สำหรับอาโปฉันเข้าใจว่าทำไมเขาชอบฉันเพราะว่าฉันตั้งใจทำให้เขามาชอบและสนใจในตัวของฉันน่ะสิ แต่ว่าเซย์...ฉันยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อยคุยแทบไม่ได้คุยและก็บ่อยครั้งที่ฉันไล่เขาไปไกล ๆ แต่ทำไมเขากลับมาชอบฉันได้ล่ะ?
“ผู้ชายสองคนชอบเธอจะเอาไงเยลลี่?” เพื่อนของเซย์ถามฉัน
“....” ฉันมองหน้าของทั้งสองก่อนจะเดินออกมาเลยเพราะฉันไม่รู้เหมือนกันว่าต้องทำยังไงเหมือนกันแต่ฉันต้องเล่นตัวกับอาโปหน่อย ส่วนเซย์สถานะคือเครื่องมือชั้นดีน่ะสิ
“เฮ้ย!!”
“ไปง่าย ๆ แบบนี้เลยเร๊อะ?!” เสียงของคนพวกนั้นโวยวายแต่ฉันก็ไม่ได้สนใจหรอก
หมับ!
“เยลลี่!” อาโปตามฉันมาและคว้ามือของฉันเอาไว้ฉันเลือกเดินมาที่ ๆ ไม่มีคนเท่าไหร่เพราะรู้ว่าต้องมีใครสักคนตามมาอย่างแน่นนอนและมันก็ดีมากที่เป็นอาโปไม่ใช่เซย์ หรือไม่เขาเองก็ตามมาเหมือนกันแต่ไม่ทันอาโปและตอนนี้อาจจะกำลังแอบฟังอยู่ที่ไหนซักที่ก็ได้ตอนนี้
“...?”
“เราชอบเธอ”
“อืม” ฉันรู้แล้วและจะบอกทำไมอีกล่ะ?
“....”
“เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับเราหน่อยเหรอ?” เหมือนว่าเขาจะผิดหวังมากที่ฉันไม่ได้แสดงอาการอะไรออกไปมากนัก
“ไม่รู้สิ...”
“เราคิดว่าเยลลี่ก็คิดเหมือนกันซะอีก” เขาจับมือของฉันลูบที่หลังมือเบา ๆ เขากัดริมฝีปากตัวเองนิดหน่อย
“ก็ไม่เชิงหรอกแต่เราคิดว่าอาโปอาจจะไม่ได้ชอบเราจริง ๆ ” การแสดงกำลังเริ่มขึ้นแล้ว
“ทำไมคิดแบบนั้นล่ะ?”
“วันนี้เราทำตัวห่างจากอาโปใช่ไหม?” ฉันแกล้งก้มมองพื้นดินและเขี่ยเท้าไปมาเหมือนกำลังไม่แน่ใจหรือลังเล
“ใช่ทำไม...ทำแบบนั้นล่ะ?”
“ความจริง...เมื่อวานเราเห็นอาโปอยู่กับผู้หญิงคนอื่นท่าทางจะสนิทกันเราเลยคิดว่าทั้งคู่อาจจะกำลังคบกันอยู่ และมันคงไม่ดีนักถึงเราจะไปสนิทกับอาโปแบบนั้น” ฉันไม่ได้เห็นแต่เป็นรายงานจากคนที่ฉันส่งให้ไปตามสืบเรื่องของอาโปตลอด 24 ชั่วโมงต่างหากและผู้หญิงคนนั้นก็ได้ข่าวว่าเป็นคู่นอนที่อาโปใช่บริกาอยู่บ่อย ๆ ว่านอนสอนง่ายหัวอ่อนและเชื่อทุกอย่างที่อาโปพูด
“เฮ้ย! ไม่ใช่นะ!!” เขารีบปฏิเสธทันที
“เหรอเราเห็นสนิทกัน...” ไม่ได้เห็นอะไรทั้งนั้นแหละ
“ไม่ได้สนิทเลย! เยลลี่ตอนนี้ผู้หญิงที่เราสนใจมีแค่เธอคนเดียวนะ ^^” เขายิ้มให้เพื่อแสดงความจริงใจ
“เหรอ...เราคิดไปเองสินะ แหะ ๆ” แกล้งยิ้มแห้งหน่อย
“ซื่อบื้อจังนะทำไมไม่มาถามก่อนล่ะ?” หมับ! เขามือวางของตัวเองที่หัวของฉัน
“เราจะไปถามได้ยังไงเราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย คนรู้จักจะได้เป็นหรือยังก็ไม่รู้..”
