“เหตุใดจึงได้มาช้านักเล่า ทุกคนมารอเจ้ากันได้พักใหญ่แล้ว”ท่านแม่ หรือแม่ใหญ่ ฮูหยินเอกของตระกูลจ้าว มารดาของนังสตรีโง่งมที่นำหายนะมาสู่ทุกคน น่าชังทั้งมารดาทั้งบุตรสาว
“เอาล่ะ ๆ เลิกพูดกันได้แล้ว จื่อเวยมานั่งที่ได้แล้ว จะได้เริ่มสำรับกันเสียที”ท่านพ่อจ้าวจื่อหลง ผู้นำตระกูลจ้าวคนปัจจุบัน ท่านพ่อของเธอเอ่ยช่วยตัดบทแม่ใหญ่ก่อนจะมีปากเสียงกันไปมากกว่านี้
“เจ้าค่ะ”ภายในห้องอาหาร ทุกคนในตระกูลต่างก็มารวมตัวกัน ตระกูลจ้าวมีกฏข้อหนึ่งที่บังคับให้ทุกคนในครอบครัวมาร่วมรับสำรับพร้อมกัน เว้นแต่จะมีเหตุจำเป็นจริง ๆ จึงจะสามารถรับสำรับที่เรือนของตนเองได้
สมาชิกในครอบครัวของเธอมีกันไม่มาก ท่านพ่อมีฮูหยินเอกนามว่าเต๋อซีอันหรือก็คือแม่ใหญ่ มีบุตรด้วยกันสองคนคือคุณหนูใหญ่จ้าวอันเหม่ยและคุณชายใหญ่จ้าวเทียนคุนหรือน้องสาม ฮูหยินรองอันซูปี้ มีบุตรคุณชายรองคือจ้าวเทียนหลงหรือน้องสี่ และสุดท้ายฮูหยินสามจี๋ฮวา มีบุตรสาวนามว่าจ้าวหย่งเยว่หรือคุณหนูห้า ถึงจะดูเยอะ แต่หากเทียบกับตระกูลอื่นนับว่าบิดาของนางนั้นมีภรรยาน้อยนัก ทั้งที่เป็นตระกูลคหบดีใหญ่จนคุณหนูใหญ่ได้หมั้นหมายกับองค์ชายสามสวี่หลางอันก็ยังไม่มีใครคัดค้าน
การร่วมสำรับดำเนินไปด้วยเหตุการณ์ปกติ ท่านแม่ใหญ่ยังคงคอยคีบอาหารปรนนิบัติสามีและบุตรทั้งสองอย่างรักใคร่ ทางน้องชายและน้องสาวอีกสองคนก็มีมารดาคอยคีบให้อยู่ห่าง ๆ มีเพียงนางผู้เดียวที่นั่งโดดเดี่ยวอยู่ท่ามกลางผู้คนเหล่านี้ ผู้คนที่เรียกตนเองว่าครอบครัว นางไม่เคยชอบกฎข้อนี้เลย ทานอาหารร่วมกันงั้นหรือ น่าตลกสิ้นดี ทุกคนได้รับความรัก มีเพียงนางที่ถูกปล่อยไว้ข้างหลัง แล้วเหตุใดนางต้องมาจบชีวิตเพราะสตรีโง่นางนี้และบิดาที่รักบุตรสาวจนเกินไปด้วย นางและน้อง ๆ มิใช่บุตรหรืออย่างไร น่าชิงชังนักท่านพ่อ
“กลับมาครั้งนี้พ่อมีข่าวดีจะแจ้งเจ้าอันเหม่ย มีรายงานว่าพบบุรุษคล้ายองค์ชายสามอยู่ในหมู่บ้านแถบชายแดน ตอนนี้ทหารกำลังมุ่งหน้าไปสืบความ พ่อมั่นใจว่าต้องใช้องค์ชายสามอย่างแน่นอน”ข่าวนี้พึ่งได้รับแจ้งเมื่อเช้ามืดจากสายของตระกูลจ้าวในวังหลวง คนเป็นพ่ออย่างเขาก็ไม่รอช้าที่จะบอกข่าวดีให้บุตรสาวได้รู้ นางทุกข์ใจที่คนรักของตนหายตัวไปนานจนร่างกายซูบผอมไปมาก บิดาอย่างเขาเองก็พลอยปวดใจตามไปด้วย
“ท่านพ่อพูดจริงหรือเจ้าคะ เป็นข่าวจริงแน่ใช่หรือไม่เจ้าคะ”นี่เป็นข่าวดีที่สุดในรอบครึ่งปีที่นางได้ฟังมาเลย หากเป็นจริงนางจะได้เจอคนรักเสียที ตลอดเวลาที่เขาหายตัวไปนางแทบจะกินไม่ได้ นอนก็ไม่ค่อยหลับ ต้องพึ่งยาท่านหมออยู่หลายครั้งเพราะป่วยเป็นไข้ใจ แค่ได้ยินว่าเขาจะกลับมา ใบหน้าที่เคยขาวซีดกลับเริ่มมีเลือดฝาดขึ้นมาจาง ๆ ทันที
เสียงพูดคุยอย่างอารมณ์ดีเหมือนปิดกั้นคนอื่น ๆ ออกจากวงสนทนายังคงดังขึ้นเรื่อย ๆ แม่รองแม่สามน้องสี่และน้องห้าต่างก็ทำตัวชินชากับบรรยากาศตรงหน้า ยิ่งกับนางแล้วยิ่งชินชา นางเคยผ่านเหตุการณ์พวกนี้มาหมดแล้ว นางเคยอิจฉาที่บิดาสนใจแต่พี่สาวไม่สนใจนาง จะว่าไม่สนใจหรือก็ไม่ใช่ แม้นางจะไม่มีมารดาอย่างพี่น้องคนอื่น ๆ แต่ฐานะในตระกูลของนางนั้นเหนือกว่าพี่สาวและอาจจะมากกว่าแม่ใหญ่ด้วยซ้ำไป
เรื่องนี้ก็คงจะต้องอธิบายกันเสียหน่อย นางนั้นมีมารดาที่เคยเป็นภรรยาเอกคนแรกของท่านพ่อ มารดาของนางมาจากตระกูลขุนนางใหญ่อย่างตระกูลซ่ง ท่านตาของนางมีตำแหน่งเป็นเสนาบดีในวังหลวง การที่ตระกูลจ้าวรุ่งโรจน์ได้ถึงเพียงนี้ก็มีส่วนหนึ่งมาจากเส้นสายของท่านตาและท่านแม่ ทั้งที่เมื่อก่อนเป็นเพียงตระกูลคหบดีธรรมดาทั่วไปเท่านั้น ซึ่งมันเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้อาวุโสในตระกูลต่างก็ต้องไว้หน้านางกว่าคนอื่น ๆ จะเรียกว่าหลายคนโปรดก็คงไม่ผิด ยิ่งท่านย่ายิ่งไม่ชอบใจแม่ใหญ่ด้วยแล้ว การให้ท้ายนางก็ยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีกหลายเท่า
และหากถามว่าเหตุใดท่านย่าจึงได้เกลียดชังแม่ใหญ่ ก็เพราะสตรีนามว่าเต๋อซีอันนั้นเป็นเพียงหญิงชาวบ้านคนหนึ่งเท่านั้น พอมาคิดเรื่องนี้ก็อดไม่ได้ที่จะนึกขบขัน เรื่องของพี่สาวและมารดานั้นช่างเหมือนกันไม่มีผิด ต่างกันเพียงอันเหม่ยมีชะตาเดียวกับมารดาของนาง ชะตาถูกแย่งคนรักไปจากอก เหตุการณ์นั้นก็ช่างคล้ายคลึงกันยิ่งนัก หรือนี่จะเป็นลิขิตสวรรค์ เวรกรรมมันมีจริง จริง ๆ สินะ
เรื่องมันเริ่มจากท่านพ่อและท่านแม่แต่งงานกันได้ไม่ถึงเจ็ดวัน ท่านพ่อก็ต้องรีบต้อนรับคู่ค้าจากต่างแคว้นที่ถูกแนะนำมาโดยท่านตาของเธอ การต้อนรับก็เป็นไปด้วยดี แต่วันสุดท้ายที่ต้องเดินทางออกนอกเมือง พาคู่ค้าไปดูแหล่งวัตถุดิบกลับเกิดเรื่องอย่างอุบัติเหตุรถม้าตกข้างทาง ทั้งที่ทุกคนยังอยู่ครบ มีเพียงท่านพ่อของนางที่ไปโผล่อยู่กระท่อมร้างในป่า กว่าจะตามตัวเจอ เวลาก็ผ่านไปนับเดือน เวลานั้นท่านแม่ของนางทุกข๋ใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ แต่เมื่อสามีรอดกลับมาได้ กลับพาสตรีอีกคนตามมาด้วย ทั้งยังตั้งครรภ์ลูกของสามีนางติดมาในครรภ์อีกคน ท่านพ่อเองก็ได้รับบาดเจ็บที่หัวรุนแรง ทำให้ลืมเลือนบางสิ่งบางอย่างไป และสิ่งที่ทำพ่อลืมก็คือความรักที่มีให้แก่ท่านแม่ ลืมแม้กระทั่งความยากลำบากที่กว่าจะได้แต่งงานกับท่านแม่
ท่านพ่อแต่งตั้งให้สตรีชาวบ้านนามว่าเต๋อซีอันเป็นอนุ ด้วยเพราะท่านปู่ท่านย่าและผู้อาวุโสต่างพากันคัดค้านเรื่องแต่งนางเป็นภรรยารอง ให้ได้มากที่สุดก็คือตำแหน่งอนุเท่านั้น สุดท้ายท่านพ่อก็ต้องยอมให้สตรีที่ตนหลงรักเป็นอนุของตน ด้วยความสงสารคนรัก บวกกับความหลงลืม ทำให้วันแรกที่มาถึงและต้องนอนร่วมกับภรรยาเอกของตนเอง ท่านพ่อจึงระบายความไม่พอใจใส่ท่านแม่ หลังจากนั้นท่านพ่อก็มักจะไปหาอนุเต๋อบ่อย ๆ ไปกี่เดือนต่อมาก็มีนางขึ้นมา ท่านพ่อจึงยอมกลับมานอนกับท่านแม่บ้าง
แต่หลังจากพี่สามคลอด ท่านพ่อก็ไม่แวะมาอีกเลย ท่านแม่ทุกข์ใจจนทำให้นางคลอดก่อนกำหนด ดีที่ไม่ได้คลอดก่อนกำหนดมากนัก ท่านพ่อแม้จะขัดใจ แต่อย่างไรก็ยังเป็นบุตรสาว ท่านปู่ท่านย่าสงสารสะใภ้และหลานสาวจึงออกหน้าตั้งชื่อให้ด้วยตนเอง
และหลังจากนั้นไม่กี่ปี ท่านแม่ก็สิ้นใจด้วยอาการซึมเศร้า ท่านแม่ทุกข์ใจที่เห็นคนรักของตนเองไปเป็นคนรักของสตรีอื่น ไม่พอยังมีบุตรด้วยกันถึงสองคนเป็นพยานรักของทั้งสอง เมื่อท่านแม่สิ้นใจ ท่านพ่อนึกสงสารนางจึงจะให้คนรักของตนรับเป็นบุตร จะได้มีข้ออ้างให้คนรักของตนขึ้นเป็นฮูหยินเอกได้ แต่ท่านย่าก็ไม่ยอมให้สตรีไร้หัวนอนปลายเท้ามาเป็นมารดาเลี้ยงของหลานสาวคนโปรดของตน ท่านย่าและท่านปู่จึงรับนางไปดูแลด้วยตนเอง ท่านพ่อก็ไม่ยอม จนสุดท้ายก็จบลงที่ให้อนุเต๋อเลื่อนเป็นฮูหยินเอก และกับการที่ท่านปู่ท่านย่าจะเป็นคนเลี้ยงดูนางด้วยตนเอง
เวลานั้นตระกูลของฮูหยินรองและฮูหยินสามต่างไม่พอใจมาก แต่ก็ไม่สามารถทำสิ่งใดได้ ต้องบอกว่าฮูหยินรองและฮูหยินสามได้แต่งเข้ามาเพราะความต้องการของท่านตาของนาง เสนาบดีซ่งต้องการให้คนของตนคอยดูแลบุตรสาวอยู่อย่างใกล้ชิด หรือจะพูดง่าย ๆ ก็คือ แม่รองและแม่สามเป็นคนของท่านตานั่นเอง
จะเรียกว่านางเติบโตมาภายใต้ท่านตาท่านยายและท่านปู่ท่านย่าก็ว่าได้ เวลานั้นที่นางถูกประหาร ความจริงแล้วท่านตาท่านยายพยายามช่วยเหลือนางให้รอดพ้นข้อพิพากษ์ แต่เป็นนางที่ขอร้องไม่ให้ทั้งสองทำ หากท่านตาช่วยนาง จะต่างอะไรกับท่านพ่อเล่า แม้รู้ว่าอาจจะนำหายนะมาสู่คนอื่น ๆ ในตระกูล แต่ก็ยังทำมันลงไปเพราะความรักที่มีให้บุตรสาว นางรังเกียจการกระทำเช่นนั้น นางไม่ต้องการให้คนที่นางรักด้วยใจจริงทำมันเพื่อนาง การตายครั้งนั้นนางตั้งใจ ตั้งใจดูว่าท่านพ่อจะรู้สึกอะไรหรือไม่ที่ความรักของตนทำให้ตระกูลล่มจม บุตรและภรรยาทุกคนต้องมาตายทั้งที่ไม่ได้ทำสิ่งใด น้องสี่น้องห้าก็เพิ่งปักปิ่นไปได้ไม่นาน แม้จะไม่ค่อยได้คุยกันมาก แต่อย่างที่บอก แม่รองและแม่สามเป็นคนของท่านตา นางย่อมเป็นมิตรกับน้องชายและน้องสาวทั้งสองอยู่แล้ว