ตอนที่ 5.2

3552 Words
“ขึ้นรถ” “เอามือถือผมมาเลยครับ” สุดที่รักแบมือยื่นไปตรงหน้า “ขึ้นมาก่อนแล้วจะให้” “ผมต้องรีบไปทำงานต่อ” “นี่ทำงานกี่ที่เนี่ย?” เชื่อเขาเลย ทำไมต้องทำงานเยอะขนาดนี้ ยกนาฬิกาขึ้นมาดู เขายังพอมีเวลาอีกนิดก่อนต้องไปรับแฟนสาวที่กองถ่ายละคร “ขึ้นมาสิ เดี๋ยวไปส่ง” ไม่รู้มาไม้ไหน สุดที่รักไม่เข้าใจคนตรงหน้าจริงๆ ไหนว่าเกลียดกัน ไหนว่าไม่อยากเห็นหน้า แค่เห็นก็จะอ้วกแล้วไม่ใช่เหรอ “ทำที่ไหน?” กว้างขวางเอ่ยถาม “ร้านสะดวกซื้อหน้ามอครับ” “ทำไมทำงานหนักขนาดนั้น เมื่อเช้าก็ทำที่ร้านอาหาร เย็นก็ต้องไปทำอีกที่ ธารามาลาเลี้ยงไม่ดีรึไง?” “เปล่าครับ ผมออกมาอยู่เองแล้ว ผมไม่อยากรบกวนพวกเขา” ต้องทำงานตัวเป็นเกลียว ที่แท้ก็เพราะต้องหาเลี้ยงตัวเองนี่เอง “แล้วญาติล่ะ ไม่ส่งเสียเลี้ยงดูอะไรเลยเหรอ?” “ไม่ครับ พวกเขาก็มีภาระที่ต้องรับผิดชอบ” แม้เขาจะเป็นถึงลูกชายนายพล แต่เพราะพ่อของเขาเป็นตำรวจตงฉิน ไม่มีนอก ไม่มีใน ไม่มีโกงกินรับส่วย ท่านจึงมีแต่ยศที่ภาคภูมิใจและเงินเดือนหลักหมื่นจุนเจือคนทั้งบ้าน หลังพอท่านเสีย รายได้หลักก็หมดไป ส่วนญาติที่รู้จักก็มีฐานะปานกลางไม่ได้ร่ำรวยอะไร มีลูกมีเต้าให้ต้องเลี้ยงดู สุดที่รักยอมรับและเข้าใจพวกเขา นานทีมีบ้างที่หยิบยื่นน้ำใจมาให้เป็นเงินจำนวนเล็กน้อยพอซื้ออาหารสามสี่วัน โทรศัพท์ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีญาติคนใด ยื่นมือเข้ามาช่วยอย่างจริงจัง แค่พวกเขารับรู้ว่าสุดที่รักถูกอุปการะโดยเพื่อนสนิทของพ่อซึ่งฐานะทางบ้านนับว่าสามารถเลี้ยงดูปูเสื่อหลานชายคนนี้ได้ดีกว่า พวกเขาจึงเพิกเฉยและหลงลืมหลานชายนัยน์ตาเศร้าไปเสียหมด นั่นทำให้สุดที่รักต้องเรียนรู้และยอมรับ ว่าเขาต้องอยู่บนโลกนี้ด้วยตัวเองให้ได้ “ต้องเข้างานกี่โมง?” “อีกครึ่งชั่วโมงครับ แล้วไหนล่ะครับมือถือของผม” “เดี๋ยวให้ แต่ต้องไปกินข้าวด้วยกันก่อน" สุดที่รักส่ายหน้าพรืด ตลกแล้ว จะให้ไปนั่งกินข้าวด้วยกันเนี่ยนะ ไม่มีทางแน่ๆ นั่นคงเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่สุดที่จะเกิดขึ้นในชีวิตของเขา “แค่คืนมือถือผมมาก็พอครับ” “ถ้าไม่กิน ฉันก็ไม่คืน” คำตอบของกว้างขวางทำเอาสุดที่รักพูดไม่ออก ได้แต่มองรุ่นพี่หนุ่มที่มองมาอย่างคาดคั้น วันนี้กว้างขวางไปกินอะไรผิดสำแดงมาหรือเปล่า เป็นฝ่ายเข้าหาเขายังไม่พอ ยังชวนไปกินข้าวด้วยกันอีก “ขึ้นมา” ชายหนุ่มลากเสียงยาวเป็นแกมบังคับ สุดที่รักอึกอัก แต่ในเมื่อมือถือยังอยู่ที่กว้างขวาง เขาจำใจต้องทำตาม คิดเอาไว้ว่าได้มือถือคืนมาเมื่อไหร่ จะไม่ให้เจอหน้ากันอีกเลย เมื่อเห็นท่าทีอ่อนโอน รอยยิ้มจึงปรากฏบนใบหน้าคนชอบสั่ง ทว่าในตอนที่สุดที่รักเอื้อมมือเพื่อเปิดประตูรถนั้นเอง กลับมีเสียงหวานเสียงหนึ่งดังแว่วจากด้านหลัง “ที่รัก!” คนถูกทักชะงักมือพลางหันไปมองยังต้นเสียง ปรากฏหญิงสาวในชุดนักศึกษา ผมยาวตรงปล่อยสยาย ใบหน้ารูปไข่รับกับทรงคิ้วโค้งแบบสาวไทยและดวงตากลมโตเป็นประกายสดใส เธอเดินตรงเข้ามาพร้อมรอยยิ้มกว้าง ออร่าเปล่งประกายสมกับเป็นดาวนิเทศฯ อุ่น... “หาตัวให้วุ่นเลย โทรหาก็ไม่ติด เปลี่ยนเบอร์เหรอ อ้าว! ก็ว่ารถคุ้นๆ มาหาใครคะพี่กว้าง หมู่นี้มาป้วนเปี้ยนตึกครุบ่อยๆ มีอะไรในใจกับใครรึเปล่าคะ?” เธอดีใจเป็นอย่างมากเมื่อได้เจอตัวคนที่ต้องการพบ นานแล้วที่เธอกับสุดที่รักไม่ได้พบปะกัน แต่พอหันไปยังด้านข้างก็เห็นรถคุ้นตาพร้อมกับคนคุ้นเคย เธอโน้มกายลดใบหน้าให้อยู่ในระดับกระจกรถสปอร์ต ทักทายรุ่นพี่หนุ่มที่เพิ่งเจอกันเมื่อบ่าย อดแซวไม่ได้เมื่อเจอกว้างขวางโดยบังเอิญยังหน้าตึกครุเป็นครั้งที่สองของวัน กว้างขวางยิ้มให้ พลางคิดคำตอบที่ดีที่สุด “มีธุระนิดหน่อยน่ะ แล้วนี่เพิ่งเลิกซ้อมลีดเสร็จเหรอ?” “เพิ่งเลิกเลยค่ะ จะไปไหนต่อรึเปล่าคะ อุ่นกับเพื่อนกำลังจะไปหาอะไรทานเลย ไปด้วยกันไหม?” เธอเชื้อเชิญหลังพวกกลุ่มเพื่อนเดินตามมาสมทบ “เอ่อ...” คนถูกชวนชะงัก พลางอึกอักเสี้ยววินาทีที่เหลือบมองใครอีกคนซึ่งยืนอยู่ตรงนี้ “นะคะพี่กว้าง ไปกับพวกหนูนะ สเต็กแถวหน้ามอนี่เอง” เพื่อนสาวอีกคนเอ่ยชวนร่วมด้วย เมื่อถูกรบเร้าหนักเข้า กว้างขวางจึงพยักหน้ารับ “ยัยอุ่น ไปกับพี่กว้างเลย เดี๋ยวพวกฉันไปรถยัยแก้ว” เพื่อนสาวคนเดิม ดันศอกอุ่นให้ขึ้นรถด้วยสีหน้าระริกระรี้สุดชีวิต ความรู้สึกของอุ่นที่มีต่อพี่กว้างขวาง กลุ่มเพื่อนซี้เท่านั้นที่รู้ดี อาศัยช่วงเวลานี้ช่วยเพื่อนสานสัมพันธ์กับรุ่นพี่สุดหล่อ “ไปด้วยนะคะพี่กว้าง” เธอยิ้ม พลางเอื้อมมือไปเปิดประตูรถค้างไว้ ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าลืมใครอีกคนไปเลย “ที่รัก ไปกินด้วยกันนะ มื้อนี้อุ่นเลี้ยงเอง” สุดที่รักมองอุ่นชั่วอึดใจ ก่อนจะเหลือบมองคนตัวสูงซึ่งนั่งอยู่ในรถ รุ่นพี่หนุ่มกำลังทอดสายตามองไปยังถนนมืดๆ ด้านหน้า ไม่ได้สนใจบทสนทนาระหว่างเขากับอุ่น “ไปเถอะ เรามีงานต้องทำต่อ” “โหอะไรกัน เย็นแล้วยังทำงานอีกเหรอ อุ่นมีเรื่องจะคุยกับที่รักเยอะแยะเลย ไปแป๊บเดียวเอง นะๆ” อุ่นคะยั้นคะยอด้วยสีหน้าเว้าวอน “เอาไว้วันหลังนะ ติดงานจริงๆ ใกล้ได้เวลาแล้วด้วย” “เอางั้นเหรอ...คราวหน้าต้องไปนะ สัญญาเลย” หญิงสาวถือวิสาสะเกี่ยวก้อย   มือบางขาวซีดของอีกฝ่าย “งั้น เดี๋ยวคืนนี้จะโทรไป พอดีคุณพ่อกับคุณแม่ท่านบอกให้ชวนที่รักไปงานเลี้ยงวันเสาร์นี้ พี่อิ่มก็มาด้วยนะ รายนั้นกำชับใหญ่ว่าถ้าที่รักไม่ไป นางก็จะ    ไม่กลับ จะรับอยู่เวรแทนเพื่อน” “งานเลี้ยง?” “อื้อ! เอาไว้คืนนี้อุ่นโทรบอกรายละเอียด ยังใช้เบอร์เดิมอยู่ใช่ไหมอะ โทรหาสองวันแล้วไม่ติดเลย” “เบอร์เดิม แต่...” สุดที่รักตะกุกตะกัก ก่อนจะลดหน้าลงให้อยู่ในระดับกระจกรถ เพื่อยุติการยืดเยื้อเรื่องไม่เป็นเรื่องระหว่างเขากับรุ่นพี่หนุ่ม “ขอโทรศัพท์ของผมคืนด้วยครับ” “หืม? โทรศัพท์สุดที่รักไปอยู่กับพี่กว้างได้ไงคะ?” อุ่นครุ่นคิด มองทั้งสองสลับไปมา “คุณ...ผมขอโทรศัพท์คืน” กว้างขวางทำหูทวนลมได้ไม่นานก็จำใจล้วงเอามือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง ตีสีหน้าระอาเต็มกลืน ทว่าภายในกลับไม่ได้เป็นอย่างที่แสดงออก จริงๆ เขายังไม่อยากคืน ไม่รู้ว่าทำไม แต่เขายังอยากเก็บมันเอาไว้ เพื่อใช้มันเป็นตัวเชื่อมให้เขาได้เจอกับเจ้าเด็กนัยน์ตาเศร้า ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอยากเจอไปทำไม ชายหนุ่มยื่นมือถือให้อีกฝ่าย สุดที่รักรับไว้ แต่จังหวะที่ดึงเข้าหาตัวกลับโดนอีกฝ่ายยื้อมันกลับ จนเกิดเป็นการแย่งกันเล็กๆ สุดท้ายต้องมองหน้ารุ่นพี่หนุ่มเป็นเชิงว่าต้องการอะไรจากเขาอีก อีกฝ่ายถึงได้ยอมปล่อย “จะไปส่ง” กว้างขวางเอ่ยเสียงเรียบ มองนัยน์ตาเศร้าคู่นั้นนิ่ง เขาไม่ได้ลืมคำพูดของตัวเองเมื่อกี้ เขาจะไปส่งสุดที่รัก “ไม่เป็นไรครับ คุณไปกับอุ่นเถอะ ขอบคุณนะครับ” เด็กหนุ่มร่างโปร่งถอยผละหลังพูดจบ ก่อนจะเปิดประตูรถให้หญิงสาวอีกคนได้เข้าไปนั่ง “ขอบคุณนะ” อุ่นยิ้มให้ “ไว้จะโทรหา” สุดที่รักพยักหน้าหลังปิดประตูรถให้ สายตากวาดมองคนทั้งคู่ที่นั่งเคียงข้างกันในรถหรู พลันความคิดไม่รักดีก็สร้างความหน่วงเหน็บให้คนมองไม่น้อย ชายหญิงทั้งคู่ช่างดูเหมาะสมกันอย่างที่ใครเขาว่ากันจริงๆ มันคงไม่เหมาะ หากเป็นเขาที่นั่งอยู่ตรงที่อุ่น     กำลังนั่ง ดีแล้ว...แบบนี้ดีแล้ว สุดท้ายยกมือโบกลาหญิงสาวแล้วหันหลังกลับ ออกเดินด้วยขากะเผลกไปทางตรงกันข้าม “รถสปอร์ตที่ไม่สปอร์ตเล้ย! นั่งได้สองคน ถ้ามีหลายที่นั่งป่านนี้สุดที่รักได้ไปกินข้าวกับเราแล้ว” อุ่นหันไปต่อว่าไม่จริงจังให้เจ้าของรถสปอร์ตคันหรู ซึ่งมีที่นั่งแค่สองที่ คนถูกแซวยิ้มแกนพลางส่ายหน้า ก่อนจะเอื้อมมือไปยีผมหญิงสาวด้วยความเอ็นดู ดูเหมือนความสนใจมีไว้ให้กับคนข้างกาย แต่เปล่าเลย หลังเหยียบคันเร่งได้ไม่นาน ชายหนุ่มกลับเอาสายตาไว้มองแต่กระจกหลัง จดจ้องร่างๆ หนึ่งเดินจากไปเพียงลำพัง จากวันนั้นเป็นต้นมา ไม่มีใครรู้ถึงสาเหตุของการเปลี่ยนรถของรุ่นพี่ปีสี่ผู้ร่ำรวย จากสปอร์ตสองที่นั่งหลายร้อยแรงม้า กลายมาเป็นรถครอบครัวสัญชาติญี่ปุ่นขนาดเจ็ดที่นั่ง โอ่อ่า กว้างขวาง หลังทานอาหารค่ำเสร็จ ทั้งหมดก็แยกย้ายกันตรงนั้น กว้างขวางอาสาไปส่งอุ่นด้วยถือตัวเป็นพี่ชายคนสนิท มาลายินดีและเก็บความดีใจไม่มิด แสดงออกผ่านสีหน้ายิ้มเขินตลอดเวลา “ขับรถกลับดีๆ นะคะ” เธอโบกมือลาให้กว้างขวาง เมื่อเขามาส่งถึงหน้าบ้าน “เดี๋ยว...” กว้างขวางเอ่ยทัก ทำให้คนที่กำลังจะเดินเข้าบ้านหันกลับมามองอย่างสงสัย “...เด็กที่อาพรตรับมาเลี้ยง ทำไม...ถึงแยกออกไปอยู่คนเดียวล่ะ” เขาเอ่ยถามถึงสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจ เด็กนั่นบอกแค่ว่าไม่อยากรบกวน แต่ตระกูลธารามาลาใช่ว่าร่ำรวยน้อยเสียที่ไหน แค่เด็กคนเดียวทำไมถึงจะเลี้ยงไม่ได้ อีกอย่างพ่อ   ไอ้อิ่มถึงกับเป็นฝ่ายไปรับเด็กคนนั้นมาด้วยตัวเองแท้ๆ ทำไมถึงยอมปล่อยให้เด็กนั่นออกไปใช้ชีวิตเพียงลำพัง มันเหมือนมีอะไรบางอย่างที่นอกเหนือจากความเกรงใจ “สุดที่รักน่ะเหรอคะ หลังจบ ม.6 ก็เห็นบอกว่าอยากออกไปอยู่เอง เหตุผลก็แค่เกรงใจ ตอนแรกพ่อกับแม่ก็ห้ามเพราะเป็นห่วง แต่เจ้าตัวยืนกรานว่าอยากไปจริงๆ อุ่นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น” คำตอบของมาลาไม่ได้ไขข้อกระจ่างเท่าไหร่นัก “เขาอึดอัดใจอะไรหรือเปล่า?” “ไม่นี่คะ แต่ถึงจะออกไปอยู่เอง พ่อกับแม่ก็ยังติดต่ออยู่ตลอดค่ะ อุ่นเองก็ช่วยเป็นหูเป็นตาให้ด้วย แต่เขาน่ะสิ เป็นคนขี้เกรงใจมากกก ให้เงินทองอะไรก็ไม่ค่อยจะรับ ทำให้ตัวเองต้องหางานพิเศษเลี้ยงตัวเอง ลำบากจะตาย ว่าแต่พี่กว้างถามถึงสุดที่รักทำไมเหรอคะ?” เขาชะงักก่อนส่ายหน้า “เปล่า ไม่มีอะไร เข้าบ้านเถอะ พี่ไปละ” อุ่นได้แต่ทำหน้างง ก่อนจะโบกมือลาและเดินกลับเข้าบ้าน “ขอบคุณที่มาส่งนะคะ” กว้างขวางพยักหน้ารับ แล้วขับรถออกไป ระหว่างทางได้แต่นึกถึงคนที่ถูกรถชนแต่ก็ยังทำงานงกๆ ตลอดวัน มันเป็นความรับผิดชอบของเขาที่จะต้องดูแลคู่กรณี เงินแค่หมื่นเดียวคงไม่พอสำหรับค่าทำขวัญ เงินแค่นั้น...คงไม่ทำให้ร่างกายหายบาดเจ็บ จะว่าไปแล้ว...เขาก็ใจร้ายกับมันไปมาก ลงมือกับมันไปมากจริงๆ คิดมาถึงตรงนี้ ชายหนุ่มตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทาง จากตอนแรกจะไปรับแฟนสาวที่กองถ่ายละคร กลับขับรถมุ่งหน้าไปยังหน้ามหาวิทยาลัย จำได้ว่าสุดที่รักบอกว่าจะไปทำงานที่ร้านสะดวกซื้อหน้ามอ เมื่อมาถึงเขาจอดรถตรงตลาดนัดกลางคืนฝั่งตรงข้ามถนน ภายในซอยซึ่งเป็นด้านหลังของร้านสะดวกซื้อ ยังไม่ทันได้ก้าวออกจากรถ คนที่อยู่ในความคิดก็ปรากฏกายให้เห็น ชายหนุ่มชะงักค้าง นั่งมองเด็กหนุ่มร่างบางจากในรถ สุดที่รักในชุดพนักงานร้านสะดวกซื้อ หิ้วถุงดำใบใหญ่สองถุงออกจากหลังร้านเพื่อนำมาทิ้งถังขยะ เมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อย ก็เดินไปยังรถขายลูกชิ้นปิ้งซึ่งจอดอยู่ไม่ไกลกันนั้น ตอนแรกคิดว่าซื้อเพื่อกินเอง ทว่ากลับไม่ใช่อย่างที่คิด ลูกชิ้นปิ้งไม่ใส่น้ำจิ้ม แท้จริงแล้วคนตัวบางนำมันเอาไปให้ลูกหมาตัวน้อยตรงซอกถังขยะ เด็กคนนั้นนั่งยองใกล้ๆ ลูกหมาจรจัดสองตัวไร้ซึ่งเงาแม่ ก่อนจะเป่าไล่ความร้อนแล้วบิดฉีกลูกชิ้น วางใส่กล่องโฟมเก่าๆ ให้พวกมัน ลูกหมาตัวน้อยดีใจเดินงกเงิ่นกระท่อนกระแท่นเข้ามาหา ก่อนจะงับเศษหมูชิ้นเล็กๆ จากมือผู้ใจบุญ ไม่รู้คนใจดีพูดอะไรกับมัน แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าทำไมถึงยิ้มกว้างได้ขนาดนั้น กว้างขวางจดจ้องการกระทำ ห้วงอารมณ์กวัดแกว่งวูบไหว มีอย่างหนึ่งเกี่ยวกับสุดที่รักที่เขาสรุปได้ในวันนี้ คือคนๆ นี้ชอบช่วยเหลือผู้อื่น บทสรุปนี้ทำให้ความคิดที่มีต่อสุดที่รักเปลี่ยนไปเกือบทั้งหมด ซ้ำยังชัดเจนยิ่งขึ้น เมื่อมีโทรศัพท์สายหนึ่งช่วยยืนยัน เป็นธีที่โทรเข้ามา เขากดรับ อีกฝ่ายก็เริ่มพูดโพล่งทันที “กูรู้ละนะว่าคนถ่ายรูปมึงกับน้องมายด์เป็นใคร เด็กผู้หญิงปีหนึ่งที่บังเอิญเห็นมึงกับมายด์นัวเนียกันก่อนเข้าห้องน้ำพอดี ลงทุนเข้าไปซ่อนในห้องเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด แอบถ่ายมึงเพราะอยากรู้อยากเห็นนั่นแหละ กูไปคุยด้วยตัวเองละ ร้องห่มร้องไห้ ขอโทษใหญ่” “อืม กูไม่ติดใจเอาความอะไรแล้ว แต่บอกให้ด้วยว่าอย่าทำแบบนี้อีก” “ไอ้กว้าง แล้วมึงก็มองสุดที่รักเสียใหม่ด้วยนะ” “......” “มันไม่ได้เป็นคนแฉมึง แถมยังช่วยกันคนไม่ให้เข้าไปเห็นมึงทำอะไรกับแฟนมึงด้วย น้องคนนั้นเขาสารภาพมา บอกว่าเห็นสุดที่รักยืนมองพวกมึงอยู่นานแล้ว พอมีคนจะมาเข้าห้องน้ำ มันเลยห้ามไม่ให้เข้า ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไร แต่ที่แน่ๆ คือน้องมันช่วยมึงเอาไว้ ไม่งั้นคงมีมากกว่าหนึ่งคนที่เห็นมึงทำอะไรประเจิดประเจ้อแบบนั้น” คำบอกเล่าทั้งหมด กว้างขวางรับฟังหากแต่พูดอะไรไม่ออก ความจริงทุกอย่างกระจ่างชัด สุดที่รักเป็นเหยื่อบริสุทธิ์ ไม่ได้ทำยังไม่พอ ยังช่วยไม่ให้เขากับแฟนสาวต้อง   อับอายขายหน้าอีกด้วย ชายหนุ่มนิ่งงัน หูอื้ออึ้ง พร้อมกับทอดสายตามองไปยังคนที่กำลังลูบหัวลูกหมาตัวน้อยด้วยรอยยิ้มบาง ไม่มีพิษ...ไม่มีภัย ความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงไป ผลักดันให้กว้างขวางเลือกที่จะอยู่รอสุดที่รัก อาจเป็นเพราะอยากรู้จักตัวตนของอีกฝ่ายให้มากขึ้น และตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าสุดที่รักไม่ใช่คนร้าย หากแต่เป็นคนดีคนหนึ่ง คนอย่างกว้างขวางไม่คิดจะรอใคร มาวันนี้ก็ไม่คิดจะรอให้เสียเวลา ก้าวลงจากรถ เดินข้ามถนนเล็กๆ มุ่งตรงไปยังหลังร้านสะดวกซื้อ ทำเหมือนจะเข้าไปในร้าน แต่กลับหยุดชะงักเสียอย่างนั้น ก่อนชะโงกหน้า ชะเง้อคอมองหาใครคนนั้น ไม่รู้สุดที่รักไปอยู่ตรงไหน ถึงได้ไม่เห็นร่างบางภายในร้าน “เอาไงดีวะ” เขาพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะรู้สึกถึงแรงกระตุกรั้งตรงขากางเกง ชายหนุ่มก้มมอง เห็นลูกหมาสองตัวกำลังกัดขากางเกงของเขา ท่าทางต้วมเตี้ยมไม่ประสีประสา คงคันเขี้ยวถึงได้ทั้งดึง ทั้งทึ้งปลายกางเกงอย่างเมามัน เขาขมวดคิ้วสะบัดขาให้หลุดจากเขี้ยวเล็กๆ ก่อนจะยอบกายนั่งลง มองๆ ไปมันก็น่ารักดี เลยยื่นนิ้วชี้แหย่ให้มันแทะเล่นฆ่าเวลา หมาน้อยตัวหนึ่งแลบลิ้นเลียปลายนิ้วของชายหนุ่ม ก่อนพยายามแทะกัดเพราะคิดว่ากินได้ กว้างขวางกระตุกยิ้ม หยอกเล่นกับมันอยู่ครู่หนึ่ง ไม่นานประตูหลังร้านก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง เป็นเด็กหนุ่มนัยน์ตาเศร้าที่เขารอคอย สุดที่รักกลับออกมาเพื่อทิ้งขยะ     อีกรอบ ร่างบางเหลือบเห็นหมาน้อยกำลังกัดแทะนิ้วของกว้างขวางเล่น แทนที่เห็นว่าเป็นคนที่ควรหลีกเลี่ยง กลับปรี่เข้าไปหาอย่างคนหลงลืมตัว เพราะความเป็นห่วงมันมีมากกว่าสิ่งใด สุดที่รักคว้ามือชายหนุ่มออกจากหมาน้อย “อย่าให้หมากัดมือสิครับ!” สีหน้าเป็นกังวลปรากฏเห็นเด่นชัด รีบใช้ปลายเสื้อตัวเองเช็ดนิ้วให้ กว้างขวางมองไม่วางตา “ทำไม?” “หมาพวกนี้เป็นหมาจรจัด ยังไม่ได้ฉีดยากันพิษสุนัขบ้าอะไรเลย ถ้ามันกัดเข้าเนื้อ คุณอาจจะติดเชื้อได้นะครับ” “ห่วงเหรอ?” คำถามของกว้างขวางทำเอาสุดที่รักชะงัก สติฟื้นคืนกลับมา รีบปล่อยมืออีกฝ่าย ก่อนผุดลุกขึ้นยืนรักษาระยะห่างทันที ใครคนนี้ควรอยู่ให้ห่าง หลบให้ไกล ว่าแต่ทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้ได้... สุดที่รักอ้ำอึ้งไม่ยอมตอบคำถาม หากพูดออกไปว่าห่วง กว้างขวางคงนึกรังเกียจเขาเพิ่มมากขึ้น ใครล่ะ...จะชอบให้คนที่เกลียดมาเป็นห่วง มันคงน่าหัวเราะเยาะเสียด้วยซ้ำไป เมื่อไม่มีเรื่องให้ต้องคุยกันอีก คนตัวบางก็ทำท่าจะหนีอยู่ท่าเดียว “เดี๋ยว!” กว้างขวางก้าวยาวเข้าไปหา ดักหน้าสุดที่รักเอาไว้ “ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย” อีกฝ่ายมองมาด้วยความกริ่งเกรง แต่ก็ยอมรอฟังสิ่งที่เขาต้องการจะพูด “อาการเป็นยังไงบ้าง ให้ฉันพาไปหาหมอเถอะ” “ผมดีขึ้นแล้วครับ ไม่มีอะไรหนักถึงขั้นต้องไปหาหมอ ถ้าคุณมาเพราะเรื่องนี้ สบายใจได้ ผมไม่เรียกร้องอะไรทั้งนั้น” “เดี๋ยว! ยังมีอีกเรื่อง” เขาดักทางสุดที่รักอีกครั้ง “ฉัน...” Rrrr… เสียงโทรศัพท์ดังแทรก กว้างขวางหยิบมันขึ้นมาดู ก่อนจะพบว่าเป็นแฟนสาว   เขาลังเลที่จะรับ เพราะคนตรงหน้าเองก็ทำท่าจะไม่อยู่รอ แต่เสียงเรียกเข้าก็ดังไม่ขาดสาย จึงจำต้องรับเพื่อตัดปัญหา “มายด์ พี่อยู่แถวหน้ามอ กลับเองก่อน พี่ไม่ว่าง...ก็ไม่ว่างแล้ว เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน...มายด์ พูดรู้เรื่องหน่อยสิคะ” เมื่อเห็นท่าทางชักหงุดหงิดของชายหนุ่ม และดูเหมือนว่าคนปลายสายจะไม่ยอมความอยู่ท่าเดียว สุดที่รักจึงเลือกที่จะจากไป เพื่อให้เวลาส่วนตัวกับกว้างขวางได้คุยโทรศัพท์ ส่วนตัวเองก็จะได้รีบกลับเข้าไปทำงานต่อ “ผมขอตัวนะครับ” พูดเพียงแค่นั้นก็เดินเลี่ยงกลับเข้าไปในร้านทันที กว้างขวางร้องเรียกไว้ไม่ทัน เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ขมวดคิ้วยุ่ง สุดท้ายจำต้องยอมไปรับแฟนสาวตามที่เคยให้สัญญาเอาไว้อย่างจนใจ ส่วนคนๆ นี้ ค่อยตามหาก็แล้วกัน     หลายวันต่อมา ชีวิตสุดที่รักดำเนินไปอย่างปกติ ยังคงตื่นเช้าไปเรียนหนังสือ พอมีเวลาก็ไปทำพาร์ทไทม์ที่ร้านอาหารของพี่พลอย ตกเย็นไปทำงานที่ร้านสะดวกซื้อจนถึงเที่ยงคืน กลับมาทบทวนหนังสือ ทำการบ้านจนผล็อยหลับ ส่วนอาการเจ็บจากการถูกรถชนก็ค่อยๆ หายดีตามลำดับ เวลาไม่กี่วันเขาสามารถเดินเหินได้เป็นปกติแล้ว หากแต่ยังคงมีแผลถลอกหลงเหลืออยู่บ้าง แต่ที่สิ่งที่เจ้าตัวทำอย่างไม่ปกติในชีวิตประจำวัน นั่นคือการหลบเลี่ยงพบเจอรุ่นพี่อย่างกว้างขวาง จากที่แต่ก่อนจะพยายามหาอีกฝ่ายให้เจอ เพื่อจะได้มอง ได้เก็บภาพความทรงจำดีๆ ในแต่ละวัน ให้หัวใจพองโตยามได้รู้ ได้เห็นว่าพี่ชายคนนั้นทำอะไร กินอะไร แต่ทว่าหลังจากเหตุการณ์วุ่นวายหลายวันที่ผ่านมา ทำให้เขาต้องเปลี่ยนแปลงความคิดเสียใหม่ เปลี่ยนแปลงการกระทำที่มีต่อคนตัวสูง เลือกหลีกเลี่ยง หลบหน้าไม่ตามหา และอยู่ให้ห่างเข้าไว้ หากรู้ว่ากว้างขวางอยู่ที่ไหน ที่นั่นจะไม่มีคนชื่อสุดที่รักอยู่แน่นอน แต่ไม่รู้อะไรเล่นตลกกับเขา ถึงทำให้พี่ชายสุดหล่อมักมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวตึกครุบ่อยเหลือเกิน ไม่บ่อยธรรมดา แทบจะทุกเที่ยง แทบจะทุกเย็น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD