บทที่ 4 ชีวิตสู้กลับ

1550 Words
แชะ!! “สวยมาก…หันซ้ายหน่อยโอเคครับ” วันนี้ฉันมาถ่ายแบบให้โปรเจ็กต์ของเจ้แบมไม่คิดว่าจะมาถึงเร็วขนาดนี้หลังจากคุยกันก็ผ่านมา หนึ่งสัปดาห์แล้วของฉันจะเป็นสไตล์สาวหวานน่ารักระหว่างทำงานก็มีพี่มีนเพื่อนในทีมเจ้แบมเอากล้องมาถ่ายวิดีโอตลอด ส่วนแองจี้ก็มาเป็นเพื่อนค่อยดูแลตลอดการถ่ายทำจนจบเซ็ตนี้ก็รีบพาฉันไปเปลี่ยนอีกชุดไม่คิดว่าแค่การมาถ่ายแบบจะเหนื่อยขนาดนี้แต่ชอบนะเป็นงานที่สนุกมากท้าทายตัวเองดี “เหนื่อยไหมแก?”แองจี้ถามพลางซับตามกรอบหน้าให้ไปด้วยทำราวกับเป็นผู้จัดการดาราสาวท่านหนึ่ง “ถ้าบอกไม่เหนื่อยก็จะตอแหลไปเหนื่อยนะแต่สนุก” “แกทำดีมากต่อไปฉันหางานแบบนี้ให้แกทำดีกว่าได้เงินเยอะด้วย” ฉันตาเป็นประกายด้วยความยินดีต่อไปถ้ามีรายได้มากก็จะช่วยแบ่งเบาภาระและมีเวลาให้เพื่อนมากขึ้นด้วย “ไหนว่านางแบบสี่คนแล้วอีกคนล่ะ”ระหว่างนั้นก็เห็นนางแบบสองคนกำลังถ่ายอยู่ด้วยความสงสัยเลยถามแองจี้ผู้รู้ลึก “ไซซีเหรอ?” “อือ”คนที่เจ้แบมบอกว่าเป็นดาวมหาลัย “ถ่ายไปแล้วที่สตูดิโอของมหาลัย” “อ๋อ” “ตอนแรกจะไม่ได้มาถ่ายแล้ว” “ทำไมเหรอมีอะไรหรือเปล่า” “โอ๊ย ก็จะอะไรอีกล่ะพี่ชายหวงไง” “อยากเห็นหน้าพี่ชายเลย” อะไรจะหวงขนาดนั้นปีหนึ่งก็ไม่ใช่ว่าโตแล้วเหรอทำอย่างกับน้องเป็นเด็ก “เดี๋ยวเปิดให้ดู..แกเนี่ยฉันชวนส่องหนุ่มฮอตก็ไม่เคยมาดูเห็นไหมตกข่าวเลย” แองจี้เลื่อนหน้าจอมาตรงหน้าฉันก่อนจะกดเข้าไปที่เพจเม้าท์มอยเซเลบที่หน้าเพจมีปักหมุดโพสต์สำคัญไว้ฉันก้มหน้าลงไปอ่านดูโดยเนื้อหาในนี้จะเป็นการแนะนำอันดับหนุ่มฮอตแต่ละคน “ไหนแกรู้จักคนไหนบ้าง?” แองจี้เลื่อนรูปให้ดูแต่ละคนอันดับหนึ่งอันดับสองฉันไม่เคยเจอแต่อันดับสามฉันเคยเจอ “คนนี้!!” “กรี๊ด!!นี่มันพี่เสือเครื่องกลแกไปรู้จักได้ยังไง”แองจี้ดี๊ด๊าขึ้นมาทันทีเมื่อเอ่ยถึงหนุ่มฮอตอันดับสาม “ไม่รู้จักหรอกแต่เคยเจอตัวจริงที่ช็อปโยธา” “อร๊ายคนนี้ของแรร์มากไม่เจอตัวง่ายๆนะแกมันดวงดีมากที่ได้เจอพี่เขา” “พี่เขามากับซินเซีย”ฉันตอบไปตามความจริงทำให้แองจี้ตาโตหูผึ่งมากกว่าเดิม “จริงหรอแต่เห็นในเพจเขียนข่าวถึงอยู่หลายครั้งว่ากิ๊กกันฉันนึกว่าไม่จริง” “เขาเหมือนแฟนกันผู้ชายดูขี้หึง” “อยากเห็น!อยากเจอพี่เสือหึง!แล้วมีใครที่แกเคยเห็นอีกป่ะหนุ่มฮอตที่เหลือพี่สาขาเราทั้งนั้น” ไล่มองหนุ่มฮอตที่เหลือสามสี่คนเหมือนเคยเจอที่ช็อปล่าสุดก่อนสายตาจะเลื่อนมาเจอไอ้คนนิสัยไม่ดี “เจอทั้งหมดแล้ว” “อร๊ายแกทำบุญด้วยอะไรยะ!” “เกิดมาจนไง! ไปทำงานที่ช็อปเลยเจอฮ่าฮ่า” ฉันหัวเราะความเว่อร์ของแองจี้เพื่อนตั้งสติอยู่สักพักก่อนจะชี้นิ้วบอกว่าพี่คนหน้านิ่งเป็นพี่ชายของไซซีสาวสวยดาวมหาลัยส่วนพี่คนผมสีแดงเพลิงหน้าหล่อจัดเป็นลูกพี่ลูกน้องและสุดท้ายคนนิสัยเสียที่ฉันพึ่งรู้ว่าเขา ชื่อโซ่ และเป็นพี่ชายของซินเซีย “เนี่ยเห็นไหมบ้านนี้เบ้าหน้าดีมาก”แองจี้เอ่ยชื่นชม “พี่กับน้องต่างกันสุดขั้ว”เมื่อเห็นคนนิสัยเสียเลยเอ่ยออกมาเสียงแผ่วอย่างลืมตัว “อะไรนะ” “เปล่ารีบพาไปเปลี่ยนชุดก่อนแม่มัวแต่คุยเรื่องผู้ชายเดี๋ยวโดนเจ้แบมดุหรอก” “เออจริง” เหลือเซ็ตสุดท้ายที่ต้องถ่ายเป็นชุดเดรสสีชมพูน่ารักหลายคนเห็นก็ชมไม่หยุดว่ามันเข้ากับฉันมากพวกเราถ่ายเสร็จก็ปาไปสี่โมงเย็นแล้วฉันกับแองจี้ก็เข้าไปบอกลาเจ้แบมที่กำลังวุ่นวายกับทีมงานอยู่ “กลับก่อนนะเจ้” “กลับก่อนนะคะสวัสดีค่ะ” พวกเรายกมือไหว้เจ้แบมและพี่ทีมงานก่อนจะขอตัวออกมาก่อนเพราะแองจี้มีธุระส่วนฉันก็มีงานที่ต้องไปทำต่อเช่นกัน ห้าง c ฉันเดินทางมาถึงห้างสรรพสินค้าแถวหอพักเพื่อซื้อของเข้าห้องเมื่อทำธุระเสร็จก็ไม่ลืมที่จะแวะซื้อดอกสแตติสเพื่อไปไหว้แม่ที่สุสาน เพราะวันนี้คือวันครบรอบการจากไปของคุณแม่ที่ฉันรักมากดอกไม้ที่เลือกมาก็เพื่อแสดงถึงความรู้สึกที่จะยังคงอยู่ตลอดไปเมื่อมาถึงก็ทำความสะอาดป้ายและวางดอกไม้ที่หน้าหลุมศพของท่านด้วยความเคยชิน ถึงแม้จะไม่มีใครนึกถึงแต่ฉันจะนึกถึงท่านเวลาที่รู้สึกโดดเดี่ยวจะมาคุยกับท่านทุกครั้งเหมือนกับว่ามาระบายสิ่งต่างๆ ที่เผชิญมาให้ท่านฟังแม้ไม่รู้ว่าท่านจะได้ยินหรือไม่ก็ตาม สายลมพัดผ่านเอื่อยเฉื่อยบรรยากาศเงียบสงบและท้องฟ้าสีแดงส้มกำลังจะลาลับขอบฟ้าไปทำให้ก้นบึ้งในหัวใจรู้สึกเหงาขึ้นมา “แม่ขาถึงแม้วันนี้เป็นวันครบรอบการจากไปแต่แม่รู้ไหมว่าแม่ยังอยู่กับหนูตลอดเวลานะ ฮึก ..” “ทุกครั้งที่หนูต้องสู้อย่างลำพังหนูคิดถึงแต่แม่ถ้าแม่อยู่หนูคงไม่ลำบากอย่างนี้” น้ำสีใสหยดลงบนพื้นหน้าหลุมศพอย่างนี้ทุกครั้งเธอไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้จริงๆ การใช้ชีวิตคนเดียวนั้นไม่ง่ายเลยเธอต้องเข้มแข็งและอดทนทุกอย่างบางครั้งจนคิดอยากจะหนีไปจากที่นี่อยากไปอยู่กับแม่เพราะเหนื่อยที่ต้องต่อสู้และดิ้นรนเพียงลำพังแต่ถ้าทำแบบนั้นท่านคงเสียใจที่ใช้ชีวิตที่ท่านให้มาอย่างไร้ค่า ตั้งแต่ที่ท่านเสียพ่อก็ทิ้งเธอไว้ที่นี่และเดินทางกลับญี่ปุ่นไปแต่งงานมีครอบครัวใหม่ตามคำสั่งคุณย่าเพราะทางครอบครัวพ่อไม่เห็นด้วยที่พ่อกับแม่แต่งงานกันเพียงเพราะแม่ไม่เหมาะสมกับพ่อ แม่เป็นแค่นักศึกษาแลกเปลี่ยนไปเรียนที่ญี่ปุ่นและได้พบรักกับพ่อท่านไม่เคยรู้เลยว่าครอบครัวทางพ่อเป็นยังไงรู้เท่าที่แม่เล่าให้ฟังในเมื่อพ่อเลือกที่จะทิ้งเธอก็ไม่คิดที่จะรอคอยให้เขามาดูแลหรือช่วยเหลือถึงเขาจะส่งเงินน้อยนิดมาส่งเสียจนจบมอปลายก็ตาม ตั้งแต่เริ่มดูแลตัวเองได้ก็ช่วยเหลือตัวเองมาตลอดพยายามหารายได้เสริมและเก็บให้ได้มากที่สุดเผื่อในวันหนึ่งพ่อไม่ได้ส่งเสียแล้วจะได้ไม่มีปัญหาเพราะสายสัมพันธ์ความเป็นพ่อลูกของเราเบาบางมากพ่อมาหาแค่ปีละครั้งโทรมานานๆ ทีแล้วก็วาง เธอแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพ่อเลยนอกจากที่เขาบอกว่างานยุ่งและมีครอบครัวใหม่นึกถึงตอนเด็กที่เฝ้ารอพ่อเสมอแต่เมื่อเริ่มโตเริ่มคิดเป็นก็ไม่เคยจะรอพ่ออีกต่อไป! หอพัก เมื่อสบายใจแล้วฉันก็กลั้นใจเรียกใช้บริการแท็กซี่ถึงค่าส่งจะแพงมากแต่เพราะดูเวลาค่ำแล้วไม่อยากเสี่ยงรอรถเมล์เพราะเวลาแบบนี้คนไม่ค่อยผ่านกันฉันกลัวเหตุไม่คาดฝันน่ะ มาถึงหอพักฉันก็จัดเก็บของที่ซื้อมาให้เข้าที่โดยปกติรูมเมทต่างคนต่างใช้อยู่แล้วแต่รูมเมทฉันไม่ใช่!! อยู่ด้วยกันมาสองสามเดือนแต่เหมยแทบไม่เคยซื้อของใช้มาเองเลยไม่ว่าจะครีมอาบน้ำ แชมพู ยาสีฟัน แม้กระทั่งน้ำยาล้างจาน ฉันก็ไม่ใช่ประเภทให้คนมาเอาเปรียบนะแต่พอเดือนถัดมาลองไม่ซื้อมาไว้เหมยมันก็ไม่ซื้อเหมือนกัน พอเปิดอกคุยกันก็ชอบบอกว่าเงินยังไม่เข้าเป็นมาสามเดือนแล้วฉันเลยจำเป็นต้องซื้อมาไว้ตอนนี้คงอดทนไปก่อนแหละเพราะถ้าได้ที่อยู่ใหม่แล้วคงไม่ทน! เมื่อจัดการของเสร็จก็เอาขาตั้งกล้องออกมาไลฟ์สดช่วงนี้รายได้หลักมาจากการไลฟ์ขายของเลยส่วนยูทูปพักไว้ก่อนเมื่อเปิดไลฟ์มาก็ทักทาายลูกค้าและผู้ติดตามทั้งหลายตอนนี้คนติดตามหลักหมื่นแล้วเพราะขยันมาไลฟ์บ่อยถึงจะไม่ทุกวันก็ตามชีวิตก็แบบนี้ถ้าไม่หาก็คงไม่มี ถึงหลายคนจะบอกว่าฉันหน้าตาดีหาแฟนรวยก็จบแต่อะไรมันก็ไม่แน่นอนเราไม่ควรเอาชีวิตของเราไปผูกติดไว้กับใคร ถูกไหม? หาด้วยตัวเองมันดีที่สุดแล้ว!!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD