ดอกหญ้าในดงหงส์

1684 Words
งานรีวิวบ้านจัดสรรพผ่านไปด้วยดี ซึ่งในตอนค่ำได้มีนัดสังสรรค์ทีมงาน และบรรดาเพื่อนของไอโซนัท ทางครอบครัวของยศให้ฟีฟ่าไปคนเดียว ทีแรกยศก็ไม่อยากให้ไปแต่ฟีฟ่าขอร้องจนยศใจอ่อน เมื่อฟีฟ่ามาในงานก็พบกับความตื่นตาตื่นใจ เพราะเป็นครั้งแรกที่เขาได้เข้ามาในงานสังคมอีกระดับหนึ่ง “น้องฟีฟ่ามาพอดีเลย เดี๋ยวพี่จะแนะนำเพื่อนพี่ให้รู้จัก”ไอโซนัทจับมือของฟีฟ่าและดึงมาหาเพื่อนๆของเขา ซึ่งมีแต่คนระดับลูกหลานไอโซร้อยล้านถึงพันล้านบางคนหมื่นล้าน “น้องฟีฟ่าหวัดดีพี่เขาซิ เพื่อนพี่ทั้งนั้นเลย” “สวัสดีครับ”ฟีฟ่ายกมือไหว้ ยิ้มแบบฝืนๆเพราะการแต่งตัวแต่ละคนหรูหรามาก ทั้งตัวมีแต่แบรนด์เนม ส่วนฟีฟ่ามองตัวเองก็เสื้อผ้าขึ้นห้างเหมือนกัน แค่หลักพันเท่านั้นไม่ถึงหมื่นถึงแสนอย่างเพื่อนไอโซนัท “น้องฟีฟ่าน่ารักสมคำบอกเล่าของนายจริงๆ”เพื่อนคนหนึ่งของไอโซนัทพูดขึ้น “แน่นอนอยู่แล้ว”ไอโซนัทกอดคอฟีฟ่าไว้ “แล้วน้องฟีฟ่าทำงานอะไรเหรอครับ” “น้องเขาเป็นบรรณารักษ์ที่ห้องสมุดในมหาวิทยาลัยน่ะ”ไอโซนัทตอบแทน “พี่ก็นึกว่าน้องฟีฟ่าทำธุรกิจ หรือ ไม่ก็ช่วยคุณพ่อทำธุรกิจ แต่เป็นบรรณารักษ์ก็ดีน่ะ ได้อยู่กับนักศึกษาจึงทำให้ฟีฟ่าหน้าเด็กเหมือนนักศึกษาไปด้วยเลย” “ครับ”ฟีฟ่ายิ้มอย่างเดียว “คุณพ่อคุณแม่น้องฟีฟ่าทำงานอะไรครับ”เพื่อนคนหนึ่งของนัทถามฟีฟ่า “คุณพ่อน้องฟีฟ่าเป็นโค้ชว่ายน้ำทีมชาติน่ะ อดีตก็เป็นนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติเหมือนกัน ส่วนคุณแม่น้องฟีฟ่าเป็นแม่บ้าน”ไอโซนัทตอบแทนอีกครั้ง “พี่ก็นึกว่าพ่อของน้องนัททำธุรกิจอะไรสักอย่างหนึ่ง แต่ก็ดีไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมาก” “ไม่รับผิดชอบอะไร มีความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่กว่าพวกเราอีกนะ เราแค่ทำเพื่อตัวเองแต่พ่อของฟีฟ่าทำเพื่อประเทศชาติ”ไอโซนัทหันหน้ามายิ้มให้ฟีฟ่า ซึ่งฟีฟ่าก็ยิ้มฝืนๆอีกครั้ง “ทำไมน้องฟีฟ่าไม่พูดกับพวกเราเลยล่ะ” “น้องฟีฟ่าเป็นคนไม่คอยพูด”ไอโซนัทพูดแทนอีก “นัทนายน่ะแย่งน้องฟีฟ่าพูดหมด เราไม่แย่งนายหรอก แหมหวงของเล่นคนใหม่เหลือเกิน”เพื่อนไอโซนัทคนหนึ่งพูดขึ้น “ไม่ใช่ของเล่นนะ นายพูดดีดีคนนี้เราจริงจัง”ไอโซนัทมีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก “ล้อเล่นนะ พูดแค่นี้ทำเป็นจริงจังไปได้” “เรื่องแบบนี้มาล้อเล่นไม่ได้นะ เรากับฟีฟ่าเสียหายรู้ไหม” “โอเค เราขอโทษนายก็แล้วกัน ใครจะไปแย่งนายไม่ใช่สเปคเราเลย” ฟีฟ่าฟังคำพูดของเพื่อนไอโซนัท ใจของเราสั่นไหวอยากจะหนีหายออกไปจากที่นี่ ฟีฟ่าคิดว่าไม่น่ามาให้คนดูถูกเหยียดหยามเลย แต่เขาก็เข้าใจและซึ้งในน้ำใจของไอโซนัท ที่พยายามแก้ต่างและพูดแทนเขาทุกอย่าง “ฟีฟ่าอย่าไปสนใจพวกนี้เลยนะ พวกมันก็พูดไปเรื่อยๆนั่นแหละ” “ใช่ พวกพี่ก็พูดไปเรื่อยตามภาษาของพวกเรา น้องฟีฟ่าอย่าโกรธพวกพี่เลยนะ” “ครับ”ฟีฟ่ายิ้มฝืนๆ “เอ่อ นัทได้ข่าวว่านายจะทำบ้านจัดสรรเฟสใหม่นี่ โครงการนี้ทำที่ไหนเหรอ” “ที่ต่างจังหวัด เป็นที่ดินของน้องฟีฟ่านั่นแหละ” “ว้าวฟีฟ่ามีที่ดินด้วย”เพื่อนไอโซนัทมีท่าทีตกใจ “ที่ดินของพ่อครับ” “เห็นแบบนี้พ่อของฟีฟ่าเป็นเศรษฐีที่ดินเชียวนะ”ไอโซนัทพูดขึ้นเพื่อให้ฟีฟ่าดูดีขึ้นมาหน่อย “คราวนี้ครอบครัวน้องฟีฟ่าก็เป็นเศรษฐีใหม่แล้วซิเนาะ” “พวกนายพูดจาไม่น่าฟังอีกแล้วนะ”ไอโซนัทเริ่มมีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก “เอาล่ะ พวกเราไม่คุยเรื่องของน้องฟีฟ่ากันแล้ว” “ดี แล้วนายล่ะได้ข่าวว่าจะสร้างคอนโดเฟสใหม่ไม่ใช่เหรอ”ไอโซนัทถามเพื่อนของเขา “จริง เรากำลังหาทำเลอยู่ ว่าแต่น้องฟีฟ่ามีที่ดินแถวกรุงเทพหรือไม่ก็ชานเมืองไหม” “มีครับ แต่ไม่พอสร้างคอนโดหรอก” “ทำไมมีน้อยจัง” “นายจะถามซอกแซกน้องฟีฟ่าอะไรนักหนา” “เอาล่ะพอแหละ เรามาคุยเรื่องธุรกิจของเราดีกว่า เราจะชวนนายร่วมหุ้นคอนโดด้วย นายสนใจที่จะทำร่วมลงทุนกับเราไหม” “น่าสนใจดีนะ แต่ก็ยังไม่มีทีนี่” “มีแล้ว แต่มันต้องใช้เงินทุนเยอะไง ถ้าสองคนนี่ก็พอไหว” “น่าสนใจดีนะ” ไอโซนัทและเพื่อนต่างคุยเรื่องธุรกิจจบจากเรื่องนี้ ต่อเรื่องอื่นทันทีโดยไม่มีเวลาให้ฟีฟ่าเลยแม้แต่น้อย ฟีฟ่าเลยอยากจะหนีออกไปจากที่นี่ เขาจึงลุกเพื่อที่จะเข้าไปในห้องน้ำ “ฟีฟ่าขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ” “ฮือ”ไอโซนัทแค่พยักหน้า ฟีฟ่าเดินมาเรื่อยๆเข้าไปในห้องน้ำ และเขาก็ได้ยินเสียงคนสองคน ที่เข้าห้องน้ำตามมาทีหลังเขาพูดคุยกันเสียงดัง “นายว่าเด็กใหม่ของพี่นัทคนนี้เป็นไงบ้าง” “พูดถึงหน้าตาก็น่ารักดีนะ แต่จนไปหน่อย” “จนแต่พี่นัทเขารักนี่” “ฐานะมันต่างกันเกินไป” “แต่เราว่าพี่นัทคงจะเล่นๆมากกกว่า สุดท้ายเขาก็ต้องหาคนที่ฐานะใกล้เคียงกัน” “เราก็ว่างั้นแหละ ถ้าเราเป็นน้องน่ะ เราไม่มาให้อายหรอก พวกเพื่อนพี่นัทชอบดูถูกคนจะตาย ขนาดพวกเรารวยกว่าน้องเขาตั้งเยอะ ยังไม่วายถูกนินทราเลย แถมไม่อยากคบกับพวกเราอีก แต่พี่นัทเขาดีไม่ถือตัว” “มัวแต่เม้าท์ออกไปข้างนอกกันเถอะ ไปดูตลกน้องคนนั้นดีกว่า แต่เมื่อกี้ไม่เห็นนี่ไม่รู้ไปไหน” “จะไปไหนได้คงอยู่แถวๆนี้แหลไปกันเถอะ” เมื่อสองคนนั้นออกจากห้องน้ำไปแล้ว ฟีฟ่าจึงออกมาด้วยความรู้สึกที่ปั่นป่วนจิตใจอย่างหนัก ฟีฟ่าจึงรีบล้างมือและออกไปที่งาน ตอนแรกเขาจะเข้าไปหาไอโซนัท แต่ที่นั่งไม่เหลือว่างไว้สำหรับเขาแล้ว ฟีฟ่าจึงตัดสินใจที่จะหนีออกไปจากงานนี้ เพราะเขาคิดว่าขืนอยู่ก็คงเป็นตัวตลกอย่างสองคนนั้นที่อยู่ในห้องน้ำว่าไว้จริงๆ ฟีฟ่าค่อยๆออกจากประตูรั้วที่บ้านของไอโซนัท และเดินเลาะตามไหล่ทางไปเรื่อยๆ ใจของฟีฟ่าตอนนี้ซอกซ้ำอย่างหนักหน่วง เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าสังคมที่เขาอยากจะเข้าไปนั้น มันไม่น่าอภิรมย์อย่างที่เขาคิดไว้ ในระหว่างทางที่เขากำลังคิดอะไรเพลินๆไหน เสียงรถบี๊กไบค์ที่แล่นมาจากด้านหลัง และจอดดักหน้าฟีฟ่า เขาตกใจรีบเดินหันหลังกลับ เพื่อที่จะไปบ้านไอโซนัท เพราะเขาคิดว่าที่นั่นก็น่าจะปลอดภัยกว่า “จะไปไหนพึ่งออกมาไม่ใช่เหรอ”ฟีฟ่าคุ้นเสียงนี้เขาจึงหันหน้ามามอง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับช่างกันเปิดกระจกหมวกกันน็อค “นายมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไง”ฟีฟ่ามีท่าทีสงสัย “ก็พ่อของมึงนั่นแหละ วานให้กูตามมึงมา และก็เป็นจริงดังที่พ่อมึงพูดไว้” “พูดอะไร” “ก็พูดว่ามึงอยู่ที่นี่ไม่จบงานหรอก เพราะสังคมนี้มันคนละระดับกับพวกเรา อย่างมึงต้องระดับกูนี่แหละ” “นายก็คนละระดับกับเราเหมือนกันนั่นแหละ” “พออยู่กับกูนี่ปากดี พออยู่กับพี่นัทนี่ เงียบเป็นเป่าสาก” “ช่างกัน” “ฟีฟ่า” “เรียกทำไม” “ก็เรียกมึงขึ้นรถไง” “ไม่ขึ้นจะเดินกลับเอง” “ไม่เชื่อหรอก อาจจะรอรถหรูมารับ แต่เขาคงไม่มาแล้วแหละ” “เราไม่ได้คิดอย่างนั้นเลย อย่ามาดูถูกเรานะ” “ถ้าไม่อยากให้กูดูถูกมึง ถ้างั้นมึงก็ขึ้นรถกูเดี๋ยวนี้” “ก็ได้”ฟีฟ่าเดินมาใกล้ๆที่รถช่างกัน ช่างกันหยิบหมวกอีกใบมาสวมใสที่ศีรษะของฟีฟ่า ช่างกันมองใบหน้าของฟีฟ่าที่นับวันยิ่งน่ารักในความรู้สึกของเขา “เวลามึงใส่หมวกก็น่ารักดีเหมือนกัน” “ไม่ต้องบอกหรอก ใครๆเขาก็ชมกันทั้งนั้นแหละ” “ไม่หลงตัวเองเลยนะ” “หลงตัวเองดีกว่าหลงคนอื่น” “มาหลงกูบ้างก็ดีนะ” “ฝันไปเถอะ” “ก็เหมือนมึงนั่นแหละที่หลงไอโซนั่น” “เพลี้ยะ” “มึงตีกูทำไม กูพูดเรื่องจริงนี่” “เพลี้ยะ”ฟีฟ่าฟาดไปที่แขนของช่างกัน “ไม่มีใครเคยตีกูอย่างนี้นะมึงเป็นคนแรก อย่างงั้นมึงก็ต้องเป็นผู้ชายคนแรกที่กูจูบมึง”ช่างกันจับศีรษะของฟีฟ่าไว้ แล้วประกบปากของฟีฟ่า ฟีฟ่าผลักร่างของช่างกันให้ออกห่างจากตัวเขา ฟีฟ่าใช้มือเช็ดปากตรงที่ช่างกันประทับรอยไว้ “เป็นไงอยากตีกูดีนัก” “เราจะฟ้องพ่อเรา” “เชิญเรื่อง กูจะได้ไปขอมึงด้วยเลย” “ใครเขาจะให้ขอ” “ก็กูจะขอไง” “หยุด ไม่อยากฟัง พาเรากลับบ้านเดี๋ยวนี้” ฟีฟ่าเดินไปรอที่ข้างรถ สักพักช่างกันก็ขึ้นคร่อมหน้ารถ ส่วนฟีฟ่าขึ้นคร่อมตามหลัง “กอดเอวกูไว้แน่นๆนะ” “ไม่กอด” “ถ้าไม่กอดเดี๋ยวกูจะลงไปจูบมึงอีก” ฟีฟ่ากอดเอวช่างกันทันที ส่วนช่างกันก็สตาร์ทรถออกไปอย่างเร็ว ใจของช่างกันตอนนี้มีความสุขมาก ยิ่งร่างของฟีฟ่ากระทบหลังเขาบ่อยๆ ช่างกันอยากยืดเวลานี้ให้นานออกไป เขาจึงขับรถวนมาวนไป เพื่อที่จะได้ใกล้ชิดสัมผัสฟีฟ่าอย่างนี้ตลอดไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD