สำหรับนภัสแล้วพราวดาวถือเป็นบุคคลอัจฉริยะมากนับจากที่เธอเคยเห็นมา พราวดาวฉลาดนั้นไม่เท่าไหร่ แต่สิ่งที่มหัศจรรย์กว่าคือเนื้อหาวิชาต่างๆ ที่มีในตำราเรียนที่เจ้าตัวสามารถทำความเข้าใจไม่นานแล้วก็เอามาสอนให้นภัสเรียนรู้และเข้าใจวิธีคิดเอง
พราวดาวสอนให้คิดเป็นอย่างโจทย์คณิตศาสตร์ครูบางคนอาจจะสอนให้เข้าใจคำตอบเหมือนตำราเรียนเป๊ะๆ แต่พราวดาวจะสอนให้แก้โจทย์ด้วยเหตุผลและสูตรคำนวณซึ่งทำให้เข้าใจ และสามารถวิเคราะห์และตีโจทย์ได้ดีกว่า รวมทั้งวิธีการคำนวณสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับโจทย์รูปแบบอื่นได้ดี
มันคงเป็นความแตกต่างระหว่างการเรียนด้วยการเข้าใจกับการเรียนด้วยการท่องจำ เนื่องจากว่าโรงเรียนประจำแบบอินเตอร์ที่เธอเรียนอยู่นั้นเน้นการเรียนการสอนที่ให้คิดเป็นมากกว่าท่องจำ แต่เนื้อหาวิชาไม่แน่นเท่ากับเด็กสายวิทย์โรงเรียนข้างนอกเธอจึงค่อนข้างกังวลว่าจะสอบแพทยศาสตร์คณะเดียวกันกับพี่ปรินซ์เจ้าชายในฝันของตนไม่สำเร็จ การติวเข้มขึ้นจึงเริ่มขึ้นและพราวดาวก็ทำให้นภัสรู้สึกก้าวเข้ามาใกล้กับความหวังได้มากขึ้น...
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีอุปสรรค... พราวดาวเก่งวิชาการมากมายสามารถสอนให้เธอตีโจทย์ได้ร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ ข้อสอบเก่าย้อนหลังเจ็ดปีก็ทำได้ถูกเกินแปดสิบเปอร์เซ็นต์เป็นที่พึงพอใจ หากแต่สิ่งที่พราวดาวไม่สามารถสอนเธอได้ก็คือวิชาภาษาไทย...
“ดาวก็ไม่รอดเหมือนกัน ภาษาไทยยากเกินไป ตามสถิติแล้ว ไม่มีใครสอบได้เต็ม ในขณะที่คณิตศาสตร์และฟิสิกส์อะไรเทือกนี้มีคนสอบได้เต็มเพียบ” คนไม่เก่งภาษาไทยบ่นอุบ... “เด็กอิงลิชโปรแกรมอย่างเรา อ่านโจทย์ภาษาไทยบางทียังไม่เข้าใจเลย”
“งั้นก็ให้อาคีทมาสอน”
นภัสสรุปขึ้นมา พราวดาวหน้างงขึ้นมาเมื่อเพื่อนเอ่ยชื่อเขา ชอบเขาอยากเห็นหน้าเขาก็ใช่อยู่ แต่ให้เขามาสอนภาษาไทยจะดีหรือ เธอชอบใช้คนให้ถูกกับงานมากกว่า... คชาไม่มีส่วนไหนที่จะดูเก่งภาษาไทยเลย ถ้าให้สอนภาษาอังกฤษฝรั่งเศสอะไรอย่างนี้คงเหมาะกว่า
“แน่ใจเหรอเนส”
“แน่สิดาว อาคีทเก่งไปหมด แถมตอนมัธยมยังเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมเรียนตรีและโทที่จุฬา ก่อนที่จะมาทำงานเป็นนักธุรกิจในปัจจุบันเนี่ยอาคีทเรียนเก่งนะ”
“ไม่ใช่ว่าอาของเนสไม่เก่ง แต่ที่ถามน่ะ แน่ใจเหรอว่าเขาจะมาติวให้เรา”
พราวดาวนึกถึงคนที่ตอนนี้เหมือนพยายามเลี่ยงและจงใจหลบหน้ายามที่เธอมาที่บ้านของนภัส ยิ่งบางครั้งในช่วงวันหยุดพราวดาวมานอนค้างที่บ้านของนภัสเขาแทบไม่กลับมานอนที่บ้าน
ตอนแรกที่รู้จักนภัสใหม่ๆ เขามีพวกเธอในสายตาตลอดจนพราวดาวคิดว่าเขาสนใจ เธอจึงมีสายตาและท่าทีขวยเขินต่อเขาแบบไม่ปกปิด... เขาเล่นเกมส่งสายตาให้เธออยู่หลายอาทิตย์จนวันหนึ่งจุดสิ้นสุดของการที่เขามองเธอเหมือนจะกลืนกินก็เกิดขึ้น
“ดาวชอบอาหรือเปล่า”
เธอยังจำได้ว่าก่อนที่จะห่างเหินเธอคชาเอ่ยถามเธอด้วยคำถามที่ทำให้หัวใจเธอเกือบหยุดเต้น
“ไม่บอกค่ะ... ว่าแต่อาคีทถามทำไมหรือคะ”
“ไม่เป็นไร อาพอได้คำตอบล่ะ”
เห็นชัดว่าสายตาเขาจดจ้องที่พวงแก้มแดงก่ำของเธอ ความรู้สึกของเธอปกปิดไม่มิดตกอยู่ภายใต้สายตาของเขา นับจากวันแรกยิ่งตกหลุมรักเขาหนักมากขึ้นเรื่อยๆ จนเขาจับผิดเธอได้
“อย่าคิดอะไรกับอาเลยนะเด็กน้อย อาไม่ชอบเด็ก”
คชาบอกเธอเช่นนั้นแล้วก็เดินเลี่ยงออกไป... พราวดาวย่นคิ้วคุ่นคิดอยู่เพียงวาบเดียวเธอก็เม้มปาก เพราะอายุน้อยกว่าเขาเขาจึงเห็นความรักและความรู้สึกดีของเธอเป็นเรื่องฉาบฉวยทั้งที่มันไม่ใช่
หญิงสาวตั้งใจว่าจะแสดงให้เขาเห็นว่าที่ผู้ใหญ่อย่างเขาคิดนั้นมันไม่ถูกต้องเสมอไป
แต่ก็ไม่ได้รับโอกาสนั้น เมื่อรู้ว่าพราวดาวชอบเขา คชาก็ทำตัวห่างเหินและไม่เปิดโอกาสอยู่สองต่อสอง จากที่เคยเอาใจและให้ความสนิทสนมรวมทั้งพาออกนอกบ้านพร้อมกับนภัสบ่อยๆ เขาก็กลายเป็นคนไม่ว่างไม่มีเวลาให้หลาน และเจาะจงไม่ว่างทุกครั้งที่เธอนัดนภัสไว้เหมือนหนีออกจากวงโคจรชีวิตของพวกเธอไปเลย
วันหนึ่งพราวดาวแอบได้ยินเขาพูดกับคเชนทร์ผู้เป็นพี่ชายซึ่งเป็นบิดาของนภัสเกี่ยวกับเรื่องเธอทำให้พราวดาวเข้าใจการกระทำทุกอย่างของเขาลึกซึ้งมากขึ้น
“ผมดูเด็กสองคนนี้อย่างใกล้ชิดแล้ว พี่คาร์ลไม่ต้องห่วงนะครับดาวไม่ใช่คู่เลสเบี้ยนของลูกสาวพี่แน่นอน สองคนนี้ไม่ได้ชอบกันแต่ชอบคนอื่นที่เป็นผู้ชาย... ไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว เด็กๆ มาติวหนังสือกันจริงๆ ไม่มีอะไรแอบแฝง วางใจได้”
ที่เขาเข้ามาเทคแคร์จนบางครั้งรู้สึกว่าความอบอุ่นและสิ่งที่เป็นเขาทำให้เธอหลงรักเขาได้มากขึ้นนั้นมันเป็นความจงใจของเขาที่จะหลอกให้เธอหลงรักเพื่อให้แน่ใจว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ชอบผู้ชาย...
พอเธอแสดงออกและขวยเขินกับเขา เขาก็หายไปจากชีวิตของเธอ...
ในขณะที่ยังโกรธและยุ่งกับการสอบของนภัสจนไม่มีเวลาพิพากษาความผิดของคนที่แกล้งให้รักถลำลึกแล้วหนีหน้า เธอก็ยังไม่ได้เจอหน้าเขา... คำพูดของนภัสที่จะให้เขามาช่วยสอนภาษาไทยให้เลยดูไม่ค่อยมีความเป็นไปได้สักเท่าไหร่... แต่ถ้าได้ก็ดี เธอหาโอกาสคุยกับเขาอย่างจริงจังอยู่เหมือนกัน
“ถ้าเขามาติวให้ ดาวจะมาค้างบ้านเนส”
“จริงอ่ะ!”
นภัสดีอกดีใจ พราวดาวมักจะกลับบ้านเสมอไม่ยอมนอนค้างทำให้เวลาติวหนังสือด้วยกันนั้นแสนสั้น หากเจ้าตัวนอนค้างที่บ้านนี้ด้วยก็จะทำให้ได้มีเวลาติวมากขึ้น ช่วงที่ใกล้สอบจนคิดว่าไม่สามารถอ่านทวนเนื้อหาได้ทั้งหมด มีเพื่อนช่วยติวและทำข้อสอบเก่าด้วยกันได้ยิ่งดี...
“เนสจะจัดการให้อาคีทมาสอนพวกเราให้ได้ ต่อให้ต้องเอาช้างไปฉุดก็ต้องทำ”
พราวดาวยิ้มมุมปากน้อยๆ เมื่อนึกถึงได้ว่าเขาจะทำหน้ายุ่งยากใจแค่ไหนกับเรื่องนี้...
“ตอนแรกดาวก็ว่าจะรักเงียบๆ อยู่ในมุมของดาว... แต่เมื่ออาคีทมาเล่นเอาเถิดเจ้าล่อกับดาวแบบนี้ มันก็เงียบต่อไปไม่ไหวแล้ว อาคีทจะต้องได้รับบทเรียนว่าการเล่นกับหัวใจของดาวจะเป็นยังไง”
บอกกับเขาในใจอย่างมุ่งมั่น คิดแผนเอาคืนเขาเสร็จสรรพ โดยที่นภัสผู้ใสซื่อไม่รู้เลยว่าตัวเองนั้นจะเป็นผู้ชักศึก (หัวใจ) เข้ามาหาผู้เป็นอาตัวเองเสียแล้ว