"บ่าวไม่เข้าใจเจ้าค่ะ" อาม่านที่อยู่มานานอดไม่ได้ที่จะถาม นางรับใช้เถียนซูหลินมานานจะบอกว่านางไม่มีความรู้สึกกับนายสาวย่อมเป็นไปไม่ได้
"จิวลู่ เจ้าเพิ่งมาอยู่กับข้า นิสัยข้าเจ้าคงรู้ไม่มากก็น้อย เมื่อมีโอกาสก็ควรจะรีบไปเสีย" เถียนซูหลินหันไปทางจิวลู่และเอ่ยกับอีกฝ่ายเพราะรู้ว่าเดิมทีนางไม่ได้มีใจอยากอยู่กับตน
"เอ่อ...จะ...เจ้าค่ะ" จิวลู่รีบสาวเท้าออกทันที แต่ไม่เผลอหันมาเอาความดีเข้าตน "หากคุณหนูมีสิ่งใดเรียกใช้ บอกบ่าวได้นะเจ้าคะ บ่าวจะอยู่แถวๆนี้ เจ้าค่ะ"
เมื่อจิ่วลู่ออกจากเรือนไปแล้ว เถียนซูหลินก็หันมาเอ่ยกับ
อาม่านต่อ "เวลานี้ข้าไม่ไว้ใจเจ้าและไม่อาจไว้ใจใคร"
"คุณหนู!" นางตกใจกับคำเมื่อครู่ได้แต่มองเถียนซูหลินรินน้ำชาใส่ถ้วยแล้วยกกระดกดื่มด้วยท่าทางเอื่อยเฉื่อย ไม่สนใจว่าอาม่านจะมีสีหน้าอย่างไร นางวางถ้วยชาและหันมามองอาม่านอีกครั้ง
"เจ้ารู้ว่าข้าเป็นคนรักพวกพ้อง ต่อให้เจ้าเป็นบ่าวข้าก็พร้อมที่จะปกป้อง ข้ายังต้องการบ่าวที่จงรักภักดี ยอมหลั่งน้ำตาเห็นใจและพร้อมจะกางปีกปกป้องข้า แต่พวกเจ้าไม่เคย อาม่าน...เจ้ากับ
จื่อหยวนอยู่ด้วยกันย่อมสนิทกันมากกว่าข้า นั่นเป็นเรื่องปกติ ข้าย่อมเข้าใจและข้าก็เคยเชื่อใจพวกเจ้า จึงไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องนี้
ข้าอยากได้อะไร อยากพูดสิ่งใดเพียงข้าเอ่ยออกมาข้ายังเห็นพวกเจ้าคล้อยตาม แล้วสุดท้ายเป็นอย่างไร เรื่องของข้าทั้งหมดล้วนเป็นพี่รองที่ล่วงรู้แต่ใครจะคิดว่าคนที่นำความลับของข้าไปบอกกลับเป็นคนที่อยู่กับข้ามานาน
เรื่องจื่อหยวนที่มีความสัมพันธ์กับพี่รองเจ้าก็คงรู้ด้วยสินะ มีแต่ข้าที่โง่เง่า เที่ยวตามหาคนที่ทำให้นางต้องทุกข์ใจ...แต่ช่างเถอะ เพราะอย่างไรเรื่องของนางก็ผ่านมานานแล้ว มาว่ากันในเรื่องของเจ้าดีกว่าอาม่าน
วันที่ข้าตัดสินใจทำเรื่องวันนั้น ข้าพอเข้าใจที่เจ้าไม่ห้ามปรามข้า และหลังจากที่ข้าประสบเหตุ ข้าก็รู้ว่าพวกเจ้าไม่ได้ถูกลงโทษทั้งไม่นำความมาบอกกล่าวยังจวนสกุลเถียน แต่นั่นไม่ได้สร้างความเจ็บเคืองใจให้ข้า แต่เป็นเพราะเจ้า! เจ้าไม่เคยทำเหมือนบ่าวคนอื่นที่ข้าเห็น ไม่เคยยืนประจันหน้ากับผู้ใดแทนข้า ไม่เคยคิดปกป้องข้าและไม่เคยคิดเผื่อข้าเมื่อเทียบกับซินซินสาวใช้ของนาง...
เจ้าคงเห็นแล้วว่านางยอมที่จะปะทะกับข้าเพื่อปกป้องนาย เช่นนั้นข้าก็ไม่จำเป็นต้องมีเจ้าคอยรับใช้ เพราะมีเจ้าไปก็ไร้ค่าสำหรับข้า" ใช่! เหตุการณ์เมื่อครั้งที่เถียนซูหลินเยือนอาราม ซินซินสาวใช้ของจื่อหยวนออกมาปกป้องนายสาวที่ท้องใหญ่ ทั้งแสดงออกทางสายตาว่านางมิได้เกรงกลัวอำนาจของเถียนซูหลินแต่อย่างใด ส่วนหนึ่งอาจมาจากคุณชายรองคอยหนุนหลัง
"คุณหนูเจ้าคะ บ่าว...บ่าวขอโทษ นับแต่นี้ข้าจะจงรักภักดี จะรับใช้คุณหนู ยอมเป็นวัวเป็นควายรับใช้คุณหนูทุกชาติ เพียงแต่อย่าไล่บ่าวเลยนะเจ้าคะ" นางเริ่มตระหนักถึงความจริง นางเป็นบ่าวและเป็นบ่าวคนสนิทคนหนึ่งที่เถียนซูหลินไว้ใจ และเหตุใดจู่ๆ นางถึงละเลยหน้าที่ของบ่าวสนิทไปได้ หรือเป็นเพราะเหตุการณ์วันนั้น
"เจ้าอย่าพูดเช่นนั้นเลย ข้าให้หนังสือสัญญาซื้อขายเจ้าแล้ว เจ้าจะไปทำงานที่เรือนไหนหรือจวนไหนก็ย่อมได้ ข้าไม่ยุ่งเกี่ยวกับเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะเป็นอะไร ทุกอย่างล้วนไม่เกี่ยวกับข้า ไปเถอะ" อาม่านรีบคลานเข่าเข้ามาแล้วเกาะขานาย เพื่อร้องขอให้นางรับตนอยู่เหมือนเดิม
"เจ้าไปหาจื่อหยวนขอร้องให้นางรับเจ้าทำงานก็ได้นะ ข้ามั่นใจว่านางย่อมเห็นถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างเจ้าแน่นอน"
"ไม่เจ้าค่ะ ให้บ่าวได้รับใช้คุณหนูเถอะนะเจ้าคะ ต่อไป..ต่อไปบ่าวจะทำหน้าที่ของบ่าวให้สุดความสามารถ บ่าวยอมให้คุณหนูสั่งโบยบ่าวก็ได้นะเจ้าคะ"
"โบย? ทำไมข้าต้องสั่งโบยเจ้าด้วย ข้าไม่ทำเช่นนั้นหรอก หากเป็นแต่ก่อนข้าคงทำกับเจ้ามากกว่าโบย แต่ตอนนี้ข้าไม่ทำ เพราะอะไรรู้ไหม? เพราะถ้ายังคิดลงมือกับเจ้า นั่นแสดงว่าข้ายังคงมีความรู้สึกกับเจ้าอยู่ เจ้าไม่ต้องกลัวหรอกว่าจะไปเรือนไหนไม่ได้ ข้าบอกกับพี่สะใภ้ใหญ่ให้แล้วว่าข้าไม่ได้ไล่พวกเจ้า เจ้าไม่ต้องกังวลข้าอยู่คนเดียวสะดวกกว่า"
"ให้บ่าวอยู่เถอะเจ้าค่ะ บ่าวอยากรับใช้คุณหนูจริงๆ เจ้าค่ะ"
อาม่านขอร้อง เดิมทีเถียนซูหลินก็เป็นคนที่ไม่ชอบพูดมาก ทั้งอารมณ์หงุดหงิดง่ายแต่ครั้งนี้นางกลับมองอาม่านอย่างพิจารณา
"เอาเถอะ หากเจ้าอยากอยู่ก็ตามใจ เดิมทีในจวนนี้ข้าก็รู้สึกเคว้งคว้างทั้งข้าต้องรอหาบ่าวคนใหม่มา ระหว่างนี้เจ้าก็ดูแลเรือนนี้ให้ข้าไปก่อน ข้าจะให้ค่าจ้างกับเจ้าเป็นค่าตอบแทนแล้วกัน "
"ไม่ต้องเจ้าค่ะ คุณหนูไม่ต้องให้บ่าว บ่าวได้เงินเดือนทุกเดือนอยู่แล้ว"
"เช่นนั้นเจ้าก็ไปหาพี่สะใภ้ใหญ่"
"ไม่ๆ เจ้าค่ะ บ่าวอยู่กับคุณหนูเจ้าค่ะ บ่าวจะรับ บ่าวจะรับเงินจากคุณหนูเจ้าค่ะ" นางรีบปาดน้ำตาลวกๆ รับคำจากนายสาวที่เพิ่งตัดสินใจรับตนให้มารับใช้อีกครั้ง แม้นายจะมีความรู้สึกกับตนไม่เหมือนเดิมแต่นิสัยพื้นฐานของเถียนซูหลินนางรู้ดีที่สุด
"คุณหนูกำลังทำอะไรหรือเจ้าคะ" นางเห็นเถียนซูหลินหยิบผ้าขึ้นมาเย็บอย่างตั้งอกตั้งใจจึงอดเอ่ยปากถามทั้งที่ดวงตายังมีคราบน้ำตาอยู่
"ท่านแม่บอกว่าข้าควรฝึกเย็บปักถักร้อย ข้าก็ทำเล่นๆไปอย่างนั้นแหละ" นางตอบคำ แต่คนฟังดูผ้าที่อยู่ในมือแล้ววิเคราะห์คงไม่ได้ทำเล่นๆดังที่กล่าว เพราะสีหน้าจริงจังมาก อาม่านก็ไม่อยากถามอะไรมากเพราะกว่านางจะขอร้องให้เถียนซูหลินรับตนเป็นสาวใช้ก็ยากอยู่แล้ว