bc

PSYCHO ROMANCE+ รักเด็กเลว

book_age18+
332
FOLLOW
1.0K
READ
forbidden
playboy
badboy
sweet
school
intersex
love at the first sight
brutal
passionate
seductive
like
intro-logo
Blurb

ผมเป็นคนไม่เอาไหน ใครๆ ก็พูดแบบนั้น

ผมเลว ผมเกเร และไม่มีใครเอาผมอยู่สักคน แม้แต่ครอบครัวของผมเอง

เด็กอายุสิบแปดอย่างผม อาจจะเรียกว่าเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ แต่ทว่า... สำหรับคนอย่างผมมันเกินจะเยียวยาแล้วล่ะ

!

และการที่ผมได้เจอหญิงสาวคนหนึ่งหน้าตาสวยมาก แต่นิสัยเอาแต่ใจของเธอทำให้ผมหงุดหงิด

และเกลียดท่าทางของเธอมากที่สุด

เธอเข้ามาวุ่นวายกับชีวิตผม ซึ่งผมไม่ชอบ จะจัดการยังไงให้เข็ด คงต้องใช้ความ

เลว

ที่มีจัดการให้อยู่มัด

และถีบหัวเธอให้ออกไปจากชีวิตของผมซะ

chap-preview
Free preview
PSYCHO ROMANCE+ :: INTRO [40%]
-PUEN TALK- “ไอ้ปืน นั่งสูบบุหรี่อยู่นี่เองนะมึง ตกลงไม่เข้าเรียนว่างั้น?” “อือ” “ตกลงเจ๊ยิ้มไปไหนอะ? หรือไปเป็นแฟนกับไอ้หน้าหล่อนั่นแล้ว” “ถ้ามึงยังอยากเป็นเพื่อนกับกูอยู่ มึงช่วยหุบปากและเลิกพูดชื่อของคนที่กูไม่อยากนึกถึงสักที!” ผมตวัดสายตามองไอ้นัทเพื่อนร่วมห้อง และเพื่อนสนิทที่นั่งกินเหล้าอยู่ มันทำหน้าเหวอไปทันทีที่ผมจับจ้องมันด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความโมโหและโกรธ ปกติผมจะนิ่งอยู่แล้วไง แต่พอมันจุดประกายในสิ่งที่ผมไม่ชอบและไม่อยากได้ยินก็จะเป็นแบบนี้ล่ะนะ ผมชื่อ ‘ปืน’ อายุสิบแปดปีเรียนอยู่ชั้นม. 6 โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาเข้าเรียนแล้วแต่ผมกับพวกกลับมานั่งกินเหล้าดูดบุหรี่อยู่ที่หลังโรงเรียนที่เป็นแหล่งกบดานมั่วสุมสิ่งอบายมุขต่างๆ ถึงผมจะเกเรและเลวแค่ไหน แต่สิ่งเดียวที่พวกผมไม่ยุ่งเลยคือสิ่งที่ผิดกฎหมายทุกอย่าง แต่ถ้าเป็นเหล้ากับบุหรี่อันนี้มันเป็นสิ่งที่คู่ควรกับพวกผมมานาน ผมถอนหายใจออกมาและปลดเนกไทของชุดนักเรียนออกจากคอเกือบถึงอก ฝ่ามือทั้งห้าเสยผมรองทรงสูงสีดำน้ำตาลขึ้นไปอย่างหงุดหงิด “แล้วเจ๊กันก็หนีมึงไปอยู่เกาหลี?” “ช่างแม่งเหอะ กูไม่สนใจอะไรทั้งนั้น อยู่คนเดียวดีกว่า...” “มึงคิดถึงเจ๊ยิ้มอยู่ใช่ไหม?” “ไอ้นัท อยากเจอหมัดหรืออยากเจอตีน!” “โธ่ ก็พวกกูคิดถึงเจ๊ยิ้มนี่หว่า มึงเปลี่ยนไปเพราะเจ๊ แต่พอเจ๊ไม่อยู่มึงก็กลับมาเลวจัญไรเหมือนเดิมเนี่ย” คำพูดของเพื่อนทำให้ผมฉุกขึ้นมา มันก็จริงนะ ที่ผมอยากเปลี่ยนตัวเองมันก็เป็นเพราะว่ายิ้มคอยให้กำลังใจและอยู่เคียงข้างผมมาตลอด แต่พอผมได้รู้เรื่องราวบางอย่างที่เธอกับพี่สาวของผมทำ มันก็เลยทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมเปลี่ยนก็เริ่มถอยลงๆ จนกระทั่งผมมายืนที่จุดเดิมอีกครั้ง “ถ้าพวกมึงยังไม่จบเรื่องนี้ กูกลับบ้านก่อนแล้วกัน” “อ้าวเฮ้ย เดี๋ยวดิ!” ผมลุกขึ้นหยิบกระเป๋าเป้มาสะพายข้าง ก่อนจะเดินออกจากประตูหลังโรงเรียนที่เป็นแหล่งกบดานของผม มือซ้ายของผมล้วงกระเป๋ากางเกงส่วนอีกข้างก็คีบบุหรี่สูบอย่างนิ่งๆ เงยหน้ามองท้องฟ้า พลันให้คิดถึงวันที่เจอกับยิ้มและไอ้เวรนั่น... แต่ก็ช่างเหอะ ผมไม่คิดจะจำหรอก ในเมื่อผมตัดสินใจแล้วว่าจะลืมทุกคนให้หมด ลืมให้หมด จนเหลือแค่ผมคนเดียวที่อยู่บนโลกใบนี้ สองเท้าของผมเดินตรงมายังสถานที่ที่เรียกว่าย่านการค้าชื่อดัง รอบกายของผมถูกสายตาของหญิงสาวจับจ้องไม่วางตา ผมรู้ดีว่าผมไม่ใช่คนที่ดูดีอะไร แต่ทว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบผู้ชายเลวๆ และผมก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ถึงผมจะเลวแค่ไหน ผมก็มีสติและคิดจะช่วยเหลือสังคมอย่างที่ผมกำลังจะทำอยู่ตอนนี้ “ยายจะยกของไปไหน?” “เออ อูยปวดหลัง... ยายจะยกไปที่ร้านหัวมุมนี่แหละพ่อหนุ่ม” “เหรอ งั้นผมยกให้แล้วกัน ยายเดินนำไป” ผมก้มลงยกลังของทั้งหมดสามใบก่อนจะมองยายที่ยิ้มให้กับผมและเดินนำผมไปที่หัวมุมร้านค้าขายของชำเก่าแก่ “ขอบใจนะพ่อหนุ่ม เดี๋ยวๆ เอานี่ไปกินก่อน” “ไม่เป็นไร ผมจะกลับแล้ว” “ไม่ได้ๆ ยายอยากให้ รับไว้นะ” ร่างของยายคนนั้นเดินหายไปในร้านและออกมาพร้อมกับถุงใส่น้ำสีเหลืองๆ เป็นการผูกถุงแบบสมัยก่อนที่ใช้ยางมัด ผมยกมือไหว้และรับมันมาดื่ม “น้ำเก๊กฮวย ยายทำกับมือ ถ้าว่างๆ ก็มานั่งเล่นที่ร้านยายได้นะ” รสชาติของน้ำในมือมันเหมือนกับรสชาติของฝีมือแม่ผมเลย นานแค่ไหนแล้วนะที่ผมไม่ได้กลับไปเหยียบที่บ้านหลังจากที่พ่อออกปากไล่ผมและด่ากราดว่าผมเป็นลูกที่เลว ทั้งที่ผมไม่ได้เป็นแบบนั้น แต่ในเมื่อทุกคนอยากให้ผมเป็นแบบนั้น ผมก็เลยเลือกที่จะหันหลังให้กับครอบครัวและออกมาอยู่ข้างนอกกับกัน แต่ถึงอย่างนั้นเงินเดือนทุกเดือนก็เข้าบัญชีผมไม่ขาด จิตใจของผมแข็งแค่ไหนก็คิดดูว่าผมไม่เคยกลับไปที่บ้านเลยแม้แต่วันที่เจอกับพ่อและแม่อีกครั้ง ผมเดินไปตามย่านการค้าอีกครั้ง แต่ทว่ากลับเห็นว่ามีอะไรบางอย่างกำลังวิ่งตรงเข้ามาหาผมที่ยืนอยู่บนถนนคนเดียว เพราะคนรอบๆ ข้างกลับแหวกทางและหลบหนีสิ่งที่กำลังพุ่งตรงเข้ามา “เฮ้ยหลบไปไอ้เด็กเวร!” “ช่วยด้วยค่ะ ไอ้บ้านั่นมันกระชากกระเป๋าฉัน!” น้ำเสียงเล็กแหลมดังขึ้นมาและด้านหลังของผู้ชายร่างสูงที่วิ่งตรงเข้ามาหาผมหรือผู้หญิงคนนั้นจะเป็นเจ้าของกระเป๋า ผมยืนนิ่งอยู่แบบนั้นเพื่อรอให้คนร้ายวิ่งตรงมาใกล้ก่อนจะ... ผลัวะ! “อ๊ากกกก... หน้ากู!” หมัดของผมกระแทกเข้าที่เบ้าหน้าจนมันล้มลงกับพื้น แต่ทว่าฤทธิ์มันยังไม่หมด ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นและซัดหมัดเข้าที่ใบหน้าของผมจนถุงน้ำหลุดออกจากมือ ผมยกมือเช็ดเลือดที่มุมปากออกไปและมองถุงน้ำเก๊กฮวยที่ถูกดูดไปแค่ไม่กี่ทีเป็นอันต้องตกลงสู่พื้น “มึงทำน้ำกูหก มึงรู้ไหมว่ายายให้กูมากินฟรีๆ” “เหอะ แล้วมึงเสือกอะไรด้วยไอ้เด็กเวร ถอยไปถ้าไม่อยากเจอตีนกู!” ผมยกยิ้มก่อนจะตรงไปกระชากหนังหัวมันและชกหน้ามันอย่างแรงจนคนแถวนั้นร้องด้วยความหวาดกลัว มันยังสามารถเอี้ยวตัวมาชกหน้าผมอีกครั้งด้วยนะ เหอะ ตุ้บ! “ตำรวจมา! ตำรวจมา!” เสียงรอบคอบบ่งบอกให้รู้ว่าพ่อของคนร้ายได้มาเยือนแล้ว มันผลักผมจนล้มลงไปและวิ่งหนีแหวกฝูงชน ส่วนผมก็เช็ดเลือดที่มุมปากที่ไหลอาบก่อนจะมองข้อมือตัวเองที่ถูกใส่กุญแจมือจากพ่อสองคนที่สวมชุดสีกากีอยู่ “จับผมเรื่องอะไร?” “โจรขโมยกระเป๋า หลักฐานคามือเลยนะ เป็นเด็กเป็นเล็ก ริอาจเป็นขโมยลุกขึ้นเลย!” ผมดุนดันลิ้นในปากและตวัดสายตามองคนที่ยืนมองผมก่อนจะพากันเดินหนีไป เหอะ ไม่มีใครเป็นพยานให้เลยหรือไง? ทำดีแล้วได้ดีไหมวะเนี่ยไอ้ปืน! ผมลุกขึ้นและถูกใส่กุญแจมือไว้ด้านหลังก่อนที่จะมีร่างของหญิงสาวคนหนึ่งที่วิ่งหอบหายใจมาหยุดตรงหน้าผมโดยที่ผมไม่เห็นใบหน้าของเธอ “กระเป๋าของคุณครับ เราจับคนร้ายได้แล้ว” “แฮ่กๆ ไหนคะ ไอ้บ้านั่นมัน...!” ใบหน้าสวยเก๋ตามแบบฉบับผู้หญิงเกาหลีแต่ดูยังไงเธอคนนี้ก็สวยธรรมชาติ ผมสีดำน้ำตาลยาวเป็นลอนถูกมัดขึ้นไปเป็นหางม้า เธอสวมกางเกงขาสั้นผ้าเนื้อดีสีขาวกับเสื้อกล้าสีชมพูเผยให้เห็นผิวที่ขาวอมชมพู ริมฝีปากแดงนูน ดวงตาคมโตมองสบตากับผมอย่างมึนงง “ไม่ใช่คนนี้นะ” “เอ๋? แต่ว่าหลักฐานอยู่คามือของเด็กคนนี้นะครับ” “ไม่ใช่ คนที่กระชากกระเป๋าฉัน ไม่ได้หน้าตาหล่อลากขนาดนี้นะ” ผมมองเธออย่างใช้ความคิดราวกับว่าเคยเจอกับเธอที่ไหนมาก่อนแต่นึกไม่ออก ไม่ต่างจากเธอที่จับจ้องมองผมราวกับใช้ความคิดเช่นกัน เธอเดินตรงมาหาผม และถึงแม้จะสวมรองเท้าส้นสูงแค่ไหนเธอก็สูงแค่ระดับคางผมแค่นั้น ความจริงผมสูง 185 ซม. เป็นความสูงที่ใครๆ ก็อิจฉา เพื่อนผมบอกเสมอว่าอยากสูงให้ได้เท่าผม และต้องหน้าตาแบบผมด้วยถึงจะมีสาวๆ กรี๊ด แต่ผมสนใจที่ไหนล่ะ “นาย... หน้าคุ้นมาก” “จะจับผมอีกนานไหมครับคุณตำรวจ” “เออ ว่าไงครับคุณผู้หญิงตกลงใช่คนที่กระชากกระเป๋าคุณหรือเปล่า?” “ก็บอกแล้วไงคะว่าไม่ใช่ คนร้ายคนนั้นไม่หล่อลากขนาดนี้หรอก...” “งั้นเหรอครับ แสดงว่านายต่อสู้กับคนร้ายแล้วมันหนีไปได้งั้นเหรอ?” “ครับ” และผมก็ถูกปล่อยตัวก่อนที่ตำรวจจะออกไปตามหาคนร้ายตัวจริงต่อไป ผมยกมือลูบข้อมือตัวเองที่ถูกกุญแจมือบีบรัดแน่นไปหน่อย ก่อนจะก้มลงเก็บกระเป๋าตัวเองและกระเป๋าของเธอคนนี้คืนให้ “ทีหลังก็ระวังด้วยนะ แถวนี้โจรมันเยอะ” “...” “มองหน้าฉันทำไม? หน้าฉันเหมือนญาติฝ่ายไหนของเธองั้นเหรอ” “นี่เด็กบ้า! ก็แค่นายหน้าตาคุ้นๆ มากเลยอะ เราเคยเจอกันมาก่อนไหม?” “เคย... ตอนนี้ไง” ผมปัดฝุ่นที่อยู่บนร่างกายตัวเองให้ออกไป ก่อนจะเดินสวนเธอคนนี้ที่ยังคงยืนมึนงงอยู่ ซวยจริงๆ เลยนะ น้ำเก๊กฮวยของยายคนนั้นอร่อยด้วยสิ ดูดไปไม่กี่ทีเอง จะกลับไปขอกินฟรีอีกก็ยังไงอยู่นะ โหย กลับบ้านไปนอนเล่นเกมดีกว่า “ปืน!” “หือ? เธอ... ว่าอะไรนะ” ร่างของผมหันไปตามเสียงเรียก ก็พบว่าหญิงสาวรุ่นพี่ ใช่เธอแก่กว่าผมแน่แต่ทว่าเธอดูเด็กมากหรืออาจจะเพราะเธอเป็นคนตัวเล็กก็เลยทำให้ดูเด็ก แต่ที่แน่ๆ เธอแก่กว่าผมไง ร่างสวยกึ่งวิ่งกึ่งเดินมาหาผมพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใส “นายชื่อปืนใช่ไหม? จำฉันไม่ได้เหรอ ที่เราเคยเจอกันตอนไปกินจิ้มจุ่มอะ กับยิ้มไง” “จำไม่ได้” ผมปฏิเสธไปทันทีและนึกภาพตาม ก็จำได้ลางๆ ว่าเธอคนนี้มากับไอ้ไพเรท แถมยังเป็นเพื่อนกัน และใช่เราเจอกันครั้งนั้นและเจอกันอีกครั้งตอนที่ผมเจอกับยิ้ม ผมเบ้ปากและหันหลังหนีเพราะไม่อยากจะเสวนากับคนที่ผมไม่ชอบขี้หน้า แต่เป็นเพราะว่าเธอเป็นเพื่อนกับไอ้ไพเรทไง ผมเลยไม่ชอบ! “เดี๋ยวสิ จำฉันไม่ได้จริงๆ เหรอปืน... บัวไง ฉันชื่อบัว” “ใครถามไม่ทราบ?” “แต่ปืนช่วยฉันไว้นะ อย่างน้อยให้ฉันตอบแทน” “ไม่ต้อง” บัวเหรอ? ชื่อของดอกไม้ที่อยู่ในบึง ออกดอกบานสะพรั่งทุกฤดู แถมยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ผมสะบัดหน้าตัวเองและเดินหนีร่างสวยที่ยังคงตามผมอยู่แบบนั้น หมับ “เดี๋ยวสิ อย่างน้อยให้ฉันพานายไปโรงพยาบาลทำแผลหน่อยดีกว่านะ” “ก็บอกว่าไม่ต้องไง เลิกวุ่นวายสักที!” “เฮ้ยนั่นมันไอ้ปืนหรือเปล่าวะ?” ผมมองเลยหลังของบัวที่คว้าข้อมือของผมไว้ แต่ทว่ากลุ่มชายต่างโรงเรียนเกือบสิบคนจ้องมองผมด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม อันที่จริงมันคืออริต่างโรงเรียนที่ผมเคยไปมีเรื่องมานี่หว่า เอาไงดีล่ะ ความจริงผมตัวคนเดียวก็ไม่เท่าไหร่หรอกนะ แต่ดันมียัยบ้านี่ตามมาอีก อะไรมันจะซวยขนาดนี้วะ! “วิ่ง” “เอ๋? ให้ฉันทำอะไรนะ” “วิ่งสิวะ!” “เฮ้ย แม่งตามไป!” ฝ่ามือของผมคว้ามือที่นุ่มนิ่มของบัวและพาเธอวิ่งไปด้วยกัน อันที่จริงผมจะไม่สนเธอก็ได้นะ แต่เธอก็ไม่ได้ผิดอะไรนี่ แต่ถ้าหากว่าเธอถูกไอ้พวกนั้นเข้าใจผิดล่ะ? โอ๊ย! ปวดหัวเว้ย ผมไม่ได้หันกลับไปมองเธอด้วยซ้ำว่าจะวิ่งตามผมทันหรือเปล่าแต่ทว่าผมกลับวิ่งๆ วิ่ง อย่างเดียว โดยไม่คิดชีวิต เพราะถ้าเกิดมากันเป็นพวก ผมคงไม่ต้องหนีแบบนี้หรอก “แฮ่กๆ ปะ ปืน ฉันไม่ไหวแล้วเจ็บเท้า” “โธ่เว้ย!” ผมหันกลับไปมองใบหน้าสวยที่เต็มไปด้วยเหงื่อมากมายและฝ่าเท้าของเธอที่แดงเพราะสวมส้นสูงวิ่ง ก่อนจะพาเธอหนีไปกระทั่งมาถึงทางตัน “ทะ ทำไงดี ทางตัน” “แม่งเอ่ย... มานี่!”

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.7K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.9K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
39.7K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
14.6K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.2K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook