ตอนที่ 16

1257 Words
เช้าวันรุ่งขึ้นเถียนซูหลินตั้งใจออกจากจวนไปโดยไม่ยินดีให้อาม่านติดตามไป ทว่าอีกฝ่ายยังพอคาดเดาได้ว่าคุณหนูของตนจะไปที่ใด เพราะนางสังเกตจากชิ้นผ้าที่คุณหนูเย็บเมื่อวานนี้ "คุณหนูจะไปจวนตระกูลหวังหรือเจ้าคะ" เมื่อเห็นเถียนซูหลินพยักหน้าทั้งที่เตรียมตัวหยิบโน้นหยิบนี่ใส่ตะกร้า โดยไม่เรียกใช้นางสักคำ "คุณหนู ไม่ไปไม่ได้หรือเจ้าคะ" เถียนซูหลินหันมามองอาม่าน นางใช้สายตาคาดคั้น "เอ่อ...คือ....คือบ่าวเป็นห่วงคุณหนูนะเจ้าคะ" "ขอบใจ" นางกล่าวสั้นๆแล้วผละออกจากเรือน เดินสวนทางเอาม่านออกไป นางเห็นการกระทำของผู้เป็นนายได้แต่เดินตาม "เจ้าจะตามมาทำไม?" "บ่าวต้องรับใช้คุณหนูเจ้าค่ะ" "ไม่ต้อง วันนี้ข้าไม่เรียกใช้เจ้า อีกอย่าง...หากเจ้ากลัวเขา ก็ไม่จำเป็นต้องไป ข้ามันอสรพิษคบกับปีศาจผมขาวเหมาะสมที่สุดแล้ว" "คุณหนู เหตุใดท่านพูดว่ากล่าวตนเองอย่างนี้เล่าเจ้าคะ" "ทุกคนก็เรียกข้าว่าอย่างนี้ ข้าเรียกตัวเองยังดีเสียกว่าให้ผู้อื่นมาเรียกข้า ข้าเสียเวลามากแล้ว" นางกล่าวจบก็เดินไปยังประตูหน้าจวนและขึ้นรถม้าไป นางไม่อนุญาตให้อาม่านขึ้นรถม้าเพราะไม่ต้องการให้นางตามไป แต่เพราะอาม่านยังดึงดันแม้รถม้าจะเคลื่อนตัวออกไปแล้วก็ตาม นางก็ยังคงไม่ไว้ใจ นางรีบวิ่งตามรถม้าไปอย่างกระหืดกระหอบ เหตุการณ์ที่บ่าววิ่งตามรถม้าเห็นกันจนถ้วนทั่ว ผู้คนที่รู้จักกับอาม่านต่างกระซิบกระซาบกันว่านางเป็นบ่าวของผู้ใด และคงเป็นฝีมือของผู้เป็นนายแน่ที่ลงโทษบ่าวในเรือนเช่นนี้ แต่เรื่องนี้เถียนซูหลินจะรู้ได้อย่างไรในเมื่อนางไม่ได้หันมามองทั้งยังอยู่ในรถม้าที่ปิดผ้าคลุมด้านหลังไว้ บ่าวเฝ้าประตูตระกูลหวัง ไม่รู้ว่าจะต้องไปรายงานผู้ใดดี เพราะแต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยมีแขกของคุณชายรองตระกูลหวังเลยสักคน บ่าวผู้หนึ่งจึงนำความไปบอกพ่อบ้าน ไม่นานนักก็มีคนมารายงานให้บ่าวเฝ้าประตูอนุญาตให้นางเข้ามาได้ นางนั่งรออยู่ที่เรือนรับรองอยู่ครู่หนึ่ง ไม่นานหวังฮูหยินก็เดินเข้ามารับแขกของบุตรชายด้วยตนเอง "ไม่รู้ว่าเจ้าจะมา" เสียงใสกังวานดังมาทางด้านข้างของเรือน นางรีบลุกขึ้นคารวะ "คารวะหวังฮูหยินเจ้าค่ะ" อีกฝ่ายไม่ได้บอกถึงฐานะ แต่นางดูจากการแต่งกายและมีบ่าวประคอง จึงรู้ว่าอีกฝ่ายต้องมีความเกี่ยวข้องกับเจ้าปีศาจน้อยแน่ และคงเป็นฮูหยินสกุลหวังเป็นแน่ นางเป็นสตรีที่งดงามผู้หนึ่งแม้จะมีร่องรอยของผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาแต่กาลเวลาไม่ได้ปกปิดความงาม ดวงตาของหวังโสว่เหรินงดงามเหมือนมารดานี่เองแต่งามอย่างแตกต่าง "โสว่เหรินเป็นเด็กไม่ธรรมดา เจ้าไม่กลัวเขาหรือ" หวังฮูหยินไม่อ้อมค้อมที่จะถาม ใบหน้าไม่ได้ยิ้มแย้มสักนิด ในเมื่อมีคนรู้ความลับของบุตรชายนางแล้ว และอีกฝ่ายก็มีชื่อเสียงไม่ดีสักเท่าไหร่ ไยนางต้องรักษาน้ำใจด้วย "ไม่กลัวเจ้าค่ะ เขาเพียงแค่มีผมขาวดวงตาสีอื่น นอกนั้นก็เหมือนบุคคลทั่วไป" "เขาอาจจะทำร้ายเจ้าได้" ใบหน้าของหวังฮูหยินคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม แต่น้ำเสียงยังราบเรียบทว่าเถียนซูหลินยังกลับตอบหน้าตาเฉยด้วยรอยยิ้มน้อยๆ "เพียงแต่เกรงว่าจะเป็นข้าที่เป็นฝ่ายทำร้ายเขามากกว่าเจ้าค่ะ" หวังฮูหยินได้ยินก็ขมวดคิ้วมุ่น นางรีบหุบยิ้มแล้วอธิบายทันที "ไม่ใช่อย่างที่หวังฮูหยินเข้าใจ ข้าอาจจะเผลอลงมือกับเขาไปบ้าง แต่รับรองได้เจ้าค่ะว่าเขาไม่เจ็บแน่นอน" หวังฮูหยินเข้าใจทันทีว่านางหมายถึงอะไรก็คงจะเหมือนวันก่อนที่บ่าวมารายงานว่านางเพิ่งจะเขวี้ยงหวีสางขนสุนัขลงบนโต๊ะ จนเกือบจะกระดอนโดนเข้าที่ใบหน้าของหวังโสว่เหริน สาเหตุจากบุตรชายไปดูถูกความฝันของนาง สตรีอารมณ์ร้อนทั้งยังไม่รู้จักเก็บกิริยา นางโตมาแบบไหนกัน ก่อนที่นางจะถามอะไรมากไปกว่านี้ หวังโสว่เหรินก็ออกมาพอดี ใบหน้ามิได้แสดงออกว่าตื่นเต้นดีใจที่มีคนมาหาทว่าแววตากลับประกายเจิดจ้า ผู้เป็นมารดามองบุตรชายที่เผลอสบตานาง เขารีบก้มหน้าเพราะรู้แล้วว่ามารดากำลังจ้องเขาอยู่ เขาออกอาการมากไปหรือถึงถูกมารดายิ้มอย่างรู้ทัน ส่วนหวังฮูหยินก็อดที่จะคิดในใจไม่ได้ว่านี่เป็นครั้งแรกเลยกระมังที่บุตรชายหลุดอาการออกมา ไม่เหมือนยามที่พี่ชายส่งสุนัขมาให้ เขาแค่ยิ้มรับทว่าแววตากลับเรียบเฉย ต่างจากแขกมาเยือนเขากลับปั้นหน้าขึงขังแต่แววตาลิงโลด "เจ้ามาทำไม" เขากล่าวเสียงแข็งแต่ใครก็ฟังออกว่านั้นคือน้ำเสียงที่เขาพยายามฝืนให้มันเป็นเช่นนั้นเพราะน้ำเสียงกลั้วความดีใจออกมาเสียมากกว่า เถียนซูหลินได้โอกาสจึงหันไปยังตะกร้า หยิบผ้าที่ตัวเองลงมือเย็บออกมา "ข้าเอามาให้เปาเป่า" นางชูให้ทุกคนได้เห็นผ้าที่นางเย็บ "นี่คืออะไร?" หวังฮูหยินมองและอยากจะยื่นมือไปหยิบมาดู เถียนซูหลินเห็นเช่นนั้นก็รีบยื่นให้พร้อมทั้งอธิบายหลังจากที่ผ้าผืนนี้ไปตกยังมือของหวังฮูหยิน "นี่คือชุดของเปาเป่า ข้าลองเย็บดูเจ้าค่ะ ข้าเห็นว่าคนยังมีอาภรณ์สวมใส่ แล้วเปาเป่าก็สมควรมีชุดใส่เหมือนกัน" "หืม! ชุดสำหรับสุนัข" "เจ้าค่ะ ให้ลองได้เลยไหมเจ้าคะ ข้าอยากเห็น หวังฮูหยินจะได้เห็นด้วยเจ้าค่ะ" หวังฮูหยินถูกคำขอที่ไม่อาจปฏิเสธได้ จึงมองไปยังสาวใช้ของตน สาวใช้รู้งานดีจึงเดินไปยังเรือนของหวังโส่วเหรินเพื่อนำสุนัขมา ไม่นานนักสาวใช้อุ้มสุนัขมายังเรือนรับรอง นางนำเปาเป่ามาอุ้มและลองนำชุดมาสวม โดยเริ่มจากใส่ที่เท้าทั้งสี่และค่อยมาติดกระดุม "ดูจะหลวมไปหน่อย แต่ไม่เป็นไรจะได้ไม่อึดอัด" นางพูดกับตัวเองจนนึกได้ว่ายังมีอีกหลายคนอยู่ในเรือนนี้ด้วย "เอ่อ...หวังฮูหยินดูว่าเป็นอย่างไรเจ้าคะ" "ไม่เลว พวกเจ้าก็ไปเดินเล่นที่สวนเถิด ในเรือนดูอึดอัด ประเดี๋ยวให้สาวใช้นำอาหารว่างไปให้" เถียนซูหลินยิ้มรับและส่งสายตาไปให้หวังโสว่เหรินที่เงียบอยู่นาน จนเขารู้ตัวเดินนำนางออกไป เมื่อสองคนเดินจนพ้นเรือนแล้ว สาวใช้คนสนิทก็เอ่ยปากออกมา "นางก็ไม่เห็นน่ากลัวอย่างที่คิดไว้นะเจ้าคะ" "คิดจะเข้าหาใครต้องทำดีเพื่อหวังผลประโยชน์" หวังฮูหยินเอ่ยจบก็เดินเข้าเรือนของตนเองไป ส่วนสาวใช้ก็กำชับให้บ่าวไปนำของว่างไปส่งให้แขกผู้มาเยือนที่สวนหลังจวน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD