บทที่4.ผู้ชายอย่างเขามันปีศาจชัดๆ....

1605 Words
หญิงสาวเปรยเสียงอ่อยๆ ชะโงกหน้ามองบุตรสาวที่หลับสนิท พร้อมกับปาดน้ำตาหยดเล็กๆ ทิ้ง เธอไม่อยากเสียใจอีกต่อไป นับจากวันนี้เธอคงต้องระวังตัวเพิ่มขึ้น...จะไม่มีวันเฉียดเข้าไปใกล้ผู้ชายคนนั้นอีกครั้ง                ในขณะที่ปูชิดาพยายามจะลืม อีกคนกลับไม่คิดเช่นนั้น ออสตินนั่งบนเก้าอี้นวมเนื้อนุ่ม ในมือของเขามีบรั่นดีรสเลิศ ชายหนุ่มไล้ปลายนิ้วที่ขอบแก้วไปมา เขากำลังใช้ความคิด ความคิดในการวางแผนจัดการใครบางคน... เทรย์เวอร์คอปเรชั่น...                ห้องทำงานของรองประธาน...ออสตินนั่งหน้านิ้วอยู่หัวโต๊ะ เบื้องหน้าของเขาคือนักวางแผนมือดี เขากำลังคิดโปรเจ็กต์ใหม่ๆ และโครงงานอันนี้เขาลงมือทำด้วยตัวเอง เป็นการร่างแบบสร้างอาคารพาณิชย์บนเนื้อที่กว้างพอสมควร มีเสียงแย้งจากคนรอบข้าง เมื่อเป็นแหล่งชุมชนที่อยู่อาศัยของคนหาเช้ากินค่ำ มันจะเกิดความยุ่งยากและอาจจะใช้เวลานานกว่าเก่า ในการเคลียร์กับคนเก่าๆ ที่พักอาศัยอยู่                แล้วก็มีหลายเสียงเช่นกันที่เห็นด้วย...เพราะการเดินทางสะดวก อาคารที่สร้างจะถูกซื้อ-ขายได้ไม่อยาก เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า หากสามารถเจรจาตกลงกับคนเก่าๆ ได้                “จัดการได้เลย ที่ดินนั่นเป็นของเรา...มันแปลกเหรอถ้าผมอยากสร้างให้มันมีราคา”                ออสตินคิดแบบนายทุน พื้นที่นั้นเขาเป็นเจ้าของ จะเอามาสร้างให้เกิดประโยชน์มีเงินไหลเข้ากระเป๋า ดีกว่าปล่อยให้เป็นแหล่งซ่องสุม ได้เงินแค่หยิบมือจากค่าเช่าผูกขาด เขาจะรื้อ จะสร้าง จะเปลี่ยนที่ดินเหล่านั้นให้เป็นทองคำ                ข่าวร้ายมาเยือน...ในวันที่ปูชิดายังตั้งตัวไม่ได้ เธอยืนเม้มปากหน้าป้ายประกาศกลางแหล่งชุมชน                อะไรไม่เท่า...ผู้ดำเนินการคือบริษัทของ ‘เขา’                ‘เทรย์เวอร์คอปเรชั่น’                ภัยร้ายกำลังคืบคลานเข้ามาหาเธอเงียบๆ เขาจงใจหรือมันเป็นแค่เรื่องบังเอิญกันแน่?                หญิงสาวเดินตัวลอย ครุ่นคิดสาระตะ ทุกความคิดคือการหนี!! เธอจะหอบหิ้วลูก กับนมแผ้วไปอยู่ที่ไหนดี ถึงจะไม่ถูกออสตินตามหลอกหลอน                “แม่จ๋า” เสียงเรียกของบุตรสาว ทำให้ปูชิดารีบสลัดความกลัดกลุ้มทิ้งไป                “คุณหนูคะ?” นมแผ้วเอ่ยเสียงอ่อยๆ นางรู้ข่าวเมื่อเช้าจากเจ้าของบ้านเช่า นางเองก็ทุกข์ร้อนไม่ต่างอะไรกับคนอาศัยอื่นๆ เลย นมแผ้วร้อนใจ หลังมีเสียงเล่าลือปากต่อปากทุกคนรอบตัวหน้าเคร่ง เมื่อรู้อยู่แก่ใจ ไม่มีทางทานอำนาจเงินของพวกคนรวยได้เลย                “เดี๋ยวค่อยคุยค่ะนม” เธอตัดบท ไม่อยากให้อัปสรารับรู้ปัญหาด้วย                “แม่จ๋าหน้าไม่ดีเลย เหนื่อยเหรอคะ?” เด็กน้อยรีบซัก เมื่อมองใบหน้ามารดาที่ดูอ่อนล้ากว่าทุกวัน                “จ้ะ อดนอนติดๆ กันหลายคืน คืนนี้แม่จ๋าเลยขอพัก จะได้นอนกอดกันไงจ้ะ” เธอตอบบุตรสาว เจ้าตัวดีใจจนกระโดดโถมเข้าใส่พร้อมทั้งตะโกนเสียงใส “เย้ๆ นางฟ้าจะได้นอนกอดแม่จ๋า ยายๆ” เจ้าตัวรีบหันไปแจ้งข่าว จนหญิงชรายิ้มอ่อนๆ แม้จะมีเรื่องร้อนใจ แต่เมื่อยังมีรอยยิ้มก็คงมีทางออก                “ไปปูที่นอนรอแม่จ๋าสิ แม่จ๋าอาบน้ำก่อนเดี๋ยวตามไป”                ปูชิดาหาเหตุให้อัปสราอยู่ห่างตัว เธออยากปรึกษาเรื่องที่เกิดขึ้นกับนมแผ้ว คงต้องหาทางขยับขยาย เพราะไม่มีทางทานอำนาจเงินของบริษัทยักษ์ใหญ่ได้หรอก...                “นมเราคงต้องหาที่อยู่ใหม่ คงใช่เงินอีกโข!!”                หญิงสาวบ่น เธอสำรองเงินไว้ให้บุตรสาว เพื่อวันที่เขาต้องเขาโรงเรียน ไม่คิดว่าจะต้องควักออกมาใช้เพราะเรื่องเร่งด่วน                “คุณหนูคะ เอ่อ...”                “ชิดารู้นมอยากพูดอะไร? เราไม่เกี่ยวกับเขาค่ะ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรทั้งนั้น นางฟ้าคือลูกชิดา ลูกชิดาคนเดียว”                หญิงสาวชิงพูดก่อนที่นมแผ้วจะหลุดปากพูดออกมา เธอรู้ว่าหญิงชราต้องการพูดอะไร เมื่อนางไม่ได้หูหนวกตาบอด นางรู้ว่าใครเป็นโตโผใหญ่ในการก่อสร้างอาคารครั้งนี้ บริษัทที่ทำการคือของคนในตระกูล เทรย์เวอร์!!                “เขาไม่เคยรู้ว่ามีนางฟ้า และเขาจะไม่มีวันรู้ตลอดไป”                ปูชิดาตัดสินใจแน่นหนัก เรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะชะตาฟ้าลิขิต เธอยอมรับและจำทน แต่ไม่เคยคิดจะนำความเดือดร้อนของตัวเองไปโยนให้คนอื่น ออสตินเหมือนยอดเขาสูงลิบ!! ส่วนเธอเหมือนต้นหญ้าที่ต่ำเตี้ย...                มารดาของเขาคงไม่มีทางยอมรับ...ในเมื่อท่านปฏิเสธการรับรู้ตั้งแต่แรก...                อีกอย่าง...เธอไม่หน้าด้านพอที่จะเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเอง                ลูกคนเดียวเธอเลี้ยงได้ แม้จะไม่สบายเท่าอำนาจเงินของเขาบันดาล แต่เธอจะพยายามสุดความสามารถไม่ให้น้อยหน้าใครๆ                ปูชิดาเดินเลี่ยงไป หลังทำความเข้าใจกับนมแผ้ว หญิงชราถอนใจแรงๆ เห็นใจทั้งปูชิดา และอัปสรา ส่วนผู้ชายคนนั้นนางมีแต่ความขุ่นเคืองให้ ผู้ชายที่ไม่รับผิดชอบการกระทำของตัวเอง (ออสตินไม่รู้)                อัปสรานอนหลับปุ๋ย ในอ้อมกอดของลูกรักคือตุ๊กตากระต่ายตัวโปรด เธอทรุดนั่งลงด้านข้าง ยกมือเกลี่ยปรอยผมไปทัดหลังใบหูให้ เมื่อมันปลิวมาละแก้มใส และอัปสราอาจจะรำคาญ                “เห้อ!!”                ปูชิดาถอนใจแรงๆ เธอกวาดตามองรอบห้องนอนเล็กๆ สถานที่ซุกหัวนอนมากว่า5ปี                หญิงสาวเตรียมเก็บของใช้ส่วนตัว เมื่อไม่มีฤทธิ์เดชที่จะไปต้านทานอำนาจของเขาได้ ทางที่ดีที่สุดของเธอคือการ...หนี หนีไปไหนก็ได้ ขออย่างเดียวแค่ผู้ชายคนนั้นไม่ตามเหมือนดั่งเงา นอกจากเขาเป็นปีศาจที่ผุดมาจากขุมนรกเพื่อจองเวรเธอ กระเป๋าใบใหญ่ถูกเปิด ปูชิดายังไม่รู้เธอจะไปอยู่แห่งหนตำบลใด แต่การเตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆ นั่นน่าจะเป็นการดีที่สุด เพราะหากมีเรื่องฉุกเฉิน...เธอคว้ากระเป๋า พร้อมกับเผ่นหนีได้ทันที                “เห้อ!!” หญิงสาวถอนลมหายใจซ้ำ ไม่รู้ว่าตัวเองต้องหนีอีกนานแค่ไหน?                ปูชิดาไม่เคยกลัวอะไรเท่านี้มาก่อน ออสตินเหมือนเงาปีศาจ เขาคืบคลานเข้ามาและทำให้เธอกลัวจนตัวสั่น!!                เสื้อผ้าที่ไม่ค่อยได้ใช้ถูกลำเลียงพับใส่กระเป๋า เธอทำงานเพลินจนลืมเวลา เมื่อแหงนมองนาฬิกาอีกครั้งมันก็ดึกมากโข ปูชิดาชำเลืองมองบุตรสาว อัปสราหลับสนิทหลังกินอิ่ม เธอคลี่ยิ้มมุมปาก มีความสุขทุกครั้งหากเห็นลูกอยู่ในสายตา หากวันใดก็ตามที่ถูกพราก...คงเหมือนดวงใจของเธอถูกควัก และเธอคงไม่แคล้วสิ้นใจ                เสียงขยับตัวของอัปสราบนเตียง หญิงสาวจึงรีบปิดงับกระเป๋า เสือกกระเป๋าใบใหญ่เก็บไว้ใต้เตียง                เด็กหญิงยกมือขยี้นัยน์ตา เจ้าตัวยันตัวลุกขึ้นจากที่นอน เมื่อยังมีแสงสว่างในห้อง และด้านข้างไม่มีเงาร่างของมารดา “แม่จ๋า ไม่นอนเหรอค่า”                “แม่จ๋าทำงานเพลินไปนิดจ้ะ กำลังจะนอนเดี๋ยวนี้แหละ”                เธอเดินมาหยุดข้างเตียง ทิ้งตัวลงนั่ง พร้อมกับยกมือลูบไปบนศีรษะเล็กๆ ของบุตรสาว                “มาค่ะ มานอนกอดกัน” เจ้าตัวเล็กยิ้มแป้น แม้จะอยู่ในอาการง่วงงุน แต่เมื่อมีมารดาอยู่ใกล้ๆ อัปสราก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม                สองแม่ลูกนอนกอดกันกลมหลับสนิทบนเตียงขนาดเล็ก ในขณะที่ออสตินนอนกระสับกระส่ายบนเตียงขนาดใหญ่ เตียงนอนกว้างแต่คนนอนกลับรู้สึกไม่ใคร่สบาย ที่นอนราคาแพงกลับไม่ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกผ่อนคลาย มันแข็งกระด้างจนไม่อาจนอนทอดกายได้ เขาผุดลุกขึ้นนั่ง สบถงึมงำ!!                “เป็นอะไรว่ะ!!”                ชายหนุ่มหงุดหงิด เขาไม่รู้สาเหตุความวุ่นวายใจที่เกิดขึ้น รู้แค่ว่ามันรุ่มร้อนไปทั้งกาย และใจ                เพียงแค่...ใครบางคน ปรากฏตัวขึ้นมา...                “ยะหยา...คุณว่างไหม?” ชายหนุ่มตัดสินใจกดโทรศัพท์หาคู่ขา เขาต้องการระบายความอึดอัดที่เกิดขึ้น ไม่อยากสะสมไว้ เพราะหากนานวันมันจะกลายเป็นตะกอน                ปลายสายตอบรับเสียงใส “ว่างค่ะ สำรับคุณนะออสติน ยะหยาว่างเสมอ” หญิงสาวถลึงตาใส่คู่นอน หล่อนยกมือขึ้นชี้หน้า ห้ามไม่ให้อีกฝ่ายส่งเสียง เมื่อออสตินคือบ่อทอง ผู้ชายคนอื่นๆ คือของแก้เซ็ง                “ตามนั้น มาหาผมที่คอนโดหน่อยสิ” ชายหนุ่มกดวางสายทันทีที่พูดจบ เขาทิ้งตัวนอนแผ่ เพ่งสมาธิคิดถึงแค่คนที่กำลังจะมา ส่วนอีกคน...เขาจะอดทนรอ...รอวันที่หล่อนสิ้นหนทาง และคลานเข้ามาร้องขอความช่วยเหลือ เขาจะปราณีหล่อน ให้กิน ให้ใช้ และจะเขี่ยหล่อนทิ้งเหมือนเศษขยะ หลังหล่อนเหลือแค่ซากเน่าๆ                “กลับห้องคุณได้เลยโดม!! ยะหยาต้องรีบไปหาออสติน”                หญิงสาวคว้าเสื้อผ้าที่หล่นเกลื่อนขึ้นมาสวมลวกๆ เธอต้องรีบไป ก่อนที่ออสตินจะเปลี่ยนใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD