6|

843 Words
“หั่นแบบไหนคะ แบบนี้เหรอคะ” “ใช่ค่ะ เคยทำอาหารใช่มั้ยคะ หั่นสวยเชียว” ถูกคุณแม่ครัวชมจนเขิน ที่จริงมันก็ไม่ได้ยากอะไรแค่เต้าหู้ถั่วเหลือง “นานาเคยทำมาบ้างค่ะ” อยู่กับแม่บางวันฉันก็ต้องทำกับข้าวกินเองเพราะแม่ต้องออกไปขายของแต่เช้ากว่าจะกลับเข้าบ้านก็เกือบเที่ยง พอมาถึงก็นอนเก็บแรงไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องเตรียมของไปขายช่วงเย็นต่อ ได้แต่งงานกับคุณหิรัญ ชีวิตฉันก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ จะให้ชินแล้วปรับตัวเร็ว ได้ยังไงกัน “คุณหิรัญชอบทานอาหารไทยมาก โดยเฉพาะผัดไทยค่ะ” ตานั่นน่ะเหรอชอบผัดไทย นึกว่าจะชอบอาหารฝรั่งมากกว่าเสียอีก “สอนนานาบ้างได้มั้ยคะ นานาไม่เอาสูตรไปขายแน่นอนค่ะ” “คุณนานา” ฉันโดนพี่จันทร์ปราม “นานาแค่ล้อเล่นค่ะ ไม่อยากให้ทุกคนเครียด นานาก็อยากดูแลคุณหิรัญบ้างเหมือนกัน ไม่ได้อยากเก็บตัวอยู่ในห้องแล้วเอาแต่สั่งๆ ตลอดไปหรอกค่ะ” ฉันก็อยากทำความรู้จัก อยากพูดคุยกับทุกคนในบ้าน อย่าทำเหมือนฉันเป็นผู้หญิงที่ไม่เอาไหนเลยนะ ฉันผ่านอะไรมาตั้งมากมาย ขอให้คนที่นี่ใจดีกับฉันบ้างเถอะ ฉันอยากเริ่มต้นใหม่ชีวิตจริงๆ “อยากทำอะไรคุณนานาต้องแจ้งก่อนล่วงหน้านะคะ ป้าจะได้เตรียมของเอาไว้ให้” “ขอบคุณค่ะ” ฉันไม่รู้ว่าทุกคนดีกับฉันเพราะเกรงใจคุณหญิงหรือเปล่า “พี่จันทร์คะ” “เป็นอะไรคะ หน้าดูไม่ดีเลย ปวดท้องหรือเปล่าคะ อุ๊ยๆ คุณนานา” ระหว่างที่กำลังคลุกเคล้าเส้นให้เข้ากับซอสอยู่นั้นฉันก็รู้สึกปวดท้องขึ้นมา มันกะทันหันและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนฉันแทบยืนไม่ไหว “ปะ ปวดท้องค่ะ” “ปวดมากเลยเหรอคะ ไปบอกคุณหิรัญให้ที คุณนานาใจเย็นๆ นะคะ” ยังได้ยินเสียงพี่จันทร์แล้วก็ทุกคนที่กำลังวิ่งกันให้วุ่น บ้าจริง เข้าครัววันเดียวก็ทำให้ทุกคนวุ่นวายกันไปหมด “พี่จันทร์ นานาปวดตรงนี้ พี่หมอเกรซบอกว่า เครื่องนั่นมันอยู่ตรงนี้” ฉันชี้บอกตำแหน่งที่ปวดให้พี่จันทร์รู้ก่อนที่ตัวเองจะหมดสติ “คุณนานาอย่าเพิ่งหลับนะคะ” “จันทร์! ฉันบอกให้พายัยนี่กลับห้อง ทำไมถึงขัดคำสั่ง” “คุณหมอ ช่วยคุณนานาด้วยค่ะ เธอบอกปวดตรงนี้” พี่หมอเกรซยังอยู่เหรอ ค่อยยังชั่ว นึกว่าฉันจะต้องทำมากกว่าผัดไทยเพื่อตอบแทนเขาซะแล้ว “ตรงนี้ใช่มั้ย” “โอ๊ย” “โอเค มันไม่ใช่แค่ไมโครชิพ มันป้อนบางอย่างเข้าไปในนั้นด้วย ต้องผ่าตัดด่วน ตอนนี้ เดี๋ยวนี้” ภาพตรงหน้าของฉันเริ่มเลือนราง เสียของทุกคนก็เริ่มเงียบลงเรื่อยๆ ได้ยินเพียงเสียงเต้นของหัวใจ “กูขับรถเอง” และเสียงของเขา หลายเดือนต่อมา “นานา วันนี้ไปตลาดนัดข้างมอกันมั้ย” “วันนี้ไปไม่ได้” “แฟนมารับเหรอ” โซ่ขยับเข้ามาใกล้แล้วคล้องแขนถามเรื่องคนมารับ “คุณหิรัญมารับ” “ก็นั่นแหละ เป็นแฟนกันทำไมต้องเรียกคุณ ดูห่างเหินชะมัด” ฉันยิ้มตอบไม่ได้พูดอะไรต่อ “แล้วโซ่กลับยังไง” “พร้อมแข ว่าจะไปเดินตลาดนัดก่อน” แขวิ่งมาพร้อมกับน้ำผลไม้แก้วใหญ่ หลังจากเรื่องทุกอย่างเรียบร้อย คุณหิรัญก็ให้ฉันเรียนต่อมหาวิทยาลัย ทำให้ฉันมีเพื่อนแล้วก็มีความรู้เพิ่มขึ้น ฉันติดหนี้เขาหลายอย่างมันมากเสียจนไม่รู้จะตอบแทนยังไง “ไม่ไปจริงเหรอนานา” “ไปไม่ได้ มีธุระ” “โซ่ งั้นเราไปก่อนดีกว่า” “ไปนะ นานา” ฉันยกมือโบกไปมาให้กับโซ่และแข แม้ในใจจะอยากไปด้วยมากแค่ไหนก็ต้องห้ามใจเพราะวันนี้คุณหิรัญจะมารับ ฉันไม่รู้หรอกว่าเขาจะพาไปไหน เรื่องธุระที่บอกเพื่อนไปก็แค่ข้ออ้างเท่านั้น ยืนรออยู่สักพักรถตู้ของคฤหาสน์ก็ขับเข้ามา พอรถจอดประตูเปิดฉันก็รีบก้าวขึ้นรถเพราะไม่อยากเป็นจุดสนใจ “อายมากหรือไงที่ฉันมารับ” “เปล่าค่ะ” “เรียนเป็นยังไง” “ดีค่ะ” ฉันรู้สึกประหม่าทุกครั้งที่ต้องอยู่ใกล้เขา “อืม ดีแล้ว ฉันไม่อยากให้แม่หนักใจเรื่องนี้” “ค่ะ” ที่แท้ก็เป็นห่วงคุณหญิง เขายังกลัวว่าฉันจะทำให้เขาเสียหน้า “นานาจะไม่ทำให้คุณหิรัญเสียหน้าแน่นอนค่ะ” เขาพาฉันมาส่งที่บ้าน แล้วก็ออกไปข้างนอกต่อ พอลงรถฉันก็หยิบมือถือขึ้นมาแล้วเลื่อนหน้าจอเป็นแอปพลิเคชันไลน์ สองคนนั้นส่งรูปมาอวด ทั้งของกินและถุงเสื้อผ้าเต็มมือ “อยากไปจัง” ________________
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD