ตอนที่ 5

1783 Words
EP 5   เขาไม่ขยับออกห่าง ในขณะที่หล่อนก็หนีไปไหนไม่ได้เหมือนกัน เพราะสองแขนของเขาเท้าเอาไว้กับต้นไม้ ขังร่างสาวเอาไว้ในกรงแขนอย่างเผด็จการ “ทำไมต้องทำท่าทางตื่นกลัวแบบนี้ด้วย เธอไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ที่ไม่เคยมือชายสักหน่อย” เซรีมตั้งข้อสังเกต ก่อนจะยิ้มดูแคลนออกมา “หรือนี่คือวิธีเรียกร้องความสนใจของเธอ” “นี่... คุณพูดว่าอะไรเนี่ย” “ฉันกำลังพูดถึงวิธีเรียกร้องความสนใจจากผู้ชายของเธอยังไงล่ะ มะลิ กรองอักษร” ความอับอายจากคำพูดดูแคลนของเจ้าชายที่น่าจะเป็นคนเดียวที่ทำฟาร์มสุนัขเอาไว้ในปากทำให้หล่อนตัวสั่นเทิ้ม หล่อนกำมือแน่น และยกจะซัดเข้าที่หน้าหล่อจัดของเซรีม แต่คราวนี้เจ้าชายหนุ่มรู้ทัน เขาเบี่ยงหน้าหลบ แต่รวบข้อมือของหล่อนเอาไว้ พร้อมกับจับหักไพล่ไปด้านหลังแรงๆ “โอ๊ย... ปล่อยนะ ฉันเจ็บ” หล่อนพยายามดิ้นรน น้ำตาคลอด้วยความเจ็บจนกระดูกแทบหักละเอียด “อย่าทำอะไรเดิมๆ อีก เพราะฉันรู้ทัน” มะลิกัดปากแน่น มองคนตัวโตด้วยความโมโห “ปล่อยฉัน และคุณก็พาคนของตัวเองกลับไปซะ อย่ามาวุ่นวายกับพวกเราอีก” “ฉันไม่ได้มาวุ่นวายกับเธอ แต่ฉันกำลังจะพาฮัสซันกลับไปยังสถานที่ที่เขาควรจะอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ที่บ้านสับปะรังเคที่เธอยัดเยียดให้เขาอยู่” น้ำตาแห่งความคับแค้นใจไหลรินออกมา หล่อนกัดปากแน่น มองเขาอย่างโกรธจัด “ถึงบ้านของฉันมันจะเก่า มันจะเล็กแค่ไหน แต่ฮัสซันก็มีความสุขที่ได้อยู่กับฉัน” “เธอคิดไปเองมากกว่า” “ไม่... ฉันไม่ได้คิดไปเอง ฮัสซันอยากอยู่กับฉัน” หล่อนเชิดหน้าโต้เถียงทั้งน้ำตา และแน่นอนว่าการเดิมพันในครั้งนี้คือฮัสซัน ซึ่งหล่อนจะยอมแพ้ไม่ได้ “เอาละ ฉันเบื่อหน่ายที่จะเถียงกับผู้หญิงบ้าๆ อย่างเธอแล้ว” เขาปล่อยมือของหล่อน และกำลังจะถอยออกห่าง ซึ่งนั่นก็เท่ากับเปิดโอกาสให้คนที่กำลังจ้องจะเอาคืนอยู่ประเคนหมัดเล็กใส่มุมปากข้างเดิมอีกครั้ง “โอ๊ย...” เซรีมเซไปข้างหลังเล็กน้อย แต่แค่เสี้ยววินาทีเดียว เขาก็ตั้งหลักได้ และคว้าแขนเรียวของคนที่กำลังจะหนีเอาไว้ได้ทัน เขาจับหล่อนกระแทกเข้ากับต้นไม้ จากนั้นก็ประกบร่างเข้าไปหาอย่างแนบแน่น หน้าตาของหล่อนเต็มไปด้วยความหวาดกลัวจนน่าสงสาร แต่เขาโกรธจัดจนระงับโทสะไม่อยู่เสียแล้ว “เธอจะได้รู้ว่าไม่ควรต่อยหน้าเจ้าชายทะเลทรายซ้ำเป็นครั้งที่สอง” ยังไม่ทันที่มะลิจะซึมซับกับวาจาเดือดดาลของเขาได้ทั้งหมด ปากร้อนแสนกระด้างก็บดขยี้ลงมาอย่างรุนแรง ดุดัน และประกาศความเป็นใหญ่ หล่อนผลักไสเขา เอามือดันแผงอกกว้างแต่เรือนกายทรงพลังที่อัดแน่นไปด้วยมัดกล้ามเนื้อไม่ขยับเขยื้อนเลย และเขาก็ยิ่งเพิ่มความดุดันของแรงบดขยี้มากยิ่งขึ้น “อื้อ...” ความรู้สึกของหล่อนในตอนนี้มันเต็มไปด้วยความสับสน ความรู้สึกมากมายถล่มอัดอยู่ภายในอก แต่มีความรู้สึกหนึ่งที่ค่อยๆ เพิ่มพูนขึ้นอย่างรวดเร็ว ใช่... มันเพิ่มขึ้นรวดเร็วจนน่ากลัวก็คือ... เสียวซ่านแสนวิเศษ พระเจ้า...? มะลิที่พยายามจะต่อต้านจุมพิตลงทัณฑ์จากเจ้าชายแห่งแดนทะเลทราย แต่แรงทัดทานกลับถูกแรงบดขยี้กลืนกินไปจนหมด ตอนนี้รู้สึกราวกับกำลังเดินหลงอยู่ในป่าแห่งหนึ่ง ป่าที่เต็มไปด้วยความรัญจวนที่แสนมหัศจรรย์ “อ๊า...” เสียงครางของหล่อนดังขึ้นอีกแล้ว มันน่ารังเกียจมากที่หลุดเสียงครางแบบนั้นออกไป แต่หล่อนไม่อาจจะต่อสู้กับความรู้สึกเสียวกระสันยามที่ถูกลิ้นสากบุกรุกเข้าไปในอุ้งปากสาวได้ หล่อนสะท้านยะเยือก เนื้อตัวสั่นเทา สองมือที่เคยดันหน้าอกกว้างเอาไว้ ตอนนี้ยกขึ้นโอบรอบลำคอแกร่งเอาไว้เพื่อพยุงตัวเอง และปากอิ่มก็เริ่มขยับตอบ “อืมมมม” เสียงครวญครางของเจ้าชายทะเลทรายดังแว่วมากับสายลม พร้อมๆ กับมือใหญ่ที่กดสะโพกอวบให้แนบชิดกับความแข็งแกร่งกำยำมากยิ่งขึ้น สองร่างบดเบียด ปากยังประกบกันแนบแน่น แลกจูบแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม วินาทีแรก เซรีมแสดงความเป็นใหญ่ในการควบคุม แต่ตอนนี้การควบคุมสติของเขาจางหายไปในพริบตา เมื่อเจ้าของอุ้งปากหวานฉ่ำเริ่มจูบตอบ อารมณ์ทางเพศพุ่งสูงลิ่ว และมันก็คงจะดีมากหากสามารถเนรมิตให้สวนเล็กๆ นี่กลายเป็นห้องนอนได้ และที่สำคัญที่สุด ผู้หญิงในอ้อมแขนต้องไม่ใช่เมียเก็บของน้าชาย สติของเซรีมกลับคืนมา เขารีบผละออกห่างร่างอ่อนระทดระทวยของมะลิอย่างรวดเร็ว มะลิเอามือจับต้นไม้ด้านหลังเอาไว้เพื่อพยุงตัวเอง ขณะเบิกตากว้างด้วยความตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ความเงียบที่เต็มไปด้วยความต้องการทางเพศครอบคลุมอยู่นานเกือบนาที ก่อนที่ผู้ชายที่ยกมือขึ้นเสยผมครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างเซรีมจะทำลายความเงียบที่แสนตึงเครียดนั้นออกมา “เห็นได้ชัดว่าหลังจากที่เมียของน้าคาริสตายไป เด็กสาวผู้ร้อนแรงอย่างเธอก็สามารถทำให้ชีวิตที่เหงาหงอยของน้าคาริสร้อนฉ่าขึ้นมาได้ไม่ยาก” หน้าตาของหล่อนแดงก่ำ แดงระเรื่อไปจนถึงไรผมเลยทีเดียว กลีบปากอิ่มที่บวมเจ่อเพราะถูกเจ้าชายทะเลทรายบดขยี้อย่างดุเดือดเม้มแน่นจนเป็นเส้นตรง “คุณไม่มีสิทธิ์มาวิจารณ์ฉัน” “เห็นได้ชัดว่าฉันพูดถูกต้องทุกอย่าง” หล่อนเชิดหน้าสูง เบื่อหน่ายและต้องการออกไปจากสถานการณ์น่าอับอายนี้ให้เร็วที่สุด “ฉันจะไม่เถียงอะไรกับคุณทั้งนั้น สิ่งเดียวที่ฉันต้องการจากคุณก็คือ อย่าพรากฮัสซันไปจากฉัน” “งั้นก็ต้องขออภัยด้วยนะ เพราะฉันคงทำอย่างที่เธอต้องการไม่ได้ ฮัสซันเป็นคนของซาเรียและไม่มีอะไรที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงความจริงข้อนี้ได้” “แต่ฉันไม่ยอม!” “ฉันรู้ และเราก็ต้องต่อสู้กัน” ใบหน้าของเขาดุดันขึ้นเรื่อยๆ “และคนอย่างฉันไม่เกี่ยงวิธีที่จะเอาชนะ” “คน... คนเลว” “อย่าใช้คำแบบนี้กับฉัน” เขาเตือนเสียงนุ่มและดุดัน มะลิทั้งหวาดกลัวและตื่นตกใจ หล่อนมองเห็นทางพ่ายแพ้ของตัวเองรำไร เซรีมมีอำนาจ เขาเป็นเจ้าชาย เขามีเงิน และราชวงศ์ของเขาก็คงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ตัวฮัสซันกลับไปยังซาเรีย ซึ่งเป็นประเทศที่หล่อนไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเหยียบย่างเข้าไปด้วยซ้ำ “ฉัน... ขอโทษ...” “ไม่เป็นไร ขอตัว” “อย่าเพิ่งค่ะ” หล่อนตัดสินใจวิ่งไปคว้าท่อนแขนกำยำของเขาเอาไว้อีกครั้ง เขาหยุดเดิน และตวัดตามองมือเล็กที่กุมลงบนท่อนแขนสีแทนของเขาด้วยความไม่พอใจ มะลิเอามือของตัวเองออกจากท่อนแขนสีแทนนั้น และถอยออกห่างเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้น “คุณ... จะไม่มีทางผ่อนปรนเลยเหรอคะ” ในที่สุดก็พอจะรู้แล้วละว่าตัวเองมีแต่ทางพ่ายแพ้ ไม่มีทางเอาชนะอำนาจของผู้ชายตรงหน้าได้ “ผ่อนปรนยังไง” “ก็... อาจจะรออีกสักห้าปี... ให้ฮัสซันอายุครบสิบขวบเสียก่อน” หล่อนภาวนาให้ศีรษะทุยสวยของผู้ชายตรงหน้าผงกตอบรับ แต่เขากลับส่ายหน้าดิกปฏิเสธแทน หัวใจของหล่อนร่วงไปกองอยู่ที่พื้น น้ำตาแห่งความเสียใจคลอเบ้า “ฉันรอไม่ได้ พ่อของฉันต้องการให้ฉันรับฮัสซันกลับซาเรียวันนี้เลย แต่ฉันก็ไม่ใช่คนใจดำเกินไปนัก ดังนั้น ฉันจะให้เวลาเธอกับฮัสซันได้ล่ำลากันอีกหนึ่งคืน” “ไม่นะ... ไม่ได้นะ... ฉันไม่ยอม” “เธอไม่มีสิทธิ์เลือก มะลิ กรองอักษร” “แต่ว่าฉัน... ฉันเป็นผู้ปกครองตามกฎหมายของฮัสซันนะ ฉัน... ฉันมีสิทธิ์ในตัวของเขา” แทนที่เจ้าชายบ้าเลือดตรงหน้าจะสะทกสะท้าน แต่เขากลับระบายยิ้มเหยียดหยัน “พ่อของฉันติดต่อกับรัฐบาลไทยเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว และเธอรู้ใช่ไหมว่าเรื่องมันจะลงเอยยังไง” “ไม่... ไม่จริง” “จริงสิ และมันคือความจริงที่สุดในโลกด้วย” รอยยิ้มของเขามันคือรอยยิ้มของผู้ชนะดีๆ นี่เอง ในขณะที่หล่อนร้องไห้น้ำตาร่วงกราว ทำไมมันเป็นแบบนี้ ทำไมฮัสซันถึงต้องไปจากหล่อน และทำไมหล่อนถึงต่อสู้อะไรไม่ได้เลย ร่างอรชรโซเซและทำท่าจะล้มครืนลงไปกองกับพื้น ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษของเซรีม ทำให้เขาต้องยื่นมือออกมารวบเอวคอดที่เล็กมากจนไม่น่าเชื่อของมะลิเข้าไปกอดแนบอก ร่างกายของเขาตื่นตัวขึ้นมาอย่างน่าสะอิดสะเอียน ความเป็นชายที่ซอกขาแข็งโด่ชูชัน นี่ขนาดรู้ว่าแม่ผู้หญิงเนื้อตัวนุ่มนิ่มที่มีความเป็นสตรีเพศไปทั้งเนื้อทั้งตัวคนนี้เป็นเมียเก็บของน้าชาย แต่เขาก็ยัง... ยังมีอารมณ์ทางเพศกับหล่อน “บ้าฉิบ” ชายหนุ่มสบถก่อนจะประคองร่างอ่อนแรงของมะลิให้ไปนั่งลงบนม้าหินอ่อนตัวที่ใกล้ที่สุด จากนั้นก็รีบผละออกห่างเจ้าหล่อนโดยเร็ว ทำไมเขาถึงปรารถนาในตัวเมียเก็บของน้าชายมากมายแบบนี้นะ มากจนแข็งไปหมด “ฉันรู้ว่าเธอเสียใจ แต่ฉันคงช่วยอะไรเธอไม่ได้ นอกจากมอบเงินก้อนหนึ่งให้กับเธอ” มะลิช้อนตามองเจ้าชายสุดหล่อแต่ใจร้าย น้ำตาแห่งความเสียใจไหลนองหน้า เซรีมมองเห็นก็รีบเมินหน้าหนี “แต่ฉัน... อยู่ด้วยการขาดฮัสซันไม่ได้” “แค่ไม่ถึงเดือน เธอก็ลืมฮัสซันแล้วละ เอาความสาวของเธอที่ยังเหลืออยู่ไปหาความสุขดีกว่า เชื่อฉัน” “ไม่...” มะลิยกขึ้นยืน และเดินมาหยุดตรงหน้าของเซรีม “ยังไงซะ ฉันก็ไม่ยอมแยกจากฮัสซันเด็ดขาด เป็นตายร้ายดียังไง ฉันก็ไม่ยอม” “เธอพูดบ้าอะไร” หล่อนจ้องหน้าเขาเขม็ง “ถ้าฮัสซันกลับไปซาเรีย ฉันก็จะตามแกไปด้วย” เซรีมส่ายหน้าไปมา ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงดูแคลน “ซาเรียไม่ใช่ประเทศที่ใครจะเข้าไปได้ง่ายๆ โดยเฉพาะเธอ ผู้ซึ่งจะทำให้ฮัสซันมีปัญหา”  
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD