ตอนที่ 2

1405 Words
บทที่ 2 แม่บ้านวัยชราหรี่ตามองไอ้ผู้ชายหน้าหวานด้วยสายตาประหลาดใจ “เอ็งพูดเหมือนว่าตัวเองไม่ชอบพวกมาเฟียยังงั้นแหละ อย่าลืมสิเมซซี่ เอ็งน่ะก็เป็นพวกมาเฟียเหมือนกัน หรือว่าไม่ใช่ล่ะ” เมลิน่าไม่มีทางเลือกต้องรับคำเสียงอ่อย “ผม... ผมไม่ปฏิเสธหรอกฮะว่าตัวเองก็รับใช้พวกมาเฟียอยู่ แต่นายควรจะมีน้ำใจกับคนอื่นบ้าง ไม่น่าจะฆ่าเขาแบบนั้น บ้านเมืองมีกฎหมายนะฮะ” “บางครั้งกฎหมายก็สู้กฎมาเฟียไม่ได้หรอกนะเมซซี่ เอ็งคงไม่รู้สินะว่าไอ้คนที่ถูกนายเป่าหัวดับไปนั่นน่ะ มันทำอะไรเอาไว้บ้าง” “ทำไมผมจะไม่รู้ล่ะฮะ ก็ผู้ชายคนนั้นปลอมตัวเข้ามาอยู่ในเซอร์คอฟไง” น้ำเสียงของเมลิน่ายังขุ่นเคืองและรู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของดินิย่าร์ไม่เปลี่ยนแปลง หล่อนไม่ชอบผู้ชายป่าเถื่อน และก็ไม่ชอบมาเฟียร้ายกาจอย่างดินิย่าร์ เซอร์คอฟด้วย แม้ว่าผู้ชายคนนี้จะทำให้การเต้นของหัวใจหล่อนผิดจังหวะเสียทุกครั้งที่สบตาก็ตาม “มันไม่ได้มีแค่นั้นหรอกเจ้าเมซซี่” “ไม่ได้มีแค่นี้ แล้วมันแค่ไหนกันล่ะป้า ผมงงไปหมดแล้วนะฮะ” ดวงตาของป้าเกรทเริ่มน่ากลัวขึ้นจนเมลิน่าอดหวาดกลัวไม่ได้ “มันข่มขืนลูกสาวของลุงไบรอันจนยับเยิน แถมยังตั้งใจจะฆ่าปิดปากด้วย แต่ยังโชคดีที่แกรนด์ผ่านไปเห็นซะก่อนเลยช่วยเอาไว้ได้ทัน” “ข่มขืน...?!” หญิงสาวอุทานด้วยความตื่นตกใจ นี่คือสิ่งที่หล่อนคาดไม่ถึงเลยทีเดียว “ใช่ แล้วอย่างนี้เอ็งยังคิดว่ามันไม่สมควรตายอยู่อีกหรือเปล่าล่ะ” เมลิน่าก้มหน้าอย่างยอมรับความจริง แต่กระนั้นก็ยังอดพูดอีกไม่ได้ “แต่นายก็น่าจะให้กฎหมายจัดการ ไม่น่าฆ่าคนเองเลย” “ก็อย่างที่ข้าบอกนั่นแหละ กฎหมายมันช้าเกินไป คนเลวๆ อย่างไอ้หมอนี่มันต้องกฎมาเฟียนี่แหละถึงจะสาสม” ป้าเกรทพูดจบก็จ้องหน้าหล่อนนิ่งและพูดต่อ “ที่ข้าเล่าให้เอ็งฟังก็เพราะว่าข้าไม่อยากให้ใครมองนายในทางที่ไม่ดี นายคือชีวิตของพวกเราในเซอร์คอฟ และหากเอ็งรับไม่ได้กับกฎของมาเฟียก็ควรจะรีบเดินออกไปซะ ก่อนที่เอ็งจะไม่มีโอกาสเดินออกไปเอง” “คือผมก็แค่... แค่รู้สึกไม่ชินกับความเหี้ยมโหดเท่านั้นฮะป้า แต่ต่อไปผมจะพยายามปรับตัวฮะ” แม่ป้าวัยกลางคนระบายยิ้มบางๆ ออกมา “ที่นี่เราอยู่กันอย่างพี่น้อง โดยมีนายกับคุณแพทเป็นผู้ปกครอง ดังนั้นหากเอ็งเคารพกฎของเซอร์คอฟ ภัยใดๆ ก็ไม่สามารถกล้ำกรายเข้ามาหาเอ็งได้ เชื่อข้าสิเมซซี่” เมลิน่ายิ้มเจื่อนๆ เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองกำลังทำผิดใหญ่หลวงอยู่ “ฮะป้า ผมจะเชื่อป้าฮะ” ป้าเกรทระบายยิ้มอีกครั้งก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้เมลิน่ามองตามไปด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวเป็นที่สุด นี่หากหล่อนถูกจับได้ว่าปลอมตัวเข้ามาเพื่อผลประโยชน์บางอย่าง มีหวังถูกเป่าสมองดับอย่างแน่นอน คนคิดตัวสั่น ก่อนจะเดินคอตกตามป้าเกรทไปอีกคน พาเวลระบายยิ้มบางๆ เมื่อเดินเข้ามาในห้องทำงานของดินิย่าร์แล้วพบว่าพี่ชายของตัวเองกำลังก้มหน้าก้มตาจัดการกับงานตรงหน้าอย่างขะมักเขม้น “สวัสดีครับพี่ชาย” คนถูกรบกวนเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะกระแทกลมหายใจออกมา “ไม่มีมารยาทอีกแล้วนะแพท พี่บอกกี่ครั้งแล้วให้เคาะประตูก่อนเข้ามา” พาเวลอมยิ้มไม่สะทกสะท้านกับคำต่อว่าไม่จริงจังของพี่ชาย เขากับดินิย่าร์เป็นพี่น้องที่มีอายุห่างกันแค่ปีเดียวเท่านั้นจึงทำให้เขาทั้งสองคนสนิทกันมากเป็นพิเศษ “นิสัยนี้ของผมคงแก้ไม่หายแล้วละครับพี่ชาย” ดินิย่าร์ปิดแฟ้มเอกสารพร้อมๆ กับระบายลมหายใจออกมาอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ขณะจ้องหน้าน้องชายที่มีใบหน้าเหมือนกับตัวเองเสียทุกอย่าง จะมีก็แค่ทรงผมเท่านั้นแหละที่แตกต่างกันออกไป เขาไว้ผมรองทรงในขณะที่พาเวลเป็นแบบสกินเฮดเสียทั้งหัว “มีอะไรก็ว่ามา” พาเวลทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานไม้ของพี่ชายก่อนจะพูดขึ้น “อาวุธสงครามจะส่งมาถึงมือของเราภายในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ครับ” นัยน์ตาสีเขียวมรกตของดินิย่าร์เต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย “นี่จะเป็นล็อตสุดท้ายที่พี่จะยุ่งเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมายพวกนี้นะแพท” “แต่พวกมันไม่มีทางยอมให้เราเลิกง่ายๆ หรอกครับ” พาเวลพูดขึ้นอย่างเป็นกังวล การค้าอาวุธสงครามของเซอร์คอฟเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่บรรพบุรุษจวบจนถึงรุ่นพ่อแม่ของพวกเขา เซอร์คอฟก็ยังค้าอาวุธสงครามผิดกฎหมายอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง จะมีก็แต่รุ่นของดินิย่าร์ พี่ชายของเขาเท่านั้นที่พยายามจะหยุดทุกอย่างที่ผิดกฎหมายลง แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะวางมือจากธุรกิจมืดพวกนี้ “แต่พี่จะเลิก ใครก็ห้ามพี่ไม่ได้” “พี่ดีนอาจจะถูกปองร้ายได้นะครับ” ดินิย่าร์หรี่ตามองน้องชายรูปหล่อของตัวเองก่อนจะระบายยิ้มหยันออกมา “ต่อให้พี่ต้องตาย แต่พี่ก็ต้องยุติเรื่องพวกนี้ให้ได้ พี่จะไม่เจริญรอยตามพ่อ พี่จะลบคำว่ามาเฟียออกจากเซอร์คอฟให้ได้ ไม่เชื่อนายคอยดูสิแพท” “ผมรู้ครับว่าพี่ดีนมุ่งมั่นแค่ไหน แต่ทุกอย่างมันคงต้องใช้เวลา และพยายามอย่างที่สุด” “ถ้านายยืนข้างๆ พี่ ทุกอย่างจะต้องสำเร็จ” ดินิย่าร์จ้องหน้าพาเวลอย่างต้องการคำตอบ “ผมรักพี่ดีน ผมไม่มีทางปล่อยให้พี่ดีนยืนอยู่กลางพายุตามลำพังแน่นอนครับ” ผู้เป็นพี่ชายระบายยิ้มบางๆ ออกมา “พี่ขอบใจนายมาก เอาละ ถ้าหมดธุระแล้วก็ออกไปเถอะ พี่จะรีบเคลียร์งานให้เสร็จ เพราะอีกสามวันพี่จะต้องเดินทางไปปารีสแล้ว” “ครับ งั้นผมขอตัวก่อนครับ” พาเวลยิ้มให้กับพี่ชายอีกครั้งก่อนหมุนตัวเดินออกจากห้องทำงาน แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวไปไหนเลย เสียงอุทานที่เต็มไปด้วยความตื่นตกใจของใครคนหนึ่งก็ลอยมาเข้าหู พร้อมๆ ความรู้สึกเหมือนถูกราดรดกับของเหลวบางอย่างที่ร้อนระอุ “เอ่อ... ขะ ขอโทษค่ะ...” สุ้มเสียงที่สั่นเทาจนน่าเวทนาที่เล็ดลอดออกมาจากกลีบปากสีสดของแม่สาวใช้ตรงหน้าทำให้พาเวลหงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ แม่นี่เห็นเขาเป็นอะไร หรือว่าเขามีเขี้ยวหรือไง เจ้าหล่อนถึงได้ทำท่าทำทางหวาดกลัวเขาขนาดนี้ “บ้าชะมัด” ชายหนุ่มบ่นอุบในลำคอก่อนจะตวาดออกไป “เวลาเดินไม่มองทางเลยหรือไงฮะแม่คุณ” พาเวลเค้นเสียงออกจากลำคออย่างหัวเสียสุดๆ ขณะก้มมองเสื้อบริเวณหน้าท้องของตัวเองที่ชุ่มไปด้วยคราบของกาแฟ “ดิฉันขอโทษ... ขะ ขอโทษ...” คนพูดร่ำไห้น้ำตานองหน้า “ขอโทษแล้วมันหายหรือเปล่าล่ะ เห็นไหมว่าฉันเปื้อนไปทั้งตัวน่ะ” หญิงสาวที่หน้าซีดเผือดไร้สีเลือด กำลังจะเอื้อมมือมาเช็ดเสื้อที่เปรอะเปื้อนให้ แต่พาเวลขยับกายหนีเสียก่อน “ไปให้พ้นหน้าเลยไป แล้วถ้าทีหลังซุ่มซ่ามแบบนี้อีกละก็ ฉันฆ่าเธอทิ้งแน่ ไปสิ” แล้วมะปรางก็ไม่คิดจะรอให้พ่อมาเฟียรูปงามไล่ซ้ำสองอีก หล่อนรีบจากไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่พาเวลมองตามไปด้วยสายตาที่อ่านความรู้สึกไม่ออก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD