HOME 50%

1833 Words
หลังจากวันที่โดนดุ อาจารย์นายแพทย์หม่อมราชวงศ์ธนาธิปเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้กุลญาดาไม่เคยย่างกรายไปทางฝั่งคณะแพทยศาสตร์อีกเลย จนกระทั่งวันนี้ เพราะรุ่นพี่ที่รู้จักและสนิทกันพอสมควรประสบอุบัติเหตุเมื่อเช้า สิ่งที่รู้ทำหญิงสาวตกใจ ก่อนเปลี่ยนเป็นความโล่งใจเมื่อได้รับการบอกเล่าจากคนปลายสายว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่นิ้วหัก แขนหัก… แต่นั่นก็มากพอเป็นเหตุผลให้เธอต้องมายืนอยู่ตรงนี้จากคำขอร้องโดยไม่อาจปฏิเสธ ปริมาณรถคับคั่งบนท้องถนน ความวุ่นวายของสังคมเมืองแม้เป็นช่วงวันหยุด ถูกแทนที่ด้วยความเงียบตลอดสองข้างทางเมื่อรถเลี้ยวเข้ามาในซอยซึ่งแยกจากถนนสายหลัก กุลญาดามองประตูรั้วเหล็กทึบตรงกลางสลักตัวอักษร ‘ธ.ว.’ สีทองขนาดใหญ่ภายใต้กรอบประณีตด้วยความรู้สึกที่ไม่รู้ควรจะอธิบายกับตัวเองว่าอย่างไร เธอยังจำสายตาดุแสนดุ เสียงขรึมๆ ของใครบางคนกับคำพูดของเขาที่ว่า ‘ความผิดของเธอคือการเกรงใจคนอื่นมากเกินไปโดยไม่สนใจที่จะมองดูตัวเอง’ ได้เป็นอย่างดี ประตูวังธุวานนท์เปิดกว้างต้อนรับ กุลญาดาหันไปบอกลุงวงศ์คนขับรถให้กลับไปก่อนได้เลยไม่ต้องรอ เพราะอย่างไรเสียทั้งพ่อและย่าของเธอก็ต้องมาร่วมงานในคืนนี้อยู่แล้ว จากนั้นจึงลงจากรถซึ่งวันนี้หากไม่ใช่ของบุคคลสำคัญที่ได้รับการเชิญมาร่วมงานจะอนุญาตให้จอดได้แค่รอบนอกตำหนักใหญ่ หญิงสาวสูดหายใจลึก เดินตามนางข้าหลวงที่มาคอยต้อนรับเข้าไปด้านใน ความร่มรื่นของแมกไม้เขียวชอุ่มที่ถูกจัดแต่งไว้อย่างเป็นระเบียบแม้กระนั้นก็ยังพลิ้วไหวมีชีวิตชีวาเป็นสิ่งแรกที่สร้างความประทับใจให้แก่คนภายนอกที่มองเข้ามาและมีความใคร่รู้ถึงชีวิตด้านหลังกำแพงสูงใหญ่งามสง่า เรียบเรื่อยไปตามทางเดิน สิ่งปลูกสร้างสไตล์อิตาลีใหญ่โตโอ่โถงคือสิ่งที่มองเห็นมาแต่ไกลลิบ ชีวิตด้านหลังกำแพงสูงสีขาวสะอาดของวัง ใครหลายคนล้วนอยากรู้ บ้างก็วาดฝันว่าคงสวยงามเหมือนเทพนิยาย ทว่าโลกแห่งความจริง แม้ไม่ได้เลวร้าย แต่คงไม่ได้สวยงามอย่างที่คิดไว้เสมอ บริเวณสนามหญ้าใหญ่หน้าตึกมีคนร่วมยี่สิบชีวิตกำลังจัดเตรียมงานในส่วนที่ตนมีหน้าที่รับผิดชอบ เพื่อให้ทุกอย่างออกมาเรียบร้อยสวยงามและสมพระเกียรติที่สุด เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันคล้ายวันประสูติของหม่อมเจ้าอธิรุจ ธุวานนท์ ท่านพ่อของหม่อมราชวงศ์ธนาธิป ธุวานนท์ ที่แม้เวลาผ่านไปสองอาทิตย์แต่เธอยังจำแววตาดุๆ ของเขาได้ขึ้นใจ เพราะวันนี้หญิงสาวไม่ได้มาในฐานะสมาชิกแห่งราชสกุลรมย์นลิน กุลญาดานึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก เมื่อนางข้าหลวงเดินนำเธอไปทางอีกตึกที่อยู่ด้านข้าง ไม่ใช่ตำหนักใหญ่ซึ่งคาดว่าคนเป็นเจ้าของคงอยู่ในนั้น ตอนนี้เวลาร่วมหกโมงเย็น หญิงสาวถูกเชิญให้เข้าไปเปลี่ยนชุดซึ่งถูกจัดเตรียมไว้เพื่อใช้สำหรับการเดี่ยวเปียโนอวยพรวันคล้ายวันประสูติของหม่อมเจ้าอธิรุจในคืนนี้ แม้ชุดนี้ไม่ได้ถูกตัดมาสำหรับเธอ แต่ก็ไม่เป็นปัญหา โชคดีที่เธอกับรุ่นพี่ซึ่งความจริงต้องมาบรรเลงเพลงในคืนนี้รูปร่างใกล้เคียงกัน หญิงสาวออกมาอีกครั้งในชุดราตรีสั้นทรงบอลลูนสีขาวเปิดไหล่ เมื่อรวมเข้ากับผิวขาวเนียนละเอียด ผมยาวตรงสลวยถึงกลางหลัง เครื่องหน้าแม้ไม่โดดเด่นแต่ดูละมุน ความสวยอ่อนหวานที่รวมกันเป็นกุลญาดา สร้างความพอใจให้กับหัวหน้านางข้าหลวงของวัง สนามกว้างหน้าวังในเวลานี้ถูกจัดเตรียมพร้อมอย่างสมบูรณ์แบบ แม้ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่ท่าทางภูมิฐานน่าเคารพ เครื่องหน้าที่คลับคล้ายคลับคลากับคนในความทรงจำ ทำให้กุลญาดาพอคาดเดาได้ว่าชายสูงวัยในชุดสูทสากลที่กำลังยืนต้อนรับแขกคือหม่อมเจ้าอธิรุจ และเมื่อกวาดตาไปในอีกมุมซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก เธอก็เห็นเขา… คนที่อยู่ในความทรงจำ ที่พยายามไม่นึกถึง แต่กลับเข้ามารบกวนจิตใจเธอบ่อยครั้งตลอดเวลาสองอาทิตย์ เป็นความรู้สึกคล้ายกับตอนที่เธอเจอเขาครั้งแรก… เสียงไวโอลินบรรเลงเพลงสากลท่วงทำนองอ่อนหวานเคล้าเสียงพูดคุยดังแว่วมาจากในงานซึ่งผู้คนเริ่มทยอยมามากขึ้นเรื่อยๆ นางข้าหลวงคนหนึ่งเดินเข้ามาถามว่าระหว่างรอขึ้นแสดง เธอต้องการจะออกไปร่วมงาน หรือถ้าหากไม่จะจัดของว่างมาให้รองท้องที่นี่ เพราะคิดว่าถึงออกไปตอนนี้ก็คงไม่รู้จักใคร หญิงสาวจึงเลือกอย่างหลัง ไม่นาน ทั้งของคาว ของหวาน ขนมนานาชนิดก็ถูกนำมาเสิร์ฟตรงหน้า มันเยอะจนเธอไม่แน่ใจว่าจะกินคนเดียวหมดหรือเปล่า หญิงสาวใช้ส้อมจิ้มขนมอาลัวที่ถูกปั้นเป็นรูปดอกกุหลาบและปั้นสิบสดจากจานใหญ่มาไว้ในจานเล็กของตัวเอง อย่างแรกดูประณีตงดงามจนเธอยังตัดใจกินไม่ได้ ส่วนอย่างหลัง… หลังจากจิบน้ำลำไยรสชาติละมุนไม่หวานมากจนต้องอมยิ้ม รสชาติของขนมปั้นสิบสดตามแบบฉบับชาววังขนานแท้ที่หารับประทานจากที่ไหนไม่ได้ ยิ่งทำให้คนกิน ‘พริ้ม’ เข้าไปใหญ่ ยังมีลูกชุบ ขนมสอดไส้ พวกเบเกอร์รี่ฝรั่ง รวมทั้งของคาว หลังจากวันนั้นที่ครองขวัญชวนไปเป็นเพื่อน แล้วได้ลองชิมของอร่อยที่มารู้ทีหลังจากเพื่อนว่าคุณชายสั่งจากวังให้นำมาเลี้ยง กุลญาดาก็ไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสลิ้มลองรสชาติขนมของโปรดอร่อยๆ แบบนี้อีก รู้ดีว่าที่อาหารวางอยู่เต็มโต๊ะมากมายเสียจนไม่มีทางกินหมดคนเดียวได้ แต่สาวน้อยก็พยายามละเลียดอย่างละนิดอย่างละหน่อยจนครบ ความอร่อยของมันนอกจากอิ่มท้องยังสร้างความสุขให้คนกินอมยิ้มจนแก้มปริ ยิ่งพอมองไปทางมุมหนึ่งของบ้าน ต้นไม้ที่เขาแจกให้มาปลูก เธอเลี้ยงรอดเชื่อว่าอีกไม่นานก็คงออกดอกสวยเหมือนต้นที่ปลูกอยู่ตรงนั้นเหมือนกัน ตรงนั้นที่ว่าหมายถึงพุ่มกุหลาบหนูหลากสีที่ปลูกอยู่ริมรั้ว ดอกเล็กกระจิริดดูน่ารักแม้ในยามค่ำคืน เรียกเจ้าของร่างเล็กให้ต้องเดินไปหวังเข้าไปชื่นชมใกล้ๆ ทว่า… เหมียว เหมียว เหมียว ไม่ใช่ตัวเดียว แต่เหมือนผสานเสียงพร้อมกันหลายตัว กุลญาดามองตามทิศทางของเสียงไปตรงหลังต้นหางนกยูงขนาดใหญ่ และสิ่งที่เธอพบ… แม่แมวตัวใหญ่หันมาขู่ฟ่อ หลังจากคาบลูกแมวแรกเกิดมาวางลงรวมกับพี่น้องที่คาบมาวางไว้ก่อนแล้วสี่ตัว มันยืนกร่างวางท่าอยู่สักพัก รอดูจนเธอยอมถอยหลัง กุลญาดาแอบชำเลืองมอง เธอเห็นมันตะกายข้ามกำแพงคาดว่าคงจะไปรับลูกแมวที่เหลือมาอีก ดูจากร่างกายผอมแห้งของตัวแม่ เธอไม่แน่ใจว่ามันจะมีน้ำนมพอให้ลูกหลายตัวอย่างนี้หรือไม่ ลูกแมวแรกเกิดกินได้เฉพาะนมแมวหรือนมแพะ ไม่ควรกินนมวัวหรือนมถั่วเหลืองเพราะกระเพาะไม่มีเอนไซม์ช่วยย่อยโปรตีนชนิดนี้ เธอรู้ดีเพราะรักและหลงใหลเจ้าสี่ขาพวกนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่อย่างน้อยถ้าแม่แมวได้กินอิ่มก็คงพอสร้างน้ำนมเลี้ยงดูลูกได้ และในครัวของวังธุวานนท์คงมีปลาหรือไม่ก็ปลาทู แต่… หนึ่งในสมาชิกชมรมทาสแมวหันกลับไปแทบไม่ทัน เมื่อได้ยินเสียง ‘ตุ้บ’ ดังมาจากด้านหลัง เสียงร้องครวญครางอย่างเจ็บปวดดังตามมาติดๆ หลังจากนั้น กุลญาดารีบวิ่งตรงไปยังที่เกิดเหตุ แม่แมวตัวเดิมที่เคยขู่ฟ่อประกาศตัวเป็นศัตรูกับเธออย่างเป็นทางการเมื่อครู่ตกลงมานอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้นเป็นที่เรียบร้อย เพราะไม่มีความรู้ทางด้านการรักษาแมว จึงไม่รู้ว่าอาการบาดเจ็บของแม่แมวที่พลัดตกลงมาประเมินแล้วมากน้อยสักแค่ไหน แต่การที่มันพยายามประคองตัวเองให้ลุกขึ้นยืนแล้วเดินขากะเผลกอย่างนั้น ทำให้เธอแน่ใจว่ามันคงปีนขึ้นไปรับลูกมาอีกไม่ได้แน่ๆ ทีนี้จากศัตรูก็เลยกลายเป็นมิตร ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า แต่สายตากึ่งขอความช่วยเหลือคล้ายอ้อนวอนที่แม่แมวมองมา ก็มากพอทำให้หญิงสาวในชุดราตรีสั้นสีขาวสะอาดถอดรองเท้าส้นสูงแล้วตรงไปที่บันได โชคดีที่เผอิญมีคนเอาบันไดมาวางพาดไว้ตรงกำแพง ร่างเล็กค่อยๆ ปีนขึ้นไปทีละขั้น เหมือนจะง่าย แต่ด้วยชุดที่สวมใส่และองค์ประกอบหลายๆ อย่างกลับทำให้กุลญาดาลำบากไม่น้อย กำแพงสูง บันไดที่กำลังเหยียบขึ้นไปให้ความรู้สึกไม่มั่นคงไม่แข็งแรง เสียงลูกแมวร้องกินนมอย่างหิวโหยกำลังทำให้เธอเสียสมาธิ นั่นยังไม่รวมความรู้สึกบางอย่าง ไม่รู้เธอคิดไปเองหรือเปล่าว่ากำลังถูก ‘ใครบางคน’ จ้องมอง แถมมองด้วยสายตาไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไร แล้วโชคไม่ดีเลยที่อยู่ๆ เธอก็รู้สึกเหมือนบันไดสภาพไม่แข็งแรงเคลื่อนเสียอย่างนั้น ห่วงแมวก็ห่วง แต่ความรู้สึกไม่ปลอดภัยทำให้หญิงสาวตัดสินใจก้าวจากบันไดขั้นที่สี่ลงมาทีละขั้นหวังจะลงไปตั้งหลักใหม่ กับชุดที่ใส่อยู่ดูทุลักทุเลพอสมควร แต่เธอก็เกือบทำมันสำเร็จถ้าไม่ใช่จากบันไดขั้นที่สามมาขั้นที่สองขาซ้ายเธอก้าวพลาด!! เท้าเปล่าข้างนั้นเคว้งคว้างอยู่กลางอากาศ และทำให้ร่างบางเสียหลักหล่นลงมา อยากร้องแต่ไม่มีเสียง กุลญาดาหลับตาเตรียมรับชะตากรรม ด้วยรู้ว่าเมื่อตกลงถึงพื้นส่วนใดส่วนหนึ่งของเธอคงจะบาดเจ็บ มีสภาพไม่ต่างจากแม่แมวตัวนั้นแน่ๆ ทว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นตอนนี้ทั้งหมดกลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิด มันเจ็บเหมือนกัน แต่ก็เล็กน้อยเหลือเกินเมื่อเทียบกับภาพตัวเองหล่นลงไปกระแทกพื้นอย่างแรงแบบที่อยู่ในหัว ความรู้สึกเหมือนถูกรวบทั้งตัวเร็วๆ จนปะทะกับของแข็งบางอย่าง… Armani acque di gio กลิ่นหอมสะอาด ไม่คุ้นเคย แต่คุ้นใจ ทำให้กุลญาดาที่หลับตาแน่นต้องรีบลืมตาขึ้นมา เพื่อพบว่า… อีกแล้ว…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD