ฉันไม่รู้ว่าที่เขาพูดมามันจริงไหมแต่ว่าฉันเองก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะต้องหาความจริงจากเขาเสียหน่อย เขาจะทำอะไรมันก็เรื่องของเขาไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉัน ใช่แล้วฉันคิดแบบนี้แหละ ในขณะที่ฉันยังยืนอยู่ที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์อยู่เลย และเขาก็ถือเครื่องดื่มเกลือแร่น้ำสีเหลืองเย็นเจี๊ยบมาวางไว้ที่เคาน์เตอร์คิดเงินฉัน แถมยังหันไปหยิบของเพื่อนมาด้วย
“น้องฝันทำงานที่นี่เองเหรอครับ” พี่ขั้นเทพถามฉันขึ้นมา ก่อนจะมองไปที่โซนขายอาหาร
“ค่ะ ฝันทำกะดึกที่นี่”
“ดีเลย สนามที่พวกพี่เตะบอลกันอยู่ซอยข้าง ๆ นี้เอง” พี่เคนพูดแทรกขึ้นมาแล้ววางขวดน้ำเปล่าจำนวนหกขวดที่เคาน์เตอร์ของฉัน เหมือนว่าฉันก็จะพอรู้อยู่นะว่าซอยข้าง ๆ มีสนามฟุตบอลเพียงแต่ตอนนั้นฉันไม่ได้สนใจก็เลยลืม ๆ ไป
“น้องฝันหยุดวันไหนครับ วันหยุดก็มาดูพวกพี่เตะบอลสิ” พี่จีนถามฉันในขณะที่กำลังแทรกตัวเองให้ออกไปจากช่องคิดเงินตรงนี้
“ฝันหยุดวันอาทิตย์ค่ะ”
“อ้อ ทำงานหกวันหยุดหนึ่งวันเหรอครับ” พี่โชนถามฉันแล้ววางไอศกรีมลงที่เคาน์เตอร์คิดเงินของฉัน
“ใช่ค่ะ”
“ดีเลยไว้เดี๋ยวพวกพี่แวะมาหาบ่อย ๆ พวกพี่มาเตะบอลที่นี่กันบ่อยมากเลยครับ” พี่เซฟสมทบ
“เดี๋ยวกูไปสั่งยำวุ้นเส้นก่อน พวกมึงเอาไรเปล่า”
ก่อนที่พี่เซฟจะเดินไปยังโซนขายอาหารก็หันมาถามเพื่อนคนอื่น และเพื่อนคนอื่นก็เดินตามพี่เซฟไปที่โซนขายอาหารทำให้ตรงนี้เหลือเพียงแค่ลูกค้าหนึ่งคนซึ่งก็คือพี่สายลม และฉันที่เป็นพนักงาน การทำงานที่นี่หากเป็นช่วงเวลากันวันก็จะมีพนักงานมาช่วยแพ็กด้วย แต่ถ้าเป็นกะกลางคืนต้องแพ็กเองทั้งหมด ซึ่งฉันก็ทำมันได้เป็นอย่างดี แต่กลับถูกลูกค้าหนุ่มหุ่นล่ำมาแย่งหน้าที่ของฉันทำเสียนี่
“พี่ทำเองครับ”
“ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวฝันถูกต่อว่า”
“ไม่เป็นไรครับ ถ้าเขาว่าน้องฝันเดี๋ยวพี่จะบอกเขาเอง” ฉันหันไปมองเพื่อนร่วมงานคนอื่นด้วยความกลัวว่าจะถูกต่อว่า แต่ว่าเพื่อนร่วมงานของฉันก็ไม่ได้สนใจสถานการณ์ตรงนี้เลยแม้แต่น้อย ทำให้ฉันหันมาหาพี่สายลมแล้วเบาเสียงพูดลงเล็กน้อย
“อย่าเลยนะคะ ฝันไม่อยากถูกดุน่ะค่ะ”
“ก็ได้ครับ แต่ว่าตอนเช้าไปกินข้าวกับพี่นะครับ” เช้าที่จะถึงนี้เป็นวันเสาร์ทำให้ฉันไม่ต้องไปเรียนที่มหาวิทยาลัย ปกติแล้วฉันก็คงจะรีบกลับไปทิ้งตัวลงนอนที่ห้องพักของฉันนั่นแหละ
“แต่ฝันอยากนอนนี่คะ”
“ไปกินข้าวเช้าแป๊บเดียวเอง เสร็จแล้วค่อยนอน นะครับ” เห็นแก่ใบหน้าหล่อ ๆ และน้ำเสียงที่คอยออดอ้อนฉันอย่างน่ารัก ฉันเลยคิดว่าลองตอบตกลงสักครั้งก็คงไม่เป็นอะไร
“ก็ได้ค่ะ แต่ฝันขอกลับไปเปลี่ยนชุดก่อนได้มั้ยคะ”
“เอางั้นก็ได้ครับ”
“ทั้งหมด เจ็ดร้อยสี่สิบห้าบาทค่ะ” เขายื่นบัตรเครดิตมาให้ฉัน ฉันคิดเงินเขาตามหน้าที่ เมื่อเรียบร้อยแล้วก็คืนบัตรเครดิตให้ แล้วก็ยืนรอลูกค้าท่านถัดไปที่ตอนนี้ยังไม่มีเลยสักคน เหตุผลที่ฉันชอบทำงานกะดึกก็เพราะแบบนี้นี่แหละ เพราะลูกค้าไม่เยอะ รถไม่เยอะ อากาศไม่ร้อน และที่สำคัญเพื่อนร่วมงานก็น่ารักกับฉันมากที่สุดเลยด้วย
“งั้นเจ็ดโมงพี่มารับนะครับ”
“ค่ะ” พี่สายลมยิ้มให้ฉันก่อนจะเดินไปหาเพื่อนของเขาที่นั่งกินอาหารอยู่ที่โซนขายอาหาร ฉันไม่รู้ว่าเขากินอะไรรู้เพียงแค่ว่าเขาน่าจะมองฉันเป็นพัก ๆ ฉันเดาเอาจากความรู้สึกน่ะนะ เพราะคนเราเวลาที่ถูกมองก็มักจะรู้สึกอย่างนี่
เวลาผ่านไปไม่นานมากฉันก็ยังไม่มีลูกค้ามาที่เคาน์เตอร์ ฉันเลยเอาผ้ามาเช็ดเคาน์เตอร์เพื่อทำความสะอาด เมื่อเรียบร้อยก็เห็นพี่สายลมเดินตรงมาหาฉันพร้อมกับเพื่อนของเขาที่ยืนรออยู่ที่หน้าประตูซูเปอร์
“พี่ซื้อน้ำส้มมาให้ครับ กินได้ใช่มั้ย” ฉันเผลอยิ้มออกมากับความใส่ใจของเขา แล้วยื่นมือรับน้ำส้มคั้นสดที่พี่สายลมซื้อเอาไว้ให้ฉันกล่าวขอบคุณเขาก่อนที่เขาจะเดินออกไป
“ขอบคุณนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ พี่บอกแล้วไงว่าพี่จะจีบเราน่ะ” บ้า! คนบ้า! ใครเขาพูดแบบนี้กัน
พี่สายลม และเพื่อนเดินออกไปแล้ว เพื่อนร่วมงานของฉันก็รีบปรี่เข้ามา
“ใครน่ะ เขามาจีบเธอเหรอ”
“เอ่อ”
“ไม่ต้องมาเอ่อ ฉันได้ยินเขาบอกว่าจะจีบเธอ” ฉันเองก็ไม่กล้ายอมรับว่าตัวเองหวั่นไหวง่ายเกินไปแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยแม้แต่น้อย
“ออกไปส่งเขาที่รถสิ ฉันจะดูลูกค้าให้”
“จะดีเหรอ”
“ไปเถอะน่า ไม่ต้องเกรงใจ ฉันจะดีใจมากกว่านะถ้าเธอมีคนที่ดูแลเธอได้”
“ขอบใจนะ” ฉันหันไปขอบคุณมายด์เพื่อนร่วมงานของฉัน แล้วรีบวิ่งไปหยิบเอาผ้าเย็นมาคิดเงินก่อนจะวิ่งออกไปโดยเห็นพี่สายลมกับเพื่อนยังยืนคุยกันอยู่ที่หน้ารถคันหรูของเขาอยู่เลย ไม่สิ ยังมีรถคันหรูคันอื่น ๆ อีกด้วย นี่อย่าบอกนะว่าพวกเขาเป็นพวกคุณชายบ้านรวยกันจริง ๆ น่ะ
“พี่ลมคะ” ทุกคนหยุดนิ่งแล้วหันมามองฉันที่กำลังวิ่งไปหาพวกเขา พี่สายลมที่เดิมทีพิงรถหรูของเขาอยู่ก็รีบเดินเข้ามาหาฉันทันที
“ไม่ต้องวิ่งครับ เดี๋ยวล้ม” เขายื่นมือมาประคองแขนของฉัน
“ฝันซื้อผ้าเย็นมาให้ค่ะ” อีกแล้วรอยยิ้มที่อวดลักยิ้มนี่อีกแล้ว
“ขอบคุณครับ”
“ฝันไปทำงานต่อก่อนนะคะ”
“ครับ” สายตาของเขาเหมือนจะบอกฉันว่าเขาไม่อยากให้ฉันไป แต่ว่าก็ทำได้แค่พูดยินยอมให้ฉันไปทำงาน ฉันวิ่งกลับเข้ามาประจำที่เคาน์เตอร์คิดเงิน หัวใจของฉันยังคงเต้นรัวโดยไม่ทราบสาเหตุ ฉันเผลอยกมือขึ้นสัมผัสที่ตำแหน่งหัวใจ
ตึกตัก... ตึกตัก...
มันยังคงเต้นแรงอยู่เลยอาจจะเพราะฉันวิ่งไปเลยทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงขนาดนี้ก็ได้
ฉันออกกะแล้ว และเดินออกมานอกซูเปอร์เป็นเวลาเจ็ดโมงสิบห้านาที และสิ่งที่ฉันได้เห็นก็ดูแปลกตาไปจากทุกวัน นั่นก็คือมีผู้ชายรูปหล่อมารอรับฉันจากปกติที่ฉันต้องเดินข้ามสะพานลอยไปที่หอพักของตัวเองเพียงลำพัง
“เหนื่อยมั้ยครับ” พี่สายลมหันมาเห็นฉันเขายิ้มจนเห็นลักยิ้มบุ๋มที่แก้มข้างซ้าย เขารีบก้าวขาเรียวยาวมาหาฉันทันที วันนี้เขาใส่รองเท้าแบบสลิปออนสีครีม เข้ากันกับกางเกงผ้าขายาวสีน้ำตาลอ่อน และเสื้อเชิ้ตทับในสีขาวหลวม ๆ รับกับลำคอยาวสวย ถึงแม้วันนี้จะไม่ได้เซตผมแต่เขาก็ดูดีมากเลย โดยเฉพาะลักยิ้มที่บุ๋มลงไป
อ่า... ให้ตายเถอะ เหมือนพระเอกมันฮวาเกาหลีหลุดออกมาเลย
“น้องฝันครับ”
“เอ่อ ขะ ขอโทษค่ะ” ฉันรู้สึกหน้าร้อน ๆ ทั้ง ๆ ที่แดดก็ไม่ได้แรง หัวใจของฉันเต้นรุนแรงแต่ก็หนักแน่นจนฉันต้องจับเอาไว้เพราะกลัวว่ามันจะกระเด็นออกมา
“ขอโทษอะไรครับ” ยิ่งสีหน้างงไม่เข้าใจแบบนี้ เขาก็ยิ่ง…
ดูดีเป็นบ้า
“ไปครับ ไปอาบน้ำ แล้วก็กินข้าวเช้ากันนะ” เขาเดินอยู่เคียงข้างฉันมาจนถึงรถหรูของเขา พี่สายลมเปิดประตูฝั่งข้างคนขับให้ฉันเมื่อฉันเข้าไปนั่งแล้วเขาก็ปิดมัน
เขาเป็นคนแรกเลยล่ะที่ทำให้ฉันหวั่นไหวกับเขาได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้