อรอินทร์ไม่อยากให้เจนจิราสนใจเรื่องของเธอกับจอมทัพ จึงสั่งงานอีกฝ่ายแล้วเดินกลับเข้าไปในห้อง
หญิงสาวเรียกช่างผู้ดูแลระบบไฟในรีสอร์ตกับคนดูแลสวนมาพูดคุยถึงการตกแต่งห้องพักในพื้นที่สร้างใหม่ และลงไปตรวจงานในส่วนต่างๆ จนเกือบเย็น
“วันนี้พยากรณ์อากาศบอกว่าจะมีฝนตกค่ะ คุณอรจะพักที่นี่สักคืนไหมคะ ขับรถกลับอันตรายค่ะ”
ท้องฟ้าเริ่มขมุกขมัวเต็มไปด้วยก้อนเมฆดำๆ บ่งบอกว่าอาจจะมีฝนตกในช่วงค่ำ ซึ่งอันตรายต่อการขับรถกลับ
“ดีเหมือนกัน พักสักคืนค่อยกลับพรุ่งนี้ วานคุณเจนไปบอกให้จัดห้องพักให้อรด้วยนะคะ”
อรอินทร์แหงนมองท้องฟ้าแล้วพยักหน้ารับคำ เธอรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว ในเวลาอากาศชื้นและเย็นเธอมักจะคัดจมูกและหายใจไม่ค่อยสะดวก อาการแพ้อากาศมักจะกำเริบเสมอ
“ดูท่าทางคุณอรไม่ค่อยดีเลย ไม่สบายหรือเปล่าคะ”
เจนจิราถือวิสาสะจับแขนนายจ้าง ก่อนจะนิ่วหน้าเมื่อพบว่าเนื้อตัวของหญิงสาวร้อนผ่าว หน้าตาก็ดูแดงๆ ท่าทางดูอิดโรยเล็กน้อยไม่สดชื่น
“ตัวร้อนนี่คะ เดี๋ยวดิฉันจะให้หมอมาดูอาการนะคะ”
“ไม่เป็นไรอรแค่แพ้อากาศ มียาแก้แพ้ติดมาด้วย เดี๋ยวกินยานอนพักก็หายแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ”
อรอินทร์ปฎิเสธการรักษา เธอรู้อาการตัวเองดีว่าไม่ได้หนักหนาอะไร และมียาเตรียมมาพร้อมแล้ว
“ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวดิฉันจะรีบบอกให้แม่บ้านจัดห้องให้นะคะ คุณอรจะได้พัก”
เจนจิรากระวีกระวาดไปจัดการ ไม่กี่นาทีก็กลับมาช่วยอรอินทร์ขนกระเป๋าเดินทางใบเล็ก ที่เจ้าตัวมักติดรถไว้เสมอ พาเดินไปยังห้องพักในโซนวีไอพีของรีสอร์ต
“ขอบคุณมากค่ะคุณเจน เดี๋ยวอรจะอาบน้ำกินยาก็จะนอนพักแล้ว ไม่ต้องห่วงนะคะ”
อรอินทร์เอ่ยขอบคุณ หลังจากเจนจิราช่วยหอบกระเป๋าเข้ามาในห้องเรียบร้อยแล้ว แถมยังสั่งให้ร้านอาหารนำอาหารเย็นมาส่งให้ที่ห้องของนายจ้างด้วย
“ทานข้าวทานยาแล้วก็พักเลยนะคะ งานไว้ทำพรุ่งนี้ต่อ เดี๋ยวดิฉันจะมาปลุกคุณพรุ่งนี้เช้านะคะ”
เจนจิราพูดจบก็ขอตัวออกจากห้อง โดยไม่ลืมปิดล็อกประตูห้องให้
อรอินทร์รับประทานอาหารและยาเรียบร้อย ก็เข้าไปจัดการอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอน ในกระเป๋าเดินทางใบน้อยมีชุดนอนและชุดทำงานเตรียมไว้เสมอ และมีครีมบำรุงชุดเล็กให้เจ้าของได้ใช้ อรอินทร์ถึงจะชอบทำงานแต่ไม่เคยละเลยการดูแลตัวเอง หลังจากอาบน้ำแล้วก็หยิบครีมมาทาผิวจนหอมกรุ่นไปทั้งตัว จากนั้นก็ยกหูโทรศัพท์โทรหาพี่ชาย แต่ปลายสายไม่มีคนรับ จึงโทรหาหมอคมสันเพื่อนสนิทของพี่ชายที่ทำหน้าที่หมอประจำปางไม้แทน
“พี่หมอ พี่ใหญ่อยู่ที่ปางไม้หรือเปล่าคะ อรโทรหาแต่ไม่รับสายเลย”
“เจ้านายใหญ่มันยังมาไม่ถึงครับ อาจจะเป็นวันพรุ่งนี้ช่วงเช้าหรือไม่ก็บ่ายๆ น่าจะมาถึงแล้ว คุณอรมีอะไรสั่งไว้หรือเปล่าครับ”
“ถ้าพี่ใหญ่ไปถึงปางไม้ ให้โทรมาหาอรด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะพี่หมอ”
หลังจากวันนั้นก็สองวันแล้ว เกริกยังไปไม่ถึงปางไม้ ทำให้อรอินทร์รู้สึกห่วงพี่ชายขึ้นมา รวมถึงอยากรู้ว่าจอมขวัญเป็นอย่างไรบ้าง
“หวังว่าพี่ใหญ่คงไม่ทำอะไรหนูจอมรุนแรงนะ”
อรอินทร์นึกห่วงใยจอมขวัญ เธอรู้ว่าเกริกนั้นเกลียดชังคนในตระกูลเกียรติก้องหล้ามากแค่ไหน การวางแผนทำลายคนในตระกูลนี้เพื่อล้างแค้น และเป้าหมายของเกริกคือจอมขวัญ เธอเองก็ให้ความร่วมมือกับพี่ชายในการจัดการกับบริษัทในเครือของตระกูลเกียรติก้องหล้า ตอนนี้หุ้นของบริษัทของอีกฝ่ายอยู่ในกำมือเธอเกินครึ่ง แถมพ่วงด้วยสถานะเจ้าหนี้รายใหญ่ แค่รอคำสั่งจากพี่ชายเธอก็จะบีบให้ตระกูลเกียรติก้องหล้า มีสภาพล้มละลายได้ในทันที
ก๊อก ก๊อก ก๊อก !!!
เสียงเคาะประตูทำให้อรอินทร์หลุดจากภวังค์ความคิด หญิงสาวพาตัวเองลงจากเตียงนอนในสภาพง่วงงุนเต็มทน ยากำลังออกฤทธิ์ ทำให้เธอมีสติไม่เต็มร้อย ร่างในชุดนอนสีขาวเดินออกไปเปิดประตูโดยลืมหยิบเสื้อคลุมมาสวม พอเปิดประตูก็ต้องเบิกตากว้างเกือบหายง่วง เมื่อพบว่าคนที่มาเคาะประตูเรียกเป็นใคร
“คุณจอมทัพ คุณมาที่นี่ได้ยังไงคะ ที่นี่เป็นพื้นที่ส่วนตัวห้ามคนนอกเข้า”
อรอินทร์ถามออกไปด้วยความตกใจ มองหน้าอีกฝ่ายที่ยืนล้วงกระเป๋าจ้องหน้าเธออย่างไม่พอใจ ที่เขามาเคาะเรียกหน้าห้องพักส่วนตัวของเธอ
“ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ” เขาเอามือมายันบานประตูไม่ให้เธอปิด
“นี่มันดึกแล้ว พรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะคะ เชิญกลับไปค่ะ ฉันไม่รับแขกในยามวิกาล”
อรอินทร์เอ่ยปากไล่ มองหายามหมายจะเรียกให้มาไล่คนกวนใจนี่ไปให้พ้น อีกฝ่ายกลับผลักประตูดันเข้ามาในห้อง
“ว้าย! ออกไปนะ ใครอนุญาตให้คุณเข้ามา”
อรอินทร์พยายามผลักประตูปิด แต่จอมทัพตัวโตและแข็งแรงกว่า เขาใช้แรงไม่ถึงครึ่งก็ดันจนประตูเปิดออก แล้วทำให้เจ้าของห้องเสียหลักกระเด็นล้มลงไปกองกับพื้น
“โอ๊ย! อีตาบ้า ฉันเจ็บนะ”
อรอินทร์ร้องโอดโอยเอามือกุมสะโพกที่กระแทกพื้นด้วยความเจ็บ โดยไม่ทันรู้ตัวว่ากระโปรงชุดนอนตลบเปิดมาเกือบถึงเอว