“คุณครับ รอก่อน” เขาจอดรถ วิ่งเข้าไปจับข้อมือเล็กเพียงเสี้ยววินาทีก่อนหล่อนจะขึ้นรถเมล์
สาวสวยคนนั้นหันมามองหน้าแล้วบิดข้อมือหนี “อย่ามาแตะตัวฉันนะ!”
“ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ คุณคือคุณดรุณีใช่ไหม”
“นังหนู เร็วๆ จะขึ้นมาไหม” ป้ากระเป๋ารถเมล์ตะโกนถาม เมื่อคนอื่นเบียดขึ้นมาจนหมดแล้ว เหลือคนเดียวที่ยังยืนคุยกับผู้ชายไม่ยอมขึ้นมา
“ไปจ้าป้า แป๊บนึ่งนะ” สาวคนนั้นก็ตะโกนกลับไป สีหน้ายุ่งเหยิงหันมามองหนุ่มแปลกหน้า
“ผมมีนนะ น้องพี่หมอก” ตอบและยิ้มกว้างสุดชีวิต
“หมอกไหน มีนไหน ฉันไม่รู้จักพวกคุณ แล้วฉันก็ไม่ได้ชื่อดรุณี คุณจำคนผิดแล้ว”
กระเป๋ารถเมล์ด่ากราดทั้งผู้โดยสารและด่ากระทบมาถึงเขาด้วย “ชักช้าอยู่ได้ จะง้อเมียก็ให้มันมีน้ำยาหน่อยสิไอ้หนุ่ม!”
“ผมยัง… ไม่มีเมีย” ได้แค่พูดเบาๆ เท่านั้น ประตูก็ปิดใส่หน้าปัง!
ภูมินทร์เสียหน้า ยืนงงในดงคนเพื่อมองรถเมล์เคลื่อนออกจากป้าย คนแถวนั้นหันมามองกันเต็มเลย เขาอาย รีบวิ่งกลับรถ ตัดสินใจไม่ตามหาแล้วเลือกใช้วิธีถามเลขานุการของพี่ชาย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นวันนี้เขาต้องเจอหน้าลูกเมียพี่ชายให้ได้ ดีเลย์หน่อย แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าปล่อยสองคนนั้นทิ้งไว้เรื่อยๆ ไม่ทำอะไรเลยสักอย่าง
อีกทางด้านหนึ่ง ดรุณีกำลังเดินออกจากสถานีรถไฟฟ้าในมือมีลิสของต้องซื้อ ต้องการหลีกเลี่ยงการเจอหน้าน้องสาวชั่วคราว น้องดรีมเป็นเด็กฉลาดมองแว็บเดียวก็รู้แล้วว่ามีเรื่อง ดรุณีไม่ต้องการให้น้องสาวเกลียดชังภูดิศรวมถึงคนตระกูลนั้นไปมากกว่านี้ มือเล็กออกแรงดึงรถเข็น เลือกซื้อของทุกอย่างอย่างพิถีพิถัน ดูความสดใหม่ วันหมดอายุ และราคาจากหลายๆ ยี่ห้อเปรียบเทียบกัน เลือกของจนกระทั่งมาถึงโซนผัก ผลไม้ และอาหารสด
หล่อนเลื่อนรถเข็นผ่านเจ้าแครอทสีส้มแสนน่ากิน หวนนึกถึงอดีต ภูดิศอยู่ในชุดนักเรียนโรงเรียนนานาชาติชื่อดังมาติวหนังสือในร้านกับเพื่อน เขาสั่งของกินมาหลายอย่าง ทว่าเลือกเขี่ยแครอทออกหมดทุกจาน ในวันนั้นหล่อนอยู่แค่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่หนึ่งโรงเรียนรัฐบาลธรรมดา แอบบ่นถึงผู้ชายหน้าตาดีที่ไม่ชอบแครอทหลายครั้ง มารดาได้ยินก็เอ็นดู ครั้งต่อไปเมื่อเห็นเด็กกลุ่มนั้นมาติวหนังสืออีกจึงเลี่ยงไม่ใส่แครอท
‘วันหลังผมขอไม่ใส่แครอทแบบนี้อีกนะครับคุณน้า’
เด็กชายบอกขณะจ่ายเงิน เขาจัดฟันและมีรอยยิ้มที่สวยมาก ดรุณีนั่งทำการบ้านอยู่ไม่ไกลใจเริ่มเต้นแรง และนับจากวันนั้นเป็นต้นมาดรุณีก็คอยแอบมองเขาตลอด จนกระทั่งพี่หมอกสุดหล่อจบชั้นมัธยมปลาย เขาหายไปไม่กลับมาที่ร้านอีกเลยหลายเดือน คิดถึงเขา จึงแอบสืบทางเฟซบุ๊กและพบว่าเขาไปเรียนปริญญาตรีที่เมืองนอกพร้อมกับแฟนสาว ลงรูปคู่สวีตหวานเชียว และเหมือนว่าจะพักห้องเดียวกันด้วย
ในช่วงนั้นดรุณีเองก็เริ่มเติบโต โดยมีความฝันอยากเข้าทำงานในบริษัทคอนสตรัคชั่นของครอบครัวเขา หล่อนคอยมองภูดิศเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีพร้อมในทุกๆ อย่าง จากนักเรียนมัธยมปลายจัดฟัน หัวเกรียนไม่ชอบแครอท กลายเป็นหนุ่มนักเรียนนอก กล้ามใหญ่ และกลับมานั่งตำแหน่งรองผู้บริหารสุดเท่ ช่วงสิบปีที่ผ่านมา ดรุณีเห็นการเปลี่ยนแปลงของเขาทั้งหมด แม้จะรู้ดีแก่ใจว่ามันเป็นแค่การแอบรักข้างเดียวเท่านั้น ไม่มีวันเลยที่ความรักนี้จะกลายเป็นจริง เขาทั้งหล่อ รวย จบสูง ชาติตระกูลก็ดี
ตัดภาพมาที่หล่อนสิ ไม่มีอะไรเลย มีร้านขายขนมเล็กๆ ที่ใกล้จะเจ๊ง เรียนจบปริญญาโทมหา’ลัยรัฐบาลทั่วไป การที่ฟลุกได้จดทะเบียนสมรสกับเขา… เป็นสิ่งที่เหนือความคาดเหมายมากๆ แต่เฮ้อ! ไม่มีผู้หญิงคนไหนในโลก ที่อยากฟลุกแบบนี้หรอก ทรมานหัวใจจะตาย
“ขอบคุณค่ะ” รับเงินทอนจากพนักงาน ถือของพะรุงพะรังเต็มสองมือเดินข้ามสกายวอคลงบันไดมาถนนอีกฝั่ง ตัดถนนเส้นเล็กไม่ไกลเดินเข้าซอยแคบๆ กัดฟันเดินท่ามกลางสภาพอากาศร้อนมาเรื่อยๆ ทว่าในจังหวะนั้นเองกลับมีรถยนต์คันหนึ่งเลี้ยวเข้าซอยมาพอดี ขับเข้ามาใกล้เกินจนหล่อนตกใจล้มลงบนฟุตบาท ล้มลงกระแทกพื้นถนนร้อนจัด ข้าวของในมือตกลงกระจาย บางอย่างก็กลิ้งออกจากถุง คนแถวนั้นต่างหันมามองด้วยความตกใจ เช่นเดียวกับเจ้าของรถยนต์หรูที่ตกใจไม่ต่างกัน เขารีบเปิดประตูออกมาแสดงความรับผิดชอบ เข้ามานั่งลงข้างสาวโชคร้าย
“เจ็บมากไหมครับ ขอโทษนะผมไม่ได้ตั้งใจ ไม่ทันมองว่าคุณเดินข้างหน้า”
“…”
ดรุณีช้อนสายตาขึ้นมองแว็บเดียวเท่านั้น ตำหนิเขาทางนั้น ก่อนยกแขนศอกขึ้นดูแผลเห็นว่ามีเลือดออกเล็กน้อยบนรอยถลอก แล้วก็มีเลือดออกมาบริเวณหัวเข่า ขยับก็ไม่ได้ ถึงจะเป็นแผลเล็กแต่ดรุณีก็รู้สึกเจ็บ เพราะไม่ได้ตอบคำถาม ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง จึงไม่ทันเห็นปฏิกิริยาผู้ชายคนนั้นว่ากำลังถูกใจตน
ให้ตายเถอะ เหมือนมีใครมาเปิดเพลง 'ใช่เลย' ของไท ธนาวุธอยู่ในหัวเขา
“เจ็บมากไหมครับ” ย้ำถามอีกครั้ง
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณที่ถาม ฉันไม่เจ็บมากเท่าไหร่”
“แต่เลือดคุณออก ให้ผมพาไปโรงพยาบาลนะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ตั้งใจ” หญิงสาวฝืนกายลุกเดินขากะเผลกๆ ไปเก็บของตัวเอง มีผักบางชนิดหล่นออกมาคลุกฝุ่นชวนให้อารมณ์ไม่ดี เสียดายที่ต้องทิ้งบางส่วนทั้งที่เพิ่งจะซื้อมา หล่อนรีบเร่งมือเก็บก่อนวินมอเตอร์ไซด์กับรถยนต์เอยจะเหยียบ ส่วนหนุ่มหล่อนั้นไม่ละความพยายามอยากรับผิดชอบ ภูมินทร์ตามมาช่วยเก็บมือเป็นระวิง แย่งหญิงสาวเก็บของเก็บผักจนหมด อีกทั้งยังถือวิสาสะถือถุงไว้ไม่ยอมส่งคืนแม้หล่อนจะส่งมือมารอรับ