บทที่2.เงาอดีต!!

1553 Words
 “ช่วงนี้ซาๆ ค่ะ ยะหยาขอพักก่อน กรำงานติดๆ กันมาเป็นปีๆ ไม่ได้พักเลย” หล่อนตอบพร้อมกับคลี่ยิ้มมุมปากนิดๆ เพื่อไม่ให้ดูน่าเกลียดเกิน                “กำลังขาขึ้น ทำไมไม่รีบโกยไว้ก่อนล่ะคะ” เสียงแย้งยิ่งทำให้เธอไม่พอใจเหมือนกับพวกเขากำลังเตือน ก่อนที่เธอจะกลายเป็นดาวร่วง มันไม่มีวันนั้นแน่!!                “งานก็มีติดต่อมาเรื่อยๆ แหละค่ะ แต่ยะหยาขอพัก ยะหยาเหนื่อย!!”                หญิงสาวเริ่มอารมณ์ไม่ดี เธอแค่นตอบแบบเสียไม่ได้ เพราะหากจับคู่ควงคนล่าสุดอยู่หมัด เธอจะได้นั่งกินนอนกิน แบบไม่ต้องแตะต้องงานการตลอดชีวิต                “น้องยะหยาทั้งสวยทั้งเก่งแบบนี้ ป่านนี้ยังไม่มีแฟนอีกเหรอคะ?”                “ก็มีคนคุยนะคะ แต่ยังไม่ชัวร์” หญิงสาวตอบพร้อมกับเชิดหน้าขึ้น                “ขอถ่ายรูปด้วยได้ไหมคะ?” คนถาม ถามแบบเหนียมๆ                “ได้สิคะ” แม้จะไม่มีอารมณ์ แต่ฐานแฟนคลับเธอจำต้องรักษาเอาไว้                “แล้วคนที่คุยๆ อยู่ ใช่คนที่เป็นข่าวด้วยหรือเปล่าเอ่ย?”                มันเป็นเรื่องส่วนตัวที่คนวงนอกอยากรู้ที่สุด ก็นางเอกแสนสวยมีข่าวกับผู้ชายหลายคน แต่ยังไม่เคยลงเอยกับใครสักที ได้แต่ลอยไปลอยมา แต่ก็มีกระแสไม่หยุด ล่าสุดคือนักธุรกิจไฟแรง ลูกหลานไฮโซ ทั้งหล่อและรวย                หญิงสาวคลี่ยิ้มเต็มหน้า เธอไม่ตอบแต่เสเดินหนีหลังแค่นยิ้มถ่ายรูปกับพวกเขา ที่สำคัญเป้าหมายที่เธอกำลังรอผ่านเข้ามาในสายตาพอดี ผู้ชายคนนี้แหละที่ทำให้เธอหงุดหงิด เขาผิดนัดเธอ จนต้องมาหาอะไรระบายอารมณ์ เหมือนโลกหยุดหมุน เหมือนเวลาบนโลกจะหยุดเดิน เพียงแค่เห็น ‘เขา’ คนเดิมปรากฏกายอยู่ตรงหน้า เหมือนฝัน เป็นความอัศจรรย์ที่ไม่คาดคิด แต่ให้ตายเถอะ!! สายตาคู่เดิมของเขา ไม่ได้มีไว้เพื่อมองเธออีกต่อไปแล้ว ปูชิดาทอดสายตามองตาม เธอจึงเห็นว่า... เวลานี้สายตาคู่นั้นของออสตินกำลังโฟกัสอยู่ที่ใด!!                เขายังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน เหมือนทุกกะบิในความทรงจำของเธอ ที่เพิ่มเติมคือดูดีขึ้นกว่าเก่าหลายเท่า!! ในขณะที่เธอทรุดโทรมลง ไม่ได้มีค่าควรคู่กับเขาเหมือนเมื่อก่อน                เธอเป็นแค่คุณแม่ลูกหนึ่ง ที่ไม่มีสามี ถึงจะยังคงใช้นามสกุลเดิม แต่เธอเป็นแค่ลูกที่ถูกเสือกไสออกจากบ้าน ไม่มีสมบัติติดกาย เป็นคนมีตำหนิ แม้ตำหนินั้นเขาจะมีส่วนร่วมในการก่อ แต่เขาไม่รู้นี่สิ!!                “ดาร์ลิ่ง!! คุณมาช้า” เสียงหวานชะอ้อนพูด พร้อมกับสาวเท้าเร็วๆ เข้าไปหา                “คนสวย คุณต้องเข้าใจว่าผมงานยุ่งแค่ไหน?” ออสตินไม่ได้แก้ตัว หล่อนควรรู้ว่าเขามีภารกิจมากมายก่ายกอง หากไม่ติดใจว่าหล่อนลีลาเด็ด!! เขาคงไม่ตามมาแบบนี้หรอก ใช่ว่าเขาไม่มีผู้หญิงข้างกายเมื่อไร เขามีจนจำหน้าไม่หมดเลยแหละ เพียงแต่เวลานี้หล่อนมาวิน!! หล่อนทำให้เขามีความสุขจนลืมโลก เพราะฉะนั้นเขาจึงพยายามมองข้ามอาการแง่งอนของหล่อนในบางครั้ง แต่ไม่ได้หมายความว่า...จะทนได้ทุกครั้งเสมอไป...                “ก็พอเข้าใจหรอกค่ะ คุณนักธุรกิจใหญ่ แต่การผิดนัดกับสาว คุณสมควรถูกปรับนะคะ”                หล่อนแย้งยิ้มๆ ชม้ายชายตาเหมือนกำลังยั่ว                “อยากปรับอะไรล่ะทูนหัว ผมยอมหมดนั่นแหละ ขอแค่ให้คุณยกโทษให้ก็พอ” เรื่องเงินเขาไม่เคยเกี่ยง เมื่อเขามีจนเกินพอ อีแค่เอามาโปรยล่อผู้หญิงสักคน เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ มันไม่ใช่ปัญหา...                “แน่ใจนะคะ” ยานิสาตอบกลั้วเสียงหัวเราะ เสียงของหล่อนระริกระรี้ เธอแน่ใจว่าชายหนุ่มพูดจริง เพราะตั้งแต่รู้จักกันมาเขาเปไม่อั้น!!                ทั้งสองคนหยอกเย้ากันสะเหมือนอยู่เพียงลำพังสองคน เขาทั้งคู่ไม่แคร์สายตาคนมอง ไม่สนใจว่าจะถูกบันทึกภาพจากปาปารัสซี เพราะออสตินไม่เคยสน... เขาไม่เคยกลัวข่าวฉาว เมื่อมีภาพฉาวๆ ของเขาเป็นประจำและที่สำคัญสายตาของออสติน ไม่ได้เหลือบแลไปยังจุดอื่นเลย เขาเพ่งมองแค่ยานิสาเพียงคนเดียว                ปูชิดาเสก้มหน้า จู่ๆ น้ำตาก็ไหลเอ่อขึ้นมา เหตุการณ์ตรงหน้ามันตอกย้ำให้เธอรู้ว่า...ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับเธอ มันกลายเป็นแค่อดีต เขาไม่เคยคิด ‘รัก’ เขาต้องการแค่เรือนกายกับความสาวของเธอแค่นั้น เธอกลายเป็นแค่ทางผ่าน เป็นแค่คนโง่ในสายตาเขาเท่านั้นเอง                ความหวังของเธอทลายคลื่นลงมา...แค่นาทีแรกที่ได้พบคนที่ตัวเอง ‘รัก’                จบเสียทีคงดี... ความหวังที่เคยคาดฝันไว้ มันไม่มีทางเป็นจริง เธอกับเขาเป็นได้แค่เส้นขนานที่ไม่มีทางมาบรรจบกันได้ ปลายทางของเธอกับเขา ยิ่งนานยิ่งห่างกัน มันคือความฝันเลื่อนลอยของเธอแค่นั้นเอง                จบแล้วสินะ...                 และเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง เขาและเธอก็หายไปเสียแล้ว...ไม่มีเงาร่างของเขาให้เธอแอบมอง ทุกอย่างมันเป็นแค่สายลมพัดผ่าน แล้วก็จางหายไป                เธอแค่นยิ้มให้กับตัวเอง...นึกถึงคำสอนเก่าๆ ที่เคยผ่านเข้ามาในหู คนโบราณกล่าวไว้ หากผู้หญิงใจง่าย...หล่อนก็จะถูกลืมไปในที่สุด เพราะมันไร้ค่าชวนให้เชิดชู                “รับขนมปังเพิ่มไหมคะ?”                หญิงสาวสลัดความเศร้าทิ้ง นับจากนี้ไป... เธอจะลืมเขาให้สนิทใจ ในเมื่อไม่หลงเหลือความหวังใดใดอีกแล้วนี่ เมื่อได้ย้อนกลับมาเจอกัน เธอเป็นแค่อากาศกับความว่างเปล่าแค่นั้นเอง...                “ชิดายัยดารานั่นคงกะจับหมอนั่นให้อยู่มือ...เธอว่าไหม? หล่อนจ้องเขาอยู่แล้วนี่...หล่อ รวยขนาดนั้นเป็นฉันก็ไม่ยอมให้พลาด”                เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งชวนคุยระหว่างการทำงาน หญิงสาวพยักหน้ารับแกนๆ เธอพยายามที่สุดที่จะไม่ใส่ใจ                มันไม่ใช่เรื่องของเธอ เมื่อตั้งใจไว้แล้วว่าเธอจะกำจัดเขาทิ้งจากใจตัวเอง...ลืมแม้แค่ความทรงจำเก่าๆ ตลอดไป...                “ใช่ๆ หล่อนตัวฉาว อดีตเก่าๆ นะเน่าเฟะจะตาย พอดังเข้าหน่อยเลยอยากจะอัฟเกรตเป็นสะใภ้ไฮโซล่ะมั้ง”                “อย่าพูดไป เขาเล่ากันนะ หล่อนยอมทุกอย่าง ขอแค่ให้ได้บทดีๆ กว่าจะถีบตัวมาถึงจุดนี้ได้ คงเสียไม่ใช่น้อย”                เสียงเพื่อนๆ ยังคุยกันต่อ ปูชิดาฟังแต่ไม่ขอออกความเห็น เธอไม่เคยสนใจวงการมายา เมื่อเวลาของเธอมีไว้เพื่อทำงาน เธอเสียเวลากับเรื่องไร้สาระไม่ได้ มันไม่เกิดประโยชน์                “สวยขนาดนั้น หมอนั่นคงชอบ...ไม่งั้นคงไม่ตามติดแบบนี้ เห็นมีข่าวด้วยกันถี่ยิบ”                สองสาวยังคงพูดคุยกันต่อ แต่ปูชิดาไม่อยากได้ยิน ต่อไปนี้จะไม่มีเงาของเขาอยู่ในใจของเธออีกต่อไป ผู้ชายที่ชื่อ ออสติน อัศวิน เทรย์เวอร์ นับจากนาทีนี้ เขาจะถูกฝังกลบ ถูกลบไปจากความทรงจำของเธอ...ถ้าทำได้นะ...                “ชิดาไปจัดของใส่ชั้นก่อนนะ”                หญิงสาวเอ่ยขอตัว เธอไม่อยากได้ยินเรื่องของเขาให้รกสมอง เขาจะเป็นยังไงก็ช่าง แต่เขาจะไม่มีวันได้รู้การมีตัวตนของ อัปสราบุตรสาวของเธอเด็ดขาด!! เด็กหญิงจะเป็นแค่ลูกของเธอเพียงคนเดียว เมื่อลูกของเธอคือของขวัญจากพระเจ้า เขาเกิดมาจากความรักของเธอ แม้คนเป็นพ่อจะไม่ได้มีความรักให้ เขาสร้างอีกหนึ่งชีวิตมาเพราะความกำหนัด และความใคร่!! แต่ขอให้รู้ไว้ ลูกคือดวงใจ...คือสิ่งสำคัญที่สุดของเธอ...                “ขยันจริ๊ง!! ไม่เหนื่อยบ้างเหรอไง ทำงานตัวเป็นเกลียวเลย”                เสียงสัพยอกลอยตามหลังมา ปูชิดาไม่ได้ตอบ เธอทำแค่ยิ้มอ่อนๆ ส่งให้ รีบทำงานตามหน้าที่อย่างแข็งขันเพราะหากเธอเหนื่อย เธอจะหลับแบบไม่ต้องคิดถึงอะไรอีก คอนโดหรูกลางกรุง...                สายตาคมกล้าทอดมองแสงไฟบนท้องถนน เนื่องจากความสูงของตัวอาคาร จึงทำให้มองเห็นไฟจากหน้ารถยนต์ทอดยาว เหมือนลำแสง มันมีความสวยคลาสสิคแบบที่เขาชอบ มุมนี้จึงเป็นมุมโปรดที่ออสตินมักจะมาหยุดยืนมองเพื่อผ่อนคลายความหนักหน่วงในอก...                “ยืนดูอะไรเอ่ย?” เสียงหวานชะอ้อนถาม หล่อนเบียดกายกับแผ่นหลังหนั่นแน่น มือเรียวบางคล้องที่เหนือบ่า พร้อมกับการกระแซะใส่แบบยั่วเย้าอารมณ์                “เปล่า” เสียงตอบกลับแบบเลื่อนลอย เขาหมุนตัวกลับมา ตวัดมือโอบรัดเรือนร่างอวบอัดไว้ พร้อมทั้งกระตุกยิ้มเริงร่า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD