ตอนที่ 3
หญิงสาวปลายเล็บลงกับหัวไหล่หนา เมื่อความสุขแปลกใหม่มาเยือน ร่างบางเกร็งกระตุกก่อนที่หัวสมองจะขาวโพลนไปหมด ดรัณควบขับร่างหนาตามติดเธอไปเยือนดินแดนวิมานฉิมพลีด้วยกัน
“ครั้งแรกเหรอ” ดรัณถามเมื่อลมหายใจเป็นปกติ
“ค่ะ” หญิงสาวตอบเสียงเบา ร่างบางสะอื้น เมื่อคิดถึงสิ่งที่เพิ่งเสียไปให้กับชายแปลกหน้าคนนี้ เธอไม่ได้เจ็บปวดแต่เสียใจที่ไม่อาจรักษาสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตสาวเอาไว้ได้
“ขอโทษนะฉันไม่รู้มาก่อน” เขาบอกด้วยเสียงขุ่น ไม่ชอบได้ยินเสียงร้องไห้เพราะรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นซาตานร้าย ที่ชอบทำร้ายคนบริสุทธิ์ยังไงไม่รู้ ก็แม่เลี้ยงเธอบอกว่าเธอขายบริการมาก่อนนี่นา
“ฮื่อ ๆ ๆ” เธอสะอื้นร้องไห้ด้วยความเสียใจ
“นี่...หยุดร้องไห้ซะทีได้มั้ย ฉันเกลียดที่สุดในเวลาที่เสร็จแล้วผู้หญิงร้องไห้” ดรัณตะคอกเสียงดุอย่างลืมตัว ยิ่งทำให้ปรินดาร้องไห้หนักขึ้นไปอีก
“ขอโทษค่ะ ที่ทำให้คุณไม่พอใจ” หญิงสาวบอกปนเสียงสะอื้น ก่อนจะทรงตัวขึ้นนั่ง มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาออกจากแก้มนวล
“จะไปไหน” เขากระชากหญิงสาวเขามาในอ้อมกอด
“อือ....” ปริญดาส่งเสียงผ่านลำคอ ดรัณจึงเลื่อนริมฝีปากมาดูดซับเสียงนั้นให้เงียบไป ได้ยินเพียงเสียงอู้อี้ด้วยแรงอารมณ์ เขาใช้มือโอบแผ่นหลังของหญิงสาวแล้วดึงเข้าหาตัว ก่อนจะเริ่มบทรักอันรุนแรงอีกครั้ง ครั้งนี้ดูเหมือนจะไร้ความปรานียิ่งกว่าเดิม
“คุณ...ฉันยังเจ็บอยู่นะคะ” พอได้ยินเสียงหญิงสาวขอร้อง บทรักจึงหยุดลงกลางคัน
“ไหนแม่เลี้ยงเธอบอกว่าเธอมีอาชีพขายบริการมาก่อนไง” ดรัณถามขึ้นทั้งที่ตอนนี้รู้อยู่แล้วว่าเธอยังเวอร์จิ้น
“เปล่าคะ ฉันยังไม่ได้ไปทำงานนั่น”
“ฉันขอโทษ” ดรัณยิ้มภูมิใจที่ได้ตัวเธอมาครอบครอง ความรู้สึกประหลาดในใจเกิดขึ้น ไม่มีผู้หญิงคนไหนทำให้เขาเป็นแบบนี้ ถ้าเขาต้องการเขาต้องได้ โดยไม่คำนึงว่าคู่นอนของเขาจะรับมือไหวไหม แต่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้ กลับทำให้เขาแคร์ความรู้สึกของเธอ
ปริญดาขยับตัวตื่นบนที่นอนของดรัณ หญิงสาวดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วหันไปมองที่นอนข้าง ๆ แต่ก็ไม่เห็นชายหนุ่มเจ้าของห้องเสียแล้ว เธอจึงหันไปมองนาฬิกาบนผนังบอกเวลาแปดโมง
เมื่อคืนเขาไม่ได้พยายามทำให้เธอเจ็บเพิ่ม เพราะเขาเห็นรอยเลือดแล้วจึงหยุดไป นี่เขาสงสารเธอหรือว่ายังไงกันแน่ หญิงสาวพลางคิดในใจ
ปริญดารีบลุกขึ้นสวมเสื้อผ้าแต่ดูเหมือนเธอจะขยับไม่ได้อย่างใจคิด... รู้สึกเจ็บร้าวสืบเนื่องจากเมื่อคืน ดรัณมีพลังที่มากมายอย่างเหลือเชื่อจริง ๆ ปริญดาหน้าแดงระเรื่อเมื่อเห็นรอยเลือดหยาดหยดบนที่นอนของเขา
หญิงสาวติดกระดุมเสื้อแล้วดึงเสื้อคลุมมาสวมทับเพื่อเดินกลับไปห้องตัวเอง
สาวสวยร่างโปร่งบาง ความสูงร้อยหกสิบเก้าเซนติเมตร ดวงหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโต จมูกโด่งรั้น ปากอิ่มสวย ผิวขาวเนียน ผมยาวดำสลวย เดินกลับมายังห้องนอนของเธอ ก่อนจะหยิบสัญญาเงินกู้ที่วางอยู่ในลิ้นชักข้างหัวเตียงขึ้นมาดู
ก่อนหน้านี้ทำไมเธอไม่อ่านให้ดีเสียก่อน หญิงสาวพลางนึกโทษตัวเอง แต่วันนี้เธอตัดสินใจจะทำมันให้เรียบร้อย และจะทำให้ครบสัญญาจะได้ไม่ต้องติดค้างกันอีกเมื่ออีกฝ่ายเรียกร้องและต้องการมันจากเธอ และเมื่อวันนั้นมาถึงเธอจะได้รับอิสรภาพจากเขาเสียที
หญิงสาวพลางนึก ถ้าเธอตัดสินใจหนีกลับบ้านทุกอย่างถือว่าเป็นโมฆะหรือเปล่า แล้วเธอจะไปอยู่ที่ไหน ดรัณบอกว่าที่ดินกับบ้านของก็จะถูกเสี่ยกำพลยึดไปแล้ว อีกอย่างเธอก็ยังไม่มีงานทำ เมื่อคิดได้ดังนั้น เธอจึงปลงกับชะตาชีวิตของตัวเอง อย่างน้อยการเป็นเมียดรัณก็คงไม่เลวร้ายเกินไปใช่ไหม บางทีเธออาจจะมีหนทางต่อไป แต่ตอนนี้หนทางของเธอช่างมืดมนเต็มที จะทำอะไรก็ต้องคิดให้รอบคอบ
ก๊อก..ก๊อก..ก๊อก
ผู้หญิงอายุราวห้าสิบคนหนึ่งก้าวเข้ามาในห้องด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเป็นมิตร
“คุณแก้มตื่นแล้วเหรอคะ ป้าว่าจะมาปลุกพอดี”
“ป้าพรมีอะไรรึเปล่าคะ” ป้าพรเป็นแม่บ้านที่ทำงานให้ ดรัณตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก เรียกได้ว่าเป็นคนเก่าแก่ประจำตระกูล ดรัณเป็นคนแนะนำให้ปรินดารู้จักกับป้าพรเมื่อวานนี้
“พอดีคุณดรัณท่านสั่งไว้ว่า ตอนสาย ๆ จะให้คุณภริสามารับ พาคุณแก้มไปซื้อของใช้เพิ่มเติมน่ะค่ะ”
“ได้ค่ะ”
ปริญดาพยักหน้ารับรู้.. เธอเริ่มนึกว่ามีอะไรที่เธอยังไม่ได้เอามาจากที่บ้านบ้าง
“งั้นเดี๋ยวแก้มไปอาบน้ำก่อนนะคะ”
ปริญดาเดินกลับมาห้องตัวเองจัดแจงหยิบเสื้อผ้าแล้วเดินเข้าห้องน้ำหญิงสาวเปิดน้ำรดหัวเพื่อให้รู้สึกตื่นเต็มที่ เธอพลางนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน คิดมาถึงตรงนี้หน้าก็เริ่มแดงอีกรอบ จึงสลัดศีรษะแรง ๆ ไล่ความคิด หลังจากอาบน้ำเสร็จก็ออกมา ไม่นานนักหญิงสาวว่าที่น้องสะใภ้ก็มาเคาะห้อง
“สวัสดีค่ะคุณแก้ม” ภริสาเดินเข้ามาที่ห้องนั่งเล่น โค้งให้เธออย่างมีมารยาท
ภริสาเป็นผู้หญิงที่จัดได้ว่าสวย ผิวสีแก้มกับตากลมโต เธอเป็นลูกสาวของเสี่ยสมยศ และดูเหมือนว่าจะเป็นน้องสาวคนละแม่กับดรัณ เพราะหน้าตาของเธอคือหญิงไทยแท้ ไม่เห็นจะมีเชื้อแขกอย่างดรัณแม้แต่น้อย
“สวัสดีค่ะคุณริสา” ภริสาส่งยิ้มให้
“ป้าพรบอกคุณแก้มแล้วใช่ไหมคะ ว่าวันนี้พี่รัณสั่งให้ดิฉันพาคุณไปซื้อของ” ปริญดายิ้มรับ
“ค่ะ แต่ว่าไม่ต้องซื้อเยอะนะคะ ของใช้แก้มขาดแค่บางอย่างเอง ไปแค่ร้านสะดวกซื้อหน้าปากซอยก็ได้ค่ะ” ปรินดาพูดเป็นกันเองกับภริสา
ภริสาหัวเราะ มิน่า..พี่ชายคนละแม่ของเธอถึงได้เอ็นดูปริญดาเป็นพิเศษ... ผู้หญิงคนนี้ไม่โลภ
“แต่พี่รัณสั่งไว้นะคะ” ภริสาพูดเรียบ ๆ
ปริญดาพยักหน้าแล้วขอตัวไปหยิบกระเป๋า รู้ว่ายังไงก็ต้องทำตามคำสั่ง ถึงจะรู้ว่าดรัณหวังดี แต่จะให้เธอจ่ายเงินเป็นเบี้ยได้ยังไง..มันไม่ชิน
ภริสาพาปริญดามายังห้างสรรพสินค้าชื่อดังใจกลางเมือง... แหล่งสินค้าเบรนเนมจุดมุ่งหมายแรกของวันนี้ก็คือห้องเสื้อชื่อดัง..
ภริสารู้จักร้านนี้.. เพราะเคยได้ยินชื่อทางสื่อทีวีโทรทัศน์และเฟสบุคอยู่บ่อย ๆ เจ้าของห้องเสื้อเป็นสไตล์ลิสชื่อดัง จัดงานแฟชั่นโชว์ทุกปี ปีละไม่ต่ำกว่าสองงาน ซึ่งนางแบบที่มาเดินให้ก็ล้วนแต่โด่งดังกันทั้งนั้น ร้านนี้จะเน้นสไตล์เรียบแต่หรู เอาความคลาสสิกเป็นตัวนำ แต่ถ้าชุดไหนเน้นความเปรี้ยวและเซ็กซี่แล้วละก็จะต้องอาศัยความกล้าของคนใส่เป็นอย่างมากเพราะ..เปรี้ยวจริง ๆ
ภายในร้านจัดแต่งเรียบง่ายกว่าที่เห็นจากด้านนอก มีแบบเสื้อของนักออกแบบระดับโลกใส่กรอบสไตล์อาร์ทแขวนอยู่ตามผนังเป็นจุดห่างกันอย่างลงตัว
“สวัสดีค่ะ” พนักงานขายผู้ชายท่าทางตุ้งติ้ง เดินตรงเข้ามาทักทายภริสาและปรินดาอย่างนอบน้อม
“สวัสดีค่ะ” ภริสาจึงเลือกชุดที่เธอเห็นว่าเหมาะจะใส่ออกงานให้ปรินดาแทนที่จะให้เธอเลือกเอง เพราะปรินดาไม่กล้าแม้แต่จะจับเนื่องจากราคาที่แพงสูงลิ้ว
พนักงานสาวสองมองปริญดา.. มองไล่ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แล้วจึงยิ้มอย่างพึงพอใจ
“โอเคเลยค่ะ รูปร่างดีอย่างนี้ยิ่งเนรมิตให้งามเลิศได้ไม่ยาก.... รับรองว่าต้องสวยเด่นแน่นอนค่ะ”
ภริสาดึงมือปริญดาเข้าไปด้านในจัดแจงวัดตัวหญิงสาวทุกส่วนสัดอย่างคล่องแคล่ว อึดใจเดียวก็พาเธอออกมา
“เดี๋ยวเอาชุดมาให้ดูนะคะ” พนักงานรีบบอกปรินดาและภริสา ปริญดาพยักหน้าอย่างงง ๆ ..ชุดอะไรกัน
ภริสามองใบหน้าเครื่องหมายคำถามนั้นยิ้ม ๆ “คือจริง ๆ แล้วพี่รัณเป็นคนสั่งชุดไว้ให้คุณแก้มน่ะค่ะ”
“คุณดรัณ..”
ภริสาพยักหน้าอีกหน เมื่อหลายวันก่อนดรัณมาตัดสูทที่ห้องเสื้อใกล้ ๆ ห้าง จึงตรงมาร้านนี้ด้วยตัวเอง โดยชวนภริสาและลูกน้องคนสนิทอีกคนมาด้วย
พนักงานหิ้วชุดที่ถูกเก็บเอาไว้อย่างดีในชุดคลุมพลาสติกออกมาจากหลังร้าน จัดแจงรูปซิปแล้วดึงออกมา...
ชุดเป็นเดรสเกาะอกแนบเนื้อยาวกรอมเท้า เนื้อผ้าเป็นแพรสีน้ำตาลเปลือกไม้ มีคริสตัลเม็ดเล็กปักตรงแถบทั้งสองข้างที่ถูกผ่าขึ้นมาถึงบริเวณเรียวขา
“สวยงามไหมคะ” พนักงานของร้านถามอย่างภูมิใจ เมื่อเห็นปริญดามองอย่างไม่วางตาปริญดาพยักหน้าน้อย ๆ ‘...สวยจัง’
“สวยมากเลยค่ะ”
“พี่รัณตาถึงค่ะ เป็นคนสั่งเองเลยนะคะ บอกว่าคุณแก้มน่าจะเหมาะกับชุดแบบนี้ แถมยังบอกขนาดได้ไม่ขาดตกบกพร่องอีก.. ตรงเป๊ะเลย” ภริสาพูดอย่างเอาใจเพราะรู้ว่าดรัณเอ็นดูปรินดามาก แต่คนฟังหน้าแดงระเรื่อ