ฉันเดินผ่านเซย์ออกมาสนใจแล้วยังไงล่ะ?
ตอนนี้ฉันไม่มีเวลามาสนใจเรื่องส่วนตัวหรอกนะหมายถึงเรื่องหัวใจอะไรทำนองนั้นมันเป็นเรื่องไร้สาระสำหรับฉันมากเลย ความรู้สึกรักมันเป็นสิ่งแรกที่ฉันตัดออกไปจากชีวิตการไปรู้สึกอะไรกับใครนั้นมันเป็นอุปสรรคในการแก้แค้นยังไงล่ะ!
หมับ!!
“เดี๋ยว!” เขาไม่ยอมปล่อยฉันไปง่าย ๆ เดินตามมาก่อนจะมองที่ช่วงเอวของฉันไม่สิเข้ากำลังมองเสื้อที่ผูกเอวฉันอยู่ต่างหาก
“....”
“เสื้อของมันทิ้งไปซะ...” พรึ่บ! เขาบอกโดยไม่รอฉันอนุญาตปลดเสื้อของอาโปออกและโยนทิ้งถังขยะไปทันทีและเอาเสื้อของตัวเองมาใส่แทน
“....?”
“เสื้อของมันเห็นแล้วมันหงุดหงิด หึ”
“ฉันบอกให้ไส...”
“ไสหัวไป...ก็ฉันไม่อยากไปอ่ะเธอจะทำไมเหรอ?” เขาพูดพร้อมยื่นหน้าเข้ามาใกล้หน้าของฉัน ทำให้ฉันเห็นว่าหน้าของเขาแม่งหล่อจริงไม่มีสิว ไม่มีริ้วรอย ไม่มีจุดด่างดำเลยสักจุด รูขุมขนก็ไม่มีคนอะไรจะผิวหน้าดีเกินไปแล้วนะ
“....”
“มองขนาดนี้เอาฉันไปนอนด้วยเลยป่ะ?”
“....” หมับ!!เมี๊ยววววววว!!!
“เฮ้ยยย!!ไอ้แมวจรแกกล้าขู่ฉันเหรอฮะ?” เขาโวยวายกับแมวเพราะฉันชูแมวใส่หน้าของเขา
“ฮัดชิ่ววว!!ฮัดชิ่วว” และเขาก็จามออกมาอย่าบอกนะว่าเป็นภูมิแพ้
“ไปไกล ๆ” ฉันไล่เขา
“ทำไม?”
“รังเกียจ” มาจามใส่คนอื่นอยู่ได้
“โห่เธอปากดีจังวะว่าแต่แมวนั่นจะเอายังไงกับมัน?!ฮัดชิ่วว” เขาถามและชี้ ๆ มาทางแมวที่ฉันอุ้มอยู่
“จะเอาไปตรวจสุขภาพและประกาศหาบ้าน” ฉันบอกเขา
“งั้นเดี๋ยวฉันช่วย”
“ไม่ต้อง” แค่หาบ้านให้แมวมันจะไปยากอะไรเพราะงั้นฉันไม่จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากเขา
“คิดก่อนปฏิเสธบ้างเถอะ...”
“ไม่...ต้อง” ฉันแกล้งคิดนิดหน่อยก่อนตอบออกไป
“เหอะ! ฉันจะช่วยประกาศให้จะได้ ๆ บ้านไว ๆ ฉันมีชื่อเสียงนะจะบอกให้” เขากอดอกอย่างมั่นใจ ฉันรู้ว่าถ้าเขาช่วยเจ้าแมวน้อยนี่น่าจะเจอบ้านได้เร็วแต่ฉันไม่อยากให้เขาช่วย =_=
“ไม่ต้องฉันทำเองได้”
“เหรอ ๆ งั้นถ้าหาบ้านไม่ได้ก็บอกแล้วกันเดี๋ยวฉันช่วยเอง ^^” เขายิ้มให้ฉัน
“....”
“แล้วกลับยังไงฉันไปส่งไหม?”
“....” ฉันมองหน้าของเขาและก้มหยิบกระดาษโพอิสในกระเป๋าฉันหยิบขึ้นมาและเขียนบางอย่างลงไป
“เขียนอะไร?” แปะ!!และแปะที่หน้าผากของเขาก่อนจะเดินหนีออกไป
“เฮ้ยยยยย!!อะไรวะ?!” ปล่อยโวยวายไปคนเดียว...
ฉันเขียนบอกว่า ‘ไสหัวไป’
หลายวันต่อมา
หอพัก J
เมี๊ยววว เมี๊ยววววว
“เป็นไงบ้างไหนดูสิ?” ฉันเอาแมวที่เก็บมาดูแลเพื่อรักษาฉันทำการตรวจร่างกายและฉีดวัคซีนเรียบร้อยหมดแล้ว อาบน้ำทำความสะอาดจนสวยและหลังจากนั้นก็ถ่ายรูปโพสลงโซเชี่ยวแต่ไม่มีใครมารับไปเลี้ยงเลยสักคน
ทำไมกันนะ?
“ในเมื่อไม่มีใครมารับไปเลี้ยงก็อยู่นี่ไปก่อนแล้วกัน แต่ฉันคงเลี้ยงแกไม่ได้หรอกนะเพราะฉันไม่รู้ว่าตัวเองจะตายเมื่อไหร่น่ะสิ”
เมี๊ยวววว~
“ขี้อ้อนซะด้วย” แมวน้อยเอาหน้าถูกับมือของฉัน
“เฮ้อออ” หลายวันที่ผ่านมานี้ฉันก็ยังทำเหมือนเดิมนั่นแหละแต่ฉันว่าจะหยุดแล้วและให้เขามาวิ่งตามฉันแทน หึ การทำอะไรมันก็ต้องใจเย็นหน่อยสิ
“งั้นฉันไปเรียนก่อนนะแล้วจะพยายามหาบ้านดี ๆ ให้แกจนได้”
เมี๊ยวววว~
มหาวิทยาลัย T
“เยลลี่!” ฉันกำลังจะเดินเข้าคณะก็มีเสียงเรียกชื่อของฉันซึ่งไม่ต้องเดาเลยว่าเป็นใครอาโปเจ้าเดิมเดี๋ยวนี้เขาชอบมาหาก่อนเข้าเรียนเสมอโดยเอาเรื่องแมวมาอ้าถามนั่นนี่บางครั้งก็ขอไปดูแมวที่ห้องของฉันด้วย แต่ฉันก็ปฏิเสธไปหลายครั้ง
“...?”
“กำลังไปเรียนเหรอ?” มามหาลัยมาแจ้งความมั้ง
“อืม”
“งั้นเดี๋ยวเราไปส่งห้องเรียนไหม?” เขาอาสาและฉันก็ยอมทุกวันแต่วันนี้ว่าจะไม่แล้วล่ะ
“ไม่เป็นไร” ฉันตอบก่อนจะเดินเลี่ยงออกมา
หมับ!!
“เราไปส่ง” เขาแย่งกระเป๋าของฉันไปถือฉันมองนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกเพราะมันเป็นแผนนี่น่าเล่นตัวนิดหน่อยให้ดูน่าดูสนใจ ผู้ชายชอบนิยาก ๆ ดูท้าทายดีน่ะ
“....”
“แล้วแมวน้อยนั่นได้บ้านหรือยังเหรอ?” ชวนเข้าเรื่องแมวอีกแล้วแต่ก็นะมันเป็นเรื่องเดียวที่เขาสามารถชวนคุยได้นิด ถ้าเรื่องเรียนก็ได้อยู่บ้างแหละแต่เราเรียนคนสายกันน่ะสิ
“ยัง”
“เราช่วยไหม?” กึก! ตอนนี้ได้เวลาใช้เครื่องมืออย่างเซย์แล้วละมั้งขอยืมชื่อหน่อยแล้วกัน
“ไม่เป็นไรเซย์บอกว่าจะช่วยน่ะ” ฉันตอบไปสบาย ๆ แต่ก็รับรู้รังสีไม่พอใจจากเขาอยู่บ้างนิดหน่อย
“มัน...บอกเหรอ?”
“...” ฉันไม่ได้ตอบอะไรแต่นั่นก็เป็นการตอบคำถามแล้ว
“เราก็ช่วยได้ทำไมไม่ให้เราช่วยล่ะ?” ท่าทางจะไม่ชอบเซย์จริง ๆ สินะ
“ถึงห้องเรียนแล้วขอบใจนะ” หมับ! ฉันบอกพร้อมกับแย่งกระเป๋าตัวเองคืน
“เดี๋ยวเราช่วยประกาศหาบ้านเองเพราะงั้นเอารูปของแมวน้อยมาสิ เดี๋ยวเราโพสให้...” เขาพูดและกำลังจะส่งโทรศัพท์ของเขามาให้ฉัน
“เยลเข้าเรียนได้แล้ว” อาโปยังพูดไม่ทันจบเสียงของหยินก็ดังขึ้นแทรกเขา
“อืม” ฉันบอกก่อนจะเดินเข้าเรียนทันทีไม่ได้สนใจมือถือของเขาเลย
“เยลลี่...”
“ขอบใจที่มาส่งนะ” ฉันหันไปบอกกับนิดหน่อยก่อนจะเดินเข้าเรียนไปทันที
พรึ่บ!
“เหยื่อติดกับแล้วเหรอ?” หยินถามเมื่อฉันนั่งลงที่โต๊ะเรียน
“ไม่ขนาดนั้น” เหมือนว่าเขาจะเริ่มชอบ ๆ ฉันบ้างแล้วแหละแต่ยังไม่ขนาดนั้นฉันอยากให้เขาหลงรัก จนฉันจะพูดอะไรก็เชื่อไปหมดชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ หรือต่อให้ฉันชี้ไม้และบอกว่าเป็นนก เขาก็ต้องเชื่อว่ามันเป็นนก
“เร็วดีนะ”
“....”
“เร็ว ๆ ก็ดีเพราะเธอจะได้ไม่อันตราย”
“มีอะไรที่ฉันทำแล้วไม่อันตรายด้วยเหรอ?” ฉันเลิกคิ้วใส่เขานิดหน่อย
“หึ เพราะแบบนี้ไงไอ้หยางมันถึงชอบบ่นเธอ”
“...” ฉันยักไหล่อย่าไม่สนใจว่าหยินมันจะพูดอะไรไม่นานอาจารย์ก็เข้าสอนส่วนฉันก็หลับไปตามระเบียงเพราะเรียนมาหมดแล้ว
เลิกเรียน
โรงอาหาร
วันนี้ฉันว่าจะใช้เครื่องมือที่ชอบเสนอหน้ามาหน่อยน่ะสิ ฉันเดินเข้าไปที่กลุ่มของอาโปและเซย์แต่ว่าฉันไม่ได้ไปหาอาโปหรอกนะฉันตั้งใจเดินผ่านไปเขาไป
“เยลล...”
“เซย์” ฉันเลยเขาที่กำลังจะเรียกฉัน ส่วนฉันก็เรียนเซย์แทน
“มีอะไรครับคนสวย?” เขาหันมายิ้มให้ฉันเหมือนว่าเขาจะสะใจมากที่ฉันเมินอาโปมาและมาหาเขา หึ
“โพสหาบ้านแมวให้หน่อย”
“อ้อนก่อนสิ”
“...” อยากต่อยหน้าฉิบหายเลยวะ
“ไหนเยลลี่คนสวยอ้อนเซย์หน่อยดิ” เขาลอยหน้าลอยตาเหมือนว่าเขาจะไม่ได้อยากกวนประสาทฉันคนเดียวเพราะเขาอยากกวนอาโปที่กำลังมองอยู่ตอนนี้ด้วย
“เซย์...ช่วยเยลหาบ้านแมวหน่อยค่ะ” อยากตาย =_=
ฉันอยากนอนลงไปตายตอนนี้เลย
“น่ารัก” หมับ! เขาเอามือมาจับหน้าของฉันเล่น
“ไอ้เซย์!!” อาโปอยู่ ๆ ก็เสียงดังขึ้นมาและเอามือของเซย์ออกจากหน้าของฉัน นี่เขากำลังหึงฉันเหรอ?
ติดกับเร็วเกินไปไหมนะ?
เครื่องมือที่ชื่อเซย์นี่ใช้งานได้ดีจังแหะ
“เป็นห่าอะไรของมึง?” เซย์ถามอาโป
“มึงพูดเฉย ๆ ก็ได้ไม่ต้องไปโดนตัว”
“เจ้าตัวยังไม่พูดอะไรเลยแล้วมึงจะมาเสือกอะไรว่ะ?”
“เยลลี่พูดน้อยมึงก็รู้นิ” รู้นิสัยของฉันซะด้วยแต่ความจริงแล้วถ้าไม่ติดว่าต้องทำตามแผนละก็ฉันคงหักมือของนายเซย์ไปแล้ว
“รู้แล้วไงเหรอมึงเป็นกับเยลลี่เหรอถึงมาทำหึงหวง?” เซย์ถามอาโป
“แล้วมึงอ่ะ...มาโดนตัวเยลลี่แบบนี้เป็นอะไรกันเหรอ?” ส่วนอาโปเองก็ไม่ยอมเหมือนกัน
“....” ส่วนฉันเงียบทำตัวเป็นอากาศทั้งที่ฉันนั้นคือต้นเหตุของเรื่องนี้เอง -_-
“งั้นตอบพร้อมกันเลย!!ว่ามึงทั้งคู่เนี่ยเป็นอะไรกับเยลลี่เขาถึงเห่ากันอยู่ได้?!” เพื่อนคนหนึ่งของเซย์พูดขึ้น
“กูชอบเยลลี่”
“กูชอบเยลลี่”
“-_-”
ทั้งคู่พูดพร้อมกันแต่ฉันไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรทั้งนั้น