ONE TWINS (PIRATE & YIM) 1 [40%]

1592 Words
บ้านศิวัฒน์ฤดี ถูกฟ้องล้มละลาย เดี๋ยวนะ! นี่มันรายการล้อกันเล่นใช่ปะ? ใช่ มันต้องใช่แน่ๆ บ้านฉันจะถูกฟ้องได้ไงกัน ฉันก็อยู่ดีกินดีปกติ พ่อกับแม่ก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ให้ฟังนี่นา อะไรคือการที่ฉันกลับมาจากมหาลัยแล้วต้องมาเจอใบประกาศแปะอยู่เต็มรั้วประตูเข้าบ้าน ฉันยืนทำหน้ามึนงงมองเข้าไปในบ้านที่เงียบสงัดราวกับบ้านร้าง บ้านา พ่อกับแม่อาจจะไปเที่ยวก็ได้นี่เนาะยิ้ม แกต้องยิ้มให้สมกับชื่อสิ หมายเลขของคุณไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้ง ตู๊ด... “จริงดิ พ่อกับแม่ไม่รับสาย” ฉันยังคงยืนมองบ้านหลังใหญ่ของตัวงอย่างมึนงง ก่อนจะมองรถคันหนึ่งที่มาจอดพร้อมกับชายคนหนึ่งที่เดินเอาประกาศมาแปะที่ประตูรั้ว ถึงเรียกฉันให้มีสติอีกครั้ง "เออ แปะอะไรเหรอคะ?” “อ่อ เป็นใบประกาศจากธนาคารครับว่าบ้านศิวัฒน์ฤดีถูกธนาคารยึดแล้วครับ” “เออ จริงดิ” “คะ ครับว่าแต่คุณเป็นลูกสาวของคุณมนตรีกับคุณแย้มสวยใช่ไหมครับ?” บางทีฉันก็อยากให้แม่เปลี่ยนชื่อตัวเองเหมือนกันนะ เวลามีคนเรียกคุณแย้มก็ไม่เท่าไหร่หรอก แต่พอเรียกเต็มนี่คิดไปไกลสุดๆ อะ “หรือว่าคุณคือคุณยติยา” “ใช่ค่ะ ยติยา ฉันชื่อยติยา” เออ บ้าไปจริงๆ สินะ ฉันลืมแม้กระทั่งชื่อของตัวเองเพราะกำลังจิตตกกับเรื่องที่เกิดขึ้นกะทันหัน ทั้งที่เมื่อเช้าพ่อกับแม่ยังยิ้มแย้มและโบกมือให้ฉันไปเรียนอย่างมีความสุขอยู่เลย แต่ไหงเย็นนี้ถึงได้กลับมารับรู้ข่าวบ้าบอแบบนี้เนี่ย! “คืองี้ครับ ธุรกิจของคุณพ่อคุณไม่สามารถทำต่อได้เนื่องจากถูกฟ้องหลายบริษัทก็เลยเป็นเหตุทำให้บ้านและทรัพย์สินทุกอย่างถูกยึด” จริงเหรอ? เฮ้ย แล้วแบบนี้ฉันทำไงล่ะ พ่อกับแม่ก็ไม่รู้ไปไหน แถมโทรไปก็ไม่รับ แล้วแบบนี้ฉันจะไปอยู่ที่ไหนเนี่ย “งั้นเหรอ แย่จังนะ” “คุณโอเคนะครับ” “โอเค สบายมากๆ สบายจริงๆ” สบายกับผีแกน่ะสิ ลองเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับแกที่เพิ่งจะรู้ว่าบ้านถูกยึด ถูกฟ้องล้มละลาย จะสบายได้ไหม? ถ้าฉันไม่เข้มแข็งป่านนี้นอนตายอยู่หน้าบ้านแล้ว ชายคนนั้นยิ้มให้ก่อนจะขอตัวไป ฉันมองไปตามรถคันนั้นและหันไปมองประตูรั้วบ้านตัวเอง “ยึดเหรอ? เสื้อผ้าฉันจะไม่ให้เลยหรือไง มีแต่ชุดนักศึกษาตัวเดียวเนี่ย” ฉันก้มลงมองตัวเองที่มีแค่ชุดนักศึกษากับกระเป๋าสะพายใบเดียวก็หลับตาลงก่อนจะมองซ้ายมองขวา และจัดการปีนประตูรั้วที่ไม่สูงเท่าไหร่เข้าไปในบ้าน เพราะว่าประตูถูกโซ่จากที่ไหนไม่รู้คล้องไว้จนเปิดไม่ได้ ตุ้บ! “ฮ้า อย่างน้อยก็ต้องไปเอาเสื้อผ้าของตัวเองมาก่อนล่ะ” ว่าแล้วฉันก็ตรงไปที่ประตูแต่ก็เหมือนเดิมคือปิดตายจนเปิดไม่ออก ฉันมองไปที่ห้องของตัวเองที่อยู่ชั้นสอง มองเห็นหน้าต่างที่เปิดออกมาก็เดินไปที่ห้องเก็บของ คว้าบันไดมาพาดวางและจัดการปีนเข้าไปในบ้านของตัวเองราวกับขโมยทั้งที่มันคือบ้านของฉันนะ ฉันกระโดดเข้ามาในห้องของตัวเองมองไปรอบๆ ก็ถอนหายใจออกมา นี่ฉันจะไม่ได้อยู่ที่นี่อีกแล้วเหรอ? ทำไมพ่อกับแม่ถึงได้ทิ้งฉันไว้แบบนี้โดยไม่บอกอะไรเลยล่ะ คิดว่าฉันเอาตัวรอดได้งั้นเหรอ? เออถึงแม้จะเอาตัวรอดเก่ง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่อ่อนแอนะ ฉันก็ลูกคุณหนูคนหนึ่งที่ทำอะไรก็ไม่ค่อยได้เรื่องหรอก เมื่อเก็บเสื้อผ้าและของจำเป็นลงกระเป๋าสะพายใบใหญ่สุดหรู ฉันก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองคือกางเกงขาสั้นยีนกับเสื้อยืดสีขาวคอกลม ฉันเป็นคนไม่ชอบแต่งตัวสักเท่าไหร่หรอกนะ เมื่อได้ของที่ต้องการฉันก็ระเห็จตัวเองออกมาจากบ้านที่เคยอยู่มานานแสนนาน ป่านนี้ข่าวเรื่องนี้คงดังไปทั่วแล้วแน่ๆ เพราะว่าครอบครัวฉันก็ดังระดับต้นๆ แต่ก็ช่างเหอะ ตอนนี้ต้องหาที่อยู่ก่อน ฉันหยิบมือถือสุดหรูของตัวเองมากดโทรหาเพื่อนที่พอจะพึ่งพาได้ ก็เป็นเพื่อนลูกคุณหนูนั่นแหละ เพราะฉันก็ไม่ค่อยคบใครแต่ทว่า... “เออ พอดีฉันมีญาติมาอยู่ด้วยน่ะยิ้ม โทษทีนะ” ตอแหล แกอยู่คนเดียวนะ! ไม่เป็นไรๆ “พอดีป้าฉันจากแอลเอมาอยู่ด้วย โทษด้วยนะยิ้ม” เหอะ “ยิ้ม บ้านแกโดนยึดเหรอ? ทำไมล่ะ? เป็นยังไง? ห้ะ ไม่ได้ยินเลย แค่นี้นะ” ฉันกำมือถือตัวเองแน่น และหลับตาลงก่อนจะตะโกนออกมาอย่างดังจนคนที่นั่งอยู่ที่ป้ายรถเมล์ตกใจคิดว่าฉันเป็นบ้า ใช่ ฉันกำลังจะเป็นบ้าไง พอฉันไม่มีก็พากันทิ้งเลยนะ สมแล้วที่ฉันไม่นับพวกแกเป็นเพื่อนเพราะไม่คิดว่าจะมีนิสัยแบบนี้ ฉันนั่งถอนหายใจอยู่ที่ป้ายรถเมล์จนดึก ก็นึกขึ้นมาได้ว่ามีเพื่อนอยู่คนหนึ่งแต่ยัยนี่เป็นพวกนิ่งแต่ก็เหมือนกับเพื่อนผู้หญิงทั่วไปของฉัน ยังไงก็ลองดูดีกว่าไม่เสียหาย “ฮัลโหลกัน” (“ยิ้ม? มีอะไรหรือเปล่า”) “คือว่า... กันอยู่ที่บ้านคนเดียวใช่ไหม?” (“ใช่ เธอมีอะไรหรือเปล่า ปกติไม่เคยโทรมาเลยนอกจากมาหาที่บ้าน”) และฉันก็เล่าเรื่องทุกอย่างให้กันฟัง จริงอยากที่เธอพูดนั่นแหละ ฉันไม่เคยโทรหาเธอหรอก นอกจากจะไปหา เราเรียนอยู่ด้วยกันที่มหาลัยแต่ว่ากันต้องดรอปเรียนเนื่องจากมีปัญหาเรื่องทางบ้านถึงแม้จะมีเงินทอง แต่มันก็ไม่เข้าใครออกใครหรอกนะ และฉันก็ไมรู้ด้วยว่าปัญหาของยัยนี่คืออะไร? แต่เป็นเพื่อนคนเดียวที่พอจะพึ่งพาได้นะ ฉันหวังให้เป็นแบบนั้น (“มาสิ มาอยู่ที่บ้านฉันก่อนก็ได้ ติดต่อคุณลุงได้เมื่อไหร่ค่อยว่ากัน”) “จริงนะกัน โหย ขอบใจมากๆ ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้ล่ะ” ฉันวางสายตากันก็ยิ้มหัวเราะอยู่คนเดียว จนคนแถวนี้คงคิดว่าฉันบ้านจริงๆ นั่นแหละ ฉันนั่งรถแท็กซี่มาที่บ้านไม้สองชั้นของกัน อันที่จริงหล่อนย้ายมาอยู่ที่นี่คนเดียวนานแล้ว เพราะว่ามีปัญหากับทางบ้าน ฉันกดออดสักพักร่างบางของกันก็ออกมาเปิดประตู สีหน้าของเธอยิ้มให้ฉัน เธอเป็นคนที่ตัวเล็กและก็น่ารักในมุมมองของฉัน ถึงจะไม่ได้น่ารักจนแบบหนุ่มๆ หลงเธอก็น่ารักในแบบที่เป็นของตัวเอง “เข้ามาสิ” กันเดินนำฉันเข้าไปในบ้านที่กว้างพอ ข้างล่างก็มีห้องรับแขก โซฟาทีวี ครบทุกอย่าง เธอเดินนำฉันไปชั้นสองที่มีห้องอยู่สองห้องแต่อยู่คนล่ะฝั่ง กันเปิดประตูห้องเข้าไปและฉันมั่นใจด้วยว่าคงจะเป็นห้องของกันแน่นอน “นอนที่ห้องฉันเนี่ยล่ะ” “อ้าว แล้วเธอจะไปนอนไหน?” “ฉันกำลังจะไปเกาหลี” “ห้ะ! ละ แล้วไงฉันอยู่ได้เหรอ?” “ได้สิ อยู่ได้ตามสบายเลยนะ ไม่ต้องจ่ายค่าอะไรเลย ส่วนเรื่องเงินใช้จ่ายส่วนตัวเธอก็หาเอาเอง” โหย ดีชะมัดเลยแหะ ฉันยิ้มออกมาก่อนจะโผล่เข้าไปกอดเพื่อนรักของฉัน ตอนนี้เลื่อนขั้นให้เป็นเพื่อนรักก็แล้วกัน แต่ก็ต้องหยุดชะงักตัวเองทันทีเมื่อกันยกมือห้าม “แต่มีข้อแม้...” “ข้อแม้? อะไรอะ” กันไม่พูดอะไรแต่กลับเดินไปที่โต๊ะหนังสือ หยิบสมุดมาเปิดพร้อมกับรูปภาพหนึ่งใบ ก่อนจะยื่นมันให้ฉัน ซึ่งฉันก็มึนงง ก่อนจะก้มหน้ามองรูปภาพใบที่อยู่ในมือ โอ้พระเจ้า! ผู้ชายในรูปหล่อมากจริงๆ เขามีใบหน้าที่หล่อคมคาย ดวงตาคม ใบหน้าก็นิ่งเฉย แถมผมสีดำยังซอยละต้นคอ มีรอยสักที่ลำคอและแขน คือโดยรวมมันหล่ออะ หล่อจนฉันใจเต้นเลย ไม่เคยเห็นใครหล่อขนาดนี้มาก่อนเลยนะ “ใครอะกัน แฟนเธอเหรอ?” “เปล่า มันคือคนที่ฟันฉันแล้วทิ้ง” “ห้ะ! อะไรนะ” ฉันเบิกตากว้างมองกันที่หยิบกระเป๋าที่จัดเสื้อผ้าแล้วมาดู โดนฟันแล้วทิ้งเหรอ? เฮ้ย หล่ออย่างเดียวไม่พอ ยังเลวอีกเหรอเนี่ย ขอกลืนคำพูดที่ชมว่าเขาหล่อลงท้องให้หมด “ใช่ หมอนี่ฟันฉันแล้วทิ้ง และสิ่งที่ฉันต้องการคือ... อยากให้เธอไปยั่วเขาให้ตกหลุมรักและเฉดหัวเขาทิ้ง เอาให้เขาเสียใจและทรมานกว่าที่ฉันเป็นอยู่ตอนนี้” “ฉะ ฉันเหรอ? บ้านากัน ฉันยั่วใครไม่เป็นนะ ที่สำคัญ ฉันไม่รู้ด้วยว่าเขาเป็นใคร เธอรู้หรือเปล่าล่ะ?”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD