ตอนที่ 9 หึงแรง

1458 Words
วิลเลี่ยมค้นหาของบางอย่างในลิ้นชักอยู่ครู่ใหญ่ อลิชาไม่กล้าโวยวายเพราะเขาส่งสาตาจับผิดมายังเธอตลอดเวลา มือหนากำของสิ่งนั้นไว้แน่นไม่ให้เธอเห็นและเขาแอบหย่อนมันลงในกระเป๋ากางเกงเป็นที่เรียบร้อยพร้อมทั้งเดินมาหาเธอที่ปลายเตียงซึ่งอลิชานั่งอยู่ "อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ ฉัน..." อลิชาไตร่ตรองว่าเธอควรบอกเขาดีหรือไม่ว่าเธอไม่เคยเรื่องบนเตียงมาก่อน "ไม่ต้องร้องไห้อ้อนวอนให้เปล่าประโยชน์หรอก คุณนี่มันร้ายกาจทำให้ผมอารมณ์ค้างมาหลายรอบแล้ว อยากรู้นักว่าบนเตียงเด็ดเหมือนหน้าตา จัดจ้านเหมือนวาจาหรือเปล่า" วิลเลี่ยมโน้มตัวลงมาคร่อมร่างบางจนเธอเซล้มลงไปบนเตียง "ฉันไม่ตลกด้วยนะคะ ออกไปเดี๋ยวนี้เลย" อลิชาน้ำเสียงจริงจัง "ก็คุณอ่อยผมเสียขนาดนี้จะให้ผมคิดว่ายังไง ฮะ" จมูกโด่งกดลงบนแก้มนวลเสียจนอลิชาเสียววาบไปทั้งตัว มันเป็นสัมผัสที่สุดแสนพิเศษแม้ว่าเธอจะไม่เต็มใจ กลิ่นน้ำหอมของวิลเลี่ยมปลุกเร้าอารมณ์อลิชาให้ปั่นป่วน เธอไม่เคยได้สัมผัสความรู้สึกนี้จากที่ใดมาก่อน "ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ถ้าคุณยังไม่ปล่อยฉันไป ฉันจะบอกคุณพ่อให้ส่งบอดี้การ์ดกลับมาติดตามฉันเหมือนเดิม" คำพูดของเธอทำให้เขารู้สึกหวั่นเกรงลึกๆในใจ เขาไม่ได้กลัวคนของบิดาเธอ เขากลัวว่าต้องห่างกับเธอต่างหาก "เอาล่ะ ถ้าคุณคิดว่าผมกำลังมีอารมณ์กับคุณนั่นแปลว่าคุณคิดผิด เด็กไร้เดียงสาอย่างคุณแถมกวนประสาทแบบนี้ ผู้ชายเขาเอาไม่ลงหรอกนะ" วิลเลี่ยมทิ้งคำพูดทิ่มแทงใจดำให้อลิชาเจ็บใจจนมือเรียวเล็กกำแน่น เขาลุกจากเตียงและเดินอตรงไปยังประตูห้องนอน "อ้อ และนี่ก็คือกุญแจห้องของคุณ หกโมงเย็นแต่งตัวให้เสร็จแล้วลงไปเจอผมข้างล่าง" เขาล้วงกุญแจห้องออกมาจากกระเป๋ากางเกงที่เขาหย่อนมันลงไปเก็บไว้ก่อนหน้านี้เพราะคิดจะขังเธอไว้ แต่ในใจลึกๆกลับเกรงว่าเธอจะพยศจึงยอมปล่อยเธอให้เป็นอิสระ อลิชาหน้าบึ้งตึงไม่ยอมพูดกับเขาเพราะโกรธเคืองที่เขาหาว่าเธอเป็นเด็กไร้เดียงสา เวลาล่วงเลยมาจนถึงสี่โมงเย็น อลิชาเดินวนไปวนมาอยู่ภายในห้องนอนจนหมดความอดทน เธอจึงผุดคิดแผนร้ายขึ้นมาโดยการย่องหนีออกจากบ้านในขณะที่วิลเลี่ยมเอาแต่ใจจดจ่ออยู่กับงานบนโต๊ะจนลืมสังเกตว่าเธอหนีออกไปแล้ว อลิชาโทรหาเพื่อนสนิทที่เรียนคณะอื่นในมหาวิทยาลัยเดียวกันให้ขับรถมารับเธอตามสถานที่ๆเธอบอก และลูอิสเพื่อนชายคนสนิทของเธอซึ่งเป็นลูกหลานตระกูลอธิการบดีของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ก็ขับรถหรูมารับเธอได้ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง "ทำไมแกถึงมาอยู่ที่นี่ได้" เป็นคำแรกที่ลูอิสทักเมื่อเธอก้าวขึ้นรถ "เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง ตอนนี้รีบพาฉันไปที่ๆหนึ่งก่อน" ลูอิสไม่ถามมาก เขาขับรถพาเธอไปยังสถานที่เสริมความงามแห่งหนึ่งซึ่งครบวงจรทั้งเสื้อหน้าผม อลิชานึกถึงแต่คำดูถูกดูแคลนที่วิลเลี่ยมยัดเยียดให้เธอและเอาแต่หาว่าเธอเป็นเด็กไร้เดียงสา ลูอิสนั่งรออลิชาราวๆหนึ่งชั่วโมงเธอก็เดินออกมา หญิงสาวรูปร่างมีสัดส่วนชัดเจน เธอมีส่วนสูงราวหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าเซนติเมตร บัดนี้ร่างระหงรับกับส้นสูงสีดำยิ่งทำให้สง่างามราวนางพญา อลิชาเป็นสาวในฝันของหนุ่มๆส่วนใหญ่เพราะเธอมีรูปหน้าที่คมเข้มและผิวเนียนผุดผ่องไม่ขาวเสียจนดูไร้สุขภาพเช่นชาวตะวันตกแท้ๆ ด้วยส่วนผสมของชาวเอเชียจากมารดาทำให้อลิชาดูโดดเด่นและสง่างามจนน่าตกตะลึง และยิ่งเมื่อเธอแปลงโฉมตนเองด้วยชุดเดรสเกาะอกสีดำแลเห็นหน้าอกเต่งตึงชัดเจนยาวลงไปถึงพื้น ยิ่งเพิ่มการปลุกเร้าอารมณ์เพศตรงข้างโดยการแหวกสูงจนถึงต้นขาเรียว ใบหน้าคมเข้มระบายด้วยเครื่องสำอางพองามทว่าชวนมองจนไม่สามารถละสายตาได้ เด็กสาวอายุสิบแปดที่บัดนี้แตกเนื้อสาวเต็มตัวงดงามสะพรั่งราวกุหลาบแรกแย้ม อลิชาปัดมือไปมาตรงหน้าของลูอิสที่กำลังจ้องมองเสียจนเธอรู้สึกประหม่า "ถ้าจะมองขนาดนี้ฉันว่าฉันกลับเข้าไปเปลี่ยนชุดดีกว่า" อลิชาทำท่าจะเดินกลับเข้าไปหากแต่ถูกมือเรียวของลูอิสรั้งไว้ "ไม่ๆห้ามเปลี่ยนเด็ดขาด ทำไมแกไม่แต่งแบบนี้ทุกวันวะ ฉันโคตรชอบเลยว่ะ" ลูอิสมองอลิชาวันนี้ช่างแตกต่างกับตอนเธออยู่บนรันเวย์เมื่อคืนไปมาก ทุกอย่างที่เป็นเธอมันลงตัวและน่าคลั่งไคล้ไปเสียหมด "ก็มีตาแก่คนหนึ่งที่ดูถูกฉันไว้ว่าฉันกวนประสาท และชาตินี้คงไม่มีใครเอาไปเป็นเมียน่ะสิ ฉันล่ะเจ็บใจจริงๆ" อลิชาหน้านิ่วคิ้วขมวดเมื่อพูดถึงอาจารย์หนุ่มที่เธอมีนัดทานอาหารเย็นด้วยวันนี้ และเวลานั้นก็ใกล้เข้ามาถึงเต็มที "ใครวะที่กล้าว่าแกขนาดนี้ ว่าแต่แกชอบเขาหรือยังไงถึงได้ยอมแต่งอะไรขนาดนี้" อลิชาครุ่นคิดกับคำถามที่เพื่อนสนิทถาม เธอพยายามถามตัวเองอยู่เช่นกันว่าเธอชอบเขาหรือไม่ ทว่าเธอกลับไม่รู้คำตอบที่แน่ชัด มีเพียงพายุความกลัวและความสับสนเท่านั้นที่ก่อตัวขึ้นในใจ พลันในหัวสมองก็มีภาพจูบอันแสนลึกซึ้งระหว่างเธอกับเขาขึ้นมา "ไปกันเถอะเดี๋ยวจะสาย" อลิชาก้าวขึ้นรถและหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อดูเวลา จึงได้พบว่าบนหน้าจอมือถือสมาร์ทโฟนของเธอ แสดงเบอร์ที่ไม่ได้รับสายถึงสิบสองสายซึ่งเป็นเบอร์เดียวกัน "โทรอย่างกับมีธุระด่วนระดับชาติ คนบ้าอะไรวะ" เธอพึงพำเป็นภาษาไทยก่อนจะโทรกลับไปหาเขา "ฮัลโหล..." อลิชาได้พูดเพียงเท่านั้น "คิดจะเบี้ยวมื้อค่ำอย่างนั้นรึ ทำตัวเป็นเด็กไม่มีความรับผิดชอบไร้สาระไปวันๆแบบนี้ได้ยังไง ผมไม่ใช่เพื่อนเล่นคุณนะที่จะพูดอะไรแล้วไม่รู้จักรับผิดชอบคำพูดของตัวเอง" อลิชาได้แต่อ้าปากค้างเพราะไม่คิดว่าเขาจะโมโหเธอด้วยน้ำเสียงราบเรียบทว่าความหมายของมันกรีดแทงเธอด้วยความเจ็บปวด "คุณเป็นบ้าอะไรคะ ฉันแค่ออกมาซื้อเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัวก็แค่นั้น" เธอแก้ตัว "ผมพาคุณไปได้ทำไมไม่บอก" เขาพยายามควบคุมน้ำเสียงหงุดหงิด "ก็คุณบอกว่าจะทำงานและอ่านหนังสือ ฉันถึงไม่อยากกวน" เธอยังคงแก้ตัวน้ำขุ่นๆ "ผมให้เวลาคุณแค่สามสิบนาที ช้ากว่านั้นผมจะกลับ" พูดจบวิลเลี่ยมก็ตัดสายเสียจนอลิชาโกรธแต่ทำอะไรไม่ได้ เธอจึงบอกให้ลูอิสขับรถไปส่งตามชื่อร้านหารที่เขาบอก "ใครกันนะที่กล้าทำให้คุณหนูอลิชาโกรธหน้าแดงขนาดนี้ ฉันชักอยากจะรู้จักเสียให้ได้" ลูอิสหันมามองเธอที่เอาแต่ทำหน้ามุ่ย "ไม่ต้องอยากรู้หรอก ฉันเองก็ไม่อยากรู้จักเขาเหมือนกัน แค่ทำตามข้อแลกเปลี่ยนที่ยังคงติดค้างกันอยู่ หลังจากนั้นฉันคิดว่าฉันไม่ควรรู้จักเขาอีกต่อไป" อลิชาไม่คิดว่าศาสตราจารย์ดอกเตอร์หนุ่มที่สุขุมและน่ายำเกรงจะมีอารมณ์โกรธเคืองต่อว่าเธอเกินเหตุเช่นนี้ ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่ง วิลเลี่ยม คาร์เตอร์นั่งรออลิชาในร้านอาหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เธอเดินเข้ามาหาเขาภายในร้านอาหารหรูและชักไม่แน่ใจว่าขวดไวน์ที่วางอยู่บนโต๊ะอาหารนั้นเป็นขวดที่เท่าไหร่ แต่ที่แน่ๆแววตาของเขาแลดูเกรี้ยวกราดไม่เหมือนอาจารย์หนุ่มที่เธอรู้จักเขามาก่อน "ไอ้หมอนั่นใคร" คำพูดของเขาดูเป็นมนุษย์ปุถุชนมากขึ้น มันปราศจากการเก็บอารมณ์และคำพูดสวยหรู หากเป็นคนอื่นคงรู้ไปแล้วว่าวิลเลี่ยมกำลังหึงหวงเธอเกินกว่าเหตุ ทว่าสำหรับอลิชาแล้วเธอไร้เดียงสาเกินกว่าจะรู้ว่าเขารู้สึกอย่างไรต่อเธอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD