ตรัสตรัยคิดว่าใช่ และต้องใช่แน่ๆ !
ตั้งแต่เช้าที่กินข้าว มาจนถึงซื้อเสื้อผ้าใหม่และของใช้จำเป็นของนิดา ซึ่งกว่าจะซื้อครบก็เย็นย่ำ หญิงสาวยังไม่สบตาเขาเลย เอาแต่มองไปทางอื่นอยู่ตลอด นี่ไง เธอไม่สบายใจที่เขาล่วงล้ำร่างกายของเธอ
ตรัสตรัยเลยพยายามไม่แตะเนื้อต้องตัวเธอให้นิดารู้สึกแย่มากไปกว่านั้น แต่เมื่อเข้ามาในคอนโดมิเนียมของเธอเพื่อพาพนักงานของบริษัทรับจ้างย้ายบ้านมาช่วยหญิงสาวเก็บของ เขาก็รู้สึกอึดอัดไปหมดเพราะที่นี่แคบมาก ถ้าเทียบกับทุกคอนโดที่เขาหรือญาติร่วมนามสกุลเป็นเจ้าของ
ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนเขาเป็นสโนว์ไวท์ที่เข้ามาในบ้านของคนแคระ ถึงเพดานจะไม่ได้เตี้ยจนติดศีรษะ แต่ก็เตี้ยมากจนรู้สึกอึดอัดอยู่ดี ยิ่งมีพนักงานขนส่งมาช่วยเก็บของแพ็กใส่กล่องด้วย ตรัสตรัยไม่รู้จะวางมือไม้ไว้ตรงไหนถึงจะไม่โดนตัวเธอ และไม่โดนเฟอร์นิเจอร์ในห้องเลยเนี่ย!
“คุณนิด ระวังครับ”
“อ๊ะ ขอบคุณค่ะ”
นิดาหันมามองสบตาเขาเป็นครั้งแรกของวัน เพราะเธอเดินช่วยพนักงานเก็บหนังสือบนชั้นวางจนเกือบโดนกล่องชนเข้า แต่ชายหนุ่มดึงเอวบางให้เข้ามาชิดกาย เขาก้มมองเธอ เพราะกังวลว่าเธอจะเจ็บตรงไหน
แล้วหญิงสาวก็หลบตาเขาอีกหน เธอหันไปยิ้มให้พนักงานที่หันมาขอโทษเธอ ก่อนจะพูดกับเขาทั้งที่ไม่มองหน้า
“ดะ เดี๋ยวนิดขอไปดูของที่จะเอาไปด้วย ในห้องนอนก่อนนะคะ”
“ครับ”
เมื่อเอวบางหลุดจากมือไป ตรัสตรัยก็แทบจะเดินลอยๆ ตามเพราะไม่อยากให้เธอห่างกาย แต่ชายหนุ่มก็ยั้งใจไว้ บอกตัวเองว่าเธอยังไม่พร้อมจะใกล้ชิดเขา
เพราะเมื่อเช้าแท้ๆ ละเมออะไรบ้าๆ !
ตรัสตรัยบริภาษตัวเองอย่างหัวเสีย โดยไม่ทันรู้เลยว่าตอนนี้เขากำลังยืนหน้าตาบึ้งตึงเหมือนโกรธคนทั้งโลก จนพนักงานที่กำลังแพ็กของถึงกับขนคอลุกชันด้วยความกลัวกันไปหมดแล้ว...
“โอเค แค่นี้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ”
นิดายังอายตรัสตรัยเรื่องเมื่อเช้า เลยซ่อนตัวอยู่ในห้องนอนจนพนักงานเก็บของแพ็กของใช้ที่จำเป็นของเธอครบ ซึ่งใช้เวลาทั้งหมดแค่ครึ่งชั่วโมงเอง ถึงแม้ของเธอจะไม่เยอะก็เถอะ แต่มืออาชีพนี่ก็สุดยอดไปเลย
“คุณ”
แล้วเสียงเรียกจากทางหน้าประตูก็ทำให้นิดาหันไปมอง เธอเห็นตรัสตรัยยืนพิงขอบประตู ล้วงมือข้างหนึ่งเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ดูเหมือนเขาจะลืมโกนหนวด การที่มีตอหนวดบนหน้าเขา รวมกับชุดลำลองที่ตรัสตรัยสวมวันนี้ เลยทำให้ชายหนุ่มที่ปกตินิดาจะเห็นเขาสวมแต่สูทสุภาพ บุคลิกเรียบหรูดูแพงเสมอ เพราะส่วนใหญ่ก็เจอกันที่ออฟฟิศ กลับดูเฟียร์สเป็นพิเศษ
นิดาหน้าแดง หันหน้าหนีเขาครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวัน โอ๊ยตาย.... นอกจากอายเรื่องเมื่อเช้า ยังเขินลุคใหม่ของว่าที่สามีตัวเองจนไม่กล้ามองหน้าเขา รู้ถึงไหนคงอายถึงนั่น ถ้าเพื่อนสนิทเธอรู้ คงแซวยันลูกบวชแหงเลย!
“ข้างนอกเก็บของเสร็จแล้ว คุณจะออกไปดูหน่อยมั้ยว่าเหลืออะไรที่เราจะเอาไปเองหรือเปล่า”
“มะ ไม่ค่ะ”
นิดาทำเป็นมองอะไรต่ออะไรในห้องนอนที่เหลือแค่เฟอร์นิเจอร์กับของประดับที่เธอไม่คิดจะเอาไปด้วย ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นตุ๊กตาหมีตัวใหญ่บนเตียงนอน โธ่! ลืมได้ไงเนี่ย
ร่างบางปรี่ไปอุ้มตุ๊กตาขึ้นมา มันตัวใหญ่มากจนปลายเท้านุ่มนิ่มของตุ๊กตาอยู่ตรงเข่าเธอ ทั้งที่ส่วนหัวของมันชิดกับริมฝีปากของหญิงสาวเลย
“นี่ค่ะ ที่เราจะเอาไปด้วย น้องลูกหมี! เมื่อคืนนิดไม่ได้นอนกอดน้อง นิดเลยนอนไม่หลับ” นิดายิ้มหวานจนตาหยีด้วยความดีใจ ก่อนที่เธอจะดูกังวลสีหน้าของชายหนุ่มที่เปลี่ยนไปอย่างมากตอนนี้ “คุณตรัส... เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
เสียงถามจ๋อยๆ ของเธอทำให้ตรัสตรัยเพิ่งรู้ตัวว่าเขากำลังยืนมองเธอหน้าบึ้ง เพราะหึงหมี! อะไรอะ อะไร! ไอ้หมีตัวผู้นั่นมันอะไร! แล้วชื่อมุ้งมิ้งนั่นมันอะไร น้องลูกหมีเนี่ยนะ! ทำไมเธอต้องนอนกอดมันทุกคืน แล้วทำไมมันต้องอยู่บนเตียงเธอด้วย ทำไม ทำไม!
ตรัสตรัยโวยวายในใจ แม้ว่าภายนอก สีหน้าของเขายังคงบึ้งตึง ก่อนจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นนิ่งเรียบ เพราะไม่อยากให้เธอกลัวเขามากไปกว่านี้
แต่ตรัสตรัยไม่ใช่เตวิชไง!
เขาไม่ใช่ผู้ชายหน้าดุ ตาขวาง เหมือนคนโกรธตั้งแต่ก้อนหินยันพระจันทร์แบบเตวิช ลูกชายของเขาซะหน่อย การที่เขามองเธอหน้านิ่งๆ ไม่ได้ทำให้นิดาสบายใจเลย เพราะปกติตรัสตรัยน่ะ...จะมองเธอด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความเสน่หาจนเธอรู้สึกอบอุ่นใจเสมอ
“ขอโทษทีคุณนิด ผมนอนน้อยไปหน่อย กลับบ้านเรากันเถอะ”
‘บ้านเรา’
ไม่รู้ทำไม แค่ประโยคเดียว นิดาถึงกับน้ำตาซึม...
“เฮ้ย คุณนิด ร้องไห้ทำไมครับ”
อาการโวยวายของเขาทำให้นิดายิ้มทั้งน้ำตา เธอปล่อยตุ๊กตาหมีลงพื้น ก่อนจะวิ่งไปกอดเขา ซบหน้ากับอกกว้าง และรับรู้ถึงอ้อมกอดของเขาที่สร้างไออุ่นตั้งแต่หัวใจ ไล่ละไปจนถึงวิญญาณ
“นิดรักคุณ”
ตรัสตรัยไม่คิดว่าจะถูกบอกรัก เขาตกใจนิดหน่อย ก่อนที่ดวงตาคู่คมจะอ่อนแสงลง ชายหนุ่มจุมพิตที่กลางกระหม่อมหญิงสาวอย่างอ่อนโยน ก่อนกระซิบตอบด้วยถ้อยคำที่ออกมาจากใจ
“ผมก็รักคุณ”