คฤหาสน์เดอร์ลาคัวล์
เกือบหนึ่งชั่วโมงเต็มที่นิยาดาทนนั่งแบบอึดอัดที่สุด เธอบีบตัวเองให้เล็ก นั่งเม้มปากมาตลอดทาง จู่ๆ ก็รู้สึกวูบในช่องท้องเหมือนรถยนต์วิ่งขึ้นเนินที่อยู่เหนือความกดอากาศ พื้นถนนไม่ได้ราบเรียบเหมือนเคย เหงื่อเธอไหลพลั่กๆ ความกลัวจู่โจมหัวใจอีกครั้งหนึ่ง
“พวกคุณคงไม่ได้พานิมาฆ่าใช่ไหมคะ” ต่อให้กลัวจับใจแต่เธอจะตายทั้งๆ ที่ไม่รู้อะไรเลยไม่ได้
ไม่มีคำตอบเหมือนเคย คนหน้าเหี้ยมยังคงปิดปากสนิท
นิยาดาถอนใจแรงๆ เอนหลังพิงพนักเบาะหนัง ไว้อาลัยให้คราวซวยของตัวเอง เธอไม่ควรขึ้นเรือลำนั้นเลย ไม่ควรโลภมากมาแสวงโชคในต่างแดนตอนนี้เลย
ว่าแต่...คนตายนั่น คือใครกันนะ?
การเดินทางสิ้นสุดลงจนได้ พาหนะที่เธอนั่งมาหยุดสนิท คนหน้าเหี้ยมที่นั่งประกบเธอมาตลอดทางขยับตัวออกจากรถยนต์ นิยาดาผวาตาม เธอชะเง้อมองไปด้านนอกแล้วก็ได้แต่อ้าปากค้าง
ปราสาทหลังใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ความอลังการกับความงามสง่าทำให้นิยาดารู้สึกทึ่ง ศิลปะสมัยก่อนแต่ถูกปรับแต่งให้ร่วมสมัย ไม่อยากนึกถึงค่าใช้จ่ายสำหรับการดูแลรักษาให้ดูดีตลอดเวลาสักนิดเลย เจ้าของปราสาทในเทพนิยายนี่ต้องร่ำรวยขนาดไหนกันนะ
“ลงมาสักทีเถอะ จะมองให้อิฐทะลุเลยหรือไงหะ”
เสียงตะคอกดึงสติของเธอกลับคืนมา นิยาดารีบกระโจนลงมาจากรถยนต์ เธอถูกลากเข้าไปด้านหลัง ผ่านพื้นที่ร่มรื่น จนถึงเรือนหลังเล็กริมหน้าผา
ทิวทัศน์ท้องทะเลเบื้องหน้า ทำให้รู้สึกเหมือนชะตาตัวเองกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้ายที่พาดอยู่บนปากเหว
เธอทำผิดศีลข้อไหนนะ ถึงได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยขนาดนี้ได้
“อย่าคิดหนีล่ะ เพราะไม่มีใครอยากจับเป็นเธอหรอก เธอควรพยายามหาเหตุผลโน้มน้าวให้เจ้านายของฉันยอมให้เธอมีชีวิตต่อดีกว่า จำไว้...ทางรอดของเธอมีอย่างเดียว สารภาพกับเบนเดอร์ซะว่าใครบงการเธอ”
คำพูดทิ้งท้ายไม่ได้ช่วยให้นิยาดารู้สึกดีขึ้นเลย
นิยาดามึนตึบกว่าเก่า เธอไม่รู้ไม่เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลยสักนิด
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองมานอนอยู่ข้างๆ คนตายได้ยังไง
คนเหล่านั้นไม่ได้สนใจเธอจริงๆ เขาปล่อยเธอไว้ในกระท่อมหลังนั้น และแยกย้ายกันไป ใช้เวลาไม่นานก็ไม่มีใครเหลือ ความกลัวตายทำให้นิยาดารั้น เธอพยายามหาทางรอดให้ตัวเอง เริ่มด้วยการสำรวจพื้นที่รอบๆ
กระท่อมหลังนี้อยู่ด้านหลังคฤหาสน์หลังใหญ่ ปลูกชิดริมหน้าผา หันหน้าสู้กับทะเล ที่เห็นลิบๆ นั่นน่าจะเป็นไร่องุ่นทอดยาวสุดลูกหูลูกตา แถมยังมีป่าทึบอยู่ด้านซ้ายมือ ขนาดของต้นไม้ทำให้นิยาดาขยาดมากขึ้น
ในยุคนี้ราคาไม้แพงยิ่งกว่าทองคำ ต้นไม้ยืนต้นขนาดสองคนโอบแบบนี้ เจ้าของพื้นที่ต้องรวยขนาดไหนนะถึงไม่ยี่หระกับมูลค่าของไม้ยืนต้นเหล่านี้และปล่อยให้ต้นไม้ตั้งตระหง่านสู้แดดสู้ฝนอยู่นานนับสิบๆ ปีได้
“โอ้ย...อยากจะบ้า ใครนะทำกับนิได้”
เธอแหกปากตะโกนลั่น ระบายอารมณ์ด้วยการเตะใบไม้ที่กองสูงถึงตาตุ่มจนกองใบไม้กระจาย
โครกกก...
เสียงท้องร้องโครกคราก นิยาดาเลยยืดตัวยืนตรง เธอหิวจนแสบท้อง พอทบทวนความทรงจำอีกครั้งเธอถึงกับยกมือกุมขมับ เท่าที่จำได้เธอกำลังสาละวนกับการนำอาหารสดออกจากห้องเก็บความเย็นด้านหลังเรือสำราญ เธอได้ยินเสียงแปลกๆ เลยพยายามควานหาที่มาของเสียง จนถึงท้ายสุดของเรือ สถานที่ที่หากไม่มีธุระจริงๆ จะไม่มีใครเฉียดมาใกล้แถวนี้
มีผู้ชายสองคนกำลังทะเลาะกันอยู่ เขาพูดภาษาฝรั่งเศสที่นิยาดาฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง แต่ก็พยายามจับใจความ เธอยกมือตบหน้าผาก ความอยากเสือกแท้ๆ เลยพาตัวเองมาซวย
เธอเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์อันตรายนั่น
เลยกลายเป็นแพะเสียมั้ง ผู้หญิงต่างชาติขึ้นเรือมาทำงานแบบผิดกฎหมาย ไม่มีใบอนุญาต ไม่มีใบรับรองการทำงาน ใช้แรงงานแลกเงินเดือนสูงๆ เป็นค่าตอบแทน
“ใครนะ?”
ผู้โดยสารบนเรือส่วนใหญ่ร่ำรวยทั้งนั้นแหละ เธอไม่รู้จักใครเป็นพิเศษหรอก ทุกนาทีอยู่แต่ในเคบินที่ใช้สำหรับปรุงอาหาร หมกตัวอยู่ในครัวเกือบทั้งวัน เวลานอนนั่นแหละที่ไม่ได้อยู่ในนั้น ปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานก็แทบไม่มี นิยาดาเป็นคนไทยคนเดียวที่อยู่บนเรือสำราญด้วยละมั้ง การสื่อสารคนส่วนใหญ่ใช้ภาษาถิ่นหรือไม่ก็หนักไปทางฝรั่งเศส เธอกำลังศึกษาพอฟังออกแต่ยังพูดไม่ได้ โชคดีที่เชฟพูดภาษาอังกฤษได้ และความอดทนของเธอถูกใจเชฟ เลยได้งานนี้
เธอพยายามทบทวนความจำแต่ภาพที่ผุดขึ้นมาในสมองก็ไม่ปะติดปะต่อ มึนๆ เบลอๆ จนยอมถอดใจ เธอเดินคอตกไปนั่งกอดเข่าอยู่หน้าประตู สอดส่ายสายตาหาพันธมิตรสักคน แต่กลับว่างเปล่า มีแต่ความเงียบเป็นเพื่อน
เบนเดอร์กอดอกมองจุดเล็กๆ นั่นอยู่นานแล้ว เขาถอนหายใจแรงๆ พยายามคิดหาแรงจูงใจหากหญิงผู้นั้นตั้งใจเป็นฆาตกร ความบาดหมางนั่นสาเหตุมาจากไหน แต่กลับไม่เจออะไรเลย เขาพยายามเชื่อว่าหญิงผู้นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเลียม
“ว่าไงเดอเรกได้อะไรเพิ่มไหม?”
การ์ดส่วนตัวเดินถือแฟ้มสีดำเข้ามาหยุดยืนด้านหลัง
“ประวัติของผู้หญิงคนนั้นครับ” เบนเดอร์ยื่นมือไปรับแฟ้มนั่นมาเปิดดูคร่าวๆ
“คนเอเชีย” เขาพึมพำ พอจะเดาออกจากรูปร่างขนาดเล็กกับผมสีดำสนิทนั่นแล้ว ที่แปลกใจคือในแวดวงรอบตัวของเลียมไม่มีคนประเภทนี้ไง ตามตารางงานแล้ว...เลียมควรอยู่ที่มิลานเพื่อเซ็นสัญญาเรื่องธุรกิจแทนริโอ เพราะอะไรล่ะเลียมถึงไปโผล่ที่เรือลำนั้นแล้วกลายเป็นศพ “เช็กรายชื่อผู้โดยสารบนเรือลำนั้นด้วยนะ” เบนเดอร์สั่งต่อ แล้วก็ฉวยแก้วบรั่นดีขึ้นมาจิบ “พ่อล่ะ ตื่นหรือยัง?” อาการป่วยของริโอทรงๆ ทรุดๆ สามวันเดินได้ สามวันแทบจะนอนอยู่แค่บนเตียงและแพทย์ประจำตัวยังหาสาเหตุของโรคไม่พบ
ริโออยู่กับเลียม หน้าที่นั้นน้องชายเลยเป็นคนดูแล
เบนเดอร์พยายามไม่ก้าวก่าย เขาขี้เกียจฟังบิดาบ่น เขาไม่เคยอิจฉาเลียมเลยสักครั้ง คงเพราะเขาชินชากับความอ้างว้างแล้วล่ะมั้ง มารดาปลูกฝังให้แกร่งตั้งแต่เด็ก เลยละเลยความละเอียดอ่อนของการแสดงออก
ริโอเลยทุ่มเทความรักของเขาให้กับเลียมแทน
“ผู้หญิงคนนั้นเข้าเมืองแบบผิดกฎหมายด้วยใช่ไหม?”
“ครับคุณเบน เธอไม่มี ‘ตั๋ว’ ทำงานเธอมาคนเดียว”
“แปลกนะ หน้าตาก็งั้นๆ จะว่าเลียมพิศวาสหล่อนจนลากขึ้นเตียงๆ ก็ไม่น่าใช่” เรื่องรสนิยมทางเพศน่าจะตัดออกได้เป็นอย่างแรก เลียมไม่ได้พิศวาสผู้หญิง คนใกล้ชิดเลียมเท่าที่เห็นส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย
“โจเซฟล่ะ ไอ้หมอนั่นหายหัวไปไหน?” เบนเดอร์ถามต่อ ผู้ชายที่ตัวติดกับเลียมช่วงหนึ่งเดือนมานี่หายหน้าไปไหน
“ผมกำลังตามอยู่ครับ”
เดอเรกตอบ เขาเองก็สะกิดใจเหมือนเจ้านาย โจเซฟควรอยู่ข้างๆ เลียมสิ ถ้ามีอันตรายเกิดขึ้น โจเซฟน่าจะรู้และเห็นบ้าง การที่คนสนิทของน้องชายเจ้านายหายตัวไป คงเกิดอะไรขึ้นนั่นแหละ คนขี้ขลาดตาขาวอย่างโจเซฟคงรีบไปซ่อนตัว
“ให้แม่นั่น นอนที่นั่นจริงๆ เหรอ?” เบนเดอร์ปรายหางตามองไปยังริมหน้าผา จุดเล็กๆ เคลื่อนที่ไปมาไม่ยอมหยุด รวมๆ ก็เกือบชั่วโมงแล้วนะ
“บรรยากาศกับความกลัวน่าจะทำให้ผู้หญิงคนนั้นยอมคายบางอย่างให้พวกเรารู้ก็ได้ครับ” เบนเดอร์เห็นด้วย ความกลัวทำให้เกิดภาพหลอน กระท่อมโทรมๆ สกปรกนั่นอาจทำให้ผู้หญิงคนนั้นยอมเปิดปากพูด
“ซามูเอลเคลื่อนไหวบ้างหรือเปล่า” คู่แข่งตัวฉกาจที่จ้องหาโอกาสเล่นงานเดอร์ลาคัวล์ทุกเวลา อาจมีส่วนเกี่ยวกับการตายของเลียมด้วยก็ได้
“ไม่เลยครับ ได้ข่าวหิ้วนางแบบที่ชื่อเซยาห์ไปกก ยังไม่โผล่หัวออกมาจากโรงแรมเลย”
“หากไอ้หมอนั่นมีเอี่ยวด้วยนะ ฉันจะใช้เรื่องเลียมถล่มฮัดสันให้ราบ รำคาญสุดทนแล้วว่ะ”
ในวงการสีเทามีทั้งคนที่ไว้ใจได้และไม่ควรเข้าใกล้ ฮัดสันกับเดอร์ลาคัวล์เป็นอริกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ตัวจี๊ดอย่างซามูเอลอยากผงาดในวงการเลยพยายามหาเรื่องเบนเดอร์มาตลอด ในฐานะที่โตกว่าเบนเดอร์เลยไม่ค่อยตอบโต้ เรื่องไหนที่ทนไหวเขาปล่อยผ่าน แต่หากล้ำเส้นมากเกินไป ซามูเอลก็กระอักไม่น้อย
เด็กเมื่อวานซืนคิดจะเทียบรุ่น ชั้นเชิงยังไม่มีอาศัยพวกเยอะ