ขับขโมย(จบ)

1864 Words
“ทุกอย่างพร้อมแล้วขอรับคุณหนู” “ดี” นางเดินลงไปกลางลานที่มีร่างของพ่อบ้านเต๋อถูกมัดอยู่ ลุงหานเดินเข้ามาส่งไม้หวายที่เต็มไปด้วยหนามให้นางด้วยตนเอง ความจริงนางไม่จำเป็นต้องลงโทษพ่อบ้านด้วยตนเองเช่นนี้ก็ได้ แต่เห็นสองแม่ลูกนั่นเป็นเดือดเป็นร้อนเสียจนใจจะขาด มีหรือนางจะปล่อยโอกาสทำร้ายจิตใจคนพวกนั้นไปง่าย ๆ แขนขาวเรียวกำด้ามหวายแน่น ก่อนจะยกแขนขึ้นเตรียมหวดกลางหลังของพ่อบ้านเฒ่า ก่อนที่นางจะเคลื่อนมือ ใบหน้าที่ราวกับสตรีตัวร้ายหันกลับไปมองฮูหยินใหญ่และลูกอีกสองคนที่ดูจะไม่ค่อยพอใจการกระทำของนางนัก เห็นแบบนั้นนางจึงหวดหวายลงหลังพ่อบ้านด้วยความแรงเท่าที่จะทำได้ในทันที จื่อเวยยังคงหวดต่อไปเรื่อย ๆ โดยที่ใบหน้าของนางนั้น ยังไม่มีทีท่าว่าจะหันกลับมามองคนที่ตนกำลังโบยแม้แต่น้อย ยิ่งเห็นท่าทีของสามแม่ลูกนั่นนางยิ่งพยายามหวดแรงขึ้นกว่าเดิม เสียงตัดผ่านอากาศหวีดหวิวจนน่ากลัวว่าจะโดนเนื้อดังกังวานไปทั่วทั้งลาน จ้าวจื่อหลงมองบุตรสาวของตนที่ลงมือลงโทษบ่าวทรยศด้วยใบหน้านิ่งเฉย ซ้ำยังมีแววสาแก่ใจส่งมายังภรรยาและบุตรอีกสองคนก็คิดได้ว่า ตนนั้นไม่เคยรู้จักบุตรสาวของตนเลยจริง ๆ แม้แต่น้อย เขาไม่รู้ว่านางรู้สึกเช่นไร ชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไร มาสะกิดใจตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว จื่อเวยโตจนอีกไม่นานก็สมควรออกเรือนได้แล้ว คำว่าไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยากของนางนั้นช่างกระทบกับหลายสิ่งนัก “คุณหนูขอรับ ให้บ่าวจัดการต่อดีหรือไม่ มือของคุณหนูเริ่มแดงมากแล้วนะขอรับ” จื่อเวยที่กำลังยกแขนหวังจะหวดตาเฒ่านี่อีกถึงงกับหยุดค้างกลางอากาศ นางคิดว่าเท่านี้ก็น่าจะพอแล้วที่จะทำให้นางมีข่าวลือว่าเป็นสตรีจิตใจโหดเหี้ยม ลงมือโบยบ่าวด้วยตนเองจนหลังเหวอะ พอรู้สึกตัวก็เริ่มเห็นด้วยที่มือของนางเริ่มเจ็บจากแรงเสียดแล้วจึงส่งต่อหวายให้ลุงหานจัดการต่อ “รบกวนท่านจัดการต่อ โบยเสร็จแล้วให้ตามหมอมารักษา หากดีขึ้นให้นำไปโบยต่อ อย่าให้ตายจนกว่าจะได้ของของข้าคืนครบ” จะให้ตายก็ง่ายไป ถ้าโบยจนตายแล้วจะเอาอะไรไปต่อรองเพื่อทวงเงินคืนล่ะ “ขอรับคุณหนู ทางนี้บ่าวจะจัดการให้เรียบร้อยเองขอรับ” “ขอบคุณท่านมาก” ว่าจบนางก็เดินกลับเข้ามายังศาลาที่ทุกคนนั่งรอกันอยู่ อาจี๋และแม่นมหานรีบเข้ามาพัดมาวีให้นางจนวุ่น นางไม่รู้ตัวเลยว่าการโบยใครสักคนนั้นเรียกเหงื่อมากถึงเพียงนี้ แต่ดูจากสีหน้าและท่าทางของบ่าวรับใช้ฮูหยินใหญ่และบุตรของนางแล้วก็ถือว่านางหาได้เปลืองแรงเปล่า คนพวกนี้ก็เหมือนกับนายของตน ทั้งโง่และโลภ ไม่เกินพรุ่งนี้ ข่าวเรื่องนางจิตใจโหดเหี้ยมจะต้องแพร่กระจายไปทั่วเมืองกลบข่าวความร่ำรวยของนางเป็นแน่ คราวนี้จะมีบุรุษใดมาสู่ขอนางอีก นางก็อยากจะรู้นัก ชาติก่อนนางก็มีคนเข้ามาสู่ขอเช่นนี้ และคนที่ได้รับเลือกเป็นคู่หมายของนางก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นหนึ่งในคุณชายในสำนักคนหนึ่ง เป็นคู่หมายที่นางไม่แม้แต่จะสนใจ บุรุษผู้นั้นดูเหมือนว่าจริง ๆ แล้วจะมีใจรักแก่อันเหม่ยหาใช่นาง แต่ไม่รู้ว่าไปยังไงมายังไงจึงได้กลายเป็นนางที่เป็นคู่หมายของเขาเสียอย่างงั้น คอยดูซิ คราวนี้นางมีชื่อเสียงแย่ถึงเพียงนี้แล้ว ตระกูลของบุรุษผู้นั้นจะยังอยากเกี่ยวดองกับนางหรือไม่ นึกแล้วก็อยากชี้หน้าด่าฮูหยินใหญ่นัก สาระแนไม่เข้าเรื่องจริง ๆ เรื่องตัวเองยังเอาไม่รอด ปล่อยให้หาเงินมาชดใช้จนหัวหมุนไปเสียเถอะ เทศกาลชมดอกไม้ครั้งนี้ช่างเป็นวันสำคัญมากมายนัก “เช่นนั้นข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะท่านพ่อ พรุ่งนี้ข้าจะไปถามเอาความเรื่องเงินชดใช้นะเจ้าคะ หวังว่าท่านจะจัดการห้ข้าได้ครบทุกอย่าง ข้าขอตัว อ้อ...จริงสิ อาเยว่ อาหลง ตามข้ามาที่เรือนนะ ข้ามีของจะให้” “ขอรับ/เจ้าค่ะพี่รอง” ทั้งสามคนกล่าวลาคนอื่น ๆ ก่อนจะเดินตามกันไปที่เรือนของจื่อเวย ไหน ๆ วันนี้ก็นับของเรียบร้อยแล้ว นางตั้งใจจะเลือกเครื่องประดับให้หย่งเยว่ ส่วนเหทียงหลงนั้นคงจะเป็นอาวุธและหยกสักชิ้น “พี่รอง เจ็บหรือไม่ขอรับ” “หืม” “มือของท่าน มันแดงเจ้าค่ะ ข้าจะทายาให้นะเจ้าคะ” “หึหึ ขอบใจพวกเจ้ามาก พวกเจ้า...ไม่กลัวข้างั้นรึ” นางเห็นแววตาหวาดกลัวในตาของคนในศาลาที่มองมายังนางแล้วก็ไม่ได้แปลกใจอะไร ที่น่าแปลกใจคือเด็กสองคนนี้ไม่มีแม้แต่ความหวาดกลัวให้เห็นเลยแม้แต่น้อย “ข้าจะกลัวท่านทำไมหรือขอรับ” “นั่นสิเจ้าคะ เหตุใดข้าต้องกลัวพี่รองด้วยล่ะเจ้าคะ” “...ก็ข้าลงมือโบยพ่อบ้านเต๋อด้วยตนเอง ปกติ..ปกติยามจะลงโทษบ่าวในจวน ไม่มีผู้ใดลงมือด้วยตนเองเช่นข้า” “คิกคิก พี่รองเจ้าคะ เรื่องนั้นมันน่ากลัวอย่างไรหรือเจ้าคะ ข้าไม่ได้สนใจพ่อบ้านเต๋อเสียหน่อย หากเราไม่ลงโทษ แล้วความผิดที่เขาทำผู้ใดจะลงโทษกันเล่าเจ้าคะ พี่รองเป็นผู้ถูกยักยอก ผู้ที่เดือดร้อนที่สุดก็เป็นท่าน ไม่เห็นแปลกเลยที่ท่านจะลงมือด้วยตนเอง” “จริงด้วยขอรับพี่รอง ข้าน่ะ มองการหวดของท่านแล้วยังอดเสียวหลังไม่ได้ ท่านช่างแรงเยอะนัก ข้าจะต้องทำได้อย่างท่านในสักวันขอรับ” “งั้นหรือ...เอาล่ะ รีบไปกันเถอะ เดี๋ยวจะมืดเสียก่อน” ตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว นางไม่อยากให้มืดนัก เดี๋ยวทั้งสองคนจะกลับเรือนของตนลำบาก “พวกเจ้าเลือกสิ ข้าให้คนละหนึ่งอย่าง” พอมาเลือกจริง ๆ ถึงคิดได้ว่าของที่ตนเองมีอยู่นั้นเยอะมากจริง ๆ จากที่นางจะให้อาวุธกับเครื่องประดับทั้งสองคน กลายเป็นว่านางให้ทั้งสองเลือกเอาของที่ตนอยากได้จะดีกว่า ของที่เลือกเองย่อมถูกใจผู้รับมากกว่าอยู่แล้วไม่ใช่หรืออย่างไร ทางฝั่งลานฝึก ลุงหานกำลังสั่งให้บ่าวชายคนอื่น ๆ มาพาร่างพ่อบ้านเข้าไปไว้ในห้องเพื่อเรียกหมอมารักษาตามคำสั่งคุณหนูของตน แต่ก่อนจะได้ไปก็ต้องหยุดตามคำท้วงที่ดังมาจากในศาลา มีหรือเขาจะจำเสียงไม่ได้ เสียงที่ทำให้สหายของเขาต้องตรอมใจตาย เสียงของสตรีที่น่ารังเกียจนางนั้น “เดี๋ยว หยุด หยุดก่อน” ถึงจะเกลียดชังแต่เขาก็ยอมหยุดตามคำร้องของนาง “...อือออ” ซีอันเดินเข้าไปมองสภาพญาติของตนด้วยความสงสาร สภาพของพ่อบ้านตอนนี้เรียกได้ว่าเละจนไม่น่ามอง นางทั้งกลัวทั้งสงสาร ทีนี้นางจะอธิบายให้ตระกูลนางฟังอย่างไร พ่อบ้านเต๋อเป็นคนที่อนาคตไกลที่สุดในตระกูลเต๋อ ตอนนางได้ขึ้นเป็นฮูหยินใหญ่ของจวน นางนึกอยากช่วยตระกูลของตนให้ยกระดับฐานะจึงได้พาเขาเข้ามาเป็นพ่อบ้านในจวนแห่งนี้ “ฮูหยินใหญ่มีอันใดจะเอ่ยหรือไม่ขอรับ บ่าวยังต้องไปตามหมอมารักษาตามคำสั่งคุณหนูอีกขอรับ” “...นำ นำเขาไปพักที่เรือนพ่อบ้าน ไป ไป รีบตามหมอมารักษาเขา ฮึก” ลุงหานไม่สนใจท่าทีของฮูหยินใหญ่ เขาเดินนำบ่าวชายคนอื่น ๆ ไปยังโรงเก็บฟืนแทนที่จะเป็นห้องนอนหรือเรือนของพ่อบ้าน “เจ้า จะนำพ่อบ้านไปไหน” “ขออภัยฮูหยินใหญ่ บ่าวรับคำสั่งโดยตรงจากคุณหนูจื่อเวย ที่สำคัญ...ข้าหาใช่บ่าวในเรือนนี้ โปรดท่านรับรู้ไว้ด้วย ข้าเป็นคนของตระกูลซ่ง ในจวนนี้นายของข้าคือคุณหนูรองจ้าวจื่อเวย หาใช่ตระกูลจ้าว ข้าขอตัว” เขาหาใช่คนในตระกูลจ้าวเสียหน่อย ที่ยังอยู่นี่ก็เพราะคุณหนูรองยังอยู่เท่านั้น ดูเหมือนคนพวกนี้จะไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริง ๆ “ท่านพี่เจ้าคะ” “หยุดเสียทีเต๋อซีอัน อย่าให้ข้าต้องทนกับพฤติกรรมของเจ้าไปมากกว่านี้เลย จัดการตามคำสั่งของจื่อเวย คำสั่งของนางถือเป็นคำขาด พวกเจ้าทุกคนจงจำเอาไว้ คำสั่งของจื่อเวยเท่ากับคำสั่งของข้า แยกย้ายกันได้แล้ว” “ขอรับ/เจ้าค่ะ” “ฮึก ท่านพี่...” ภายในคืนนั้นทุกคนก็ได้รับรู้แล้วว่าแม้แต่ในใจของนายท่าน คุณหนูรองก็มีน้ำหนักในใจเป็นที่หนึ่ง หาใช่ฮูหยินใหญ่และคุณหนูใหญ่อย่างที่พวกตนคิดมาตลอด ถึงว่า คุณหนูรองจะทำสิ่งใดนายท่านก็ไม่เคยห้ามปรามแม้แต่ครั้งเดียว อยากได้สิ่งใดก็หามาให้ อยากทำสิ่งใดก็ตามใจ เพราะเช่นนี้นี่เอง เรื่องนี้ช่างเป็นข่าวใหญ่ยิ่งกว่าคุณหนูรองร่ำรวยมากเสียอีก สายวันต่อมาก็มีข่าวเรื่องนายท่านจ้าวนั้นแท้จริงแล้วรักบุตรคนรองมากที่สุดลุกลามไปทั่วเมือง รักแม้ว่าบุตรสาวจะโหดเหี้ยมจนลงมือเฆี่ยนพ่อบ้านที่เป็นญาติของฮูหยินใหญ่ด้วยตนเองเจียนตายก็ไม่ต่อว่า ยังถึงกับประกาศกร้าวให้บ่าวในจวนรับรู้ว่าคำสั่งของคุณหนูรองจ้างจื่อเวยเป็นคำขาด คำของนางมีค่าเท่ากับคำของตนเองด้วยซ้ำไป ทางคนที่คอยตามข่าวอยู่เงียบ ๆ ได้แต่แปลกใจ ไม่คิดว่าสตรีที่เขาสนใจจะมีเรื่องน่าสนใจเต็มไปหมด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่มีวี่แววของข่าวลือหลุดมาเลยแม้แต่น้อย เห็นเก็บตัวมาเสียนาน มันเกิดอะไรขึ้นกัน... “ว่าอย่างไร อยากจะพบนางอีกหรือไม่เล่า นางกล้าลงมือโบยพ่อบ้านจนหลังขาดเชียวนะ” “หึ” “เอ...แต่ข้าว่า ข่าวลือนี้จะทำให้เจ้าสนใจนางยิ่งกว่าเดิมอีกกระมัง ใช่หรือไม่ สวี่ไคเฉิง” ชายหนุ่มชุดดำทองหันกลับไปสบตากับสหายช่างพูดของตนอย่างเจ้าเล่ห์ “นางเหมาะกับตำแหน่งคนข้างกายข้า เจ้าไม่ว่าเช่นนั้นหรือ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD