ก๊อก ก๊อก ก๊อก !!!
เสียงเคาะประตูดึงหญิงสาวให้หลุดจากภวังค์ความคิด เมื่อเธออนุญาตประตูก็เปิดออก ร่างของเจนจิราเลขาหน้าห้องก็เข้ามา
“มีอะไรเหรอคะ คุณเจน”
อรอินทร์ถามเจนจิราเลขาสาวใหญ่วัยสี่สิบของตน เมื่อเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายดูมีความหนักใจอะไรบางอย่าง
“มีคนมาขอพบคุณอรค่ะ”
“ใครเหรอคะ ในใบนัดไม่มีนี่คะคุณเจน”
วันนี้เธอมาดูงานที่รีสอร์ตไม่ได้นัดพบใครไว้ โดยพาเจนจิรามาช่วยเคลียร์เอกสาร ช่วงบ่ายจะออกตรวจงานดูการตกแต่งห้องพัก
“ผมเอง...”
ร่างสูงของจอมทัพถือวิสาสะเข้ามาในห้องโดยไม่ขออนุญาตก่อน เขาไม่อยากให้เธอหาเรื่องปฏิเสธการพบเขา ลงทุนขับรถตามมาถึงรีสอร์ตนี้ อยากรู้นักว่าอรอินทร์จะกล้าปั้นหน้าโกหกเขาอีกไหม เมื่อกี้เขาแกล้งโทรมาคุยกับเธอ ทั้งๆ ที่ยืนอยู่หน้าสำนักงานของเธอแล้ว
“คุณจอมทัพ...”
อรอินทร์เห็นหน้าแขกไม่ได้รับเชิญก็อึ้งไป ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะบุกมาหาเธอถึงที่นี่ รีสอร์ตแห่งนี้ตั้งอยู่ที่อำเภอฝางไกลจากตัวเมืองมาก
“เรามีเรื่องต้องคุยกัน... เป็นการส่วนตัว”
จอมทัพเน้นเสียงแล้วจ้องหน้าอรอินทร์เขม็ง หญิงสาวเหมือนจะอึ้งไปที่เขาโผล่หน้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว นี่แหละที่เขาต้องการ จะจับพิรุธคนโกหกก็ต้องมาไม่ให้รู้ตัว
“คุยที่นี่คงไม่สะดวก เชิญที่ร้านอาหารด้วนนอกดีกว่าค่ะ จะได้รับประทานอาหารเที่ยงด้วย”
อรอินทร์ไม่อยากคุยกันตามลำพังในที่รโหฐาน ท่าทางของจอมทัพเหมือนพร้อมจะเอาเรื่อง ไม่น่าไว้ใจ
“ก็ได้ครับ เชิญครับคุณอรอินทร์”
จอมทัพตกลง เขาผายมือเชื้อเชิญหญิงสาวให้นำทาง อรอินทร์ไม่มีทางเลี่ยงจำต้องพาชายหนุ่มมายังร้านอาหารขอรีสอร์ต เจนจิราจะตามมาแต่ถูกจอมทัพโบกมือบอกไม่ให้ตาม อีกฝ่ายได้แต่ยิ้มแหย จำต้องเลี่ยงออกไปปล่อยให้นายจ้างกับจอมทัพเดินไปยังร้านอาหารด้วยกัน
อรอินทร์นั่งลงที่โต๊ะอาหาร ในมุมสงบของร้าน เธอสั่งกาแฟให้จอมทัพและน้ำผลไม้ให้ตัวเอง พร้อมกับชุดอาหารกลางวันคนละชุด รอจนพนักงานนำอาหารมาเสิร์ฟจนครบ ก็เปิดโอกาสให้ชายหนุ่มได้พูดคุย
“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันคะ คุณจอมทัพ”
อรอินทร์เอ่ยถาม หลังจากละเลียดอาหารกลางวันจนอิ่ม ไม่สนใจอีกฝ่ายที่ทำหน้าเหมือนเสืออยากขบหัวคนของจอมทัพ เขาดื่มแค่กาแฟไม่แตะต้องอาหารที่เธอสั่งมาให้ แต่ยังอดทนรอให้เธอรับประทานจนอิ่ม
“เรื่องหนูจอม ผมต้องการรู้ว่าตอนนี้หนูจอมอยู่ที่ไหน”
จอมทัพไม่อ้อมโลกให้เสียเวลา หลังจากเขาโทรมาคุยกับเธอก่อนหน้า แล้วได้รับคำตอบที่ไม่น่าพอใจ อรอินทร์ยักท่าไม่รู้เรื่อง ทั้งๆ ที่หลักฐานหลายอย่างบ่งบอกว่า น้องสาวของเขาเดินทางมาพร้อมกับอีกฝ่าย
“ฉันบอกคุณไปแล้วนี่คะ ว่าฉันไม่รู้ว่าหนูจอมไปที่ไหนต่อ เราแยกย้ายกันหลังจากลงเครื่อง ต่อจากนั้นฉันก็กลับบ้าน” เธอยังยืนยันคำเดิม
“ผมเช็คภาพจากกล้องในสนามบินแล้ว หนูจอมขึ้นรถตู้มากับคุณ แล้วคุณจะมาบอกว่าไม่รู้เรื่องการหายตัวไปของน้องสาวผมได้ยังไง”
จอมทัพเสียงเข้มขึ้น คาดคั้นคนปากแข็งให้ยอมเปิดปาก เขามองหน้าสวยหวานของอรอินทร์ค้นหารอยพิรุธ แต่หญิงสาวยังคงทำหน้านิ่งไม่สะทกสะท้าน
“ฉันยอมรับว่าหนูจอมขอติดรถฉันจริง แต่เธอขอลงกลางทาง ส่วนจะไปไหนต่อนั้น คุณต้องถามน้องสาวคุณเอง”
อรอินทร์ยังคงยืนกระต่ายขาเดียว ตีหน้านิ่งเหมือนทองไม่รู้ร้อน ทั้งที่ในใจแอบหวั่นวิตกว่าอีกฝ่ายจะจับพิรุธเธอได้ สายตาคมกริบของเขาจ้องหน้าเธอเขม็ง ราวกับจะเจาะเข้าไปถึงก้นบึ้งของความคิด ว่าเธอโกหกเขาหรือเปล่า
“หนูจอมขอลงตรงไหน แล้วบอกหรือเปล่าว่าจะไปไหนต่อ ผมต้องการความจริง” เขาเน้นเสียง
“ลงในเมืองค่ะ แล้วก็บอกว่าจะไปหาเพื่อน ส่วนเธอจะไปไหนต่อหรือไปหาใคร ฉันไม่รู้ นี่คือความจริง”
อรอินทร์แข็งใจสบตาเขา เธอไม่ใช่คนโกหกเก่งอะไรนักหนา แต่คราวนี้จำต้องยอมมุสาเพื่อพี่ชาย
“น้องสาวผมมีเพื่อนที่เมืองไทยน้อยมาก และผมรู้จักดีทุกคน ยายหนูจอมไม่มีทางไปไหนโดยไม่บอกคุณพ่อหรือพี่ชาย ผมไม่เชื่อว่าน้องสาวผมจะหายไปไหนเฉยๆ โดยไม่บอกใคร”
จอมทัพไม่มีเหตุผลจะซักถามอรอินทร์ต่อ เมื่อถามไปก็ได้คำตอบเดิมๆ เขาเชื่อว่าอรอินทร์ต้องรู้แต่ปกปิดความจริงไว้ และเขาต้องหาวิธีค้นหาความจริงให้ได้
“หากผมรู้ว่า คุณเกี่ยวข้องกับการหายไปของหนูจอม ผมไม่มีวันปล่อยให้คุณลอยนวลแน่ คุณอรอินทร์”
พูดจบชายหนุ่มก็ลุกขึ้น แล้วเดินหนีไป ปล่อยให้คนที่นั่งอยู่ตกตะลึงกับคำขู่ของเขา
อรอินทร์กลับมายังห้องทำงานอีกครั้ง สีหน้าของเธอทำให้เจนจิราเข้ามาถามด้วยความห่วงใย
“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณอร”
“ไม่มีอะไรจ้ะ เดี๋ยวคุณเจนเอางานที่อรเซ็นไปดูอีกทีนะ แล้วก็เรียกช่างยุทธ์กับลุงทองมีคนดูแลสวนมาคุยกับอรด้วย”