“ตอนนี้เยลลี่เป็นมากกว่าคนรู้จักแล้ว”
“...?” ฉันเอียงคอสงสัย
“แต่เป็นคนที่เราชอบไง ^-^”
“อื้ม! ^^”
“แล้วเยลลี่ล่ะชอบเราไหม?” เขาถามฉัน
“เอ่อ เรื่องนั้นเราไม่แน่ใจหรอกแต่ว่า...ก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรออกจะชอบละมั้ง?”
“หึ ถ้างั้นก็ใจเย็นก่อนก็ได้ไว้มั่นใจค่อยบอกเรา งั้นตอนนี้เราตกลงเป็นคนคุยกันก่อนดีไหมลองคุย ๆ กันดูก่อน”
“ได้สิ!”
พรึ่บ! เขาดึงฉันเข้าไปกอดเอาไว้
“ดีใจจังที่เยลลี่ยอมให้โอกาส เราจะทำให้ดีที่สุดเลย!” เขาบอกอย่างดีใจ
“อืม อย่าทำให้เราผิดหวังแล้วกัน”
“งั้นเราไปเรียนกันไหม?” เขาถาม
“พอดีวันนี้เราไม่มีคาบเรียนแล้วน่ะ อาโปไปเรียนเลยก็ได้”
“งั้นขอเบอร์ ขอไอจี ขอทุกอย่างหน่อยสิ” เขายื่นโทรศัทพ์มาให้ฉันก็รับไว้และบันทึกทุกอย่างที่เขาต้องการไป
“นี่”
“ขอบคุณครับ ^^”
“ไปเรียนได้แล้วตั้งใจเรียนล่ะ” เพราะถ้าไม่ตั้งเรียนพ่อของนายคงผิดหวังน่าดู
“รับทราบครับ ฟอดดด!!”
“อ๊ะ!!”
“คิดว่าเป็นกำลังใจแล้วกัน ไปล่ะ” เขาหอมแก้มของฉันหน้าตาเฉย ๆ ก่อนจะเดินออกไปด้วยท่าทางร่าเริง
“เหอะ!!” เมื่อเขาเดินออกไปแล้วฉันก็หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมา ก่อนจะฉีดแอลกอฮอล์และเช็ดแก้มตัวเองที่โดนเขาหอมแก้ม โดนจับมือก็เช็ดมือ
สกปรก...
“ออกมาได้แล้ว...” ฉันพูดขึ้นเพราะรู้มีใครบางคนกำลังแอบฟังอย่างไม่มีมารยาท แปะ! แปะ! แปะ!
“นอกจากจะเล่นเจ็ตสกรีนเก่งแล้ว ยังแสดงละครเก่งอีกด้วยเหรอเนี่ย?” เซย์ตบมือและพูดจากวนประสาท
“....”
“กับฉันไม่เห็นเหมือนพูดกับมันเลย”
“.....” ฉันมองหน้าของเขา
“เฮ้อออ~ แต่ช่างเถอะเพราะถ้าเธอทำแบบนั้นกับฉันแต่ไม่ได้จริงใจก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก”
“แล้วไง?”
“ฉันอยากให้เธอทำกับฉันด้วยความจริงใจมากกว่า ฉันชอบเธอนะเยลลี่”
“แต่ฉันไม่ได้ชอบนาย” ฉันสวนกลับทันที
“ไม่ได้ชอบฉันแล้วชอบไอ้อาโปหรือไง?” เขาเลิกคิ้วถามยื่นหน้ามาใกล้ฉัน
“....” ไม่ได้ชอบใครทั้งนั้นแหละ ปัญญาอ่อนทั้งคู่
“ไม่เลยเธอก็ไม่ได้ชอบมันเหมือนกัน หึ! มันทำอะไรให้เธอนักหนาเหรอถึงพยายามเข้าหามันขนาดนั้น?”
“ไม่ใช่เรื่องของนาย”
“เยลลี่เธอรู้ไหมว่าทำไมมันถึงเกลียดฉัน?” เขาถามพร้อมกับหยิบบุรี่ขึ้นมาดูด
“ไม่อยากรู้” จะเพราะอะไรล่ะถ้าไม่ใช่เพราะเขาไปรู้เรื่องอะไรบางอย่างของอาโปมา
ฉันเคยบอกไปหรือยังว่าอาโปมีอีกด้านที่ไม่มีใครรู้และแน่นอนว่ามันเป็นความลับ แต่ฉันก็หามาได้ไม่สิหยินเอามาให้ต่างหาก และแน่นอนว่าเซย์ที่มีน้องและแม่เป็นแฮกเกอร์ก็ต้องรู้อะไรบางอย่างแน่นอนและที่อาโปยังปล่อยไว้... ไม่สิ เพราะอาโปไม่มีทางทำอะไรเซย์ได้ต่างหากล่ะ ตระกูลเขามันยิ่งใหญ่อยู่แล้วไงล่ะ =_=
“เพราะฉันไปรู้เรื่องบางอย่างของมันยังไงล่ะ?” ฉันว่าฉันพูดว่าไม่อยากรู้นะ
แต่เขามันก็พวกเอาแต่ใจไม่ฟังใครอยู่แล้วนิเพราะงั้นไม่ว่าฉันจะตอบอะไรไปเขาก็ไม่สนใจและเอาตัวเองเป็นที่ตั้งอยู่แล้ว
“...”
“เพราะงั้นถ้าเธออยากแก้แค้นมันหรือทำอะไรมันฉันจะช่วยเอง”
“ไม่ต้อง”
“หึ มันอันตรายที่พูดเนี่ยเป็นห่วงรู้ไหม?” แววตาของไม่โกหกแต่ฉันไม่เชื่อใจใครทั้งนั้น
“...คิดว่าไม่เตรียมตัวตายหรือไง?”
“เยลลี่”
“ฉันจัดการเรื่องของฉันเองได้ และถ้านายอยากเอาเรื่องที่ตัวเองรู้ดีไปนักบอกอาโปก็เชิญ” ฉันพร้อมฉิบหายอยู่แล้วแหละ
ขึ้นชื่อว่าแผนการมันไม่มีทางสมบูรณ์ต่อให้เราพยายามวางแผนมาดีแค่ไหนแต่เราก็ไม่อาจจะรู้ผลของมันได้ แผนมันสามารถเปลี่ยนไปได้ตามสถานการณ์และตอนนี้นอกจากเซย์จะเป็นเครื่องมือแล้วเขายังเป็นอุปสรรคอีกต่างหาก
เพราะเขาฉลาดและรู้ทันมากเกินไป... เขารู้ว่าฉันกำลังวางแผนทำอะไรกับอาโป เขารู้ว่าฉันพยายามเข้าหาอาโป และรู้ว่าฉันไม่ได้ชอบเขา...
“จิ๊!” ฉันอดไม่ได้ที่จะหงุดหงิดออกมา ฉันสามารถควบคุมแผนการได้แต่ไม่สามารถควบคุมปัญหาแวดล้อมภายนอกไว้ได้และเซย์ก็คือปัญหาที่ว่านั่น
“หงุดหงิดที่ฉันรู้ทันเธอเหรอ?”
“...” เออไง!!อยากตะโกนออกไปแบบนั้นแต่ในเวลานี้ฉันต้องนิ่งให้ถึงที่สุดเพื่อให้เขารู้ว่าฉันไม่กลัวอะไรทั้งนั้น
“หืมว่าไงคนเก่ง?” เขาเดินเข้ามาและมองหน้าของฉันก่อนจะขมวดคิ้วนิดหน่อยเป็นบ้าอะไรอีกเนี่ย?
“...”
“อ่อ มันหอมแก้มด้วยนิ”
“ฉันเช็ด...”
“ฟอดดดดดดดดด!!ฉันช่วยแล้วกัน^^” หน้ามึน กวนตีนที่สุด
“...” แปะ! ฉันใช้ผ้าพื้นเดิมขึ้นมาเช็ดอีกครั้ง
“นั่นอะไร?”
“...” พรึ่บ!! ฉันไม่ตอบแต่ให้เขาดมแทนเป็นหมอน่าจะรู้นะว่ามันคืออะไร
“แอลกอฮอล์? นี่เธอรังเกียจฉันจนใช้แอลกอฮอล์เช็ดเลยเหรอวะ?!” เขาโวยวาย
“กับอาโปฉันก็เช็ดเหมือนกัน...”
“เหรอ?” นี่เขาไม่แหกตามองเลยหรือไง?
“อืม”
“แปลว่าเธอก็รังเกียจมันน่ะสิ...” จะตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น
“ใช่ ฉันรังเกียจอาโป ขยะแขยงและอยากอ้วก”
“อ่า~งั้นเองสินะ” หมับ! เขากอดอกและยิ้มกว้างอย่างสะใจกับสิ่งที่ได้ยิน
“แต่ทั้งหมดฉันก็เป็นกับนายด้วยเหมือนกัน =_=”
“ห๊า?! ยะยัยตัวแสบ!!!ทำไมปากร้ายจังวะหะ?!”
“ถ้าไม่อยากโดนด่า ก็อย่ามายุ่งวุ่นวายกับแผนการของคนอื่นถ้าฉลาดมากนักก็เอาเวลาเรียนไปและรักษาคนซะไม่ใช่มาฉลาดเรื่องของคนอื่น”
“โอ๊ยยย!!เยลลี่!!นั่นปากใช่ไหม?!” เขาโวยวาย
“ตีนมั้ง =_=”