EP 11 : กำลังเป็นอะไร

1937 Words
“วันนี้น้องผิงแปลก ๆ” “แปลกอะไรผิงก็ปกกะ... / พี่ไม่รู้ว่าเราเป็นอะไรวันนี้ถึงแปลกไป อาจจะนึกใจดีหรือตั้งใจเข้ามาแกล้งพี่ก็ได้ แต่พี่ดีใจนะ...มันเหมือนพี่ได้เจอน้องผิงของพี่เมฆอีกครั้ง” “...” “ไอ้เถ้ามันอยู่ที่นี่ตลอด คิดถึงมันก็มาได้นะ” เขาตัดบทด้วยตัวเองซึ่งฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็ดีแล้วที่ไม่พูดอะไรไปมากกว่านี้ “พี่เมฆก็ปล่อยให้มันวิ่งเล่นอิสระสิ พื้นที่บ้านตั้งกว้าง” “กลัวเจ้าที่ว่า” เขายิ้มล้อบรรยากาศเลยดีขึ้นมานิดหน่อยเพราะฉันถลึงตาใส่เขาทันที “อย่ามากัดผิง” “หึ ๆๆ โอเคครับ ถ้างั้นต่อไปนี้พี่ขออนุญาตปล่อยไอ้เถ้าวิ่งเล่นนะครับ” “...ก็ตามใจสิคะใครห้าม”​ ฉันไม่มองหน้าเขาแต่ก้มหน้ามองไอ้ขี้เถ้าแล้วลูบหน้าลูบแก้มมันเล่นแทนโดยที่มันก็ยังนอนอยู่บนตักของพ่อมันที่ฉันรู้ดีว่าตอนนี้พ่อของไอ้ขี้เถ้าเอาแต่มองแม่ของมันตลอดเวลา บางทีฉันอาจจะมองเขาผิดไปก็ได้...มั้ง ก็ขอให้เป็นแบบนั้นนะคะ ขออย่าให้ฉันคิดผิดเลย... -วันต่อมา- “ตื่นเช้าจังเลยค่ะคุณผิง” “เมื่อคืนนอนเร็วผิงเลยตื่นเช้า มีอะไรกินพี่มี่” “มีข้าวต้ทกระดูกหมูค่ะ” ได้ยินเมนูอาหารเช้าที่กินเกือบทุกวันก็อารมณ์ดีเลยค่ะเพราะว่ามันคือเมนูโปรดของน้ำผิง “มีไข่ยางมะตูมไหม?” “มีสิคะ คุณเมฆไม่ลืมทำให้คุณผิงอยู่แล้วค่ะ” ขวับ! “อะไรนะ?” ฉันที่เดินนำหน้าไปห้องอาหารหันกลับไปถามพี่มี่ทันทีส่วนแม่บ้านคนสนิทก็ทำหน้าตะลึงเหมือนตัวเองเผลอหลุดปากพูดอะไรออกมา “เอ่อ พี่มี่บอกว่าป้าแก้วไม่ลืมทำให้คุณผิง... / เอาความจริงพี่มี่?” พี่มี่ยังพูดไม่จบฉันก็พูดแทรกด้วยเสียงกดดันเพราะฉันมั่นใจว่าก่อนหน้านี้หูไม่ได้ยินคำว่าป้าแกวเลยสักแอะ “เอ่อ...” “พูดเดี๋ยวนี้พี่มี่” ฉันกดดันแม่บ้านคนสนิทก็หน้าเจื่อนทันที “คือ...คุณเมฆทำให้แล้วค่ะ” “หมายความว่ายังไง?” ทำไมพี่เมฆต้องทำให้ฉันไม่เข้าใจ “ก็...คุณเมฆตื่นเช้ามาทำอาหารเช้าค่ะ คุณผิงขา คุณผิงอย่าบอกคุณเมฆนะคะว่าพี่มี่บอกไม่งั้นคุณเมฆดุพี่มี่แน่ ๆ” พี่มี่ขอร้องฉันพร้อมกับทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ “เขาทำอาหารวันนี้เหรอ?” “ค่ะ” “ครั้งแรกรึเปล่า?” ฉันจ้องพี่มี่เขม็งแม่บ้านคนสนิทของฉันก็ทำหน้าลำบากใจ โอเคค่ะเห็นหน้าตาก็รู้แล้วว่าไม่ใช่ครั้งแรกแน่นอน “อย่าบอกนะว่าข้าวต้มกระดูกหมูคือฝีมือพี่มือทุกครั้ง?” “คือ...” โอเคค่ะ รู้แล้ว ได้คำตอบแล้ว “ทำไมพี่มี่ไม่บอกผิง” ฉันต่อว่าแม่บ้านคนสนิททันที จ้องเขม็งเพราะเคยบอกแล้วว่ามีอะไรต้องรายงาน แต่นี่คนที่ทุกคนในบ้านรู้ว่าฉันไม่กินเส้นมาทำอาหารเช้าเมนูโปรดให้ฉันกินบ่อย ๆ แต่ดันไม่รายงานนี่นะ? “ก็...ก็พี่มี่สงสารคุณเมฆนี่คะคุณผิง” พี่มี่ก้มหน้า เอามือมาประสานกันไว้แล้วบอกฉันเสียงสั่นในขณะที่ฉันกำลังยืนกอดอกจ้องพี่มี่เพี่อไต่สวนโทษ “สงสารอะไร?” “...คุณผิงขา คุณผิงไม่เคยเห็นตอนคุณเมฆตื่นเช้ามาทำอาหารให้คุณผิงทานเหมือนพี่มี่นี่คะ” “แล้ว?” “คุณเมฆตั้งใจทำมากนะคะ รีบตื่นแต่เช้ามาทำตลอดแล้วก็ต้องรีบกลับไปอาบน้ำแล้วกลับมาให้ทันกินข้าวเช้าพร้อมคุณผิง” “...” “พี่มี่รู้ค่ะว่าควรรายงานคุณผิงทุกอย่าง แต่พี่มี่ไม่กล้าทำลายความตั้งใจของคุณเมฆเรื่องนี้เลยค่ะ คุณเมฆตั้งใจทำข้าวเช้าให้คุณผิงมากนะคะ” “...” ฉันยืนฟังเงียบ ๆ จนกระทั่งพี่มี่เงยหน้ามองฉันอีกครั้งพร้อมกับน้ำตาที่คลอออกมา “พี่มี่ขอโทษนะคะคุณผิง แต่คุณผิงอย่าโกรธคุณเมฆเลยนะคะ อย่าไปว่าคุณเมฆเลยค่ะวันไหนคุณเมฆทำพี่มี่จะรีบรายงานคุณผิงจะได้ไม่ต้องฝืนทาน” “...ไร้สาระ” ฉันว่าออกมาเบา ๆ แล้วหันหลังเดินไปทางเดิมที่ตั้งใจจะไปโดยที่ไม่พูดอะไรออกมาอีก ฉันมาถึงห้องอาหารก็ไม่มีใครอยู่หรอกค่ะมีแค่พี่มีที่เดินตามหลังมา “คุณผิงขา คุณผิงจะให้พี่มี่ทำอาหารอย่างอื่นให้ทานไหมคะ” น้ำเสียงกล้า ๆ กลัว ๆ เอ่ยถามออกมา “มีอะไรก็เอาอันนั้นมานั่นแหละพี่มี่ จะทำให้เสียเวลาทำไม” ฉันดุนิดหน่อยแล้วนั่งลงที่เก้าอี้เพื่อรออาหารเช้ามาเสิร์ฟ “ดะ ได้ค่ะ ได้ค่ะคุณผิง” พี่มี่ยิ้มดีใจก่อนจะรีบกุลีกุจอเดินไปที่ห้องครัวจากนั้นไม่นานเสียงฝีเท้าก็ดังเข้ามาอีกครั้ง “ผิงไม่เอากาแฟ...อ้าว มากินข้าวเช้าเหรอคะ” ไม่ใช่พี่มี่แต่เป็นพี่เมฆของคุณแม่ต่างหากฉันเลยทักทายเขาซึ่งแน่นอนว่าคำทักทายของฉันทำเขาชะงักพร้อมกับสีหน้าแปลกใจนิดหน่อย “ครับ” พี่เมฆตอบพร้อมพยักหน้ารับแล้วเดินมานั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม “ทำอาหารเช้าให้ไอ้ขี้เถ้าแล้วเหรอคะถึงมากินข้าว” “ทำแล้วสิ” เขายิ้มตอบรับ “แล้วทำไมไม่ทำอาหารเช้าของตัวเองด้วยล่ะ ง่ายกว่าเดินมากินที่นี่อีกมั้ง” ฉันแอบแขวะเขานิดหน่อย “หึ ๆๆ ไม่ล่ะ พี่ไม่ชอบทำกินเอง ชอบทำให้คนที่รักกินมากกว่า” น้ำเสียงสบาย ๆ ตอบออกมาแล้วเขาก็จับรีโมททีวีมากดเปิดเหมือนตอบเล่น ๆ ไม่ใส่ใจอะไรแต่มันกลับทำให้ฉันเงียบไม่พูดอะไรต่อเหมือนกัน ...ชอบทำให้คนที่รักกินมากกว่า ไอ้ขี้เถ้ามันใช่คนที่ไหนล่ะ -_- ยังไม่ได้คุยอะไรกันต่อพี่เอื้องก็ยกอาหารเช้ามาพร้อมกับกาแฟหอม ๆ “อยากกินปาท่องโก๋จัง” “อะไรนะ?” “ผิงบอกว่าอยากกินปาท่องโก๋ ไม่ได้กินนานแล้ว กินปาท่องโก๋กรอบ ๆ ร้อนตอนเช้าอร่อยจะตาย” “พี่ไปซื้อให้ไหม” เขายิ้มถามบาง ๆ ฉันก็ตาโตสิคะ “ได้เหรอคะ แต่ไม่เป็นไรหรอกพรุ่งนี้ผิงค่อยฝากพี่มี่ซื้อจากตลาด” “ได้สิ หิววันนี้ก็กินวันนี้ พี่ปั่นจักรยานออกไปซื้อแป๊บเดียว กลางซอยมีร้านขาย” “ผิงไม่ได้ใช้พี่เมฆนะ” “หึ ๆๆ พี่รู้ครับ เดี๋ยวพี่ไปซื้อให้ตอนนี้เลย” เขาพูดขึ้นแล้วก็ลุกขึ้นแต่พอทำท่าจะเดินออกไปก็หันกลับมามองฉันแถมยังทำหน้าเขิน ๆ ยังไงก็ไม่รู้ ฉันคิดแบบนั้นนะ เหมือนเขาเขิน “อะไรคะ?” “พี่ไม่ได้พกเงินมา ขอยืมเงินหน่อย” ฮ่า ๆๆ นึกว่าอะไร แต่ก็ตลกเหมือนกันนะคะ คุณเมฆาทายาทศิริชนันท์กรุ๊ปมาขอยืมเงินฉันไปซื้อปาท่องโก่ แทนที่จะขอเงินกันตรง ๆ เพราะที่ไปซื้อก็ไปซื้อให้ฉันกิน น่ารัก เอ่อ...ตลกเป็นบ้า “ไม่” ฉันตีหน้าขรึมตอบกลับไป “น้องผิง พี่ยืมแค่ยี่สิบบาทเอง” “ดอกยี่สิบละร้อย” ฉันตอบกลับไปคนที่กำลังทำหน้าเซ็งเพราะฉันบอกว่าไม่ให้ยืมถึงกับหลุดขำยิ้มกว้างออกมาทันที “หึ ๆๆ เขามีแต่ดอกร้อยละยี่สิบ” “เจ้านี้ดอกเท่านี้ ไม่โอเคก็ไปยืมเจ้าอื่นเลยค่ะ” “โอเคครับเจ้าหนี้คิดดอกได้เลยแต่ตอนนี้เอาเงินมาให้พี่ยืมก่อนเร็ว” “รอก่อนค่ะเงินอยู่บนห้อง” ฉันบอกเสร็จก็ลุกขึ้นแล้วเดินกึ่งวิ่งขึ้นไปหยิบเงินมาให้เขาทันที “อ่ะ ขอน้ำเต้าหู้ด้วยนะพี่เมฆ” ฉันยื่นเงินแบงค์ร้อยให้เขาแล้วก็สั่งของกินเพิ่ม “ครับผม” เขารับเงินพร้อมกับตอบรับแต่ฉันไม่ยอมปล่อยเงินให้เขาง่าย ๆ ตอนนี้เลยดึงเงินกันทั้งสองฝ่าย “มีอะไร” “ดอกเบี้ย เอาไปร้อยนึงดอกเท่ากับห้าร้อยนะคะคุณเมฆา” “หึ ๆๆ พี่ให้หนูหนึ่งพันเลย” “...” ฉันรีบปล่อยเงินทันทีที่เขาพูดจบส่วนพี่เมฆก็ยังยิ้มละมุน “ใส่น้ำตาลไหม หวานน้อยหมือนเดิมรึเปล่า” “อื้อ” “โอเคครับ ไปกินข้าวเถอะ” เขาบอกแล้วก็หันหลังเดินออกไปทันทีส่วนฉันน่ะเหรอ ...อยากปั่นจักรยานไปซื้อปาท่องโก๋กับพี่เมฆเหมือนตอนเป็นน้องมอต้นที่พี่มอปลายปั่นพาไปซื้อน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋กินทุกเช้าวันหยุดจัง -เวลาต่อมา- “มาแล้วครับ” เขาหายไปประมาณ 10 นาทีได้มั้งก็เดินกลับมาพร้อมถุงปาท่องโก๋ที่หอมฉุย~ ฉันได้กลิ่นปาท่องโก๋ก็วางโทรศัพท์ที่กำลังเล่นทันที “เจ้าเดิมเปล่าคะ” “พี่ไม่ซื้อเจ้าอื่นให้โดนบ่นหรอก” “ชิส์~” โดนเขาล้อด้วยรอยยิ้มฉันก็ย่นจมูกใส่ทันทีแต่หางตารู้สึกเหมือนเห็นอะไรแปลก ๆ เลยหันไปมอง “ไม่มีอะไรทำเหรอคะพี่เอื้อง? พี่มี่ด้วย” ฉันเห็นพี่เอื้องกับพี่มี่ยืนยิ้มเลยถามออกไปด้วยน้ำเสียงดุสองสาวเลยยิ้มเจื่อนแล้วรีบหันหลังเพื่อเดินออกไป “เดี๋ยวก่อนเอื้อง” “คะคุณเมฆ” “สองถุงนี้ของทุกคน” เขายื่นปาท่องโก๋สองถุงให้พี่เอื้องเลยยิ้มดีใจแล้วรีบเดินมาเอาปาท่องโก๋ไปส่วนเขาก็หันกลับมาแล้วแกะหนังยางของถุงน้ำเต้าหู้เพื่อใส่แก้วที่ฉันให้พี่มี่เอามาให้ก่อนหน้าแล้ว “ทำไมยังไม่กินข้าว” ระหว่างที่กำลังแกะหนังยางเขาก็มองมาที่ชามข้าวต้มของฉัน “ก็รอพี่เมฆไง” ฉันตอบพร้อมกับหยิบปาท่องโก๋เข้าปาก กรอบมาก~ ยังร้อน ๆ อยู่เลย แต่อีกคนดันนิ่งไปฉันเลยต้องมองหน้าเขา ยกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นเพื่อถามว่า มองเพื่อ? ทั้งที่ปากก็ยังเคี้ยวปาท่องโก๋ตุ้ย ๆ “...ขอบคุณครับ” “ขอบคุณเพื่อ? ผิงแค่อยากกินปาท่องโก๋กับข้าวต้มเลยรอ” ฉันตอบออกไปแต่เขาก็ยังยิ้มเหมือนเดิม “พี่ว่ามันไม่ค่อยเข้ากันนะ” “วันหลังก็ทำโจ๊กสิ” “อะไรนะ?” “เปล่าค่ะ จะแกะเสร็จไหมนั่น?” ฉันเปลี่ยนเรื่องทันทีหลังจากรู้ว่าตัวเองเผลอหลุดปากพูดออกไปพี่เมฆเลยไม่ได้พูดอะไรต่อนอกจากแกะน้ำเต้าหู้ใส่แก้วให้ฉันแล้วก็กินข้าวกันเงียบ ๆ มีคุยกันบ้างนิดหน่อยซึ่งมันแตกต่างจากปกติมาก แต่ก็ช่างเถอะ พักปากพักสมองไม่หาเรื่องเขาบ้างจิตใจตัวเองก็สงบเหมือนกัน ที่สำคัญได้กินข้าวโดยที่ไม่ทะเลาะกันเหมือนเมื่อก่อนฉันว่าตัวฉันก็...มีความสุขดีนะ “...” ฉันนั่งทบทวนอะไรบางอย่างในใจแล้วแอบมองเขาที่กินข้าวเงียบ ๆ สลับกับมองทีวีที่มีข่าวเช้าอยู่หลายครั้งแล้วในใจก็เกิดความรู้สึกแปลก ๆ นี่ฉัน...กำลังเป็นอะไร
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD