บทที่ 4

1185 Words
“พอจะบอกผิงได้ไหมคะว่าเกี่ยวกับเรื่องอะไร” หม่อมหลวงนิรินรดาไม่รู้เลยว่าคำถามของเธอ ทำเอาชนนสะดุ้งตกใจ ไม่กล้าสบตากับเธอ ด้วยเกรงว่าจะเผยพิรุธให้เห็น จนต้องทำเป็นเดินไปรินบรั่นดีมาดื่ม เพื่อกลบเกลื่อนอาการของตัวเอง “คุณผิงอย่าสนใจเลยครับ” “ทำไมคะ ไม่อยากให้ผิงรู้หรือคะ” พอถูกคนรักต่อว่าเสียงแข็ง ชนนก็รีบเดินมาทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้ใกล้ๆ กัน แล้วทำใจกล้าเอื้อมมือไปจับมือเล็กนุ่มนิ่มของหม่อมหลวงนิรินรดามากุมไว้ ก่อนจะเอ่ยประจบให้อีกฝ่ายสบายใจ “โธ่...ที่รักครับ อย่าคิดแบบนั้นสิครับ ที่ผมไม่อยากพูดก็เพราะว่าไม่อยากเอาเรื่องรกสมองมาทำให้คุณผิงไม่สบายใจต่างหากล่ะครับ” “แน่ใจนะคะว่าไม่ต้องการให้ผิงกับคุณพ่อช่วย” “แน่ใจสิครับ” ชนนตอบเสียงหนักแน่น ก่อนจะเอ่ยพูดต่อด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ เพื่อเรียกร้องความเห็นใจจากหญิงคนรัก “ผมอยากแก้ปัญหาด้วยตัวเอง อยากบริหารธุรกิจของผมให้รุ่งเรืองมากกว่านี้ เพื่อเป็นการพิสูจน์ให้คุณพ่อของคุณผิงเห็นว่าผมก็เป็นคนมีความสามารถคนหนึ่ง เป็นคนรับผิดชอบต่อหน้าที่การงาน ผมขอสร้างหลักปักฐานอีกไม่นาน จากนั้นผมจะพาคุณพ่อคุณแม่ไปสู่ขอหม่อมหลวงนิรินรดามาเป็นภรรยาของผมนะครับ” วาทะคารมอันเป็นเลิศ กอปรกับความรักที่มีต่อชนน ทำให้หม่อมหลวงนิรินรดาหลงไปกับคำหวานๆ ของอีกฝ่าย หญิงสาวบีบมือใหญ่ของคนรักเบาๆ แล้วเอ่ยตอบเสียงหวาน “ผิงรู้คะว่าคุณชนน พยายามทำงานเก็บเงินเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว ผิงเองก็อยากแต่งงานกับคุณชนนเร็วๆ เหมือนกันค่ะ” “ถ้ายังงั้นผมขอกำลังใจจากคุณผิงหน่อยได้ไหมครับ” พอสบโอกาสประจวบเหมาะ ชนนก็รุกหนักทันที เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้างามลออ หมายจะหอมแก้มหญิงคนรักสักฟอด แต่ก็ถูกหญิงสาวยกมือเล็กมาปิดปากเขาไว้ แล้วยังใช้มืออีกข้างดันตัวเขาให้ถอยออกห่างด้วย หม่อมหลวงนิรินรดารู้ว่าชนนต้องการอะไร จึงเอ่ยปฏิเสธอีกฝ่ายอย่างนุ่มนวล “ผิงก็มาให้กำลังใจคุณชนนทุกวันอยู่แล้วนี่คะ” ‘โง่หรือแกล้งโง่กันแน่ว่ะ’ “โธ่...ที่รักครับ คุณก็รู้นี่ครับว่าผมกำลังหมายถึงอะไร” ในใจนั้นชนนก่นด่าหญิงคนรักเพราะความโกรธจัด แต่พอพ่นถ้อยวาจาออกมา กลับหวานหยดซะยิ่งกว่าน้ำตาลเชื่อม และหม่อมหลวงนิรินรดาก็หลงคารมของคนรักเช่นเคย แต่กระนั้นก็ยังทำใจแข็ง ไม่ยอมให้อีกฝ่ายแตะเนื้อต้องตัวได้ง่ายๆ “เอาไว้รอวันแต่งงานของเราก่อนดีไหมคะ ถ้าถึงวันนั้นเมื่อไร ผิงจะยอมตามใจคุณชนนทุกอย่างเลยค่ะ” ‘หัวโบราณ สมัยนี้ผู้หญิงกับผู้ชายเขาอยู่เป็นคู่ผัวตัวเมียกันก่อนทั้งนั้น’ ชนนด่าด้วยความขัดใจ แต่เมื่อคนรักไม่ยอม ก็ต้องแสดงละครบทเศร้าต่อไป “ผมรู้ครับที่รัก ว่าเราต้องรอให้ถึงวันแต่งงานของเราก่อน แต่ผมขอกำลังใจนิดๆ หน่อยๆ จากคุณผิงไม่ได้หรือครับ หยอดน้ำใส่ต้นไม้วันละนิดก็ยังดีนะครับ ต้นไม้มันจะได้ชุ่มชื่น เจริญเติบโตต่อไป” “แหม! ช่างเปรียบเทียบจังเลยนะคะคุณชนน” หม่อมหลวงนิรินรดาต่อว่าคนรักยิ้มๆ “ก็มันจริงนี่ครับ ชีวิตของผมตอนนี้เหมือนต้นไม้ที่เหี่ยวเฉารอเวลาตาย หากได้หยดน้ำมาหล่อเลี้ยง มันก็จะมีแรงสู้ มีพลังขึ้นมาอีกหน” ไม่ได้เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ เท่านั้น แต่นักเล่นละครอย่างชนนได้ตีสีหน้าเศร้าๆ ดวงตาที่ทอดมองหญิงคนรักผู้สูงศักดิ์ ก็เผยให้เห็นแววหม่นหมอง จนหม่อมหลวงนิรินรดาต้องใจอ่อนในที่สุด “อืม...ผิงเริ่มกลัวว่าต้นไม้ต้นนี้จะเหี่ยวเฉาตายซะแล้ว เห็นทีต้องหยอดน้ำให้ต้นไม้บ้างแล้ว” คำพูดของหม่อมหลวงนิรินรดา ทำเอาชนนลอบยิ้มอยู่ในใจ แต่ก็ยังคงแสดงละครต่อไป “ถ้าผมทำให้คุณผิงลำบากใจ ก็ไม่ต้องก็ได้ครับ ผมจะทนรอให้ถึงวันนั้นของเรา เพราะผมรักคุณผิง ผมอยากให้เกียรติคนที่ผมรักด้วยครับ” ถ้อยคำที่เอ่ยหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้า เป็นใครก็ใจละลายไปกับคำพูดเหล่านี้ หม่อมหลวงนิรินรดายอมขยับกายเข้าไปใกล้ร่างใหญ่โต แล้วกระซิบบอกคนรักอย่างเอียงอาย            “คุณชนน ขยับมาอีกนิดสิคะ ผิงจะช่วยรดน้ำให้ต้มไม้ชุ่มชื้นขึ้นมาบ้าง”            ไม่รอช้าให้เสียเวลา ชนนขยับกายเข้าไปนั่งชิดกับร่างบางหอมละมุน แล้วแสร้งยิ้มเศร้าๆ ขณะเอ่ยถามหม่อมหลวงผู้สูงศักดิ์            “ผมไม่ได้บังคับคุณใช่ไหมครับที่รัก”            “ไม่ค่ะ คุณชนนไม่ได้บังคับผิงหรอกค่ะ ผิงเต็มใจค่ะ”            ว่าแล้วหม่อมหลวงหญิงที่ใจละลายเพราะหลงคารมของคนรัก ก็กดเรียวปากอิ่มสีกุหลาบลงไปบนแก้มสากของชนนพอให้อีกฝ่ายรู้สึกตัวว่าถูกจุมพิต จากนั้นก็รีบผละออกอย่างรวดเร็ว แล้วกระซิบถามอีกฝ่ายต่อด้วยความเขินอายหน้าแดงซ่านไปหมด            “ได้รับกำลังใจจากผิงหรือยังคะ”            ‘กำลังใจกะผีนะสิ แบบนี้เขาไม่เรียกว่าให้กำลังใจกันหรอกคุณผิง เขาเรียกว่าเอาจมูกมาชนแก้มซะมากกว่า’            “อืม...ได้กำลังมาครึ่งหัวใจแล้วครับ ขอจูบหวานๆ อีกสักครั้งได้ไหมครับทูนหัว”            ขณะอ้อนวอนขอเสียงหวาน ชนนแทบระงับอารมณ์ไม่ไหว อยากตะโกนพูด ตะโกนด่าหญิงคนรักตามที่นึกคิดอยู่ในใจ            “ได้คืบจะเอาศอกนะคะ” หม่อมหลวงนิรินรดาต่อว่ายิ้มๆ พลางเอ่ยปฏิเสธเสียงหวาน “พอแล้วค่ะคุณชนน เก็บไว้วันหลังบ้างสิคะ ขืนจูบบ่อยๆ เดี๋ยวคุณชนนก็เบื่อผิงแย่”            “โธ่...ใครเบื่อคุณผิงก็บ้าแล้วครับ คุณผิงทั้งหอมหวาน ทั้งน่ารักสมกับชื่อ ถ้าผมเบื่อ ผมคงต้องเรียกควายเป็นพี่แล้วครับ”            “ไม่เอาค่ะ อย่าว่าตัวเองสิคะ ผิงไม่อยากให้คุณชนนคิดแบบนี้” หม่อมหลวงนิรินรดาค้านออกมาเบาๆ พร้อมกับยกมือปิดปากคนรักไม่ให้พูดต่อว่าตัวเองอีก            ชนนจับมือเล็กนุ่มนิ่มของคนรักมาจรดริมฝีปาก แล้วเริ่มหยอดคำหวานต่อ “ก็มันจริงนี่ครับ คุณผิงทั้งสวย ทั้งเก่งและก็รวยมาก อีกทั้งยังสูงศักดิ์ด้วยฐานันดรศักดิ์ แค่คุณผิงยอมมอบหัวใจให้กับคนต่ำต้อยอย่างผม...ผมก็ดีใจมากแล้วครับ เพราะฉะนั้นผมไม่มีทางเบื่อคุณผิง คนที่สำคัญยิ่งกว่าลมหายใจของผมแน่นอนครับ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD