ตอนที่ 4 : ทิ้งอดีตที่เจ็บปวดเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่

1874 Words
ตอนที่ 4 ทิ้งอดีตที่เจ็บปวดเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่  ฮวาเยว่ซินรู้สึกไม่พอใจที่เขาไม่คิดจัดการขั้นเด็ดขาดกับนังแพศยานั่น ทำให้แผนการที่นางวางไว้ทั้งหมดสูญเปล่าไปอย่างน่าเสียดาย ช่างน่าเจ็บใจนัก! ทำไมนังเหม่ยหลันถึงได้ดวงดีขนาดนี้นะ เพราะไม่ว่าจะวางแผนเล่นงานอีกฝ่ายอย่างไร ก็ดูเหมือนมันจะรอดมาได้อย่างน่าหงุดหงิด ครั้งนี้เองก็เช่นนั้นนางอุตส่าห์วางแผนอย่างรัดกุม คิดว่าครานี้มันคงไม่รอด เขาจะต้องโกรธถึงขั้นขับไล่ออกจากตระกูล แต่สุดท้ายเรื่องมันกับไม่ได้เป็นอย่างที่คิด หนำซ้ำยังถูกหลอกด่าให้อับอายมากขึ้นไปอีก แล้วนางจะต้องทำอย่างไรถึงจะกำจัดฟานเหม่ยหลันออกไปให้พ้นทางรักของนางเสียที ทางด้านลี่เซียนเมื่ออยู่เพียงลำพัง แม้ใจนึกโกรธที่อีกฝ่ายกล้ากระทำเรื่องเช่นนี้กับเขา แต่พอลองนึกดูดี ๆ สิ่งที่นางพูดมาล้วนมีเหตุผลทั้งสิ้น จากเดิมที่เขาคิดจะหย่าแต่ในเมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นแล้วก็มีแต่ต้องรับผิดชอบ “เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ข้าจะไม่เอาเรื่องแต่อย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก” ว่าจบก็สะบัดชายเสื้อแล้วเดินจากไปทันที ฟานเหม่ยหลันร้องไห้จนตาบวมช้ำ เหตุใดเขาถึงไม่เคยเชื่อนาง นับตั้งแต่วันนั้นก็ผ่านไปสองเดือนแล้ว ฟานเหม่ยหลันเอาแต่เก็บตัวเงียบอยู่แต่ในเรือน เช่นเดียวกับลี่เซียนที่เขามักจะใช้เวลาอยู่ในค่ายทหารเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ความสัมพันธ์ในฐานะสามีภรรยาดูเหมือนจะเหินห่างมากกว่าแต่ก่อน วันหนึ่งในขณะที่นางกำลังนั่งเขียนบันทึกประจำวัน จู่ ๆ ก็รู้สึกหน้ามืดอย่างไม่ทราบสาเหตุ ยังไม่ทันได้เอ่ยเรียกเจียวมิ่งที่อยู่ด้านนอกสติของนางก็พร่ามัวและดับวูบลง “ยินดีกับฮูหยินด้วยนะขอรับ ท่านตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้ว” ท่านหมอพูดขึ้นเมื่อจับชีพจรจนแน่ใจ “ข้าตั้งครรภ์งั้นรึ” นางเผลอลูบหน้าท้องที่แบนราบอย่างแผ่วเบา เพียงแค่รู้ว่าตนกำลังจะเป็นแม่คน ในใจก็นึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง แต่แล้วใจก็นึกกังวลเกรงว่าหากผู้อื่นรู้เรื่องที่นางตั้งครรภ์ คงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ ก่อนที่นางจะขอร้องท่านหมอให้ช่วยปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ห้ามบอกให้ผู้ใดล่วงรู้อย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะลี่เซียน “ฮูหยินตั้งครรภ์แล้ว เหตุใดถึงไม่บอกท่านแม่ทัพไปเลยเจ้าคะ บ่าวมั่นใจว่าท่านแม่ทัพจะต้องดีใจอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ” “ไม่จำเป็นหรอก บุตรที่เกิดโดยไม่ได้ตั้งใจ ใครบ้างจะรับได้ ที่ผ่านมาข้าเองก็อดทนมามาก ครั้นเมื่อถึงเวลาก็อยากจะจากลากันด้วยดี” นางพูดอย่างคนที่ปลงตกเหม่อมองไปที่ลิ้นชักซึ่งเก็บของสำคัญบางอย่างไว้เป็นอย่างดี เมื่อถึงเวลานางจะมอบสิ่งนั้นให้เขาเองกับมือ “ฮูหยินอย่าพูดเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ” เจียวมิ่งรู้สึกใจหาย ตั้งแต่เกิดเรื่องในวันนั้นดูเหมือนฮูหยินจะสงบลงมากกว่าแต่ก่อน ในใจคิดสิ่งใดอยู่ไม่มีใครรู้ “ข้านึกอยากจะออกไปเดินยืดเส้นยืดสายเสียหน่อย เจ้าช่วยไปเตรียมชุดน้ำชาแล้วยกไปวางไว้ให้ข้าในศาลาริมสระก็แล้วกัน” กล่าวจบก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปข้างนอก ฟานเหม่ยหลันเดินคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนมาหยุดอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้ที่นางลงมือปลูกเองกับมือ “ก็นึกว่าใคร ที่แท้ก็เป็นเจ้านี่เอง ไม่พบหน้าคร่าตากันมาสองเดือน สีหน้าของเจ้าดูหม่นหมองมากกว่าแต่ก่อนอีกนะ” น้ำเสียงเย้ยหยันดังขึ้นจากด้านหลัง เหม่ยหลันเบ้ปากอย่างเอือมระอา แต่สุดท้ายก็หันไปจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างช่วยไม่ได้ “เยว่ซินนี่เจ้ายังอยู่อีกหรือ ข้าก็คิดว่าเจ้าคงจะคับแค้นใจจนหนีกลับจวนของตัวเองไปแล้วเสียอีก” เว้นจังหวะเล็กน้อย “แต่ก็อย่างว่าแหละ ใบหน้าของเจ้าคงจะหนาจนด้านไปเสียแล้ว เป็นสตรียังมิได้ออกเรือน แต่กลับต้องมาอาศัยอยู่บ้านของบุรุษที่แต่งงานแล้ว ช่างไร้ยางอายยิ่งนัก” “น... นี่เจ้า!!” ฮวาเยว่ซินอยากจะกรีดออกมาให้สุดเสียง นางกล้าดีอย่างไร! กล้าดีอย่างไรมาว่านางไร้ยางอาย “หมดเรื่องแล้วใช่หรือไม่ข้าจะได้ไปเสียที อยู่ตรงนี้กับเจ้านาน ๆ แล้วรู้สึกว่าอากาศบริเวณนี้ไม่ค่อยถ่ายเทนัก” กล่าวจบก็เชิดใบหน้าแล้วเดินจากไปทันที หญิงสาวเดินหนีฮวาเยว่ซินมาจนถึงทางเดิน แต่อีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะไม่จบง่าย ๆ กึ่งเดินกึ่งวิ่งมาฉุดกระชากร่างของเหม่ยหลัน อย่างแรงจนเกือบเสียหลัก นางตกใจรีบเอามือกุมท้องตามสัญชาตญาณ พลางเอ่ยตะคอกเสียงดัง “เยว่ซินเจ้าทำบ้าอะไร! หากข้าพลาดพลั้งตกลงไปจะเกิดอะไรขึ้นรู้หรือไม่” “หึ! เช่นนั้นก็ดีข้าจะได้หมดเสี้ยนหนาม พี่ลี่เซียนจะต้องเป็นของข้าแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น คนอย่างเจ้ามันไม่คู่ควรตั้งแต่แรกแล้ว” “คู่ควรแล้วอย่างไร ไม่คู่ควรแล้วอย่างไร สุดท้ายลี่เซียนก็เป็นสามีของข้า ส่วนเจ้าก็คงเป็นได้เพียงส่วนเกิน” เว้นจังหวะเล็กน้อย ค่อยเสริมว่า “ส่วนเรื่องยาปลุกกำหนัดอย่าคิดว่าข้าไม่รู้นะว่าเป็นฝีมือใคร แต่ที่ข้าไม่พูดก็เพราะอยากจะรู้เหมือนกันว่าคนอย่างเจ้าจะหาหลักฐานอะไรมาเอาผิดข้า แต่ก็อย่างว่าล่ะ คนที่ทำอะไรไม่รอบคอบอย่างเจ้าหากถูกจับได้ก็คงไม่แปลกอะไร” “กรี๊ดดด! นังเหม่ยหลัน นางแพศยาข้าจะฆ่าเจ้า” พูดจบเยว่ซินก็พุ่งตัวเข้าไปหมายจะทำร้ายอีกฝ่ายให้สาสมกับความแค้นที่ถูกแย่งชายคนรักไป แต่เหม่ยหลันกับเบี่ยงตัวหลบทำให้เยว่ซินพลาดท่าเสียหลักโชคดีที่ลี่เซียนเข้ามาคว้าร่างของนางไว้ได้ทัน ฮวาเยว่ซินเห็นเป็นโอกาสรีบผวาเข้ากอดชายคนรักด้วยอาการสั่นกลัว พลางสะอื้นไห้ออกมาเบา ๆ ใบหน้างามซบลงที่แผ่นอกกว้าง ราวกับคนต้องการหาที่พึ่ง “นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น เหม่ยหลันเจ้าทำอะไรนาง” “ข้ายังไม่ได้ทำอะไร แต่เป็นนางต่างหากที่จะเข้ามาทำร้ายข้า หากไม่เบี่ยงตัวหลบคนที่จะเจ็บตัวเห็นทีจะเป็นข้า” นางตอบกลับอย่างเย็นชา การแสร้งของอีกฝ่ายถือว่าดีมากทีเดียว แสดงได้สมบทบาทยิ่งนัก “พี่หญิง ข้ารู้ว่าตนเองได้เข้ามาเป็นส่วนเกินในชีวิตของท่านกับพี่ลี่เซียน ต... แต่ไม่เห็นต้องพยายามทำร้ายกันถึงเพียงนี้เลย” ฮวาเยว่ซินเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ฟานเหม่ยหลันกรอกสายตาไปมาไม่คิดว่าหญิงสาวผู้นี้จะเสแสร้งเก่งจนน่าตกใจ การแสดงละครของนางนับว่ายอดเยี่ยมยิ่งนักและสิ่งที่น่าตลกไปมากกว่านั้น สามีที่โง่เขลาของนางกับเชื่อสนิทใจ “เหม่ยหลันขอโทษนางเสีย ไม่เช่นนั้นข้าจะ...” พูดยังไม่ทันจบฟานเหม่ยหลันก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน “ข้าจะหย่ากับเจ้างั้นหรือ” หญิงสาวยิ้มเยาะให้กับตัวเอง “หึ! ไม่คิดว่าสามีที่ข้ารักจะโง่เขลาได้ถึงเพียงนี้ แค่นางเป็นอดีตรักแรกของเจ้า จำเป็นต้องทำร้ายจิตใจกันขนาดนี้เชียวรึ” “ฟานเหม่ยหลัน!!” “ทำไมข้าพูดอะไรผิดไปอย่างนั้นรึ” เหม่ยหลันขึ้นเสียงใส่อย่างไม่ยอมเช่นกัน ที่ผ่านมานางอดทนมาโดยตลอด ยามเมื่อหมดความอดทนก็ไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายยอมอีกต่อไป ถึงคราวที่นางต้องยืนหยัดเพื่อตัวเองเสียที ในเมื่อคนที่นี่ไม่ต้อนรับนาง ขืนอยู่ต่อไปก็มีแต่จะทุกข์ใจเปล่า ๆ “เหม่ยหลันข้าบอกให้เจ้าขอโทษนาง” เสียงตวาดลั่นของผู้เป็นสามีทำเอานางสะดุ้งตื่นจากภวังค์ คิดไม่ถึงว่าสามีที่นางรักและเฝ้าปรนนิบัติมาหลายปีจะหลงสตรีผู้นี้จนไม่คิดสืบหาความจริงให้กระจ่าง “ข้าไม่ได้ทำอันใดผิด ไยต้องขอโทษเป็นนางที่เข้ามาทำร้ายข้าก่อน” นางมองเขาด้วยสายตาเจ็บปวด แต่งงานกันมาสามปีไม่มีครั้งไหนเลยที่เขาจะยอมพูดจาดีด้วย “เหม่ยหลิน!! อย่าให้ข้าต้องหมดความอดทนกับเจ้า” ‘หมดความอดทน หึ! ทุกวันนี้ท่านก็ยื่นหนังสือหย่าให้ข้าอยู่ทุกวันไม่ใช่หรือ’ หญิงสาวยิ้มเยาะให้กับตัวเอง “พี่ลี่เซียน อย่ากล่าวโทษฮูหยินเลยเจ้าค่ะ เป็นข้าที่เข้ามาเป็นส่วนเกินในชีวิตท่าน” เยว่ซินตัดพ้ออย่างเจ็บปวด ที่ผ่านมานางคิดหวังที่จะได้เป็นฮูหยินของที่นี่ แต่สุดท้ายก็ถูกนังหญิงชั้นต่ำผู้นี้แย่งชายคนรักไปจากนาง “ซินเอ๋อร์ เจ้าไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ข้าเป็นสามีย่อมต้องรู้นิสัยนาง” เขาหันไปพูดกับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เหม่ยหลันคับแค้นใจยิ่งนัก อีกฝ่ายไม่จำเป็นต้องพยายามอะไรก็ได้ความรักจากเขาและคนในครอบครัวไปครอบครอง ส่วนนางต่อให้พยายามแค่ไหนก็เป็นได้เพียงแค่หญิงชั้นต่ำที่ริอ่านมาแต่งงานกับเขา “ลี่เซียน ข้าขอถามเจ้าสักคำ! สามปีมานี้เจ้าเคยรักข้าบ้างหรือไม่” เหม่ยหลันเอ่ยถามเขาทั้งน้ำตา ลี่เซียนผินหน้าไปทางอื่น มือกำชายผ้าไว้แน่น หลับตากัดฟันตอบออกไป “ไม่เคย!” สิ้นคำตอบเหม่ยหลันก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออก ในใจมีแต่คำถามเพราะอะไร ทำไมเขาถึงรักนางไม่ได้ หากจะเป็นเรื่องวางยาปลุกกำหนัด นั่นมันไม่ใช่ความจริงนางถูกใส่ร้าย คืนนั้นนางเองก็ถูกวางยาไม่ต่างกัน แต่ทำไมทุกคนถึงโทษว่าเป็นความผิดนาง “หึ! ฮ่า ๆ ๆ เจ้าคงจะโกรธเกลียดที่ข้าวางยาปลุกกำหนัดเจ้าสินะ ลี่เซียนข้าขอพูดเป็นครั้งสุดท้าย ‘ข้ามิเคยวางยาปลุกกำหนัดเจ้า’ ในคืนนั้นข้าเองก็ถูกวางยาไม่ต่างกัน แต่ก็เอาเถิดอธิบายก็ใช่ว่าจะเข้าใจ เช่นนั้นข้าคงต้องยอมแพ้แล้วละ ตลอดสามปีมานี้ข้ามีความสุขมาก ข้าลงนามในใบหย่าไว้ให้ท่านแล้ว” ครานี้นางตัดสินใจว่าจะไปจากเขาอย่างถาวร มือบางลูบหน้าท้องที่แบนราบอย่างแผ่วเบา ‘ในเมื่อพ่อเขาไม่เต็มใจให้เจ้าเกิด เราสองแม่ลูกก็ไปตายเอาดาบหน้ากันเถอะ’ ..............................
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD