ล่องลอย

900 Words
“เธอๆ เอ้าน้ำ เราเอามาเผื่อ” “ขอบใจจ้ะ” นิราวดีหันไปยิ้มให้กับสาวน้อยร่างอวบที่นั่งอยู่ด้านข้าง รับขวดน้ำที่เพื่อนแฟนคลับมีน้ำใจหยิบยื่นมาให้ พลางเปิดถุงผ้าใบเก่งแล้วหยิบกล่องขนมออกมายื่นให้ “นี่เรามีคัพเค้กมาด้วย เราอบเอง กินด้วยกันนะ” “เรามีมะม่วง เปรี้ยวเข็ดฟันเลยล่ะ แจมด้วยคน” พี่สาวที่นั่งอยู่อีกด้านยกกล่องบรรจุมะม่วงตัดแต่งชิ้นพอคำกับน้ำปลาหวานกระปุกใหญ่มาตั้งตรงกลาง นั่นทำให้นิราวดีทำหน้าซี้ดเข็ดฟันขึ้นในบัดดล แต่น้ำลายสอในปากก็ทำให้หล่อนอยากกระโจนเข้าใส่ “แต่เรามีพิซซ่าของเฮีย...” เสียงพี่สาวอีกคนที่นั่งถัดไปกลับทำให้พวกหล่อนพากันกรี๊ด ก่อนจะรีบตะครุบปิดปากกั้นเสียงโดยเร็ว เพราะพิซซ่าหลากหลายถาดกำลังถูกลำเลียงเข้ามาในพื้นที่ รอยยิ้มกว้างปะปนกับน้ำตาคลอซาบซึ้ง นิราวดีมองบรรยากาศโดยรอบ ณ ขณะนี้ หล่อนอยู่ท่ามกลางมิตรภาพที่อาจหาไม่ได้ในเมืองใหญ่ มิตรภาพที่ได้จากบรรดาเหล่าแฟนคลับด้วยกันเอง ซึ่งเป็นมิตรภาพที่เกิดขึ้นในกลุ่มคนที่แทบไม่เคยรู้จักกันมาก่อน จากคนที่แอนตี้เรื่องแฟนคลับศิลปิน คนที่กล่าวหาว่าพวกหล่อนบ้าศิลปินเกินเหตุ คนที่บอกว่าศิลปินชายคนอื่นๆ หล่อกว่าเยอะทำไมไม่ไปคลั่งไคล้ ทว่าเมื่อสิ่งที่พวกหล่อนทำถูกถ่ายทอดปากต่อปาก จากตาเห็น หรือสัมผัสเอง นั่นทำให้จำนวนแฟนคลับของเฮียเพิ่มมากขึ้น จนวันนี้หล่อนเห็นแล้วว่ามีคนรักเฮียมากมาย เพราะยอดคนติดตามเฮียในสื่อออนไลน์มีมากกว่า 1 ล้านคน แล้วอย่างนี้จะไม่ให้หล่อนรักเฮียได้ไง ภาพการแถลงข่าวของเฮียโชคถึงคอนเสิร์ตที่จะมีในเดือนหน้าฉายอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ของแฟนคลับทุกคน แต่หล่อนดันปวดฉี่กะทันหันนี่สิปัญหา นิราวดีบิดตัวไปมาชั่งใจว่าควรทำอย่างไรดี เพราะถ้าลุกไปตอนนี้ ตำแหน่งที่นั่งต้องเปลี่ยนแน่ ถ้าหล่อนไปเข้าห้องน้ำ ความตั้งใจที่อุตส่าห์มารอเฮียตั้งแต่ตี 5 เพื่อให้ได้นั่งแถวแรกก็จะเป็นหมันทันที เพราะหล่อนคงพลาดโอกาสได้จับมือเฮีย คิดแล้วก็โทษตัวเองว่าไม่ควรดื่มน้ำเยอะ แล้วดันไม่กล้านุ่งผ้าอ้อมผู้ใหญ่มาอีก พอมาปวดฉี่แบบนี้ หล่อนนึกไม่ออกเลยว่าควรทำอย่างไรต่อ แต่หากนั่งทนอยู่แบบนี้รอจนเฮียออกมา มีหวังหล่อนได้ฉี่ราดแน่ “อูย...” “ตัวเอง... ตัวเองเป็นอะไร ปวดท้องเหรอ เรามียานะ” “เรา... เราปวดฉี่” “ก็ไปฉี่สิ อ้อ... กลัวที่นั่งหาย ไปเหอะ เดี๋ยวเราดูไว้ให้ รีบไปรีบมานะ” “ขอบคุณจ้ะตัวเอง เราไปแป๊บเดียว เดี๋ยวมานะ” นิราวดีกระชับมือของเพื่อนแฟนคลับ ดีใจที่มองตาก็รู้ใจ เพราะใครเล่าจะอยากเสียที่ ระหว่างอยู่ในห้องน้ำ นิราวดีปฏิบัติกิจอย่างเร่งด่วน แต่ตาและหูไม่ได้พลาดจากคำสัมภาษณ์ของเฮียเลยสักนิด หล่อนยิ้มกว้างเมื่อกล้องแพลนไปที่ใบหน้าของเฮีย แต่เมื่อพิธีกรของค่ายถามเฮียว่ามีอะไรจะบอกฝากถึงแฟนคลับทั่วประเทศไหม หล่อนก็ตาตื่น เพราะนั่นคือสัญญาณว่าการแถลงข่าวกำลังสิ้นสุด หล่อนรีบรุดออกจากห้องน้ำ หูยังฟัง ตายังมองโทรศัพท์ ทว่าเสียงกรี๊ดของเหล่าแฟนคลับที่นั่งรอก็ทำให้หล่อนมองตรงไป บริเวณนั้นเหล่าทีมงานกำลังหอบกุหลาบแดงช่อโตออกมาแจกบรรดาแฟนคลับ “ว้ายๆๆๆ ช้าไม่ได้ๆ” หล่อนตื่นตัว สมองคำนวณระยะทาง หากหล่อนเดินย้อนกลับไปตามทางเดิม หล่อนต้องใช้เวลาประมาณ 10 วินาที จึงจะถึงจุดที่เพื่อนจองที่ไว้ให้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเข้าถึงหรือเปล่าเพราะตอนนี้เหล่าแฟนคลับที่นั่งอยู่ต่างลุกขึ้นยืนเพื่อรับดอกไม้และขยับเข้าไปใกล้ชิดเพราะเฮียกำลังจะออกมาแล้ว แต่หากหล่อนลัดเลาะไปอีกทาง หล่อนอาจจะได้ดอกไม้จากเฮียเป็นคนสุดท้ายหรือดอกไม้อาจหมดก่อน แต่นั่นจะทำให้หล่อนสัมผัสเฮียได้อย่างใกล้ชิดเพราะเป็นจุดที่เฮียจะขึ้นรถพอดี สมองยังคำนวณไม่เสร็จแต่เท้าของหล่อนก้าวไปแล้ว ช่องทางเดินบนตะแกรงระบายน้ำใต้ท่อเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ของอาคาร แม้จะเกิดเสียงเวลาเดิน แต่เสียงกรี๊ดที่ดังกลบทุกสิ่งก็ทำให้ฝีเท้าเร่งขึ้น ดวงตากลมโตมองแต่เพียงเจ้าของร่างสูงที่ค่อยๆ เดินทักทายและแจกดอกไม้แฟนคลับ ฝีเท้าเร่งให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ จุดหมายคือแฟนคลับคนสุดท้ายที่ยืนอยู่นอกเชือกกั้นเขตห้ามเข้า แค่อีกไม่กี่ก้าว หล่อนก็จะก้มรอดเชือกเข้าไป ทว่า... ผลุบ! หัวใจหล่นวูบตามร่างกายที่ลอยละลิ่วรวดเร็ว โดยที่หล่อนไม่ทันได้กรีดร้อง แต่กลับได้ยินเสียงร้องกรี๊ดของใครหลายๆ คน ผ่านหูฟังที่หล่อนเสียบไว้ ก่อนที่เสียงนั้นจะห่างไกล ทว่าร่างกายของหล่อนก็ยังล่องลอย… ลอยไปที่ใด...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD