บทที่ 1
“ปารีส ฝรั่งเศส”
“ไม่ผ่าน ไม่มีอะไรให้ดูนอกจากหอไอเฟลที่เป็นโครงเหล็กดีๆ นี่เอง”
“นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา”
“เบื่อ! ไปจนนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว”
“ลอนดอนล่ะพ่ะย่ะค่ะ”
“นี่ยิ่งเบื่อใหญ่ เราท่องลอนดอนหมดทุกตรอกทุกซอยของเมืองนี้แล้ว”
“โรม!”
“เจ้านี่ท่าจะบ้า เราเพิ่งกลับมาจากโรมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เอง เจ้าจะให้เราไปโรมอีกครั้งหรือยังไงกัน”
หนึ่งบุรุษผู้เป็นองครักษ์ พยายามเสนอทางเลือกให้กับผู้เป็นนาย และอีกหนึ่งบุรุษผู้เป็นนาย เป็นเจ้าแผ่นดินของรัฐฟาเรสส์ ก็ตรัสค้านข้อเสนอขององครักษ์ในทุกครา
“ถ้าไม่ไปโรม ก็ไปบาร์เซโลนาก็ได้พ่ะย่ะค่ะ”
องครักษ์ฮารัน ฮาร์ป แอรอน ผู้เป็นองครักษ์เอก ได้นำเสนอประเทศให้เจ้าเหนือหัวทรงเลือกสำหรับการเดินทางไปพักผ่อน โดยหวังว่าประเทศสุดแสนโรแมนติคอย่างประเทศสเปน จะเป็นที่พึงพอพระทัยของเจ้าเหนือหัว แต่เมื่อได้ยินคำตอบกวนๆ ที่หลุดออกมาจากโอษฐ์สีสด ก็แทบหงายหลังตกจากเก้าอี้
“บาร์เซโลนาหรือ? ไม่ไปดีกว่า เราไม่ชอบทีมฟุตบอลทีมนี้”
‘ชีคฟาฮิด อซิสส์ ฟาเรสส์’ หรือที่รู้จักกันในสังคมของเหล่าราชนิกูลของทวีปตะวันออกกลางว่า ‘แบล็ค แพนเธอร์ (Black Panther)’ หรือ ‘บี พี’ อันหมายถึง ‘เสือดำ’ ตามความหมายชื่อของพระองค์ ซึ่งเป็นเจ้าเหนือหัวของรัฐฟาเรสส์ ซึ่งเป็นรัฐเล็กๆ ทางตอนใต้ของทวีปตะวันออกกลางอันอุดมไปด้วยทรัพย์ตามธรรมที่เรียกว่าน้ำมัน ได้ตรัสตอบหน้าเฉยอย่างไร้เหตุผลที่สุด
‘เกี่ยวอะไรกับทีมฟุตบอลวะเนี่ย’
องครักษ์ฮารันตีหน้ายุ่ง บ่นงึมงำอยู่ในใจ ก่อนจะทำใจกล้าเอ่ยถามเจ้าเหนือหัวเพื่อให้คลายความสงสัย
“เอ่อ...พระองค์พ่ะย่ะค่ะ จะเสด็จไปพักผ่อนยังประเทศสเปน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับทีมฟุตบอลด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
“เกี่ยวสิว่ะ เราไม่ชอบนักฟุตบอลทีมนี้ และเราก็ไม่อยากไปสเปนด้วย”
ชีคฟาฮิดตรัสตอบตามประสาคนเอาแต่ใจตัวเองเป็นใหญ่ ซึ่งคำตอบของพระองค์ทำเอาองครักษ์ฮารันต้องลอบกลอกตาขึ้นบนอย่างเซ็งจัด พร้อมกับบ่นอุบอยู่ในใจ
‘ให้ได้แบบนี้สิ ไม่ชอบทีมบาร์เซโลนา ก็เลยไม่ไปสเปนเอาซะเลย
“ถ้าไม่ไปสเปน ก็ไปอิตาลีดีไหมพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมรู้ว่าพระองค์ชอบทีมอิตาลีที่สุด”
องครักษ์ฮารันพยายามเสนอสถานที่ท่องเที่ยวให้เจ้าเหนือหัวตัดสินพระทัยเลือกสักที่ หลังจากเสนอประเทศอิตาลีไปแล้ว ก็หวังว่าชีคฟาฮิดจะตัดสินพระทัยไปพักผ่อนที่นี่ แต่พอได้ยินคำปฏิเสธที่หลุดออกมาจากโอษฐ์สีสด ก็ต้องลอบถอนหายใจอีกเฮือกใหญ่
“เราชอบทีมอิตาลีก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าชอบนักฟุตบอลทีมอัซซูรี่แล้วต้องไปเที่ยวประเทศอิตาลีด้วย”
ชีคฟาฮิดตรัสปฏิเสธทุกประเทศที่องครักษ์ฮารันเสนอมา พอทรงคิดทบทวนถึงประเทศที่องครักษ์หนุ่มเสนอให้พระองค์เดินทางไปพักผ่อนในครั้งนี้ ก็ได้แต่ถอนหายใจยาวด้วยความเบื่อหน่าย แล้วตรัสถามแกมตำหนิองครักษ์ฮารันอีกครั้ง
“ไม่มีประเทศที่น่าสนใจกว่านี้แล้วหรือยังไงเจ้าฮารัน ที่เจ้าเสนอมา เราล้วนแต่ไปเที่ยวมาหมดแล้ว”
“โธ่...มันก็แน่อยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ เพราะพระองค์เดินทางไปเที่ยวเกือบรอบโลกแล้ว กระหม่อมก็ไม่รู้จะเสนอประเทศไหน ทวีปไหนให้พระองค์ทรงเดินทางไปพักผ่อนในครั้งนี้”
องครักษ์ฮารันบ่นไม่เลิก เขาพยายามค้นหาประเทศที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองน่าท่องเที่ยวที่สุดในโลก มาให้เจ้าเหนือหัวเลือก แต่พระองค์ก็ยังคงปฏิเสธทุกประเทศ ทำเอาเขามืดแปดด้านไปหมด ไม่รู้จะนำเสนอประเทศไหนแล้ว
“เจ้าฮารัน ทำการบ้านหน่อยสิ เลือกประเทศเด็ดๆ ที่พอจะทำให้เราสนใจจนอยากไปเที่ยวประเทศนั้นได้”
ชีคฟาฮิดตำหนิองครักษ์ฮารัน ทรงหงุดหงิดอยู่เล็กน้อย ที่องครักษ์เอกทำงานไม่ได้ดั่งใจ พระองค์ต้องการเดินทางไปพักผ่อนสักระยะ หลังจากตรากตรำทำงานหนักมาเกือบทั้งปี อยากเติมพลังให้กับตัวเอง ก่อนจะกลับมาทำงานเพื่อราษฎรของพระองค์ต่อ
องครักษ์ฮารันตีหน้ายุ่ง ทำหน้านึกคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยตอบเสียงอ่อยๆ
“กระหม่อมคิดไม่ออกแล้วพ่ะย่ะค่ะ พระองค์อยากไปทวีปไหนเป็นพิเศษไหมพ่ะย่ะค่ะ เผื่อกระหม่อมพอจะนึกชื่อประเทศทวีปเหล่านั้นออกบ้าง”
ชีคฟาฮิดไม่ตอบคำถามขององครักษ์หนุ่ม พระองค์ทรงเดินออกไปหยุดยืนตรงระเบียงนอกห้องทรงงาน ทอดดวงเนตรสีนิลคมกล้าไปยังท้องทะเลทราย ซึ่งถูกอาบไปด้วยลำแสงสีทองในยามพระสุริยาอัสดง ก่อนจะตรัสตอบออกมาอย่างลอยๆ แทบไม่รู้ตัว และไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าทำไมถึงอยากเดินทางไปทวีปนี้
“เราอยากไปทวีปเอเชีย”
“เอเชียยังงั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์ฮารันทวนคำ แล้วเอ่ยบอกเจ้าเหนือหัวต่อ “กระหม่อมขอเวลาสิบนาทีพ่ะย่ะค่ะ แล้วกระหม่อมจะนำเสนอประเทศที่น่าท่องเที่ยวที่สุดในทวีปเอเชียให้พระองค์ทรงเลือก” “เราให้เวลาเจ้าห้านาที เจ้าฮารัน”
เรื่องเอาแต่พระทัยองค์เองเป็นใหญ่ไม่มีใครเกิน ชีคฟาฮิด อซิสส์ ฟาเรสส์ หากต้องการสิ่งใดแล้วก็ต้องได้รับสิ่งนั้นตอบแทนในทันทีทันใด
และองครักษ์ฮารันก็ล่วงรู้นิสัยของเจ้าเหนือหัวหนุ่มเป็นอย่างดี จึงรีบค้นคว้าข้อมูลตามที่ชีคฟาฮิดทรงต้องการในทันที
“ได้ข้อมูลหรือยังเจ้าฮารัน”
เจ้าของดวงเนตรสีนิล ซึ่งยังคงจับจ้องมองคลื่นทะเลทรายสีทองอย่างไม่วางตา ตรัสถามเสียงทุ้มลึก ทั้งๆ ยังไม่ครบกำหนดเวลาที่ให้ไว้กับองครักษ์ฮารัน
‘พระองค์นะพระองค์ ยังไม่ครบห้านาทีก็จะเอาคำตอบแล้ว’
องครักษ์ฮารันบ่นอุบอยู่ในใจ ขณะเดียวกันนิ้วยาวแข็งแกร่งก็กดหาข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ตเป็นการเร่งด่วน เพื่อให้ทันใจเจ้าเหนือหัว
“เอาว่ะ เลือกประเทศนี้ก็แล้วกัน เผื่อพระองค์จะทรงถูกพระทัยขึ้นมา”
เมื่อมีภาพของเมืองหลวงแห่งหนึ่งปรากฏขึ้นบนหน้าจอโน๊ตบุ้ค องครักษ์ฮารันก็รีบเอ่ยบอกเจ้าเหนือหัว ก่อนจะหมดเวลาที่ทรงกำหนดไว้ให้
“กรุงเทพฯ ประเทศไทย กระหม่อมขอแนะนำให้พระองค์เดินทางไปพักผ่อนที่ประเทศไทยพ่ะย่ะค่ะ”
ผู้เป็นเจ้าเหนือหัว หันพระพักตร์หล่อเหลาคมเข้มตามแบบฉบับของบุรุษอาหรับโบราณ มาเลิกคิ้วขึ้นมอง แล้วตรัสทวนคำขององครักษ์ฮารัน
“ประเทศไทยยังงั้นหรือ?” ทรงตีสีพระพักตร์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตรัสต่อ
“อืม...เรายังไม่เคยไปประเทศไทยแม้แต่ครั้งเดียว ประเทศไทยมีอะไรดีบ้าง เจ้าลองว่ามาสิ เราจะให้คะแนน เผื่อว่าเราจะตัดสินใจเดินทางไปที่นี่”
องครักษ์ฮารันกวาดสายตาอ่านข้อมูลของสยามเมืองยิ้ม ซึ่งมีรายละเอียดปรากฏอยู่บนหน้าจอโน๊ตบุ้คอย่างมากมาย แล้วเลือกหัวข้อเด่นๆ เอ่ยบอกเจ้าเหนือหัวหนุ่ม
“กรุงเทพฯ ได้รับคัดเลือกให้เป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยวที่สุดของโลก”