ขโมยจูบ

1302 Words
ตอน ขโมยจูบ รถจิบคันใหญ่แล่นผ่านทางที่ดูแล้วไม่น่าจะเรียกมันว่าถนนได้ด้วยซ้ำ มันทั้งทุลักทะเลและเต็มไปด้วยหลุมบ่อซึ่งคนขับต้องใช้ความชำนาญพอสมควร หญิงสาวพยายามมองรอบๆ ตัวของเธอพร้อมทั้งจดจำทิศทางที่เขาพาเธอมา เธอสังเกตว่าเขาใช้สมาธิอย่างมากในการบังคับควบคุมพวงมาลัย หญิงสาวไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แค่รู้สึกว่าเธอนั่งเกร็งอยู่ตลอดเวลาในอยู่ในรถ เสียงน้ำตกดังอยู่ไม่ไกลมากนักเมื่อเขาจอดรถและหันมาจ้องหน้าเธอ หญิงสาวเกลียดความรู้สึกของตัวเองเวลาสบตากับเขา แล้วเธอรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ และหวั่นไหวซึ่งมันอาจเป็นเพราะความหวาดกลัวของเธอเองก็เป็นได้ ชายหนุ่มพาเธอเดินลงมาตามทางแคบๆ ชันและค่อนข้างลื่น เขาถือวิสาสะจับมือของเธอเอาไว้ในขณะที่เดินนำหน้าไป หญิงสาวไม่ได้ขัดขืนดึงมือกลับ เพราะว่าเธออาจจะไถลร่วงลงไปได้หากไม่มีอะไรให้ยึดเหนี่ยว “เดินระวังหน่อย” เขาสั่งเสียงดุๆ “รู้แล้วน่า” พันธิตรามองท้ายทอยของคนพูด ประโยคที่ฟังดูเหมือนห่วงใยหากสีหน้าของเขาไร้ซึ่งความรู้สึก ปราศจากอารมณ์ใดๆ อากาศที่เย็นสบายและภาพที่สวยงามเบื้องหน้าทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย และมีความสุขได้อย่างประหลาด หญิงสาวกระโดดลงไปในน้ำราวกับเด็กน้อยๆ ที่ซุกซน เขานั่งมองเธออยู่บนโขดหินขนาดใหญ่ มือของเขายังคงกำปลายเชือกอีกด้านเอาไว้และปล่อยมันในเวลาต่อมาเมื่อคิดว่าแม่เชลยสาวของเขาคงไม่มีปัญญาหนีไปไหนได้ ถ้าเธอยังคงอยู่ในสายตาของเขาแบบนี้ หญิงสาวดำผุดดำว่ายราวกับเหงือกสาวแสนสวย นัยน์ตาสีเข้มจ้องมองร่างบางที่แหวกว่ายอย่างมีความสุขอยู่ในธารน้ำใส ผิวพรรณของเธอผุดผ่องขาวโพลนอยู่ในสายน้ำที่เย็นฉ่ำ ยามว่ายโผไปเบื้องหน้าดอกบัวคู่งามไหวเอนยั่วยวนสายตา จนยากจะระงับความปรารถนาที่ก่อตัวขึ้นคับแน่นอยู่ในกางเกงที่ปิดบังซ่อนเร้นอวัยวะสำคัญอันบ่งชี้แยกแยะเพศพันธ์ของเหล่ามวลมนุษย์ “หันไปทางอื่นบ้างก็ได้นะ มองฉันจนตาจะถลนออกมาจากเบ้าอยู่แล้ว ฉันก็อายเป็นเหมือนกัน ช่วยทำตัวให้เป็นสุภาพบุรุษสักเดี๋ยวได้มั้ย” หญิงสาวตะโกนขึ้นมาจากน้ำต่อว่าชายหนุ่มที่นั่งมองเธอตาไม่กะพริบ พวกผู้ชายก็เหมือนกันหมดชอบมองผู้หญิงอย่างหยาบคายหญิงสาวคิดในใจ พลางเบ้ปากหยันให้กับคนที่จ้องเธออยู่บนโขดหินนั่น “ผมก็แค่กลัวว่าคุณจะหนีไปอีกเท่านั้น ไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย” “เชอะ! ไม่ได้คิดอะไร จอมลามก…” หญิงสาวแลบลิ้นให้เหตุผลของเขา ชายหนุ่มกลืนก้อนแข็งๆ ลงคอ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแก้เขินด้วยการประสานมือยกไว้เอาเหนือศีรษะแล้วบิดตัวไปมา ฝูงปลาที่ว่ายไปมาอยู่ในธารน้ำทำให้เขานึกถึงอาหารมื้อเย็น เขาชักมีดที่เหน็บเอาไว้ที่เอวขึ้นมามัดมันเข้ากับปลายของกิ่งไม้ขนาดเหมาะมือที่ตกอยู่ไม่ไกลกับที่เขานั่ง กลายเป็นอาวุธสำหรับแทงปลาที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเอง แล้วเล็งไปยังบริเวณฝูงปลาตัวใหญ่ที่กำลังว่ายน้ำกันอย่างเพลิดเพลิน เจ้าปลาเคราะห์ร้ายตัวเขื่องดิ้นเร่าอยู่ในปลายมีด พวกตัวที่เหลือต่างก็แตกตื่นว่ายหนีไปทางอื่น ชายหนุ่มจับปลาที่ได้มาร้อยกับเชือกเป็นพวงแล้วเดินตามฝูงปลาไปด้วยติดใจกับเหยื่อที่เพิ่งจะจับได้ จนลืมแม่เชลยสาวที่ว่ายน้ำเล่นไปเสียสนิทใจ ผ่านไปชั่วครู่พอได้ปลาตามจำนวนที่พอใจชายหนุ่มก็เดินกลับมายังโขดหินก้อนเดิม แต่มาคราวนี้ แม่เงือกสาวแสนสวยของเขาอันตรธานหายไปเงียบกริบ “บ้าชิบ ไปไหนวะ” ชายหนุ่มวางพวงปลาลงข้างตัวกำหมัดแน่น มองซ้ายมองขวาหาแม่สาวจอมแสบ จนไปสะดุดตากับเงาลางๆ ในน้ำที่ดูเหมือนร่างคนและมีฟองอากาศที่ผุดขึ้นมา สัญชาตญาณในกายบอกเขาทันทีว่าหญิงสาวอาจกำลังตกอยู่ในอันตราย รอนโรเบิร์ตกระโดดลงไปในน้ำและว่ายตรงดิ่งไปยังจุดที่เขาสะดุดตา เมื่อดำลงไปใต้น้ำเขาพบร่างของหญิงสาวกำลังจมลงไป โชคยังดีอยู่บ้างที่บริเวณนั้นเป็นน้ำนิ่ง ร่างของเธอจึงไม่ได้ถูกกระแสน้ำพัดพาไปที่อื่น ชายหนุ่มช้อนร่างของหญิงสาวเอามือกอดเอวคอดของเธอแล้วดีดตัวขึ้นเหนือผิวน้ำ ร่างของเธอเริ่มเย็นหน้าซีดขาวปราศจากสีเลือด เขาพาเธอขึ้นมานอนหงายบนฝั่ง ตบหน้าเธอเบาๆ เพื่อเรียกสติ แต่ร่างของเธอก็ยังนอนแน่วนิ่งไม่ไหวติง “คุณ… ณัจๆ … บ้าเอ้ย!” ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกด้วยความหงุดหงิดตัวเอง นี่ถ้าเขาคอยเฝ้าดูเธออยู่อย่างใกล้ชิดล่ะก็คงไม่เกิดเหตุการณ์เลวร้ายแบบที่เป็นเป็นอยู่ เขาประสานมือลงเหนือทรวงอกของเธอแล้วกดลงเป็นจังหวะเพื่อไล่น้ำออกจากปอดของหญิงสาว ก่อนจะใช้มือหนึ่งจับใบหน้าเนียนเชยคางขึ้นให้อยู่นิ่ง แล้วประกบปากบางที่เจ้าของร่างนอนหมดสติ หวังช่วยผายปอดให้หญิงสาว แต่ทันทีที่ริมฝีปากของเขาสัมผัสกับริมฝีปากของเธอ ราวกับมีกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ แล่นผ่านเรียวปากของเขาวิ่งตรงเข้าสู่ก้อนเนื้อขนาดเท่ากำปั้น ที่เต้นตุบอยู่ในอกแกร่ง กระแสดังกล่าวสร้างความรู้สึกอันแปลกประหลาดมหัศจรรย์ขึ้นแว่บหนึ่งในห้วงอารมณ์ของเขา มันวาบหวิวรุนแรงจนยากเกินยับยั้งชั่งใจได้ รอนโรเบิร์ตเริ่มรับรู้สึกลมหายใจอุ่นร้อนของหญิงสาว บวกกับจังหวะการหายใจเข้าออกแผ่วเบาของเธอ ที่ทำให้อกอวบยกตัวขึ้นลง ด้วยผ่ามือหนาของเขาวางพาดกับก้อนเนื้ออวบหยุ่นอยู่อย่างไม่ได้ตั้งใจ ลมหายใจของสองร่างกายแลกเปลี่ยนสาดรด ราวกับสองร่างใช้ลมหายใจเดียวกัน ลมหายใจของเขาที่เข้าไปต่อเติมให้เธอกลับมามีชีวิตขึ้นอีกครั้ง แหละนับต่อจากนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าหญิงสาวจะเกลียดชังเขาสักปานใด เธอก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าลมหายใจที่ไหลเวียนเข้าออกในกายของเธอมาจากผู้ชายคนนี้ ชายที่ช่วยชีวิตของเธอขึ้นมาจากความตาย… พันธิตรากำมือแน่น เธอได้สติกลับมาแล้วแต่ยังไม่กล้าที่เปิดเปลือกตา เพราะรู้สึกเช่นเดียวกันกับชายหนุ่มถึงกระแสไฟอ่อนๆ ที่ไหลผ่านเมื่อสองร่างสัมผัสกัน บวกกับความอบอุ่นของเขาที่แผ่มายังตัวเธอทำให้รู้สึกถึงความปลอดภัยอย่างน่าอัศจรรย์ ทั้งที่เขาน่าจะเป็นตัวอันตรายสำหรับเธอเสียด้วยซ้ำ ชายหนุ่มเริ่มชำแรกปลายลิ้นอุ่นเข้าไปในโพรงปากของหญิงสาว ซึ่งผิดตำราการผายปอดที่เคยเรียนรู้มาบ้างโดยสิ้นเชิง ปลายลิ้นวกวนกระหวัดร่อนควานหาความหอมหวานรัญจวน แม่สาวด้อยประสบการณ์ดวงตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ ใช่ว่าเธอจะอ่อนต่อโลกถึงขนาดที่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ชายหนุ่มกำลังทำกับร่างกายของเธอมันไม่ใช่การผายปอดช่วยชีวิตเลยสักนิด เธอกำลังถูกจูบอยู่ตะหากล่ะ… กรี๊ดดดด!!!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD