บท 11

2719 Words
ไม่รู้ว่าคาร์เตอร์ก็แค่คิดลองใจกันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว หรือว่าอีกฝ่ายเกิดเปลี่ยนใจกันแน่ เจ้าตัวถึงได้มาปรากฏตัวตรงหน้ากันอีกครั้ง หลังจากที่เปอร์ทรุดตัวลงกับพื้นและร้องไห้อย่างคนขาดสติ “เดินตามมานี่” เมื่ออีกฝ่ายที่อยู่ในร่างมนุษย์ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเปอร์อีกครั้ง เจ้าตัวก็ได้พูดกับเปอร์เสียงห้วนพร้อมเดินนำเขาไปอีกทางหนึ่งของป่า ทำเอาเปอร์ต้องรีบเช็ดคราบน้ำตาของตัวเองออกพอลวก ๆ และรีบตามอีกฝ่ายไป เนื่องจากเขาจะไม่ยอมให้ตัวเองคลาดกับคาร์เตอร์อีกแล้ว เพราะไม่อย่างนั้นเปอร์คงได้สังเวยชีวิตของตัวเองให้กับผืนป่านี้เป็นแน่ “เดี๋ยว! คุณรอด้วยสิ” เปอร์ตะโกนบอกอีกฝ่ายเสียงดังลั่น หลังระยะห่างระหว่างเขากับคาร์เตอร์เริ่มเพิ่มมากขึ้นทุกที เปอร์พยายามวิ่งตามอีกฝ่ายให้เร็วที่สุดเท่าที่เขาพอจะสามารถทำได้ แต่ไม่ว่าคาร์เตอร์จะอยู่ในร่างมนุษย์ธรรมดาหรือหมาป่าตัวมหึมา อีกฝ่ายก็ล้วนแต่วิ่งเร็วกว่าเปอร์ทั้งนั้น เขาพยายามส่งเสียงเรียกรั้งอีกคนอยู่เป็นระยะสลับกับวิ่งตามอีกฝ่ายไปด้วย จนในที่สุดเปอร์ก็สามารถตามคาร์เตอร์ได้ทัน ซึ่งมันก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่อีกฝ่ายพาเขามาถึงบ้านของเจ้าตัวพอดี “ตอนสามปีก่อนมันไม่ใช่บ้านหลังนี้นี่” เปอร์เอ่ย เมื่อเขาไม่รู้สึกว่าตัวเองคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้เลย “แล้วมันเป็นเพราะใครกันล่ะ” คาร์เตอร์ถามกลับมา ขณะที่ดวงตาสีแดงสดก็แสดงความขุ่นเคืองให้เห็นอยู่ในที “...” “ก็ไม่ใช่เพราะคุณหรอกเหรอ เพราะคุณนั่นแหละ พวกมนุษย์หน้าโง่ถึงได้พยายามตามล่าหามนุษย์หมาป่าจนทุกอย่างพังไปหมด” อีกฝ่ายไม่พูดเปล่า แต่ยังชี้นิ้วมาตรงหน้าของเปอร์ เพื่อบอกว่าที่ทุกอย่างพังลงนั่นก็เป็นเพราะเปอร์ทั้งนั้น “คุณจะมาโทษแค่ผมไม่ได้นะ” เปอร์ตอบกลับไปเสียงนิ่ง “...” “เมื่อสามปีก่อนคุณเป็นคนลากผมเข้าป่าเอง คุณพยายามขอมีอะไรกับผม ผมก็แค่ต้องการอะไรตอบแทนบ้างเท่านั้นเอง ถ้าตอนนั้นคุณไปส่งผมตรงจุดเดิมที่ผมหลงกับแม่ ผมจะกล้าทำแบบนี้กับคุณไหมล่ะ” “แต่คุณไม่รักษาสัญญานะ” อีกฝ่ายท้วงติงกลับมา “คุณไม่รักษาสัจจะที่เราสองคนเคยให้ไว้ต่อกัน” “ก็บอกแล้วไงว่าผมต้องการอะไรตอบแทนบ้าง แล้วจะให้ผมรักษาสัจจะได้ยังไง” เปอร์บอกกลับไป ซึ่งก็ไม่ใช่เพราะเขาไม่เคยมีความรู้สึกผิดต่อคาร์เตอร์ แต่มันเพราะว่าเปอร์รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับความยุติธรรมต่างหาก “แล้วทำไมคุณถึงไม่คิดล่ะ ว่าการที่ผมพาคุณกลับไปเจอครอบครัวอีกครั้ง มันเป็นการตอบแทนเรื่องเซ็กซ์” “...” “พวกมนุษย์มันก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ เห็นแต่ได้ กลัวแต่ว่าตัวเองจะเสียผลประโยชน์” “แล้วทำไมคุณถึงพูดเหมือนในตัวคุณไม่มีเลือดมนุษย์แบบนั้นล่ะ” เปอร์ย้อนถามกลับไปอย่างไม่เข้าใจ ก่อนที่เขาจะว่าต่อ “ถ้าให้ผมเดา...ไม่แม่ก็พ่อคุณ ท่านน่าจะเป็นมนุษย์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์นะ หรือว่าผมเดาผิด” ทันทีที่เปอร์พูดออกไปอย่างนั้น คาร์เตอร์ก็มีท่าทีนิ่งไปอย่างเห็นได้ชัด อีกฝ่ายจ้องเปอร์นานหลายวินาที จากนั้นเสียงโวยวายของเปอร์ก็ดังขึ้นโดยพลัน เมื่อคาร์เตอร์ตรงปรี่เข้ามาคว้าข้อมือของเขาแล้วบีบมันอย่างแรง “ผมเจ็บ” เปอร์พูดความรู้สึกของตัวเองพร้อมทำหน้าเหยเกไปด้วย “ก็ผมต้องการให้คุณรู้สึกอย่างนั้น” อีกฝ่ายไม่พูดเปล่า แต่ยังเพิ่มแรงบีบข้อมือเขาด้วย ทำเอาเปอร์ต้องส่งเสียงร้องออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ “พี่สาวผมต้องตายเพราะความโลภมากของคุณ รู้เอาไว้ด้วย!” “ว—ว่าไงนะ” คราวนี้เปอร์ถึงกับต้องพูดออกมาอย่างไม่เชื่อหู หลังเขาไม่เคยคิดว่าเรื่องราวมันจะใหญ่โตจนทำให้เกิดความสูญเสีย “เคียตายแล้วเหรอ” เปอร์ถามต่อเสียงแผ่ว ซึ่งคาร์เตอร์ก็เลือกที่จะให้ความเงียบเป็นคำตอบกลับมาแทน “เธอวิ่งหนีไม่ทัน แล้วสุดท้ายเธอก็ถูกยิง” นานเกือบนาทีกว่าที่มนุษย์หมาป่าตรงหน้าเปอร์จะพูดอะไรออกมาบ้าง และนั่นก็ทำให้เขาถึงกับตัวชาวาบไปทั้งร่าง “ถ้ามันไม่ใช่ความผิดคุณ แล้วมันจะเป็นความผิดของใครกัน มันเป็นความผิดของผมเหรอ?” อีกฝ่ายถามต่อ “...” “มันเป็นความผิดผมใช่ไหมที่พาพี่สาววิ่งหนีไม่ทัน” “ผมขอโทษ” เพียงแค่รู้ว่ามีการสูญเสียเกิดขึ้น เปอร์ก็รีบกล่าวขอโทษกลับไปทันที เพราะเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าความเสียหายมันจะเกิดขึ้นมากมายขนาดนี้ “ไม่ว่าคุณจะขอโทษกี่พันครั้ง อะไรมันก็ไม่กลับมาแล้ว” “...” “แต่ก็เอาเถอะ เพราะคุณคงทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้แล้วล่ะ” อีกฝ่ายบอกกลับมาพร้อมลากสายตามองไปทางประตูบ้านของเจ้าตัว “คืนนี้ข้างนอกอากาศหนาวมากกว่าทุกคืน แล้วถ้าผมปล่อยให้คุณนอนข้างนอกบ้าน บางทีคุณก็อาจจะแข็งตายก็ได้ เพราะงั้นเข้าไปข้างในได้แล้ว เพราะเปอร์รู้ดีว่าถ้าหากเขาดื้อดึงไม่ยอมเข้าไปในบ้านของคาร์เตอร์ อีกฝ่ายก็คงไม่คะยั้นคะยอและคงจะปล่อยเขาไว้ที่หน้าบ้านเป็นแน่ เพื่อให้ตัวเองมีชีวิตรอดต่อไป เปอร์จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเดินเข้าไปในบ้านนั้น ทั้งที่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคาร์เตอร์คิดจะทำอะไรกับเขาต่อไป “กลัวเหรอ ตัวสั่นอีกแล้ว” ทันทีที่เสียงปิดประตูบ้านดังขึ้นและอีกฝ่ายก็ได้เดินตามเข้ามาข้างใน เสียงของคาร์เตอร์ก็ดังขึ้นโดยพลัน ทำเอาเปอร์ถึงกับสะดุ้งโหยง ก่อนที่เขาจะหันขวับมองไปทางต้นเสียง “คุณจะทำยังไงกับผมต่อไป” เปอร์ถามเสียงนิ่ง โดยเขาก็ยังคงข่มความกลัวไว้ภายใต้ท่าทีนิ่งเฉย แม้ว่านาทีนี้มันจะไม่ทันแล้วก็ตาม คาร์เตอร์คงมองเขาได้อย่างทะลุปรุโปร่งแล้วว่าเปอร์กลัวเจ้าตัวมากแค่ไหน “เผ่าเราต้องการทายาท” คาร์เตอร์เลือกที่จะเกริ่นขึ้นก่อน ขณะที่เปอร์เองก็ได้แต่รอฟังอีกฝ่ายด้วยใจจดจ่อ “...” “เดิมทีพี่สาวของผมเขาจะเป็นคนทำหน้าที่นี้เอง นั่นก็คือเขาจะสร้างครอบครัวและมีลูก แต่ในเมื่อเธอตายแล้ว... คุณก็เลยต้องรับผิดชอบแทน” อีกฝ่ายพูดต่ออย่างตรงไปตรงมา และในนาทีนั้นเปอร์ก็สามารถรู้ได้ทันทีว่าคาร์เตอร์ตั้งใจจะลากเขามาเพื่ออะไร “คุณจะให้ผมมีลูกงั้นเหรอ” เปอร์ถามในสิ่งที่คิด ซึ่งขณะที่ถามออกไปเขาก็ภาวนาขอให้ตัวเองเข้าใจผิดไป แต่คำภาวนานั้นกลับไม่เป็นผลเสียได้... “ใช่ แล้วถ้าคุณไม่ยอมหรือคิดจะหนีไป ผมก็จะลากคอคุณกลับมารับผิดชอบเรื่องนี้ให้ได้” คาร์เตอร์บอกกลับมาด้วยน้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำ ทำเอาเปอร์ได้ยินแล้วก็เกิดอาการแข้งขาอ่อนแรงกะทันหัน หลังรู้แล้วว่าคาร์เตอร์ต้องการอะไรจากตัวเองกันแน่ นั่นจึงทำให้เวลาต่อมาเปอร์มีท่าทีเหม่อลอยอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่เขาถูกคาร์เตอร์พาเข้ามาในห้องเก็บของที่ตั้งอยู่ใต้บันไดบ้านหลังใหม่ “คุณอยู่ที่นี่แหละ เพราะมันน่าจะเหมาะสมกับคุณที่สุดแล้ว” คาร์เตอร์หันมาบอกเปอร์ เมื่ออีกฝ่ายพาเขาเข้ามาในห้องแล้ว “คุณคิดจะให้ผมรับผิดชอบเรื่องนี้จริง ๆ เหรอ” เปอร์หันหน้ากลับไปถามอีกคน เพราะจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าอีกฝ่ายต้องการแบบนี้จริง ๆ เปอร์รู้ดีว่าในอนาคตสักวันหนึ่งเขาจะต้องมีลูกและมีครอบครัว แต่เปอร์ไม่คิดว่าอนาคตที่ว่านั้นมันจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้... “ใช่” คาร์เตอร์ยืนยันกลับมาเพียงสั้น ๆ ดวงตาคมของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความจริงจัง จนยากที่เปอร์จะคิดเข้าข้างตัวเองไปว่าอีกฝ่ายก็แค่พูดข่มขู่เพื่อสร้างความกลัวให้กันเท่านั้น “...” “พักผ่อนซะ แล้วค่อยคุยกันใหม่ตอนพรุ่งนี้เช้า ราตรีสวัสดิ์” อีกฝ่ายว่าต่อพร้อมเดินออกไปจากห้องเก็บของ และในหลังจากนั้นเพียงไม่นานนักเปอร์ก็ได้ยินเสียงล็อกกุญแจจากข้างนอก ซึ่งเขาก็รับรู้ได้ในทันทีว่าอีกฝ่ายได้ทำการขังเขาไว้ที่นี่ “ให้ตายเถอะ... มีลูกกับเขาเนี่ยนะ” เมื่อมั่นใจแล้วว่าคาร์เตอร์ได้เดินออกไปจากบริเวณหน้าห้องเรียบร้อยแล้ว และอีกฝ่ายคงไม่มีทางได้ยินเสียงพูดของเขาแน่ เวลาต่อมาเปอร์ก็พูดกับตัวเองอีกครั้งพร้อมทรุดตัวลงกับพื้น หลังเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองจะต้องรู้สึกยังไงกับเรื่องนี้ ตอนแรกเปอร์ก็รู้สึกไม่พอใจอยู่หรอกที่คาร์เตอร์บุกไปลากตัวเขาถึงข้างในเต็นท์ แต่พอเปอร์มารู้ว่าเคียได้ตายไปแล้วเนื่องจากการกระทำของเขา นั่นก็ทำให้ความรู้สึกผิดและความโมโหตีกันไปมาจนเปอร์เกิดอาการสับสน จริงอยู่ที่เปอร์กับเคียไม่ได้ผูกพันกันขนาดนั้น ทั้งคู่เคยคุยกันแค่ไม่กี่ประโยค แต่พอเปอร์มารู้ว่าเธอต้องจากไปเพราะถูกมนุษย์ตามล่า นั่นก็ทำให้เปอร์เกิดอาการใจหายและรู้สึกผิดต่อเธอจริง ๆ “อ่า... แสบชะมัด สงสัยได้แผลมาตอนที่วิ่งตามคาร์เตอร์มาแน่ ๆ” เขาเอ่ยขึ้นอีกครั้ง พร้อมหลุบตามองที่ข้อเท้าของตัวเอง เมื่อเปอร์เริ่มรู้สึกเจ็บแสบอย่างบอกไม่ถูก ก่อนที่เขาจะพบว่าตอนนี้ข้อเท้าข้างหนึ่งของตัวเองกำลังมีแผลอยู่ ซึ่งก็น่าจะเกิดจากการที่ถูกกิ่งไม้แห้งขูดตอนที่เขาวิ่ง แต่เพราะแผลมันไม่ได้ใหญ่อะไรนัก เปอร์จึงไม่คิดที่จะใส่ใจมันอีก เขาเลือกที่จะปล่อยให้เวลาทำให้มันตกสะเก็ดเอง แทนที่เขาจะเคาะประตูเรียกให้เจ้าของบ้านมาทำแผลให้กัน “ให้เราเข้ามานอนในนี้ แต่ไม่มีที่ให้นอนเนี่ยนะ” เปอร์ว่าต่อ ขณะที่เขากำลังกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องเก็บของใต้บันได โดยภายในห้องมันก็แทบจะไม่มีที่ว่างให้เปอร์สามารถเอนกายลงได้ด้วยซ้ำ แล้วเพราะอย่างนั้นเขาจึงจำเป็นจะต้องออกแรงเก็บของ เพื่อให้มันมีที่ว่างมากพอที่จะทำให้เขาสามารถหลับนอนได้จนกว่าพระอาทิตย์จะขึ้น และพอถึงตอนนั้นเปอร์ค่อยคิดหาทางออกต่อ “อย่างน้อย ๆ ได้นอนในนี้มันก็ดีกว่าถูกทิ้งให้อยู่ในป่าแหละ” เขาพูดปลอบใจตัวเอง เมื่อเวลาต่อมาเปอร์ได้เคลียร์พื้นที่จนทำให้เขาสามารถเอนกายนอนในห้องนี้ได้แล้ว ซึ่งในระหว่างที่เปอร์กำลังนอนบนพื้นแข็ง ๆ เขาก็กอดตัวเองเอาไว้แน่น เพราะรู้สึกหนาวแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังอุ่นกว่าอากาศข้างนอกอยู่ดี เปอร์ไม่รู้ว่าตัวเองเผลอหลับไปตั้งแต่ตอนไหน แต่เขามารู้สึกตัวอีกครั้งก็ตอนที่ได้กลิ่นอาหารหอม ๆ ลอยมาแตะที่จมูกของเขา จนทำให้เปอร์ต้องลืมตาขึ้นมาอีกครั้งเพราะเสียงท้องร้องของตัวเอง โดยสิ่งแรกที่เปอร์ทำหลังจากที่เขาลืมตาขึ้นมาได้ นั่นก็คือการยกขาของตัวเองขึ้นดู เมื่อเปอร์รู้สึกว่ามีบางอย่างถูกติดไว้ตรงข้อเท้าเขาข้างที่เป็นแผล คาร์เตอร์เข้ามาทำแผลให้กันตั้งแต่ตอนไหน? นั่นเป็นคำถามที่ผุดขึ้นมาในหัวของเปอร์ หลังเขาเห็นแผ่นพลาสเตอร์ถูกติดเอาไว้ และเมื่อเห็นอย่างนั้น เปอร์ก็ค่อย ๆ ดันร่างของตัวเองขึ้นมาจากพื้นทั้งสภาพงัวเงีย เขาหันซ้ายหันขวามองรอบ ๆ ตัวอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วลองกระชากลูกบิดดู เผื่อว่าคาร์เตอร์ไม่ได้ล็อกห้องเอาไว้ “ไม่ได้ล็อกจริง ๆ ด้วยแฮะ” เขาว่าเสียงแผ่ว หลังตอนนี้เปอร์สามารถเปิดประตูเดินออกไปข้างนอกห้องใต้บันไดแห่งนี้ได้แล้ว ซึ่งพอเขาเห็นอย่างนั้นเปอร์ก็รีบเดินออกมาโดยปราศจากความลังเล และแทนที่เปอร์จะอาศัยทีเผลอรีบหลบหนีออกไปจากที่นี่ เขากลับเดินเข้าไปหาคาร์เตอร์ที่กำลังขลุกตัวยืนอยู่ตรงห้องครัวแทน เนื่องจากประสบการณ์ที่ผ่านมามันได้สอนเปอร์เอาไว้ว่าเขาไม่สามารถหลบหนีไปไหนได้ หากคาร์เตอร์ไม่เป็นคนนำทางพาเขาออกไปจากที่นี่เอง “อรุณสวัสดิ์” นั่นเป็นคำทักทายโง่ ๆ ที่เปอร์พอจะคิดได้ เมื่อเขาต้องการให้คาร์เตอร์รู้ว่าเขาได้เดินออกมาจากห้องแล้ว “อืม” อีกฝ่ายขานรับกลับมาเพียงสั้น ๆ ไม่แม้แต่จะหันกลับมามองกันด้วยซ้ำ ตลอดระยะเวลาสามปีที่ผ่านมา... มันคงเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายในชีวิตของคาร์เตอร์ มันถึงได้ทำให้อีกฝ่ายดูโตแบบก้าวกระโดดเช่นนี้ เปอร์ไม่ได้หมายถึงลักษณะเพียงแค่ภายนอกเท่านั้น แต่เขายังหมายถึงคำพูดจา รวมไปถึงท่าทีที่คาร์เตอร์แสดงให้เขาเห็นด้วย “คุณเข้าไปทำแผลให้ผมเหรอ” เปอร์ถามออกไป หลังเขาไม่ต้องการให้ความเงียบเข้าปกคลุมทั้งคู่ “คุณหิวหรือเปล่า?” คาร์เตอร์ถามกลับมา โดยอีกฝ่ายก็จงใจที่จะเมินเฉยคำถามของเขา “ก็ไม่เท่าไร” “งั้นก็รอก่อนแล้วกัน เพราะผมกำลังทำอาหารให้คุณอยู่” อีกฝ่ายว่าต่อ ขณะที่เจ้าตัวยังคงยืนอยู่หน้าเตาและหันแผ่นหลังมาทางเขา อันที่จริงเปอร์มีคำถามมากมายที่อยากถามคาร์เตอร์ เช่นการกระทำของเขามันทำให้เจ้าตัวได้รับผลกระทบอะไรบ้าง แต่เนื่องด้วยสถานการณ์ที่คาร์เตอร์ดูเหมือนจะไม่อยากสนทนากับเขาเท่าไรนัก นั่นจึงทำให้เปอร์เลือกที่จะสงบปากสงบคำก่อนแล้วค่อยหาโอกาสถามคาร์เตอร์อีกที เวลาต่อมา หลังจากที่เปอร์กินมื้อเช้าฝีมือคาร์เตอร์เสร็จแล้ว อีกฝ่ายก็ได้จัดหาเสื้อผ้าและผ้าเช็ดตัวมาให้เขา เมื่อเจ้าตัวต้องการจะให้เปอร์อาบน้ำ โดยคราวนี้คาร์เตอร์ก็ให้เขาใช้ห้องน้ำภายในบ้านแทนที่จะพาเขาไปอาบน้ำที่น้ำตกเหมือนอย่างเคย ซึ่งพอเปอร์อาบน้ำเสร็จ คาร์เตอร์ที่นั่งเฝ้าอยู่หน้าประตูห้องน้ำถึงค่อยบอกกับเขาว่าวันนี้เจ้าตัวจะพาเปอร์ไปแนะนำให้คนในฝูงได้รู้จัก “คุณต้องการแบบนี้จริง ๆ เหรอ” เพราะรู้ว่าคาร์เตอร์จะพาเขาไปแนะนำให้คนในฝูงได้รู้จักในฐานะอะไร เปอร์จึงถามย้ำเผื่อว่าคำถามของเขามันจะทำให้คาร์เตอร์ได้สติ “ใช่” คาร์เตอร์ขานรับกลับมา “ก็เคยบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วยังจะมาถามกันอีกทำไม” “ก็เผื่อว่าคุณต้องการประชดกัน” “ผมไม่ได้ประชด” “...” “ผมพูดจริงต่างหากเรื่องที่คุณต้องรับผิดชอบการกระทำของตัวเอง คุณเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่อาจทำให้เผ่าพันธุ์ของผมสูญพันธุ์ เพราะงั้นคุณนั่นแหละที่ต้องทำให้ความเสี่ยงที่คุณสร้างขึ้นหายไป” คาร์เตอร์พูดเสียงจริงจัง ทำเอาเปอร์ต้องถอนหายใจออกมาอย่างแรง เพราะดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่มีทางเลือกให้เขาเลย

Great novels start here

Download by scanning the QR code to get countless free stories and daily updated books

Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD