"หู้วววววว น่ากินนนน "
ฉันทำตาโตเมื่อบิงชูที่รอคอยมานานหลายสัปดาห์นั้นได้กินสักที อร๊ายๆๆๆ ล่าสุดที่มาทานคือเผลอไปสั่งบิงชูมะม่วงพี่คีย์ไม่ชอบทานมะม่วงสุกไง ฉันก็รู้แหละของที่เขาชอบไม่ชอบแต่มันน่าทานนี่นา ฉันก็เลยสั่งมาพี่เขาเข็ดไปนานเลยกว่าจะพาฉันมากินอีกที
"ชอบมั้ยคะ"
"ชอบมากเลยค่ะ งั้นทานแล้วนะคะ "
ฉันหยิบช้อนมาตักทานอย่างเอร็ดอร่อย ส่วนคนตรงหน้าฉันก็ตักทานบ้าง คือเขาไม่ชอบของหวานบางทีฉันก็เกรงใจเวลาจะเสนอไอเดียทานของหวาน แต่พี่เขาก็ไม่เคยขัดใจฉันแถมยังรู้ด้วยว่าตอนไหนฉันจะอยากทาน
"อันนี้พี่คีย์ทานได้"
ฉันยื่นแท่งช็อคโกแลตไปตรงหน้าพี่เขายิ้มๆ เขามองหน้าฉันแล้วอ้าปากรับไป น่ารักจังเลย
"อร่อยจัง"
ฉันก้มหน้างุดๆ เขินเด่!! ทั้งๆที่เขาคิดกับฉันแค่น้องสาวเองนะ แต่ทำไมบางทีฉันถึงรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รักพี่คีย์แบบพี่ชาย และบางการกระทำของพี่คีย์ก็เหมือนจะไม่ได้ทำให้ฉันที่เป็นน้องสาว หรือว่าฉันจะคิดไปเองก็ไม่รู้สิ
"พี่คีย์แล้วเรื่องรถ ใช่สิตัวเล็กเพิ่งจะนึกขึ้นได้ พี่คีย์ยังไม่ได้ซื้อใช่มั้ยคะ"
ฉันเห็นเขาทำหน้าสะอึกไปก่อนจะยิ้มแห้งๆ
"ซื้อแล้วค่ะ ตอนนี้น่าจะถึงบ้านหนูแล้วหละมั่ง ไม่งั้นก็คงพอดีกับที่เราถึงบ้านพอดี"
ฉันอ้าปากค้างทันที หือ ซื้อแล้ว จ่ายเงินแล้ว พร้อมออกจากโชว์รูมมาส่งที่บ้านแล้ว สุดยอดจริงๆคนแบบเขาเนี้ย
"เห้อออ ถ้าคุณแม่เห็นนะตัวเล็กถูกดุแน่ๆ พี่คีย์ก็ด้วยต้องถูกคุณแม่ดุแน่ๆเลย"
เขายักไหล่เหมือนไม่แคร์อะไรทั้งนั้น เหอะ เขาไม่โดนด่ามากเหมือนที่ฉันโดนหรอก
"พี่จัดการเอง"
.
.
ปัง!
ฉันเปิดประตูรถออกมาจากรถของพี่คีย์หลังจากที่เราสองคนไปซื้อของที่ห้างและสุดท้ายฉันก็ต้องเป็นคนใช้กระเป๋าที่พี่เขาไปซื้อมาเมื่อก่อนหน้านี้ ฉันจะทำยังไงกับพี่เขาดีเนี่ย ก็พอรู้ว่ารวยมาก มีเงินเยอะมากแต่ไม่จำเป็นต้องใช้มากขนาดนั้นมะ???
"พี่คีย์จะกลับหรือยังคะ"
ฉันเอ่ยถามพี่คีย์เขาเปิดประตูรถลงมาเหมือนกับฉัน
"ไปสวัสดีคุณน้าก่อน ป่ะเข้าไปพร้อมกันนะ"
พี่คียฺเดินเข้ามาจับมือฉันแล้วพาเดินเข้าไปรถหรูจอดอยู่ตรงประตูของตัวบ้าน หืมมม รถใครนี่มันรถเบ้นตัวท็อปเลยนะนั้น
"ใครมาที่บ้านเนี้ยขับรถซะหรูเชียว"
ฉันบ่นออกไปอารมณ์แบบบ่นกับตัวเองนั้นแหละ พี่คีย์เหมือนจะสะดุ้งนิดๆตอนที่ฉันพูดถึงเรื่องรถ
"ไม่หรูมั่งราคาไม่เท่าไหร่เอง"
ฉันหันไปมองหน้าพี่เขาอย่างอึ้งๆ จ้า ไม่หรูเลยจ้าดูก็รู้ไม่ต่ำกว่า5ล้านแน่ๆ เผลอๆอาจจะแพงกว่านั้นด้วยซ้ำ ฉันไม่มีทางซื้อมาขับแน่นอนเพราะมันแพง แค่นั้นแหละ จบ
"ไม่เท่าไหร่อะไรกันค่ะ 5ล้านขึ้นแน่นอนค่ะ ถ้าให้ตัวเล็กซื้อมาขับตัวเล็กไม่ซื้อเด็ดขาด แพงมาก"
พี่คีย์ทำท่ากลืนน้ำลายดังอึกเหมือนเขาจะร้อนรึเปล่าทำไมเหงื่อซึม
"ร้อนเหรอคะทำไมเหงื่อแตกแบบนั้น เดี๋ยวตัวเล็กเช็ดหน้าให้นะคะ"
ฉันหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าขึ้นมาแล้วซับเหงื่อให้พี่คีย์ตามร่องขมับ สักพักคุณแม่ก็เดินออกมาจากตัวบ้านแล้วเดินตรงมาหาพวกเราสองคน
"มาก็ดีเลยตัวเล็กมาคุยกับแม่ ตาคีย์ก็อยู่พอดี รถนี้ตาคีย์ซื้อให้ลูกน้าเหรอ"
คุณแม่มาถึงก็ยิงคำถามทันทีจนพี่คีย์ตั้งหลักแทบไม่ทัน พี่คีย์ยกมือไหว้สวัสดีคุณแม่ก่อนจะหันมามองหน้าฉันแล้วยิ้มแห้งๆ
"ยะ...อย่าบอกนะว่า รถ คือคันนี้"
พี่คีย์กลืนน้ำลายดังอึกก่อนจะพยักหน้าเบาๆ ฉันอ้าปากค้างอย่างตกใจ เพิ่งจะบ่นเรื่องกระเป๋าราคาสองหมื่นไป นี่ซื้อรถราคาหลักล้านเลยเหรอ มันจะเกินไปแล้วนะพี่คีย์
"พี่คีย์"
"ตัวเล็กใจเย็นๆก่อนนะคะ คือพี่ตั้งใจจะให้ตัวเล็กที่ตัวเล็กสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ยังไงหละค่ะ อย่าทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แบบนั้นนะพี่ขอหละ "
ฉันในตอนนี้ใบหน้าแดงก่ำน้ำตาเริ่มเอ่อตรงขอบตา นี่เขากำลังทำให้ฉันดูเหมือนคนที่ไม่สามารถจะมีอะไรเป็นของตัวเองได้เลย แม้แต่พยายามซื้อของให้ตัวเองสักชิ้นทำงานเก็บเงินเองฉันยังไม่เคย นี่ฉันเพิ่งจะเรียนปีหนึ่งแต่ฉันต้องขับรถคันหลักล้านของเขาไปเรียนงั้นเหรอ เขาคงว่าฉันเป็นเด็กเสี่ยขายตัวแล้วหละมั่ง
"ตัวเล็กไม่รับนะคะพี่คีย์ เอากลับไป แล้วต่อไปนี้ไม่ต้องมาซื้ออะไรให้ตัวเล็กอีก!!"
ฉันร้องไห้แล้ววิ่งออกมาทันทีอย่างอดทนไม่ไหว ฉันวิ่งหนีออกมาจากตรงนั้นทันที ทำไมเขาถึงดูถูกครอบครัวฉันขนาดนี้ มันดูเหมือนพวกเราไม่มีปัญญาซื้อกันเอง และถ้าคนอื่นก็จะบอกว่าฉันอ้อนขอพี่คีย์ซื้อให้ เผลอๆอาจจะเม้าท์ว่าฉันขายตัวให้พี่คีย์เพื่อแลกของก็ได้ คิดว่ามันจะดูดีมากมั้ยหละ
.
.
"ตัวเล็ก ตัวเล็ก คุยกับพี่ก่อน ตะ.."
"คุยกับน้าก่อนคีย์ ปล่อยน้องไปก่อน"
ผมชะงักไปก่อนจะหันกลับมายืนนิ่ง โดยซักถามใหญ่แน่นอน แถมตัวเล็กยังมาโกรธผมอีก เห้อออออ
"ครับคุณน้า"
"คีย์ซื้อรถให้น้องเหรอ"
"ครับคุณน้า ผมซื้อให้เองผมตั้งใจจะให้ตอนที่น้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้อยู่แล้ว น้องจะได้ขับไปเรียนเองจะให้นั่งรถไปเองผมว่ามันอันตราย "
ผมแจ้งเหตุผลไปคร่าวๆ คือทางคุณน้าเขาก็คงจะซื้อให้อยู่แล้วแหละถ้าผมไม่ซื้อ ประเด็นคือผมจะให้ไง
"มันแพงมากมันไม่เหมาะกับน้องคีย์รู้ใช่มั้ย น้องยังเด็กขับแค่คันละห้าหกแสนก็ได้ นี่ราคาเป็นหกล้าน ถ้าน้องขับไปเรียนถ้าคนทั้งมหาวิทยาลัยเม้าท์กันว่าที่บ้านเราก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรแต่ขับรถคันเป็นล้าน คีย์คิดว่าน้องจะถูกมองว่าเป็นคนยังไง ขายตัวให้เสี่ย? งั้นเหรอ? คีย์เข้าใจที่น้ากำลังจะบอกใช้มั้ย"
ผมเงียบไปทันทีอย่างใช้ความคิด ผมลืมคิดข้อนี้ไปจริงๆ ทุกวันนี้ผมถูกเม้าท์ว่าเลี้ยงต้อยผมไม่สนใจแต่ผมลืมไปว่าถ้าน้องถูกเม้าท์ว่าเป็นเด็กเลี้ยงคนคงมองน้องไม่ดีจริงๆ ผมลืมคิดไป
"ผมขอโทษครับผมลืมคิดไปจริงๆข้อนี้ แต่ผมยืนยันผมอยากจะให้น้องจริงๆ "
คุณน้ามองหน้าผมแล้วถอยหายใจออกมาเบาๆ
"น้าขอถามตรงๆ คีย์ตอบน้าตรงๆได้มั้ย?"
"ครับ"
ผมมองหน้าคุณน้าที่เหมือนจะลังเลในคำถามที่จะถามออกมาอยู่
"คิดยังไงกับตัวเล็ก"
ผมตกใจมั้ยกับคำถามนี้ก็มีบ้าง แต่คงจะรู้กันมาบ้างแล้วอีกอย่างพวกท่านอาบน้ำร้อนมาก่อนคงมองไม่ยาก เพราะผมเทียวไปเทียวมา มารับมาส่งตั้งแต่น้องยัง15 ผมทำขนาดนี้คงคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้
"ผมรักตัวเล็กครับ รักแบบผู้ชายคนหนึ่งที่รักผู้หญิงคนหนึ่ง"
ผมมองสบตากับคุณน้าแล้วเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงที่จริงจังสุดๆ
"คิดจะบอกน้องเมื่อไหร่"
"ขอเวลาอีกนิดครับ น้องยังเด็กผมไม่อยากเร่งรัดตัวเล็ก ผมอยากให้น้องเรียนไปก่อน และผมสัญญาด้วยเกียรติของผม ว่าผมจะไม่ทำให้น้องเสื่อมเสีย ผมจะรับผิดชอบทุกอย่าง ให้โอกาสผมนะครับ "
คุณน้ายิ้มออกมาทันที
"เรื่องนั้นเราสองคนคุยกันเองนะ แต่น้าได้ยินแบบนี้น้าก็ดีใจนะ ตัวเล็กโชคดีที่มีคีย์รักแล้วก็ดูแล ปัญหาตอนนี้คือน้องโกรธคีย์อยู่ ง้อเองนะน้าไม่ยุ่ง"
ผมถอนหายใจออกมาทันที ผมเครียด
"จนปัญญาจะง้อจริงๆครับ "
คุณน้าหลุดขำออกมา อย่างที่ทราบกันว่าตัวเล็กนั้นง้อยากมาก เห้ออออออ เอาไงดีวะ
"เรื่องรถคุยกันเองนะคีย์ ถ้าน้องใช้น้าก็ไม่ว่า แต่เกรงว่าจะยาก"
"ผมจะจัดการเรื่องนี้เองครับ แต่ขอบคุณมากนะครับสำหรับโอกาส ผมจะไม่ทำให้ตัวเล็กเสียใจ "
"น้าฝากน้องด้วยนะคีย์ "
"ครับ "