ปากปีจอ

1279 Words
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้น             “เข้ามา” เทมป์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจก่อนจะปรับสีหน้าให้เข้มเหมือนเดิม             สองสาวเมื่อเข้ามาถึงก็ยกมือไหว้สองหนุ่มมองทั้งสองสาวด้วยความแปลกใจ เพราะพวกเธอมาในชุดเสื้อผ้าที่รัดกุม เหมือนชุดวอร์มไปออกกำลังกายมากกว่า             “ผมแปลกใจมากเลยครับ ที่คุณสองคนมาในชุดนี้ ผมตรินัย เรียกผมว่า เทมป์ก็ได้ครับ” เขายิ้มให้             “ผมดรูว์ สั้น ๆ แต่อย่างอื่นไม่สั้นนะครับ” เขาแนะนำตัวสองแง่สองง่าม             “ทับทิมค่ะ” กรพันธ์เอ่ยแนะนำตัว             “ดอกไม้ หรือ อุมาริการ์ค่ะ” อีกหนึ่งสาวก็แนะนำตัวด้วย             “ว้าว ว้าว ว้าว... ชื่อเพราะทั้งสองคนเลยนะครับ” ดรูว์พูดขึ้นด้วยความหน้าหม้อ เดินตรงเข้าไปหาทับทิม ก่อนจะเชื้อเชิญให้เธอนั่งลงบนเก้าอี้โซฟาสีแดงที่อยู่กลางห้อง มองลงไปผ่านกระจกใสเนื้อหนาตรงหน้าที่กันเสียงดังได้ประมาณหนึ่งเห็นแสงสีวับ ๆ วาบ ๆ และผู้คนที่กำลังสนุกสนานอยู่เบื้องล่าง             “รับเครื่องดื่มอะไรดีครับ” เทมป์ถามทั้งสองสาว             “ขอสปายค่ะ” เสียงทับทิมดังขึ้นก่อน และยักคิ้วให้เพื่อนสาว             ดอกไม้ได้แต่ส่ายหน้าระรัว ไม่ค่อยชอบนักที่ทับทิมชอบทำตัวเป็นสาวนักดื่ม และต้องคอยให้เธอเป็นสาวกพากลับเวลาหญิงสาวเมาขาดสติ             “ขอน้ำส้มค่ะ” อุมาริการ์เอ่ยบอกชายหนุ่มที่ยืนต่อหน้า เธอขยับตัวแบบอึดอัดไม่ชอบสายตาที่เขามองเธอเอาเสียเลย เธอเดินลงไปหย่อนตัวลงนั่งเก้าอี้อีกตัวที่อยู่ใกล้ ๆ ทับทิม             เทมป์เดินไปยกหูโทรศัพท์ภายใน ก่อนจะวางสาย แล้วเดินเข้ามาสมทบ เขาวิสาสะนั่งลงบนที่เท้าแขนเก้าอี้ตัวที่ดอกไม้นั่ง             “ไม่อึดอัดกันหรือครับ ใส่เสื้อผ้าหนาเชียว” เขาพูดกึ่งล้อเลียน ส่งสายตายั่ว ๆ             สองสาวเหมือนรู้หน้าที่ วันนี้อาจจะเปลืองตัวสักหน่อย แต่หากปิดรถได้สักคัน ก็ได้เงินใช้อยู่หลายกะตังค์             ทับทิมเริ่มก่อนที่จะถอดเสื้อคลุมออก แล้วพาดไปที่พนักพิง ดรูว์ชวนเธอคุยอย่างสนุก             “เออ... ห้องน้ำไปทางไหนคะ” ดอกไม้ยกหน้าขึ้นไปยิ้มให้กับเทมป์แล้วถามเขา             “ทางนี้ครับ” เขารีบพาเธอเดินไปยังห้องน้ำที่อยู่ในห้องนั้น ก่อนจะเปิดและปิดประตูให้               ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่จะมีบริกรเดินเข้ามาพร้อมกับถาดเครื่องดื่มและกับแกล้มบางอย่าง             ทับทิมลงมือทานด้วยความหิว วันนี้ยืนมาทั้งวัน และกลัวพุงป่องเลยทำให้ เธอต้องทนกินแซนด์วิชกับนมแค่หนึ่งกล่อง             “อร่อยไหมครับ” ดรูว์ถามด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ             “หิวค่ะ” ทับทิมตอบแบบไม่อาย เธอหันไปส่งยิ้มให้กับดรูว์ เพราะดูท่าทางเขาเป็นมิตรกว่าชายหนุ่มที่ชื่อเทมป์นั่นเสียอีก             “ตามสบายเลยครับ ไม่ต้องกลัวอ้วน อิ่มแล้วเราไปเอ็กซ์เซอร์ไซส์กันข้างล่างนี้ ขี้คร้านน้ำหนักคุณทับทิมจะลดลงกว่าเดิมซะมากกว่า” ดรูว์ไม่ขัด แถมไม่พอกล่าวสนับสนุน             เทมป์นั่งกระดกเหล้าอยู่ที่เคาน์เตอร์เครื่องดื่ม อุมาริการ์กลับออกมาในชุดสวยที่เธอนำมาเปลี่ยนด้วย พร้อมกับเปลี่ยนเป็นรองเท้าส้นสูง             “น้ำส้มครับ” เทมป์เอ่ยพร้อมยกแก้วน้ำส้มให้เธอ ดอกไม้ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ขยับไปนั่งเก้าอี้ตัวที่อยู่ใกล้ ๆ ถึงเวลาทำงานของเธอแล้วสินะ             “คนเยอะอย่างนี้ทุกวันหรือคะ” หญิงสาวชวนคุย ใบหน้าที่ทำเข้มของเขาคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย             “ก็ส่วนใหญ่ศุกร์เสาร์น่ะครับ คนจะเยอะสักหน่อย วันนี้นักร้องเต็มวงด้วย เดี๋ยวตอนห้าทุ่ม บอดี้สแลมลงด้วยครับ” เขาบอกเธอด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ             “ไหนครับโบรชัวร์รถ” เขาทำตีเนียนหันไปถามเธอ เพราะรู้รายละเอียดที่อาคมโทรมาแล้วว่า สองสาวจะมาแนวไหน             “อ๋อค่ะ” เธอเอื้อมมือไปหยิบโบรชัวร์รถที่เตรียมมาแล้วยื่นส่งให้ เขารับมันไว้             “รถสวยคนก็สวยนะครับ” เขาทำสายตากรุ้มกริ่มตามองหน้าอกตูม ๆ ของดอกไม้อย่างมันเขี้ยว เธอมองตามสายตาของเขา แล้วนึกต่อว่าในความหื่นของเขาอยู่ในใจ แต่เธอก็ชักชินเสียแล้ว กับสายตาผู้ชายเวลามองเธอตอนทำงาน             “ดอกไม้ ขอตัวไปกับคุณดรูว์นะ ฉันจะไปหลังเวที ขอลายเซ็นพี่ตูนมาให้” เธอบอกด้วยความดีใจ หญิงสาวกระดี๊กระด๊าออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดที่สวยเซ็กซี่สุด ๆ ดรูว์น้ำลายแทบหก อุมาริการ์พยักหน้าและยิ้มให้ เมื่อเพื่อนหนุ่มและเพื่อนสาวของเขาและเธอพ้นตัวไปจากห้องนั้นแล้ว เขาก็เริ่มเจรจาทันที             “คืนนี้ผมต้องจ่ายคุณเท่าไหร่ครับ” เขาเข้าเรื่อง ดอกไม้ถึงกับหน้าเหวอไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดในครั้งแรก ก่อนที่ถึงบางอ้อ มองหน้าผู้ชายตรงหน้าจ้องเขม็ง             “เก็บเงินของคุณไว้เผาเพื่อนคุณเถอะค่ะ” อุมาริการ์ปากร้ายออกมาทันที ไม่คิดว่าผู้ชายหน้าตาดีตรงหน้าจะเป็นคนแบบนี้ เธอรีบหมุนตัวลงจากเก้าอี้ ก่อนจะคว้าเป้ที่วางอยู่บนพื้นข้างล่างขึ้นบนไหล่ เขารีบคว้าข้อแขนเธอเอาไว้ในทันที และล็อกมือเอาไว้แน่น กระชากร่างเล็กบอบบางเข้าหาตัวในทันที             “คุณ...ฮึ” เธอตกใจกับกิริยาก้าวร้าวและไม่ให้เกียรตินั้น             "แหม... ทำเป็นไม่เคยไปได้นะ คุณดอกไม้” เขาพูดย้ำชื่อเธอ มองหน้าสวย ๆ ที่ตอนนี้ทำเชิดเข้าใส่ เทมป์รู้สึกเสียหน้าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ปกติมีแต่ผู้หญิงที่วิ่งเข้ามาประเคนให้กับเขาถึงที่             “ปกติคุณทำงานก็เพื่อเงินอยู่แล้วนี่ครับ อยากได้เงินจนตัวสั่นไม่ใช่หรือ ถึงมาทำงานที่นุ่งน้อยห่มน้อยแบบนี้ ขายตัวมาก็หลายครั้งแล้วนิ หรือว่าไม่จริง เลิกงานก็ขายตัว ขึ้นเตียงกับผมคืนนี้สิ ผมให้คุณหมดนี่"             เทมป์โยนเงินแบงก์พันสี่ห้าปึกลงตรงหน้าของหญิงสาว             “เก็บเงินเอาไว้เลี้ยงหมาในปากของคุณก็ได้นะคะ หากมันมีเยอะเกินไป” เธอพูดพร้อมทั้งขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เกิดมาก็เพิ่งเคยเจอผู้ชายที่หยาบคายสุด ๆ แบบนี้เป็นคนแรก             อุมาริการ์จ้องหน้าเขาเขม็ง สองมือกำหมัดเอาไว้แน่น ก่อนจะซัดอีกมือที่ว่างจากพันธนาการของเขาลงไปที่ปากได้รูปที่ใส่ร้ายเธอออกมา             “เอาหมาออกมาจากปากคุณซะบ้างนะ คนเลว... อุ๊บ” เธอพูดได้แค่นั้น ปากสวย ๆ ได้รูปก็ถูกปิดลงด้วยปากร้อนร้ายของตรินัย             ดอกไม้แข้งขาสั่น เป้ที่อยู่บนไหล่ตกลงไปบนพื้นเบื้องล่างทันที             เขาบดเบียดริมฝีปากลงมาอย่างชำนาญ แทรกปลายลิ้นอุ่นร้าย ๆ หยอกเอิน และดูดดึงปลายลิ้นของหญิงสาวอย่างย่ามใจ เธอหลับตาปี๋ ได้แต่กลั้นลมหายใจ ตกใจมากไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้กับเธอ ‘หยาบคายสิ้นดี’
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD