ตอนที่ 1

1417 Words
บทที่ 1 หากเอ่ยคำว่า ‘มาเฟีย’ ขึ้นมาหลายๆ คนคงคิดไปถึงมาเฟียอิตาลีผู้เป็นต้นกำเนิดของมาเฟีย แต่หากใครจะคิดล่ะว่านอกจากในอิตาลีและสหรัฐอเมริกาแล้ว มาเฟียรัสเซียก็เหี้ยมโหดไม่แพ้กัน หรือบางครั้งบางทีอาจจะดุร้ายกว่าก็เป็นไปได้ คฤหาสน์หรูที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาเป็นที่พักอาศัยของกลุ่มมาเฟียที่เรียกตัวเองว่า เซอร์คอฟ แต่ถึงแม้พวกเขาจะเรียกตัวเองว่าเป็นมาเฟีย ทว่าฉากหน้าของพวกเขาก็ความขาวสะอาด ธุรกิจทุกอย่างที่ทำล้วนแล้วแต่มีที่มาที่ไปอย่างชัดเจน รวมไปถึงการบริจาคเงินจำนวนมหาศาลในทุกๆ ปี หากแต่ใครจะรู้ล่ะว่าเบื้องหลังยังมีธุรกิจสีเทาที่ตกทอดจากบรรพบุรุษมาถึงรุ่นลูกรุ่นหลานอย่างการค้าอาวุธสงครามซ่อนเร้นอยู่ และถึงแม้ว่าตอนนี้ผู้ที่ขึ้นมากุมบังเ**ยนของตระกูลจะเป็น ดินิย่าร์ เซอร์คอฟ แต่ธุรกิจบางอย่างก็ไม่สามารถตัดออกจากวงจรได้ง่ายๆ อย่างที่ใจต้องการ คงต้องใช้เวลาอีกนิดเพื่อที่เขาจะสามารถลบคำว่ามาเฟียออกไปจากคำนำหน้าชื่อสกุลได้สำเร็จ “ได้ตัวมันแล้วครับนาย” เรือนกายสูงสง่าบึกบึนในสุดสูทสีดำสนิทค่อยๆ หันกลับเข้ามาภายในห้องโถงอีกครั้ง หลังจากเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างอยู่นาน “ลากมันเข้ามา” นัยน์ตาสีเขียวมรกตไร้ความรู้สึกยามเค้นเสียงน่ากลัวออกมาจากลำคอแกร่ง “ครับนาย” แกรนด์ คนสนิทของเขารับคำอย่างนอบน้อม ก่อนจะรีบทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด และเพียงไม่นาน ไอ้คนที่แอบแฝงกายเข้ามาอยู่ในอาณาจักรของเขาก็ถูกโยนลงบนพื้นพรมตรงหน้าในสภาพไม่ต่างจากเศษขยะชิ้นหนึ่งเลยสักนิด รอยยิ้มเลือดเย็นระบายบนใบหน้าหล่อลากดินของดินิย่าร์ ขณะชายหนุ่มรับปืนสั้นจากลูกน้องขึ้นมาตั้งลำปืนและจ่อไปที่หัวของมัน “คนอย่างแกอยู่ไปก็หนักแผ่นดิน” “อย่า... อย่าทำผมเลยครับ อย่า...” เสียงวิงวอนของคนที่กำลังอยู่บนเส้นทางแห่งความตายดังขึ้นอย่างน่าเวทนาและนั่นก็ทำให้เมลิน่าที่ยืนอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยอดสงสารไม่ได้ หล่อนมองหน้าดินิย่าร์อย่างไม่พอใจ ก่อนจะตัดสินใจคัดค้านออกมาเสียงแหลมเล็กอย่างลืมตัว “นายฆ่าเขาไม่ได้นะฮะ...” ทุกสายตาจับจ้องมองมาที่หล่อน แต่คนที่มีสิทธิ์พูดมีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น ดินิย่าร์ เซอร์คอฟ เขามองหล่อนด้วยสายตาแข็งกร้าว ใบหน้าหล่อลากดินปานเทพบุตรชั้นฟ้าไร้ซึ่งรอยยิ้มอย่างสิ้นเชิงเหลือบแลมายังหล่อน “ถ้าแกไม่อยากตายไปพร้อมกับมันก็หุบปากไอ้ตุ๊ด” “แต่ว่า นายฮะ...” “ลากไอ้ตุ๊ดออกไปจากที่นี่ซะก่อนที่ฉันจะระเบิดหัวมันอีกคน” แล้วร่างของเมลิน่าในคราบของเมซซี่บอดีการ์ดร่างเล็กก็ถูกฉุดกระชากออกไปอย่างไม่ปรานี แต่ถึงจะห่างไกลแค่ไหน สองหูของหล่อนก็ยังได้ยินเสียงมัจจุราชที่แผดดังขึ้นอย่างชัดเจน น้ำหูน้ำตาไม่รู้จากไหนไหลพรากออกมานองใบหน้า หญิงสาวได้แต่ยืนนิ่งอยู่หน้าห้องโถง ยืนสงบนิ่งอย่างไว้อาลัยให้กับคนที่ต้องมาสังเวยชีวิตให้กับมาเฟียร้ายอย่างดินิย่าร์ เซอร์คอฟ “มาเฟียร้ายกาจ คุณมันเลวจริงๆ” หญิงสาวต่อว่าดินิย่าร์อย่างขุ่นเคือง ขณะจ้องมองร่างไร้วิญญาณของผู้ชายโชคร้ายที่ถูกหามออกไปด้วยความหดหู่หัวใจ อีกหน่อย... อีกหน่อยก็ต้องเป็นหล่อน อีกหน่อยหล่อนก็จะต้องมีชะตากรรมไม่ต่างจากผู้ชายคนนี้ ความคิดนี้ทำให้เนื้อตัวสาวสั่นสะท้านราวกับถูกจับโยนลงไปในบ่อน้ำแข็ง ดวงหน้างามซีดเผือด ไร้สีเลือดอย่างสิ้นเชิง “เราต้องรีบหาเพชรสีทองให้เจอ จะได้รีบไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด” ความหวาดกลัวถล่มยับอยู่ภายในอกของเมลิน่าอย่างไม่ปรานี หญิงสาวตัวสั่น ปากคอสั่นระริก ก่อนจะรีบเดินดึงตัวเองหลบหลังซอกเสาเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของคนภายในห้องโถงดังใกล้เข้ามาทุกขณะ ไม่นานเรือนร่างสูงตระหง่านสมบูรณ์แบบสุดๆ ของดินิย่าร์ก็ปรากฏแก่สายตา ใบหน้าของผู้ชายนี้เย็นชาและไร้รอยยิ้มตลอดเวลา แต่แปลกที่ผู้ชายร้ายกาจคนนี้กลับทำให้หัวใจของหล่อนเต้นแรงที่สุดในชีวิตได้ทุกครั้งที่เผลอจ้องมอง “จัดการกับศพไอ้ระยำนั่นให้เรียบร้อย ส่วนค่ารักษาพยาบาลลูกสาวของลุงไบรอัน ฉันจะรับผิดชอบเองทั้งหมด” “ครับนาย” แกรนด์ก้มหน้ารับคำ ขณะมองตามร่างสูงใหญ่ของเจ้านายไปอย่างจงรักภักดีเป็นที่สุด แม้บุคลิกของดินิย่าร์จะเย็นชาและเหี้ยมโหดแค่ไหน แต่แท้จริงแล้วมาเฟียรูปหล่อคนนี้กลับเป็นหนุ่มที่มีน้ำใจและให้ความสำคัญกับลูกน้องของตัวเองทุกคนจนหาคนมาเทียบด้วยยาก เมลิน่าที่หลบอยู่ตรงซอกเสา รอจนแผ่นหลังของดินิย่าร์ลับสายตาไปจึงออกจากที่หลบซ่อน แกรนด์เห็นเข้าก็อดถามด้วยความประหลาดใจไม่ได้ “มาทำอะไรลับๆ ล่อๆ ตรงนี้เจ้าเมซซี่” เจ้าของชื่อระบายยิ้มเก้อๆ ก่อนจะเดินมาหยุดตรงหน้าของแกรนด์ชายวัยสี่สิบกว่าๆ ที่ดูท่าทางจะไม่ชอบขี้หน้าของหล่อนสักเท่าไหร่อย่างไม่มีทางเลือก “คือผม...” “ไม่มีงานทำหรือไง ไปให้พ้นๆ หน้าเลยไป” ด้วยรูปร่างที่อรชรไม่ผิดจากสตรี แถมใบหน้าก็ยังหวานหยดแม้จะอยู่ในกรอบของเส้นผมสีเข้มที่ตัดสั้นก็ตาม แต่มองยังไง้ยังไงก็เหมือนผู้หญิงวันยังค่ำ เขาเคยเตือนพาเวลแล้วว่าไม่ควรจะรับหมอนี่เข้ามา แต่พาเวลกลับไม่เชื่อคำทัดทานของเขาเสียเลย และนั่นก็ทำให้ไอ้ผู้ชายหน้าหวานไม่ต่างจากตุ๊ดได้มีโอกาสเข้ามาเดินเฉิดฉายอยู่ในคฤหาสน์ของเซอร์คอฟได้อย่างสบายอกสบายใจ “ผม... ผมกำลังจะไปฮะ” “ก็ไปสิไอ้ตุ๊ด นี่อย่ามามองก้นฉันเลยนะ และอย่าคิดอะไรกับฉันด้วย” ท่าทางเหยียดหยามระคนไม่ไว้วางใจที่มีต่อหล่อนทำให้เมลิน่าต้องกัดปากแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง “ผมไม่คิดอะไรกับก้นเหี่ยวๆ ของน้าหรอกน่า ขอตัวนะฮะ” แล้วเมลิน่าก็กระแทกเท้าเดินจากไป แกรนด์มองตามไปด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความกังขา “มันงอนเหมือนผู้หญิงไม่มีผิด” คนพูดถอนใจเบาๆ ก่อนจะเดินจากไปอีกคน “ทำไมทำหน้าเป็นจวักแบบนั้นล่ะเจ้าเมซซี่” เสียงทักทายของแม่บ้านวัยห้าสิบกว่าทำให้เมลิน่าได้รู้สึกตัว ก่อนจะหันไปมองเจ้าของคำถาม “เปล่าหรอกฮะป้า ผมก็แค่รู้สึกแย่ๆ เท่านั้นเอง” “แย่? แย่เรื่องอะไรของเอ็งวะเมซซี่” คู่สนทนาจ้องหน้าหล่อนเขม็งและนั่นก็ทำให้เมลิน่าต้องถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ “เมื่อกี้นี้ผมเห็นนายยิงคนตายฮะ” เมลิน่าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้เห็นท่าทางตกอกตกใจของป้าเกรท แม่บ้านวัยดึก แต่สิ่งที่คาดหวังเอาไว้กลับไม่มีวี่แววว่าจะเป็นจริงขึ้นมาเลยสักนิดเดียว เพราะป้าเกรทยังยิ้มร่าและทำหน้าทำตาไม่สะทกสะท้านอะไรอยู่เหมือนเดิม “นี่ป้าเกรทไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอฮะ หรือว่าป้าชินกับความอำมหิตของนายเสียแล้ว” เจ้าของชื่ออมยิ้มบางๆ ทำท่าคล้ายกับการฆ่าคนของดินิย่าร์คือเรื่องธรรมดาของเซอร์คอฟยังงั้นแหละ “นายไม่เคยฆ่าคน นี่คือคนแรกที่นายลงมือฆ่า” “ไม่จริงหรอกฮะ เพราะท่าทางของนายไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยกับคำวิงวอนของชายที่น่าสงสารคนนั้น นายน่าจะปล่อยเขาไป หรือว่านี่คือวิถีทางของพวกมาเฟียใช่หรือเปล่าฮะป้าเกรท”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD