EP.1 ไอ้พวกคนเลว
EP.1 ไอ้พวกคนเลว
เจ้าของเท้าเรียวก้าวยาวกึ่งวิ่งไปตามทางเดินทอดยาวสีขาวดูสะอาดตา กลิ่นยาคละคลุ้งจนทำให้หญิงสาวรู้สึกคลื่นเ**ยน เหลือบตามองผู้คนบ้างเจ็บป่วยด้วยโรคภัยต่างๆ บ้างประสบอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ นั่งรอรับการรักษาด้วยความหวังเป็นจำนวนมาก ความเครียดก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วอัดแน่นอยู่ภายในอกจนแทบจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ หัวใจเต้นแรงตึกตักแทบจับจังหวะไม่ได้จนทำให้หญิงสาวรู้สึกเหนื่อยหอบ
“ว้าย! ขอโทษค่ะ”
หญิงสาวหงายหลังล้มลงไปกับพื้นเมื่อชนเข้ากับนางพยาบาลวัยกลางคนเต็มแรง จนเครื่องมือแพทย์ในกล่องอะลูมิเนียมขนาดกลางตกกระจายเกลื่อนพื้น ดูเหมือนว่ายิ่งรีบจะยิ่งช้า เธอช่วยนางพยาบาลเก็บเครื่องมือที่กระจัดกระจายไปตามทางเดินอย่างร้อนรน เมื่อแล้วเสร็จเธอจึงเอ่ยขอโทษอีกครั้งแล้วออกวิ่งไปยังจุดหมายเดิมทันที ระหว่างรอลิฟต์นั้นเธอเดินกระสับกระส่ายไปมามือบางผสานเข้าหากันแน่น เหลือบมองตัวเลขบอกระดับชั้นที่ลิฟต์ค่อยๆ เลื่อนลงมาอย่างอดทนราวกับว่ามันช่างเชื่องช้าชั่วกัปชั่วกัลป์
ติ๊ง!
เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกหญิงสาวก็ปราดเข้าไปทันที นิ้วเรียวกดลิฟต์ขึ้นไปยังชั้นเก้า ในที่สุดเธอก็มาหยุดอยู่หน้าห้องพักผู้ป่วย เมื่อเห็นชื่อมารดาติดไว้หน้าห้องนับดาวจึงเปิดประตูเข้าไปอย่างไม่รอช้า
“คุณแม่ เป็นยังไงบ้างคะ”
เธอร้องถามด้วยความห่วงใย แต่แล้วร่างบางก็ต้องชะงักเมื่อพบว่ามารดาไม่ได้อยู่เพียงลำพัง ทว่ากลับมีชายสวมสูทสีดำสามคนยืนอยู่รอบเตียงมารดา ส่วนที่ปลายเตียงคือชายร่างสูงในชุดสูทสากลสีเทาค่อนไปทางดำสวมแว่นตาดำไม่ต่างไปจากอีกสามคนยืนกอดอกด้วยท่าทางคุกคาม
“คุณแม่!”
หญิงสาวโผเข้าหามารดาด้วยความห่วงใย ใบหน้าของมารดาซีดขาวราวกับกระดาษ ดวงตาแดงก่ำแห้งผากดูเลื่อนลอย ทว่าเธอกลับไม่สามารถเดินเข้าไปหามารดาได้ดั่งใจนึก เมื่อถูกชายชุดดำสองนายตรงเข้าหิ้วปีกที่แขนทั้งสองข้างของเธอเอาไว้เสียก่อน ร่างแบบบางทั้งตกใจทั้งหวาดกลัวจึงดิ้นรนสุดกำลัง แต่กลับดูเหมือนเด็กตัวเล็กๆ ที่พยายามจะเอาชนะคะคานผู้ใหญ่เสียมากกว่า ถึงกระนั้นเธอก็ยังไม่ยอมแพ้ แม้ว่าพละกำลังของเธอจะไม่สามารถทำอะไรชายทั้งสองคนนี้ได้เลย
“ปล่อยนะ! พวกแกเป็นใครต้องการอะไรจากพวกฉัน บอกให้ปล่อยไงเล่า! ปล่อยสิโว้ย!”
เธอดิ้นสุดแรงจนชายชุดดำทั้งสองนิ่วหน้า มือเดียวที่หิ้วแขนคนละข้างของหญิงสาวไว้จึงต้องเปลี่ยนมาใช้ทั้งสองมือเพื่อช่วยจับกุม เมื่อดิ้นรนไม่ได้ผลหญิงสาวจึงหันไปตวาดร่างสูงที่ยืนนิ่งราวกับไม่สนใจการมาของเธอ
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะไอ้พวกโจรห้าร้อย บอกให้ลูกน้องแกปล่อยฉันเดี๋ยวนี้”
ชายซึ่งยืนด้วยสีหน้าเรียบเฉยอยู่ปลายเตียงไม่แม้แต่จะชายหางตามามองหญิงสาว เขายังคงจับจ้องคนป่วยบนเตียงราวกับยมทูตมารอรับวิญญาณให้หลุดลอยตามติดไปกับตน
“ว่ายังไง จะบอกฉันได้หรือยังคุณล้อมเดือน”
ชายหนุ่มที่ยืนนิ่งราวกับรูปปั้นขยับปากพูดขึ้นเป็นครั้งแรกนับจากนับดาวก้าวเข้ามา เธอจ้องมองเขาเขม็งราวกับจะจารจำใบหน้าเขาไว้ด้วยความแค้นเคือง
“ฉันไม่รู้จริงๆ ค่ะคุณชญานนท์ แต่ฉันเชื่อนะคะว่าไทต้องไม่ทำแบบนั้น ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันแน่ๆ ก็ในเมื่อ...”
“หุบปาก! ฉันไม่อยากฟังคำแก้ตัวอะไรทั้งนั้น”
เสียงตวาดดังก้องทำให้คนป่วยที่นอนอยู่บนเตียงเหล็กสีขาวชะงักด้วยความตกใจ ริมฝีปากบางสั่นระริกร่ำร่ำจะร้องไห้ออกมาเสียให้ได้ นับดาวมองดูชายร่างสูงด้วยความโมโห อาศัยจังหวะที่ไอ้ยักษ์สองคนเผลอเหวี่ยงขาไปถีบเป้าหมายเต็มแรง
แม่นยำ! ไม่มีพลาด
ร่างสูงเซถอยหลังไม่เป็นท่า ลูกน้องซึ่งยืนอยู่ด้านหลังปราดเข้าประคอง แต่เขากลับสะบัดตัวออกไม่ต้องการความช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น
“ไม่ต้อง! ถอยไป”
เขาถอดแว่นตาดำออกแล้วพิศมองใบหน้าของหญิงสาวผู้มาใหม่เนิ่นนาน ตอนนี้เองที่นับดาวมีโอกาสเห็นใบหน้าของชายหนุ่มได้อย่างชัดเจน ดวงตายาวรีคมปลาบมองหญิงสาวอย่างเอาเรื่อง คิ้วหนาที่ขมวดมุ่นจนแทบชิดติดกันทำให้เธอเดาได้เลยว่าผู้ชายตรงหน้าเป็นคนใจร้อนและขี้หงุดหงิดมากโข ทว่าเมื่อรวมเครื่องหน้าและจมูกโด่งเป็นสันนูนเข้าด้วยกัน มันกลับส่งให้ใบหน้าของเขาหล่อเหลาได้อย่างลงตัวราวกับเทพบุตรกรีก
ไม่สิ! ซาตานต่างหาก หญิงสาวคิดค้านในใจ เชิดหน้าขึ้นเมื่อเขาสาวเท้าเข้ามาใกล้
“จะให้ผมจัดการเลยมั้ยครับนาย”
แม้จะเพิ่งโดนสั่งให้ถอยห่าง แต่ชายชุดดำคนเดิมกลับก้าวขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับยื่นปืนจ่อขมับหญิงสาว ส่วนอีกสองคนที่จับแขนทั้งสองข้างของหญิงสาวไว้ก็ยิ่งบีบแน่นจนหญิงสาวนิ่วหน้า
“พิรัลเก็บปืน ฉันไม่ทำร้ายผู้หญิง”
เจ้าของร่างสูงใหญ่พูดเสียงขรึม ถอนหายใจช้าๆ ราวกับกำลังระงับความกรุ่นโกรธ ท่าทางเช่นนั้นทำให้นับดาวยิ่งโมโห จะชายหรือหญิงล้วนมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน หากจะมาอ้างว่าเป็นสตรีเพศเพื่อดูถูกว่าด้อยกว่าอ่อนแอกว่าละก็เธอไม่มีวันยอมเสียล่ะ เป็นไงเป็นกัน!
“คิดว่าฉันเป็นผู้หญิงแล้วฉันจะกลัวนายหรือไง ไอ้พวกอันธพาล ไอ้โจรบ้าห้าร้อย คอยดูนะถ้าฉันหลุดไปได้เมื่อไหร่ จะแจ้งตำรวจจับพวกนายเข้าคุกให้หมด โทษฐานขู่กรรโชก กักขังหน่วงเหนี่ยว”
หญิงสาวตะโกนลั่นจนเหนื่อยหอบ แต่คนตัวโตกลับทำแค่เพียงเลิกคิ้วขึ้นสูงราวกับเห็นเธอเป็นตัวประหลาดที่กำลังพูดจากพิลึกพิลั่นน่าขบขัน
“นับดาวอย่าเสียมารยาทกับคุณชญานนท์สิลูก”
ล้อมเดือนเอ่ยเตือนด้วยเสียงแหบแห้ง หวาดกลัวว่าชายหนุ่มจะทำร้ายลูกสาวเพียงคนเดียวของตนที่มีนิสัยมุทะลุไม่ยอมใคร แตกต่างจากใบหน้าหวานกอปรด้วยหุ่นอ้อนแอ้นลิบลับ มองเผินๆ คงคิดว่านับดาวเรียบร้อยราวกับผ้าพับไว้ แต่อย่าให้เธอพูดหรือเดินเหินเชียวล่ะห่ามยิ่งกว่าผู้ชายเสียอีก
“คนแบบนี้เราไม่ควรมีมารยาทกับเขาหรอกค่ะคุณแม่ มันน่าจะแจ้งตำรวจจับเลยด้วยซ้ำ พวกสิ้นคิดทำตัวเป็นอันธพาล เดี๋ยวนี้กล้ารีดไถเงินชาวบ้านถึงในโรงพยาบาลเลยงั้นเหรอ”