ตอนที่ 1
ชีคเถื่อนปล้นพรหมจรรย์
EP 1
บ้านทรงเรือนไทยหลังกะทัดรัดเบื้องหน้าคือเป้าหมายของการเดินทางมาเมืองไทยของ เซรีม บิน คาลดุน อัล อัลลาห์ เจ้าชายหนุ่มดับเครื่องยนต์และก้าวลงมาจากรถ เรือนกายสูงสง่าในชุดลำลองเรียบหรูเด่นตระหง่าน ผิวสีแทนเนียนสวยตัดกับเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวที่ปลายเสื้อถูกพับขึ้นไปอยู่เกือบถึงข้อศอก ดวงตารียาวคมกริบดุจดวงตาของพญานกอินทรี เครื่องหน้าสมบูรณ์แบบคมสัน จมูกโด่งงองุ้ม ริมฝีปากที่อยู่เหนือคางยักที่มีไรหนวดขึ้นพองามหยักสวยน่ามองยิ่งนัก
เซรีมคือเจ้าชายแห่งทะเลทราย เขาคือน้องชายของ จามีล บิน คาลดุน อัล อัลลาห์ องค์รัชทายาทที่กำลังจะขึ้นปกครองมหานครยิ่งใหญ่แห่งซาเรียในเวลาอันใกล้นี้
และที่เจ้าชายรูปงามผู้สูงศักดิ์อย่างเขาดั้นด้นเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ก็เพื่อทำตามวัตถุประสงค์ของผู้เป็นน้าชายที่ล่วงลับไปแล้วให้สำเร็จลุล่วงนั่นเอง
เจ้าชายคาริสคือน้องชายของพระมารดา ท่านได้พบรักกับหญิงสาวชาวไทย และได้ย้ายถิ่นฐานจากซาเรียมายังเมืองไทยได้เกือบยี่สิบปีแล้ว ข่าวคราวของท่านน้าค่อยๆ จางหายไปกับกาลเวลา เพราะท่านน้าของเขาไม่ค่อยอยากติดต่อกับคนในราชวงศ์นัก จนกระทั่งเมื่อหนึ่งเดือนก่อน เขาได้รับมอบหมายจากบิดา ให้เดินทางมายังเมืองไทย เพื่อนำพาเด็กชายซึ่งเกิดกับเจ้าชายคาริสกับหญิงสาวชาวไทยนามว่าพิกุลกลับไปยังซาเรีย
ความจริง เขาไม่ชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้านนัก แม้ว่าชาวบ้านคนนั้นจะเป็นน้าชายของตัวเองก็ตาม แต่เพราะไม่อยากจะทะเลาะกับผู้ให้กำเนิด เขาจึงจำเป็นต้องเดินทางมายังสถานที่นี้อย่างไม่มีทางเลือก
เซรีมเดินมาหยุดตรงบันไดไม้เก่าแก่ผุพังเพราะไม่ได้รับการซ่อมแซมที่ดี แต่ยังดีหน่อยที่มันยังดูสะอาดสะอ้าน บอกให้รู้ว่าไม่ได้ถูกเจ้าของละเลยมากนัก
ดวงตาคมกริบสีทองเรืองรองช้อนขึ้นมองตัวบ้านไม้ชั้นบน และกำลังจะก้าวเท้าลงบนบันไดไม้เบื้องหน้า เสียงเรียกของสตรีดังขึ้นด้านหลัง มันเป็นสุ้มเสียงที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจและประหลาดใจในเวลาเดียวกัน
“คุณ... เป็นใครน่ะ”
เรือนกายสูงใหญ่สง่างามชะงัก ก่อนจะค่อยๆ หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับเจ้าของเสียงขุ่นเคือง
หญิงสาวผิวขาวดุจไข่ปอกในชุดมอมแมมยืนถลึงตาใส่เจ้าชายสูงศักดิ์เช่นเขาอย่างไร้ความเคารพยำเกรง เขาตวัดตากวาดมองเรือนตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอยู่หลายครั้ง ก่อนจะสรุปเอาเองว่าผู้หญิงตรงหน้าเป็นใคร
“ไปถามเจ้านายของเธอมาพบฉันหน่อย”
“แล้วใครล่ะคะที่คุณอยากจะพบ”
ดวงตาสีทองของเซรีมหรี่แคบจ้องหน้าแม่ผู้หญิงที่ตัวเตี้ยกว่ามากอย่างพิจารณาอีกครั้ง ก่อนจะพบว่าเจ้าหล่อนมีดวงตาที่สวยงามมากเลยทีเดียว และก็ไม่ใช่แค่ดวงตากลมโตหวานซึ้งเพียงอย่างเดียวที่งดงาม แต่ริมฝีปากอิ่มเต็มที่ดูเหมือนจะหนาเกินไปของเจ้าหล่อนก็สามารถทำให้เลือดหนุ่มในกายของเขาเดือดพล่านขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ
ผู้หญิงคนนี้ทำให้เรือนกายของเขาปั่นป่วน ช่องท้องคล้ายกับมีคลื่นขนาดใหญ่ซัดใส่ไม่หยุด และสายตาก็ไม่อาจจะละจากใบหน้ารวมถึงเรือนร่างเล็กกะทัดรัดของหล่อนได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว เซรีมยังคงดื่มด่ำกับความสวยงามที่ยิ่งพิศก็ยิ่งเพิ่มทวีคูณของเจ้าหล่อนไม่วางตา ลำคอของหล่อนสีอ่อนกว่าใบหน้าเล็กน้อย บอกให้รู้ว่าหล่อนทำงานกลางแจ้งมากกว่าทำงานในร่ม
ชายหนุ่มเป่าลมออกจากปากเพื่อบรรเทาอาการอึดอัด เมื่อสายตาลดต่ำลงมายังบริเวณหน้าอกของหญิงตรงหน้า เสื้อตัวใหญ่และเก่าแถมยังเปื้อนเศษใบไม้ถูกก้อนเนื้อภายในดันออกมาจนเห็นเป็นรูปรอยชัดเจน เขากะขนาดเต้านมของหล่อนได้ไม่ยาก มันต้องใหญ่ประมาณคัพซีเป็นอย่างต่ำ
โอ้ พระเจ้า...
เซรีมขยับขาของตัวเองออกห่างจากกันเล็กน้อย เมื่อร่างกายมีปฏิกิริยากับสิ่งที่สายตามองเห็นมากมายเหลือเกิน บางอย่างแข็งตัวอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ แค่มองหล่อน... แค่เห็นรูปร่างของผู้หญิงตรงหน้าเพียงเท่านั้น
นี่มันอะไรกัน... ทำไมเขาถึงเกิดความต้องการทางเพศขึ้นมาอย่างรุนแรงแบบนี้ ความปรารถนาจะผลักให้หล่อนนอนราบลงกับพื้นและสอดใส่แรงๆ วิ่งพล่านในกระแสเลือดไม่หยุด
เขาต้องการ... จะฝากฝังความเป็นชายเข้าไปในร่างของหล่อน และจากนั้นก็โยกคลึง... โอ้ ไม่... ไม่ได้...
เซรีมกัดฟันแน่นจนเกิดเสียงดังขึ้น และก็สามารถละสายตาจากเรือนร่างที่เขาคาดเดาได้ว่าต้องสมบูรณ์แบบมากๆ ของผู้หญิงตรงหน้า ขึ้นไปสบตากับเจ้าหล่อน จากนั้นก็เค้นเสียงราบเรียบออกไป
“ฉันมาพบ มะลิ กรองอักษร”
ชื่อของหล่อนดังออกมาจากปากหยักสวยของผู้ชายตัวสูงราวกับยักษ์ตัวใหญ่ตรงหน้า
ผู้ชายคนนี้มีรูปร่างหน้าตาที่แสนวิเศษ หล่อนจำได้ว่าตัวเองตะลึงแล้วตะลึงอีก เมื่อสบประสานสายตากับดวงตาสีทองเรืองรองของเขา
เขาหล่อเหลาราวกับไม่ใช่มนุษย์ เขาเหมือนกับรูปปั้นที่จิตกรสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้เป็นตัวแทนแห่งความสมบูรณ์แบบของบุรุษเพศในโลกหล้า
และที่สำคัญ ผู้ชายที่มีหน้าตาถอดแบบมาจากเทพบุตรจากแดนทรายคนนี้ ทำให้เลือดเนื้อของหล่อนร้อนฉ่าได้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต
อะไรบางอย่างในช่องท้องของหล่อนวิ่งพล่าน ความร้อนรุ่มแผ่ซ่านไปทั้งเรือนกาย ราวกับหล่อนกำลังจับไข้สูง ร้อนฉ่าไปทั้งเนื้อทั้งตัวจนน่าอัศจรรย์ใจ
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ทำไมร่างกายของหล่อนถึงร้อนผะผ่าวแบบนี้ และก็ไม่อาจจะถอนสายตาจากผู้ชายที่หล่อเหลาราวกับเทพบุตรตรงหน้าได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว
แต่หล่อนต้องหยุด... ต้องหยุดสายตาที่จ้องมองเขาราวกับจะกลืนกินเข้าไปทั้งตัวให้เร็วที่สุด ก่อนที่เขาจะมองว่าหล่อนเป็นผู้หญิงร่านร้อน ทั้งๆ ที่แท้จริงแล้ว หล่อนมันก็แค่ผู้หญิงที่ประพฤติตนไม่ต่างจากแม่ชีเลยแม้แต่นิดเดียว
ในที่สุด สายตาของมะลิก็สามารถละจากเรือนร่างของเซรีมได้สำเร็จ หล่อนเป่าลมออกจากปากอย่างโล่งอก ก่อนจะกัดฟันโต้ตอบเขาออกไป
“ฉันเองค่ะ มะลิ กรองอักษร”
ดวงตาที่เต็มไปด้วยความแคลงใจและเหลือเชื่อของเขาปะทะเข้ากับดวงตาของหล่อนโดยบังเอิญ และมันก็ทำให้หล่อนถึงกับตัวสั่นเทิ้ม ช็อกกับปฏิกิริยาทางเพศที่เขาและหล่อนมีต่อกันยิ่งนัก
“เธอเนี่ยนะ?”
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ และดูแคลนของผู้ชายตรงหน้าช่วยขจัดความวุ่นวายใจทางเพศที่เกิดขึ้นภายในกายสาวให้จางหายไปในที่สุด ความกรุ่นโกรธแทรกซึมเข้ามาแทนที่
“แล้วทำไมจะเป็นฉันไม่ได้ล่ะคะ”
หล่อนเห็นเขายิ้มเยาะที่มุมปากเล็กน้อย ตวัดตามองร่างกายของหล่อนอยู่หลายอึดใจ ก่อนที่ริมฝีปากหยักสวยที่อยู่ใต้จมูกโด่งงองุ้มจะเปล่งเสียงออกมา
“ฉันไม่คิดว่าเมียเก็บของน้าคาริสจะ... มอมแมมแบบนี้”
“เมียเก็บ?” หล่อนทวนคำพูดของเขาด้วยความตกใจ แปลกใจ และไม่พอใจ
“หรือว่าฉันเข้าใจผิดล่ะ”
มือเล็กที่กำด้ามไม้กวาดเอาไว้บีบแน่นขึ้น กลีบปากอิ่มเม้มเป็นเส้นตรง และมองเขาด้วยสายตากรุ่นโกรธ
“เห็นไหมว่าเธอปฏิเสธความจริงไม่ได้ ดังนั้นสิ่งที่ฉันเข้าใจก็คือความถูกต้อง”
เซรีมยอมรับกับตัวเองอย่างน่าสะอิดสะเอียนว่าเขาเสียดาย... ใช่ เขาเสียดายเหลือเกิน ที่ผู้หญิงหุ่นน่าฟัดตรงหน้าไม่ได้เป็นแค่สาวใช้ หรือแม่บ้านทำความสะอาดอย่างที่เขาเข้าใจตั้งแต่แรก แต่ความเป็นจริงแล้ว หล่อนคือเมียเก็บ... ใช่ เมียเก็บของน้าคาริส ผู้หญิงที่เขาต้องเก็บไม้เก็บมือให้ห่างไกลจากหล่อนที่สุด
เจ้าชายหนุ่มบิดปากเล็กน้อยด้วยความเกลียดชังตัวเอง เมื่อความจริงที่ได้รับรู้ กลับไม่ได้ทำให้ความต้องการที่มีต่อตัวของผู้หญิงตรงหน้าลดน้อยลงเลย เขายัง... ยังต้องการจะจับหล่อนขึ้นเตียง ยังต้องการจะสอดใส่เข้าไปในร่างของหล่อน ยังต้องการจะฟังเสียงครางของหล่อน ยามที่หล่อนนอนดิ้นเร่าๆ อยู่ใต้เรือนร่างเปลือยของเขา
ระยำ!
เซรีมสบถในอกด้วยความเดือดดาล เขาเกลียดที่ตัวเองคิดบ้าบอแบบนี้กับผู้หญิงไร้ราคาตรงหน้า
“ฉันคือ... เจ้าชายเซรีม บิน คาลดุน อัล อัลลาห์ แห่งราชวงศ์ซาเรีย และน้าคาริสก็เป็นน้องชายของคุณแม่ของฉันเอง”
คิ้วโก่งสวยดุจคันศรเลิกสูง ดวงตากลมโตหวานซึ้งเบิกกว้างด้วยความเหลือเชื่อ
“เจ้า... เจ้าชาย...? คุณ... คือเจ้าชายเหรอคะ”
“ใช่” เซรีมยกมือขึ้นกอดอกด้วยท่าทางยโสโอหัง “แล้วที่ฉันเดินทางมาที่นี่ ก็เพราะฉันจะมารับฮัสซันกลับนครซาเรีย”
ความรู้สึกร้อนฉ่าที่เกิดจากปฏิกิริยาทางเพศระหว่างตัวเองกับเจ้าชายทะเลทรายตรงหน้าค่อยๆ จางหายไป เมื่อความจริงจากปากของเขากำลังทำให้หล่อนตัวเย็นเฉียบ
“ฉัน... ฉันไม่เชื่อหรอกว่าคุณ... เป็นเจ้าชายจากซาเรีย”
ผู้ชายตรงหน้าของหล่อนระบายยิ้ม นัยน์ตาสีทองดุกระด้างมากจนน่าหวาดกลัว
“หน้าตาของฉันไม่เหมือนกับน้าคาริสบ้างเลยอย่างนั้นหรือ ลองมองให้ดีๆ สิ”
มะลิช้อนตาขึ้นกวาดมองผู้ชายแปลกหน้าอีกครั้ง ก่อนจะตอบตัวเองในใจว่าเขาเหมือนกับท่านคาริสผู้เป็นเจ้านายอย่างที่สุด แต่... แต่หล่อนรักฮัสซัน
“ฉันว่า... คุณกลับไปเถอะค่ะ เพราะฉันไม่มีวันยกฮัสซันให้กับคุณอย่างแน่นอน”