นิตรา 22

2780 Words
“จะอาบด้วยกันยังไง?” “ทำไมจะอาบไม่ได้อะ” พอได้ยินคำพูดของน้ำพริกที่พูดเหมือนไม่คิด ก้องก็แทบยกมือขึ้นกุมขมับ ก่อนจะเตรียมเดินออกไปข้างนอก เพื่อให้เธออาบน้ำก่อนทว่า... “พี่จะไปไหน?” มือเล็กจับแขนเขาไว้พร้อมกับเอ่ยถามด้วยสีหน้าไม่รู้สึกรู้สาในคำพูดของตัวเองแม้แต่น้อย “ออกไปข้างนอก” “แต่หนูไม่กล้าอาบน้ำคนเดียว” “เดี๋ยวไปยืนรอหน้าห้องน้ำ” “แล้วพี่ยืนรอข้างในห้องน้ำไม่ได้เหรอ?” พอเห็นร่างเล็กดื้อรั้นไม่หยุดแถมพูดไม่รู้จักคิด ก้องจึงถอนหายใจคล้ายเหนื่อยหน่าย ก่อนจะหันไปมองหน้าเธอแแล้วถามออกไปตรง ๆ “ถ้ายืนข้างในจริง จะกล้าอาบไหม?” “กล้า เพราะหนูกลัวจริง ๆ” “…” ก้องเงียบไปครู่หนึ่งโดยไม่รู้จะตอบออกไปอย่างไร ก่อนที่น้ำพริกจะเขย่าแขนเขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนพร้อมกับทำตาปริบ ๆ “นะ ๆ พี่รอหนูข้างในห้องน้ำหน่อยได้ไหม” สิ้นเสียงเล็กทำเอาเขาเกือบเคลิ้มตาม แต่พอลองนึกดูดี ๆ หากเขารอเธอข้างในห้องน้ำจริง ๆ ดูแล้วไม่น่ารอด ไม่ใช่หมายถึงเธอ แต่หมายถึงเขาไม่น่ารอด ได้ยืนแข็งตายก่อนพอดี... เมื่อดึงสติกลับมาได้แล้วนึกถึงความเป็นจริง จึงตอบออกไปด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมน่าเกรงขามเพื่อให้เธอเชื่อฟัง... “เลือกเอาจะให้ยืนรอหน้าห้องน้ำหรืออาบคนเดียว” พูดจบก้องก็เปิดประตูแล้วเดินออกไปข้างนอกทันที ทางด้านน้ำพริกได้แต่ยืนมองแผ่นหลังกำยำของอีกคนที่เดินออกไปข้างนอกกระทั่งประตูปิดลงด้วยใบหน้าบูดบึ้ง อยากจะเดินตามออกไปรบเร้าเขาอีกครั้ง แต่ก็กลัวว่าอีกคนจะรำคาญแล้วพานไม่เฝ้าเธอเลย จึงจำต้องยอม... เมื่อไม่มีทางเลือกน้ำพริกจึงสูดลมหายใจเข้าปอดหนัก ๆ เพื่อเรียกความกล้าแล้วข่มความกลัวเอาไว้ในใจ ก่อนจะเลื่อนฝ่ามือจับชายเสื้อยืดแล้วถอดออกทางศีรษะ ขยับมือไปทางด้านหลังเพื่อปลดตะขอชั้นในออกแล้วพาดยังราวไม้ เมื่อท่อนบนเปลือยเปล่ามือเล็กก็รีบปลดกระดุมกางเกงขาสั้นแล้วถอดออกพร้อมกางเกงชั้นในตัวบาง ขณะตาคู่สวยนั้นคอยเหลือบมองไปยังช่องลมอย่างหวาดระแวง ก่อนปากอวบอิ่มจะขยับพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “หนูไม่ได้ล็อกประตูนะ” ทางด้านก้องขณะยืนจับผ้าขาวม้าปัดไล่ยุ่งที่บินตอมรอบตัวจนน่ารำคาญอยู่นั้น พอได้ยินคำพูดของน้ำพริกก็ชะงักมือเล็กน้อย ก่อนจะชำเลืองไปยังประตูห้องน้ำที่เปิดแง้มอยู่ จู่ ๆ ร่างกายก็ร้อนรุ่มขึ้นมาดื้อ ๆ อีกทั้งลูกกระเดือกยังขยับขึ้นลงไม่หยุด จึงรีบหันหน้าไปทางอื่น แล้วเลือกสนใจต้นไม้ใบหญ้าแทนคนที่อยู่ในห้องน้ำ… “พี่ก้อง!” ขณะกำลังตักน้ำอาบ ตาคู่สวยก็คอยเหลือบมองรอบข้างไม่ว่างเว้น เพราะกลัวจะมีอะไรโผล่มาในตอนที่เธอเผลอ ส่วนริมฝีปากก็เอ่ยเรียกคนที่อยู่หน้าห้องน้ำเมื่อเห็นเขาเงียบไป… “อือ” พออีกคนขานรับก็อุ่นใจขึ้นมาเล็กน้อย จึงรีบตักน้ำอาบแล้วหยิบสบู่มาถูทำความสะอาดผิวกาย จากนั้นมือเล็กก็ควานหาขันที่วางอยู่ขอบอ่างเพื่อมาตักน้ำล้างตัว แต่เพราะมัวหวาดระแวงกับสิ่งรอบข้างจนไม่ได้มองเบื้องหน้า จึงทำให้มือปัดไปโดนขันน้ำที่วางอยู่ขอบอ่างร่วงหล่นลงยังพื้น ตุบ! “ว้าย!” พอขันที่ตนเป็นคนทำร่วงหล่นลงพื้นเองก็ตกใจไม่น้อย แต่พอตั้งสติได้น้ำพริกก็รีบก้มลงหยิบ... ทางด้านก้องขณะยืนอยู่หน้าห้องน้ำพอได้ยินเสียงน้ำพริกร้องขึ้น ด้วยสัญชาตญาณความเป็นห่วง จึงจะผลักประตูห้องน้ำเข้าไปข้างใน แต่! ก่อนที่ประตูจะเปิดกว้างเขาก็ได้สติก่อน จึงชะงักมือไว้ทัน แล้วถามร่างเล็กข้างในด้วยน้ำเสียงติดขัด “เป็นอะไร?” “หนูทำขันตก” ได้ยินคำตอบของน้ำพริกก้องก็ถอนหายใจด้วยความรู้สึกโล่งอก ก่อนสายตาไม่รักดีจะมองผ่านประตูที่เปิดแง้มอยู่เข้าไปในห้องน้ำ ทำให้เห็นเรือนร่างอีกคนสะท้อนเงายังผนังปูน ซึ่งเห็นส่วนเว้าส่วนโค้งของเธอชัดเจน ก้องจึงรีบดึงประตูห้องน้ำปิดลงทันที ขณะใบหน้านั้นเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ อีกทั้งร่างกายยังร้อนรุ่มขึ้นมาผิดปกติ... ในเวลาที่ยืนทำอะไรไม่ถูกพอประตูห้องน้ำเปิดออก พร้อมกับร่างเล็กก้าวเดินออกมาข้างนอกด้วยผ้าขนหนูพันรอบอกผืนเดียวใบหน้าหล่อก็หันไปมองเธอครู่หนึ่ง พอเห็นน้ำพริกอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย ก้องก็ไม่รอช้ารีบเดินหนีเธอออกมา แล้วมุ่งตรงไปยังโอ่งน้ำหน้าเรือนรับรอง จากนั้นก็ตักน้ำรดตัวทั้งที่ยังไม่ถอดเสื้อผ้า การกระทำของเขาอยู่ภายใต้ตาคู่สวยที่มองด้วยความงุนงงและไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงไม่เข้าไปอาบในห้องน้ำดี ๆ เมื่อหาคำตอบไม่ได้น้ำพริกจึงเลือกไม่สนใจ เดินมุ่งตรงไปยังบันไดเพื่อขึ้นไปให้แต่งตัวให้เรียบร้อย ฝั่งก้องเมื่อตักน้ำในโอ่งที่รองจากน้ำฝน อาบจนรู้สึกสดชื่นก็หันไปมองน้ำพริกที่กำลังเดินขึ้นบ้าน ก่อนจะพ่นลมหายใจด้วยความรู้สึกโล่งอก เมื่อร่างกายกลับมาเป็นปกติแล้ว จากนั้นก็หยิบผ้าขาวม้าที่วางไว้บนเตียงไม้สักมาพันรอบเอวสอบ ก่อนจะจัดการถอดกางเกงยีนพร้อมกับกางเกงใน แล้วขยี้ผ่านน้ำเล็กน้อย จากนั้นก็เดินเอาไปตากที่ราวไม้แล้วขึ้นไปบนบ้านทันที... หลังจากสวมใส่ชุดนอนเรียบร้อยน้ำพริกก็ผลักประตูห้องนอนออกกว้างแล้วก้าวออกมาข้างนอก เพื่อเดินไปยังห้องนอนของแม่เธอ เนื่องจากพรุ่งนี้นลินญาจะเดินทางกลับกรุงเทพแล้ว คืนนี้น้ำพริกจึงอยากไปนอนกับแม่ของเธอ ขณะขาเรียวเล็กเดินพ้นประตูห้องออกมาข้างนอก สายตาก็เหลือบเห็นสามีของเธอมีเพียงผ้าขาวม้าผืนเดียวผัวรอบเอวหมิ่น ๆ กำลังเดินขึ้นมาบนบ้านเธอจึงหยุดยืนมองเขา ส่วนก้องเมื่อเดินพ้นบันไดเท้าเหยียบยังพื้นชั้นสองของตัวบ้าน เห็นน้ำพริกยืนมองอยู่จึงสบตาเธอครู่หนึ่ง ก่อนจะเลือกเดินตรงไปยังห้องนอนของเขาที่เธอเพิ่งเดินออกมา เมื่อเดินเข้าไปในห้องมือหนาก็เอื้อมไปจับประตูเตรียมจะปิดลง ทว่าได้ยินเสียงของคนตัวเล็กเอ่ยขึ้นก่อนจึงชะงักมือ “คืนนี้หนูขอไปนอนกับแม่นะ” “ก็ไปสิ จะขอทำไม” “ก็บอกไว้ เผื่อพี่เปลี่ยนใจอยากนอนกับหนู” “ไผอยากนอนนำ” (ใครอยากนอนด้วย) “พี่ไม่อยากนอนด้วย แต่หนูอยากนะ ดังนั้นไม่ต้องล็อกห้องล่ะ เผื่อกลางคืนหนูย่องมานอนด้วย” “ไร้สาระ” คนในห้องได้แต่บ่นเธอพึมพำออกไป ก่อนจะรีบดึงประตูห้องปิดลงแล้วล็อกกลอนทันที การกระทำของก้องทำเอาน้ำพริกถึงกับหลุดยิ้มในท่าทีของเขาที่ดูกลัวเธอออกหน้าออกตา ก่อนจะบ่นอุบอิบคนเดียวเมื่อนึกถึงคำพูดของกัญญา... “สงสัยจะเก็บซิงไว้ชิงโชค” ขณะร่างเล็กยืนจ้องมองบานประตูห้องนอนของสามีด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงหมาหอนดังมาจากหน้าบ้าน ใบหน้าสวยจึงรีบหันไปมองอย่างหวาดระแวง พอเห็นรอบข้างนั้นมืดสนิทอีกทั้งบรรยากาศยังแสนวังเวง น้ำพริกจึงรีบวิ่งไปยังห้องนอนของแม่เธอ แล้วรีบปิดประตูล็อกกลอนให้แน่นหนาทันที... เมื่อเข้ามาในห้องน้ำพริกก็ตั้งใจสวดมนต์และนั่งสมาธิเหมือนเช่นทุกคืน เมื่อสบายใจก็ทิ้งศีรษะลงยังหมอน มือเล็กจับเบี้ยแก้ที่พ่อครูพายุให้ไว้แน่น ขณะภายในใจได้แต่อธิษฐานขอให้คืนนี้เธอนอนหลับฝันดี และหลุดพ้นจากบ่วงกรรมนี้เร็วไว... ทางด้านก้องหลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็เดินออกไปข้างนอก แล้วหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่หน้าโทรทัศน์ขึ้นมาดู เมื่อเห็นว่าแบตเตอรี่หมดจึงจัดการชาร์จทิ้งไว้ให้เรียบร้อย จากนั้นก็เดินกลับเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง โดยเลือกไม่ล็อกกลอนประตู... ร่างสูงทิ้งตัวนอนลงยังเตียงที่เพิ่งซื้อมาใหม่ ก่อนจะคอยเหลือบมองไปยังประตูบานใหญ่เป็นระยะ ๆ กระทั่งกินเวลาเกือบชั่วโมง ก็ยกแขนขึ้นก่ายหน้าผากเมื่อคิดไม่ตกกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้คฑาวุธนั้นเลิกอาฆาตแค้น... ช่วงเช้าวันถัดมาหลังจากร่ำรากับแม่ของเธอเรียบร้อย น้ำพริกก็ยืนมองรถของนลินญาแล่นออกจากบ้านด้วยความรู้สึกหวิว ๆ ข้างในใจ เพราะตั้งแต่จำความได้เธอก็ไม่เคยห่างจากแม่ของเธอเลย ตาคู่สวยมองรถคันดังกล่าวด้วยความรู้สึกเศร้าสร้อยขณะขอบตานั้นร้อนผ่าว ก่อนที่น้ำตาจะไหลริน... ขณะน้ำพริกยืนมองรถแม่ของเธอห่างไกลออกไปเรื่อย ๆ ด้วยแววตาโศกเศร้า ก็ไม่อาจรับรู้เลยว่าบนชั้นสองของตัวบ้าน มีชายหนุ่มร่างสูงโปร่งซึ่งเป็นสามีของเธอยืนกอดอกมองอยู่ พอเห็นเธอยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาพร้อมกับหันมา เขาจึงก้าวเดินลงบันไดมาข้างล่าง... พอเห็นก้องเดินลงบันไดน้ำพริกก็รีบเข้าไปหาพร้อมกับเอ่ยถามเขาทันที “เช้านี้พี่อยากกินอะไรเหรอ?” “ทำเป็น?” นึกถึงวันที่เธอมาวันแรกยังเกือบจะเผาครัวเขาอยู่เลยแล้วแบบนี้จะรอดไหม ส่วนน้ำพริกก็ตอบกลับไปด้วยใบหน้าภูมิใจ “ไม่เป็น” “แล้วจะถามเพื่อ?” “ก็หนูจะได้โทรสั่งให้พนักงานมาส่งไง” คำตอบของน้ำพริกทำเอาก้องถึงกับส่ายหน้า ก่อนจะเลือกเดินไปยังครัวเพื่อหาทำกับข้าวแทนการสนทนากับเธอ ตาคู่สวยมองร่างสูงเดินเข้าไปในครัว เธอจึงรีบตามเขาไปติด ๆ แม้จะทำไม่เป็นแต่ก็สามารถช่วยหยิบอะไรได้บ้าง... หลังจากก้องเข้ามาในครัวแล้วก็มุ่งตรงไปยังตู้เย็น แล้วเปิดดูว่าพอมีอะไรจะทำกินได้บ้าง เมื่อเห็นหมูเห็ดเป็ดไก่อีกทั้งปลาและผักหลากหลายชนิด ซึ่งคาดว่าน่าจะเหลือจากงานแต่งของตนเมื่อวาน ตาดำขลับมองวัตถุดิบในตู้เย็นแล้วคิดครู่หนึ่งว่าจะทำเมนูอะไรกินดี เมื่อความรู้สึกนึกอยากกินอ่อมไก่จึงหยิบวัตถุดิบออกมาจากตู้เย็น แต่พอหันกลับไปเห็นน้ำพริกยืนมองอยู่ก็ชะงักครู่หนึ่ง เพราะลืมถามเธอเลยว่ากินอาหารพื้นบ้านของเขาได้ไหม เนื่องจากตอนนี้ไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้เพียงลำพังคนเดียวแล้ว แต่มีภรรยาเพิ่มมาอีกคน เมื่อคิดได้ดังนั้นก้องจึงเอ่ยถามน้ำพริกด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง… “จะทำอ่อมไก่ กินเป็นไหม?” “คืออะไรเหรอ?” คำตอบที่ไม่ต้องถามต่อเพราะรู้แล้วว่าเธอกินไม่เป็นแน่ ๆ ร่างสูงจึงเก็บวัตถุดิบทำอ่อมไก่ที่ตนอยากกินเข้าตู้เช่นเดิม จากนั้นก็หยิบวัตถุดิบที่เป็นเมนูง่าย ๆ และคิดว่าเธอกินได้ออกมาจากตู้เย็นโดยเลือกไม่ถามไถ่แล้ว ทางด้านน้ำพริกเมื่อเห็นก้องถือของเต็มไม้เต็มมือ จึงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงใสแจ๋วพร้อมกับเตรียมเข้าไปช่วย “มีอะไรให้หนูช่วยไหม?” “ไม่” เพราะดูจากที่เคยเห็นมาคิดว่าทำคนเดียวคงจะคล่องกว่า ก้องจึงหันไปมองหน้าน้ำพริกพร้อมกับตอบปฏิเสธออกไป พอน้ำพริกได้ยินแบบนั้นก็ไม่รู้จะเอายังไงต่อดี หากจะรบเร้าต่อเพื่อขอช่วย ก็กลัวเขาจะว่าดื้อรั้น แต่ถ้าหากเดินออกไปตามที่อีกคนบอกก็กลัวว่าจะเห็นแก่ตัวเกินไป แถมยังดูเป็นภรรยาที่ไม่เอาไหนอีกต่างหากถ้าปล่อยให้สามีทำกับข้าวให้กิน น้ำพริกยืนคิดครู่หนึ่งพอก้องหันมามอง เธอจึงเม้มปากแน่น ก่อนจะพูดออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “งั้นหนูไปอาบน้ำนะ” “อือ” ได้ยินคำอนุญาตน้ำพริกจึงเลือกเดินออกไปข้างนอก ขณะในใจตั้งมั่นว่าต่อจากนี้เธอจะต้องหัดทำกับข้าวเป็นให้ได้… หลังจากมองคนตัวเล็กเดินออกจากครัวกระทั่งพ้นสายตา ก้องก็หันหน้ากลับมาสนใจสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ส่วนในหัวก็เอาแต่คิดกับสิ่งที่ตนกำลังทำอยู่ในตอนนี้ ก่อนจะส่ายหน้าเบา ๆ ให้กับชีวิต เนื่องจากหน้าที่ที่เขากำลังอยู่ในตอนนี้มันควรเป็นของภรรยา ไม่ใช่คนที่เป็นสามีอย่างเขา... ก่อนจะหลุดขำให้กับชีวิตตัวเอง ที่แต่งเมียทั้งทีก็แถมผีเจ้ากรรมนายเวรมาทั้งคณะ ยังไม่พอการใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาวันแรก ตัวเขาก็ต้องตื่นมาทำกับข้าวให้เมียกินแล้ว… แม้จะคิดเช่นนั้นก็ไม่ได้ว่าลำบากที่จะทำให้ แถมยังเต็มใจและยินดีอีกต่างหาก... ทางด้านน้ำพริกหลังจากอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย ขณะกำลังจะเดินขึ้นบ้านตาคู่สวยก็มองเข้าไปในครัวเห็นก้องยังทำกับข้าวไม่เสร็จ เธอจึงรีบเดินขึ้นบ้านเพื่อไปแต่งตัวให้เรียบร้อยจะได้ลงมาช่วยเขา... หลังจากเดินเข้าไปในห้องนอนน้ำพริกก็รีบเช็ดตัวที่เปียกชื้นให้แห้ง จากนั้นก็เดินไปหยิบชุดชั้นในมาสวมใส่ให้เรียบร้อย... ในเวลาเดียวกันหลังจากทำกับข้าวเสร็จแล้วก้องก็เดินออกมาข้างนอก สายตามองไปยังห้องน้ำเห็นประตูปิดอยู่ จึงคิดว่าน้ำพริกคงยังอาบน้ำไม่เสร็จ เขาจึงเดินขึ้นบ้านเพื่อเอาผ้าขาวม้า แล้วลงไปอาบน้ำข้างโอ่งหน้าเรือนรับรอง เมื่อสองเท้าเหยียบยังพื้นชั้นสองของตัวบ้าน ร่างสูงก็เดินมุ่งตรงไปยังห้องนอนของตนทันที ก่อนจะดึงประตูไม้เปิดออกอย่างง่ายดายเพราะคนที่อยู่ข้างในไม่ได้ล็อก จากนั้นขายาว ๆ ก็ก้าวเดินเข้าไปข้างใน ทำให้สายตาสะดุดกับร่างอรชรผิวขาวเนียน ที่กำลังยืนสวมใส่เสื้อยืดทางรอบศีรษะ ซึ่งหันหลังให้เขาอยู่ เท้าสองข้างจึงหยุดชะงัก มีความคิดอยากก้าวถอยหลังเพื่อเดินออกไปรอข้างนอกแต่ก็คงไม่ทันแล้ว เพราะภาพทั้งหมดถูกบันทึกลงในความทรงจำเป็นที่เรียบร้อย... พอเห็นร่างเล็กดึงเสื้อปิดยังเอวคอดกิ่วเรียบร้อยเธอก็หันมาทางด้านหลัง จึงสบตากับเขาที่ยืนมองอยู่ ก้องจึงทำท่าทีเหมือนไม่รู้สึกกับภาพที่เห็นเมื่อครู่ แล้วเดินผ่านน้ำพริกไปยังราวแขวนเสื้อผ้าของตน ขณะลูกกระเดือกนั้นไม่อยู่สุขแล้ว... “พี่ทำกับข้าวเสร็จแล้วเหรอ?” “ใช่” ร่างสูงเอ่ยตอบขณะมือหนาเลื่อนลงจับยังชายเสื้อยืดแล้วถอดทิ้งลงยังตะกร้า จากนั้นก็คว้าผ้าขาวม้ามาพาดบ่า แล้วหันไปทางน้ำพริกที่ยืนมองเขาอยู่จึงเอ่ยบอกเธอทั้งที่ไม่มองหน้า “ถ้าอยากใส่บาตร ก็รีบลงไปข้างล่าง” “พี่เตรียมกับข้าวใส่บาตรให้หนูเหรอ?” “ใช่” พูดจบขายาว ๆ ก็ก้าวเดินออกจากห้องนอนทันที โดยไม่คิดจะมองหน้าหรือรอฟังคำขอบคุณจากเธอเลยสักนิด ทางด้านน้ำพริกขณะกำลังจะอ้าปากเอ่ยขอบคุณ แต่ก็ไม่ทันเพราะอีกคนนั้นเดินออกไปข้างนอกด้วยความเร็วแสง จึงได้แต่มองตาปริบ ๆ ก่อนใบหน้าสวยจะระบายยิ้มเมื่อนึกถึงสิ่งที่สามีทำให้... จากนั้นก็เดินลงไปข้างล่างเพื่อใส่บาตรด้วยท่าทีอารมณ์ดี...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD