หญิงสาวตั้งใจทำงานจนเสร็จทันเวลาที่เจ้านายสั่ง แพรหวานรีบเอาเอกสารใส่แฟ้มก่อนจะเคาะประตูเดินเข้าไปหาท่านรองในห้องทำงานวางแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะ
"เรียบร้อยแล้วนะคะท่านรอง"
"อย่าเพิ่งไปขอตรวจงานก่อน"
เขาหยิบแฟ้มเอกสารขึ้นมาเปิดดูก่อนจะเงียบไปไม่มีข้อโต้แย้งหญิงสาวเพราะเธอทำงานเรียบร้อยมากและภาษาในการเรียบเรียงเป็นทางการดีมาก
"พอได้มั้ยคะ"
"ก็ไม่ได้แย่... เที่ยงแล้วสั่งข้าวให้กินหน่อยสิเอาที่ฉันชอบกินนะนี่เงิน"
เขาส่งแบงค์พันให้เธอหนึ่งใบ หญิงสาวรับมาถือไว้ในมือยืนนิ่งอยู่สักพักก่อนจะโค้งตัวเล็กน้อยและเดินออกไปทันที
"หึ... เดี๋ยวจะเอาให้หนักเลย"
ชายหนุ่มยิ้มร้ายออกมาอย่างสนุกกำลังคิดว่าจะหาเรื่องอะไรหญิงสาวให้รำคาญใจเล่นดี เขาชอบกินอะไรเธอไม่รู้หรอกเพราะนี่มันผ่านมาหลายปีแล้วคงจะลืมไปหมดทุกสิ่งที่เคยทำร่วมกันมา
แพรหวานกดสั่งอาหารมาสามอย่าง มีน้ำผลไม้รวม ก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าโปรดของเขาที่เคยกินประจำพร้อมกับกากหมูถุงใหญ่ ไม่ลืมที่จะสั่งผัดไทด้วยเพราะลำพังแค่ก๋วยเตี๋ยวเขาไม่อิ่มหรอก ใช้เวลาไม่นานไรเดอร์ก็เอากับข้าวมาส่ง หญิงสาวแกะใส่ชามด้วยความเร่งรีบก่อนจะใส่ถาดเสิร์ฟไปส่งให้เขาถึงโต๊ะทำงาน
"ข้าวกลางวันมาแล้วค่ะ"
ฟีฟ่ามองอาหารบนโต๊ะทำงานก่อนจะอึ้งไปเพราะไม่คิดว่าเธอจะซื้อของโปรดของเขามาทุกอย่าง รายละเอียดเล็กน้อยอย่างเช่นกากหมู ผัดไท ทุกอย่างคือของที่เขาชอบกินมากและเป็นร้านประจำที่เราไปกินด้วยกันบ่อยๆ
"ถ้าไม่อิ่มมีน้ำผลไม้รวมด้วยนะคะ"
"เธอไม่กินเหรอ"
"แพรห่อข้าวมาด้วยค่ะนี่เงินทอนนะคะถ้าท่านรองมีอะไรให้ทำก็โทรศัพท์แจ้งได้เลยนะคะ เดี่ยวระหว่างนี้แพรขอไปศึกษางานเลขาแป๊บหนึ่งค่ะจะได้เข้าใจระบบมากขึ้น"
เธอยิ้มออกมาก่อนจะเดินออกไปจากห้องทำงานของชายหนุ่ม ฟีฟ่ามองอาหารตรงหน้าด้วยแววตาสับสนทำไมเธอต้องทำเหมือนจดจำเรื่องราวของเขาได้ทุกอย่างทั้งที่มีคนอื่นไปแล้ว หรือว่านี่เป็นแค่แผนที่หลอกล่อให้เขาตายใจและกลับไปหาอีกครั้ง
"ฝันไปเถอะฉันไม่โง่ซ้ำซ้อนแน่นอน!"
แพรหวานถือแฟ้มเอกสารเดินเข้าไปในห้องของท่านประธานยกมือไหว้ทักทายผู้ช่วยของเขาก่อนจะยิ้มออกมา
"คุณอาพีระคะแพรอยากถามเรื่องงานหน่อยค่ะสะดวกมั้ยคะ"
"ได้สิเดี๋ยวอาไปหาที่โต๊ะทำงาน"
"ขอบคุณมากนะคะงั้นแพรไปรอที่โต๊ะนะคะ"
หญิงสาวยกมือไหว้ขอบคุณเขาอย่างนอบน้อมก่อนจะรีบเดินออกไปทันที วันนี้ท่านประธานไม่อยู่เห็นว่ามีประชุมสาขาย่อยก็เลยไม่ได้เจอ เธอมานั่งรอหน้าห้องทำงานของท่านรองและไม่นานเขาก็เดินมาหาและสอนงานอย่างละเอียดและเร่งรัดที่สุด หญิงสาวรับฟังอย่างตั้งใจเข้าใจระบบงานและหน้าที่เลขานุการอย่างละเอียดก่อนจะยิ้มออกมาอย่างโล่งอก
"แบบนี้นี่เองขอบคุณมากนะคะคุณอาพีระ"
"มีอะไรทักมาถามได้เลยเดี๋ยวแอดไลน์กันไว้"
"ได้ค่ะ"
เธอหยิบโทรศัพท์กดแอดไลน์กับผู้ช่วยของท่านประธานจากนั้นก็กดเมมชื่อเอาไว้จะได้สะดวกในการติดต่อหา
"ผู้ช่วยท่านประธานมีสองคนนะ มีอาแล้วก็อีกคนชื่ออาราม ถ้าหนูแพรอยากถามอะไรถามได้เลย"
"ค่ะคุุณอาพีระขอบคุณมากนะคะสำหรับข้อมูล"
"อาไปก่อนนะ"
แพรหวานยิ้มกว้างออกมาก่อนจะเดินเข้าไปหาท่านรองประธานเพราะนี่ก็เวลาผ่านไปนานสมควรแล้วคิดว่าเขาคงจะกินข้าวเสร็จก็เลยว่าจะเข้ามาเก็บจาน
"กินอิ่มแล้วหรือยังคะแพรจะได้เก็บจาน"
"เก็บไปเลย"
"ค่ะท่านรอง"
หญิงสาวเก็บจานบนโต๊ะทำงานของเขาจนหมด ใช้ผ้าเช็ดโต๊ะให้สะอาดเอี่ยมก่อนจะโค้งตัวเล็กน้อยแล้วถือถาดเดินออกไปทันที เขาทำหน้าเซ็งๆหยิบน้ำผลไม้ขึ้นดื่มก่อนจะหาเรื่องแกล้งหญิงสาวอย่างอื่นแทนเพราะเรื่องอาหารเขาบ่นเธอไม่ได้จริงๆ
"ประมาทไม่ได้ยัยคนนี้เป็นงานอยู่นะ"
ฟีฟ่าเท้าคางมองไปเบื้องหน้าด้วยสีหน้าคิดหนัก เขาจะหาเรื่องแกล้งเธอไปเรื่อยๆจนทนไม่ไหวต้องลาออกและหนีออกไปเอง แบบนั้นแหละที่เขาต้องการให้เป็น...
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา...
และวันนี้เป็นวันหยุดของการทำงาน ตลอดทั้งอาทิตย์แพรหวานต้องอดทนให้ชายหนุ่มโขกสับทำทุกอย่างเหมือนเป็นเลขาและแม่บ้านในเวลาเดียวกัน เธอต้องยอมทำทุกอย่างและไม่ว่าเขาจะสั่งอะไรเธอก็ต้องทำไม่มีข้อแม้เพราะรับเงินเดือนจากเขา
"แม่จ๋าหยูอย๊ากกิงไอติมค่า"
เด็กน้อยเอ่ยออกมาเสียงหวาน มือเล็กโอบรอบคอคนเป็นแม่ออดอ้อนขอไปเที่ยวและกินไอศกรีมที่ชอบ แพรหวานอุ้มลูกน้อยขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนนิ่งเงียบไปสักพักก่อนจะยอมใจอ่อนพาไปกินตามที่ร้องขอ
"ก็ได้ค่ะไปกินก็ได้แต่ว่ากินบ่อยไม่ดีนะคะหนูต้องดูแลตัวเองรู้ใช่มั้ย"
"ยู้ค่าหยูกิงนิดเดวเอง"
"สัญญานะ"
"สังยาค่า"
เด็กน้อยเสียงเจือแจ้วพูดจาไม่ชัดแต่คนเป็นแม่พอฟังออกว่ากำลังสื่อถึงอะไร เด็กสองขวบครึ่งพูดและเข้าใจคนเป็นแม่ได้ขนาดนี้ก็ถือว่าเก่งมากที่สุดแล้ว แพรหวานอุ้มลูกน้อยไปเปลี่ยนชุดเจ้าหญิงใส่รองเท้าให้เรียบร้อยก่อนจะอุ้มพาไปขึ้นรถและขับออกไปที่ห้างสรรพสินค้าไม่ไกลจากคอนโดมากนัก
และเมื่อมาถึงเธอก็กุมมือลูกสาวค่อยเดินตามทางเข้าไปข้างใน ลูกสาวของเธอเป็นโรคหัวใจและยังไม่ได้รับการผ่าตัดการใช้ชีวิตจะลำบากกว่าคนทั่วไปค่อนข้างเยอะมาก
"หนูอย่าวิ่งนะคะฟีน่าเดี๋ยวจะเหนื่อยและหัวใจจะเต้นแรงเข้าใจมั้ยคะ"
"เข้าใจค่า"
เด็กน้อยยิ้มออกมาก่อนจะมองไปโดยรอบด้วยความตื่นเต้น พอเห็นตุ๊กตาบาร์บี้ที่ชอบก็ปล่อยมือคุณแม่ก่อนจะรีบวิ่งไปดูทั้งที่เมื่อกี้เพิ่งจะสัญญากันว่าจะไม่วิ่ง
"ฟีน่าอย่าวิ่ง!"
เธอรีบวิ่งตามไปจับลูกสาวเพราะไม่อยากให้เธอเหนื่อยจนเกินไป เด็กน้อยแสนซนวิ่งเข้าไปจนเผลอไปชนเข้ากับใครคนหนึ่ง เด็กน้อยตาโตรีบยกมือไหว้ขอโทษเพราะคุณแม่เคยสอนไว้ว่าถ้าชนคนอื่นต้องขอโทษ
"ขอโทดค่าฟีน่ามะด้ายตั้งจายค่า"
"เจ็บตรงไหนรึเปล่าหนู ไหนขอปู่ดูหน่อยสิคะ"
ผู้ใหญ่อุ้มเด็กน้อยขึ้นมาในอ้อมแขนเรียกแทนตัวเองว่าปู่เพราะอายุอานามไม่ใช่น้อยๆจะเรียกพ่อเรียกลุงเกรงว่าจะเด็กไปหน่อย
แพรหวานรีบวิ่งเข้าไปใกล้ยกมือขอโทษผู้ใหญ่ที่ลูกสาวเผลอไปชนก่อนจะชะงักแล้วเอ่ยออกมาเสียงสั่น
"ทะ...ท่านประธาน!"
"หนูแพรหวาน... นี่ลูกสาวหนูเหรอ"
"ใช่ค่ะลูกสาวแพรเองชื่อฟีน่าค่ะ"
ฟาโรห์มองเด็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู รู้สึกผูกพันธ์และเอ็นดูอย่างประหลาดไม่เคยเป็นกับเด็กคนไหนมาก่อน เขายื่นให้ภรรยาดูตอนที่เธอเพิ่งเดินเข้ามาพอดี
"สาวน้อยชื่อหนูฟีน่าน่ารักมั้ยคะเบบี๋"
"น่ารักมากเลยค่ะ แต่หน้าคุ้นมากเหมือนใครสักคนตอนเด็ก"
แพรหวานยิ้มแห้งออกมาไม่กล้าพูดอะไร ไม่คุ้นก็ให้มันรู้ไปสิหน้าเหมือนพี่ฟีฟ่าขนาดนั้น หญิงสาวอยากจะไปแย่งลูกสาวกลับมาแต่กลัวจะเป็นการเสียมารยาทจึงอยู่นิ่งๆรอพวกท่านปล่อย
"สวัสดีค่าคุงปู่คุงย่า"
"โอ๊ยน่ารักที่สุดเรียกคุณปู่คุณย่าด้วย หนูอยากได้บาร์บี้เหรอเห็นวิ่งตรงมาทางนี้เลย"
"หยูช๊อบบาร์บี้จัวนั้งค่า สีจวยๆอังนั้ง"
"เนี่ยเหรอคะ... เบบี๋หยิบมาให้หน่อยเค้าจะซื้อให้หนูฟีน่า"
"ได้สิคะเอาหลายๆตัวเลยเนาะคนสวย"