยมือเธอแต่บัวก็บีบมือผมแน่น จนอาของเธอมองผมด้วยสีหน้าไม่พอใจอย่างสุดๆ
“บัว ปล่อยมือมัน”
“บัวจะกลับเอง อาคินปล่อยมือบัวก่อน”
“อาจะไม่ให้บัวกลับเอง หรือจะให้อาเอาเรื่องที่บัวมาอยู่กับเด็กคนนี้ไปบอกพ่อบัวดีล่ะ”
“บัวโตแล้วนะอาคิน บัวอายุยี่สิบสี่แล้ว บัวโตพอที่จะมาอยู่กับใครสักคนที่บัวไว้ใจ...”
“งั้นเหรอ? ถ้างั้นก็กลับเองเลยสิ แล้วเราจะได้เห็นดีกัน บัวก็รู้ว่าอาทำจริง” ผมมองบัวที่กัดริมฝีปากของตัวเองแน่น ก่อนจะค่อยๆ ปล่อยมือผมออกไป เธอถูกอาของเธอพาตัวไปแต่ไม่วายก็ยังหันมามองผมด้วยสีหน้าที่เหมือนจะงอนๆ
“นายมันใจร้ายปืน นายมันบ้า!”
“กล้าดียังไงมาว่าฉันวะ ยัยนี่” บัวชี้หน้าผมก่อนจะขึ้นรถและขับออกไป ส่วนผมก็รู้สึกตงิดๆ กับการกระทำของทั้งสองคนที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ หรือว่าผมจะคิดไปเองวะ ช่างแม่งเหอะ ยังไงก็ไม่ได้เจอกันอีกอยู่ดีอะ!
“ไอ้ปืน พวกกูมาแล้ว”
“อ้าวมาแล้วเหรอ?”
“เออ มีใครมาด้วยนะ... มึงคงจะดีใจ หุหุ” ผมขมวดคิ้วให้กับเพื่อนตัวเองที่เดินชนผมเข้าไปในบ้านพร้อมกับสาวน้อยที่มันควงเข้าไป และผมก็เข้าใจในสิ่งที่พวกมันพูด เมื่อร่างบางเดินมาหยุดตรงหน้าผม ใบหน้าหวานน่ารัก มีผมสีดำปะบ่า ดวงตากลมโตและริมฝีปากที่กำลังยิ้มให้กับผมอยู่ ผมยกยิ้มขึ้นมา แน่นอนว่าเธอคนนี้เป็นผู้หญิงอีกคนที่ทำให้ผมรู้สึกดีเวลาที่อยู่ด้วยกันนอกจากยิ้มอะนะ
“จอย”
-PUEN TALK END-