บทที่ ๓ หัดเป็นนางบำเรอ(๓)

1147 Words
ใบหน้าคมคายที่โน้มลงต่ำจนมองเห็นร่องรอยของความเหน็ดเหนื่อยชัดเจนนั้น ทำเอาตาลหวานต้องกัดปากสั่นระริกของตัวเองไว้แน่น เธอเริ่มหายใจแรงขณะเลือดในร่างกายมันก็วิ่งทะยานตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นสู่หัวใจ เปลี่ยนความหวาดหวั่นเมื่อครู่ให้กลายเป็นความต้องการ ยิ่งถูกบีบเคล้นก้น แถมเขายังแนบลำกายเข้าหาให้สัมผัสถึงความร้อนผ่าวที่ทะลุผ่านเนื้อผ้าบางเบาออกมา ก็ยิ่งทำให้เธอขาสั่นจนทรงตัวไม่อยู่ ดินก่ายกอดเธอ แล้วหมุนเร็วๆ ให้เธอได้พิงโอ่ง แล้วเขาก็จับขาข้างหนึ่งของเธอให้โอบรอบเอวสอบ นัยน์ตาคู่นั้นกวาดมองรอบๆ บริเวณครู่หนึ่งราวกับว่ากลัวใครจะผ่านมาเห็น แต่เมื่อป่าที่ล้อมรอบตัวยังคงสงบเงียบ เขาก็เปลี่ยนมาจูบเม้มบนเนินไหล่เปลือยเปล่าของเธอเร็วๆ พึมพำบางอย่างข้างๆ หูอื้ออึงของเธอ หลังจากนั้นก็ทำเอาเธอผวาเฮือก ความร้อนผ่าวที่สอดแทรกเข้ามาในร่างกายนั้นส่งผลให้ดวงตากลมของเธอเบิกกว้าง เขาพุ่งเข้าใส่โดยที่ไม่ได้ส่งสัญญาณให้จนเธอรู้สึกเจ็บ แต่ไม่กี่วินาทีผ่านไป คงเป็นเพราะตั้งแต่เห็นหน้าเขากลับมา ร่างกายของเธอก็ผิดปกติอยู่แล้ว เธอมีความคิดชั่ววูบในตอนนั้นว่าอยากร่วมรักกับเขา อยากสัมผัสกลิ่นเหงื่อกับความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานของผู้ชายคนนี้ให้ชัดๆ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เธอคิดว่ามันคงสิ้นหวังไปแล้ว แต่ตอนนี้เธอก็ได้สัมผัสมันเต็มๆ ปลายจมูกของเธอจึงไม่พลาดที่จะสูดกลิ่นของเขาจนเต็มปอด แรงรักที่กระแทกเข้าใส่ขณะก้นแนบอยู่กับขอบโอ่งทำเอาเธอรู้สึกเย็นแล้วก็ร้อนสลับกัน ความเจ็บที่เคยเกิดขึ้นมันหายไปเมื่อในตัวเธอชุ่มฉ่ำและพร้อมพรักสำหรับเขา แค่เขาขยับสะโพกเธอก็จิกเนื้อไปตามแผ่นหลังแข็งแรงนั้น ฉีกทึ้งร่างของเขาเหมือนที่เขากำลังฉีกจุดบอบบางของเธอ เราสองคนร่วมรักกันอยู่ตรงโอ่งอาบน้ำ ท่ามกลางแสงจันทร์และก็หมอกจางๆ ของยามค่ำคืน ไม่รู้ว่ารักครั้งนี้ร้อนเร่าแค่ไหน แต่ดินพอใจกับการตอบรับของคนร่างบางเป็นอย่างมาก เขาชอบเสียงพึมพำที่เธอครางเรียก สลับกับเสียงร้องครวญแสนไพเราะจับใจ แรงหยิกของเธอมันยิ่งเพิ่มความเสียวกระสันให้พลุ่งพล่าน เขารอจนเธออ่อนแรงถึงได้ปล่อยน้ำอุ่นๆ ออกมา หลังจากนั้นก็ตักน้ำอาบร่างของเธอและเขาพร้อมๆ กัน เมื่อร่างของเขาและเธอเปียกชุ่มเขาเช็ดตัวเธอแล้วเสร็จก็ช้อนร่างขึ้นแนบอก พอขึ้นมาบนบ้านก็วางเธอไว้บนฟูกบางๆ นั้น ตาลหวานนั่งขดตัวอยู่ใต้ผ้าเช็ดตัว ขณะเหลือบมองคนร่างสูงซึ่งเดินผ่านแสงไฟตะเกียงไป พอเขาสวมบ็อกเซอร์เรียบร้อยเขาก็ส่งเสื้อมาให้เธอ พอใส่เสร็จก็มองหากางเกงมาใส่บ้าง “ไม่ต้องใส่อย่างอื่นเลย” เขาร้องบอก เสียงทุ้มกังวานดูหนักแน่น พริบตาเดียวเขาก็ทำเอาเธอสะท้านอายอีก “ใส่ไปก็ต้องถอดอยู่ดี” ตาลหวานได้ยินเสียงตัวเองกลืนน้ำลายชัดเจน ขณะเหลือบมองเสี้ยวหน้าของคนพูดอย่างพินิจพิเคราะห์ เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่า เขาก็มีมุมแบบนี้เหมือนกัน คำพูดของเขาทำเอาใบหน้าของเธอแดงซ่านยิ่งกว่าเดิมเป็นเท่าตัว ดูเหมือนเขาจะทำแบบที่พูดจริงๆ เพราะเพียงเธอสวมเสื้อเสร็จ เขาก็มานั่งอยู่เบื้องหน้าตรงข้ามกับเธอ ดวงตามีเสน่ห์คู่นั้นกำลังสะกดเธอไม่ให้ขยับเขยื้อน พริบตาเดียวก็จับมือไปทาบแก้มสากของเขา “จับสิ ฉันเห็นเธอจ้องตั้งแต่กลับมา” นั่นคือความจริง เธอลอบสังเกตเขา เห็นความเหน็ดเหนื่อยที่ฉายชัดแล้วก็อยากจะปัดเป่าอาการเหนื่อยล้านั้นทิ้ง พอได้จับแก้ม เธอก็พลั้งเผลอลูบไล้ แม้มองภายนอกอาจจะดูสากระคายไม่เรียบลื่น แต่พอได้จับเธอก็เพิ่งรู้เองว่าผิวของเขานุ่มนิ่ม มีความเนียนละเอียดจนเธอรู้สึกอิจฉา มือเรียวทาบแก้มเขาอยู่พักหนึ่ง ถึงได้ค่อยๆ โน้มเข้าใกล้ แนบปากและจมูกสูดกลิ่นหอมกรุ่นของเขา “มีเซ็กส์กับฉันอีกสองครั้งได้ไหมคะ” เธอวอนขอด้วยใบหน้าแดงซ่าน ดินจับจ้องเจ้าของเสียงนุ่มนวลแสนเย้ายวนตาไม่วาง ไม่ต้องรอให้เธอเอ่ยซ้ำ ริมฝีปากหยักได้รูปของเขาก็ค่อยๆ แนบลง กลืนกินปากของเธอทั้งบนและล่าง พอละเลียดชิมความหอมข้างนอกพอแผ่วผ่านแล้ว เขาก็สอดลิ้นอุ่นชื้นเข้าสำรวจด้านใน เปลี่ยนเสียงเรียกร้องให้ร่วมรักเมื่อครู่เป็นเสียงครวญครางแห่งความสุขสม ที่ไม่ว่าเธอจะทักท้วงให้พอเท่าไร เขาก็จะดื่มด่ำกับเรือนร่างของเธอจากครั้งที่สองเป็นสามและสี่เรื่อยๆ ไม่รู้จักจบจักสิ้นตลอดคืน ฟ้าใกล้สางแล้วขณะที่ตาลหวานรู้สึกตัว เธอปรายตามองข้างๆ ก็พบว่ายังอุ่นๆ แต่ไม่มีเจ้าของเธอร่างกำยำที่ตระกองกอดเธอทั้งคืนอีกแล้ว พอเพ่งมองไปรอบๆ ก็ได้เห็นเจ้าของแผ่นหลังกว้าง เวลานี้เขากำลังอัดบุหรี่เข้าปอด ปล่อยควันให้คละคลุ้งออกไปนอกหน้าต่าง เธอนิ่วหน้ามองภาพนั้นอยู่นาน ที่เธอทำแบบนี้คงเป็นเพราะว่าเพิ่งเคยเห็นเขาสูบบุหรี่เป็นครั้งแรก เขาคงมีเรื่องให้คิดหนัก หนึ่งในนั้นเธอคาดหวังให้เป็นเรื่องของเธอ ดูเหมือนเขาจะรู้ว่าเธอตื่นแล้ว ถึงได้ดับบุหรี่แล้วเดินเข้ามาหา นัยน์ตาคู่นั้นยังคงว่างเปล่าเฉยชาเช่นเดิม แต่ไม่กี่วินาทีมุมปากหยักก็กดโค้งสวยขึ้น พอเข้ามาใกล้เขาก็จูบหน้าผากเธอเร็วๆ “นอนต่อเถอะ เดี๋ยวฉันให้คนงานเอาข้าวมาส่ง” “ฉันตื่นแล้วค่ะ คิดว่าจะไปล้างหน้าล้างตาเสียหน่อย” “นอนเถอะ” เขาสั่งอีกครั้งแล้วนั่งลงข้างๆ “ฉันจะนั่งเฝ้าจนกว่าเธอจะหลับ” อาจเป็นเพราะนัยน์ตาคู่นั้นฉายแววสั่งการในยามบอกเธอ หรือว่าเธอรู้สึกเหน็ดเหนื่อยมากเกินไป เพราะทั้งคืนเธอได้หลับไม่ถึงสองชั่วโมงด้วยซ้ำ ดังนั้นพอถูกบังคับให้นอนโดยมีเจ้าของร่างกำยำนั่งใกล้ๆ เพียงได้กลิ่นกายของเขากับมือข้างหนึ่งที่ตบแขนของเธอเบาๆ ราวกับขับกล่อม ทำให้เธอผล็อยหลับไปอีกครั้งได้อย่างง่ายดาย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD